เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 73 74 [75] 76 77 ... 85
  พิมพ์  
อ่าน: 130398 sLOVEnia Croatia Album
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1110  เมื่อ 24 มี.ค. 14, 10:33

        พิพิธภัณฑ์ส่วนนี้ที่เก็บรวบรวมอุปกรณ์, เครื่องใช้, ของตกแต่งต่างๆ แสดงให้เห็นภาพ
การใช้ชีวิต, ความเป็นอยู่ของท่านเจ้าเมืองในช่วงเวลาหนึ่งเดือนของการดำรงตำแหน่งที่ต้อง
พำนักอาศัยอยู่ภายในวังนี้โดยลำพัง และอย่างจำกัดบริเวณ จะออกไปนอกวังได้ก็ต่อเมื่อมี
เรื่องธุรกิจของรัฐ  


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1111  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:38

          ออกจากวังเจ้าเมืองแล้วเดินไปยังอีกหนึ่งลานสำคัญสุดสายปลายถนน Placa (Stradun)
แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับถนนสำคัญสายนี้ที่ได้เกริ่นไปบ้างแล้ว

                         ถนน Placa (Stradun)

คือ  ถนนสายกว้างที่สุดที่แบ่งเมืองออกเป็นส่วนเหนือ - ใต้ ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเส้นทาง
     เชื่อมระหว่างตะวันออก - ตกที่สั้นที่สุดด้วยความยาวถนนประมาณ 300 ม.


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1112  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:39

      ถนนกว้างพร้อมลานสำหรับคนเมืองมาชุมนุมและจัดงานเทศกาล
      ถนนธุรกิจสายหลักย่านใจกลางเมืองเก่า
และ        
       แนวแกนหลักท่อระบายน้ำของเมือง


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1113  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:43

         สุดทางด้านตะวันออกของถนนคือประตูสู่ท่าเรือเก่า ส่วนสุดทางตะวันตกคือประตู(เมือง) Pile


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1114  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:45

          ถนน Stradun กำเนิดจากพื้นที่ของช่องแคบระหว่างเกาะกับผืนดินใหญ่ที่ได้ถูกถม
ลงในตอนปลายศตวรรษที่ 11 แล้วมีการสร้างกำแพงล้อมรอบรวมสองชุมชนบนบกและเกาะ
ให้กลายเป็นเมืองเดียวกัน
           พื้นที่เกิดใหม่นี้จึงประกอบด้วยฟากหนึ่งที่เคยเป็นขอบทวีปและอีกฟากคือเกาะ มีเนื้อที่
กว้าง(เพราะมาจากการถมทะเล) แต่ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าสองฟากฝั่งเมืองที่อยู่สูงกว่าเหมือนกับ
ปีกสองข้างที่กางขึ้นของผีเสื้อ

ปลายถนนด้านตะวันออกที่ลาน Luza หน้าวัง Sponza


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1115  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:47

          นับแต่กำเนิดพื้นที่นี้ก็ได้ทำหน้าที่เป็นช่องทางระหว่างสองฟากของเมืองมาตั้งแต่
ตอนปลายศตวรรษที่ 12 จนกระทั่งปี 1468 จึงได้มีการปูพื้นด้วยหินจากเกาะ Brac เป็น
การให้กำเนิดครั้งที่สองของถนนสายสำคัญแห่งเมือง
           ชื่อที่เรียกว่า Placa มาจากคำว่า  Platea ในภาษากรีกและละตินซึ่งแปลว่า street
ส่วนชื่อ Stradun นั้นเป็นชื่อเล่นของเวนิสเรียกแบบประชดในความหมายว่า ถนนใหญ่

ปลายถนนด้านตะวันตกเมื่อมองลงมาจากกำแพง


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1116  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 09:50

         ทัศนียภาพถนนในปัจจุบันนี้เป็นผลจากการบูรณะหลังเกิดธรณีพิบัติปี 1667 จากถนน
สายเดิมที่มีวังรูปแบบหลากหลาย กลายเป็นอาคารหินสีขาวแห่งแดลเมเชียสองแถว สร้างใน
รูปแบบตามที่ทางการกำหนดออกมาเหมือนกัน
          ด้านหน้าอาคารเป็นสไตล์บารอค ที่มีความสูงเท่ากัน ชั้นพื้นเป็นช่องประตูและหน้าต่าง
ใต้โค้ง ชั้นบนขึ้นไปเป็นหน้าต่างสี่เหลี่ยม ส่วนด้านในก็ออกแบบให้คล้ายกัน เท่านั้นไม่พอวุฒิสภา
ยังได้ตรากฎให้พื้นที่ของอาคารชั้นพื้นเป็นร้านค้า


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1117  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 10:07

รูปแบบอาคาร"ตึกแถว" เรียงเป็นแนวด้านต่อจากวัง Sponza


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1118  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 10:09

ภาพจากนิวส์วีคแสดงสภาพอาคารริมถนนที่ถูกระเบิดทำลายเมื่อครั้งสงครามปี 1991


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1119  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 10:10

การฟื้นฟูบูรณะหลังสงคราม


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1120  เมื่อ 25 มี.ค. 14, 10:13

        สุดทางทิศตะวันออกตัวถนนขยายกว้างออกเข้าสู่จตุรัส Luza(ที่ได้เดินชมไปแล้ว)        
        ส่วนสุดถนนด้านตะวันตกที่ประตู Pile ตัวถนนก็ขยายกว้างออกเข้าสู่จตุรัสอีกฟากหนึ่ง
ซึ่งมีชื่อว่า Paskoja Milicevica ที่นี่เป็นที่ตั้งของอารามและโบสถ์ ตรงส่วนติดกำแพงคือ
โบสถ์เรเนซอง Church of the Saviour และลานที่ตั้งน้ำพุใหญ่
    


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1121  เมื่อ 27 มี.ค. 14, 09:15

                      The Great or Big Onofrio's Fountain

        สิ่งก่อสร้างรูปทรงสิบหกเหลี่ยมกลางจตุรัส Paskoja Milicevica ตั้งอยู่ด้านในเมืองเก่า
ของประตูเมืองทิศตะวันตก(Pile gate) นี้


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1122  เมื่อ 27 มี.ค. 14, 09:17

            คือน้ำพุขนาดใหญ่ ผลงานของนายช่าง Onofrio de la Cava จาก Naples
สร้างเสร็จในปี 1438 ทำหน้าที่เก็บกักน้ำจากแหล่งน้ำในหมู่บ้านหลังเขาเซอร์จชื่อว่า Sumet
ที่ส่งมาตามท่อ(aqueduct) เป็นเวลากว่า 550 ปีก่อนที่จะถูกพวกเซิร์บถล่มเมื่อปี 1991

ภาพมุมมองจากกำแพง
    ^ยืม


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1123  เมื่อ 27 มี.ค. 14, 09:21

           เมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่จะใช้อ่างน้ำใต้จตุรัสเป็นที่เก็บน้ำ แต่ที่นี่ Onofrio ได้ติดตั้ง
ระบบส่งน้ำใช้ชักน้ำจากแหล่งน้ำซึ่งอยู่ห่างออกไป 7 ไมล์ทางทิศเหนือ/ตะวันตกมาตามท่อ
ส่งน้ำเข้าสู่เมืองตรงจุดที่สูงสุดและเหนือสุดซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งของหอคอย Minceta แต่
ท่อส่งน้ำตรงส่วนนี้ได้ถูกทำลายลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อมีการสร้างถนนจากประตู
Ploce มาสู่ประตู Pile

อากาศร้อนรน ผู้คนมากมาย แทบไม่ได้ถ่ายรูปน้ำพุ ต้องอาศัยรูปคนอื่น


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 1124  เมื่อ 27 มี.ค. 14, 09:32

           ท่อส่งน้ำของ Onofrio จ่ายน้ำให้แก่น้ำพุหลายแห่งที่เขาสร้างขึ้นในปี 1440 ซึ่งรวมถึง
ย่านเยซูอิตและยิว จนถึงตลาดปลาด้วย
            น้ำพุ ณ ลานนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็น - Big Onofrio Fountain ที่ Big ลดลงจากไปจาก
เดิมเมื่อแรกเริ่มสร้างหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในปี 1667 ส่งผลให้ตัวน้ำพุชั้นบนหล่นลงมา

ภาพยืมยามน้ำพุปลอดผู้คน


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 73 74 [75] 76 77 ... 85
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 19 คำสั่ง