เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 32
  พิมพ์  
อ่าน: 113285 มนุษย์และสัตว์(ประหลาด)ต่างดาว
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 29 ก.พ. 16, 14:22

เสียงดนตรีต่างดาว



สื่อต่างประเทศรายงานว่าองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซ่า ออกมาเปิดเผยเทปบันทึกเก่าแก่ของนักบินอวกาศ ที่ได้ยินเสียงดนตรีลึกลับจากดวงจันทร์ ขณะปฏิบัติภารกิจบนยานอพอลโล ๑๐

เสียงจากเทปขององค์การนาซ่า ซึ่งเป็นเสียงดนตรีลึกลับที่นักบินอวกาศ ๓ คนของยานอพอลโล ๑๐ บันทึกไว้ขณะเดินทางสำรวจวิถีวงโคจรของดวงจันทร์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ยานอพอลโล ๑๐ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องก่อนโครงการอพอลโล ๑๑ ที่ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ ในปี ๒๕๑๒ กำลังโคจรข้ามไปอยู่ด้านมืดของดวงจันทร์ หรือด้านที่ไกลจากฝั่งโลกเป็นระยะเวลาเกือบ ๑ ชั่วโมง ซึ่งทางฝั่งโลกไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินพวกเขาปฏิบัติภารกิจบนยานได้ อยู่ ๆ นักบินอวกาศก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาด คล้ายคลึงกับเสียงดนตรีจากคลื่นสัญญาณวิทยุผ่านเข้ามาในหูฟังของพวกเขา โดยพวกเขาได้เอ่ยถามกันว่า ได้ยินเสียงเพลงนี้ไหม
            
ทั้งนี้ ในซีรีส์รายการทางวิทยาศาสตร์ของนาซ่าชื่อ นาซ่า อันเอ็กซ์เพลนด์ ไฟล์ส (NASA's Unexplained Files) ได้กล่าวว่า เทปบันทึกบทสนทนานี้ได้ถูกปกปิดเป็นความลับในบันทึกเอกสารของนาซ่า จนกระทั่งในปี ๒๕๕๑ ได้มีการนำเทปบันทึกเสียงมาเปิดเผยและมีการถกเถียงกันถึงที่มาที่ไปของเสียงดนตรีอันแปลกประหลาด ซึ่งล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เสียงลึกลับดังกล่าวน่าจะเป็นเสียงคลื่นรบกวนที่เกิดขึ้นระหว่างสัญญาณวิทยุของยานอพอลโล ๑๐ กับสัญญาณวิทยุที่ส่งจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินบนโลก

ข่าวจาก แนวหน้า

ผู้เชี่ยวชาญคิดว่าเป็นเสียงคลื่นรบกวน เพื่อน ๆ คิดว่าเป็นเสียงอะไร   ฮืม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 29 ก.พ. 16, 15:27

ถ้าฟังออกว่าเสียงคลื่นวิทยุ คงไม่ปิดมาเกือบ 50 ปี มั้งคะ
เสียง "วู้" มันดังแทรกเข้ามาชัดเจน แล้วก็หายไปดื้อๆ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 02 มี.ค. 16, 09:10

นอกจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนดังกล่าวซึ่งก็คือวิศวกรของนาซาคนหนึ่ง ยังมีความเห็นเรื่อง "เสียงดนตรีจากอวกาศ" ซึ่งต่างกันไป

อัล วอร์เดน นักบินอวกาศที่เคยขึ้นบินกับยานอพอลโล ๑๕ ไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญในข่าวข้างบน โดยอ้างว่า นักบินอวกาศทั้ง ๓ รายผ่านการฝึกมาจนคุ้นกับเสียงทุกอย่างที่พวกเขาควรได้ยิน “ตรรกบอกผมว่า ถ้ามีอะไรที่ถึงขนาดสามารถบันทึกเอาไว้ได้ที่นั่น ก็ต้องมีอะไรอยู่ที่นั่น” วอร์เดนระบุ

ความเป็นไปได้อีกอย่างก็คือ เสียงดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากอนุภาคในห้วงอวกาศที่มีประจุไฟฟ้าเข้าไปกวนคลื่นความถี่วิทยุ ก่อให้เกิดเสียงประหลาดดังกล่าวขึ้น เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ นาซาเผยแพร่เสียงที่ได้รับจากยานสำรวจอวกาศแคสซีนี ขณะทะยานผ่านบรรยากาศของดาวเสาร์ก็สามารถบันทึกเสียงคล้ายคลึงกันนี้ไว้ได้ อย่างไรก็ตาม อนุภาคที่มีประจุดังกล่าวเป็นไปได้ในบรรยากาศของดาวเสาร์ แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นรอบดวงจันทร์ซึ่งไม่มีทั้งบรรยากาศและสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแต่อย่างใด

นักบินอวกาศทั้ง ๓ จากอพอลโล ๑๐ ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ได้ยินเสียงดนตรีจากอวกาศดังกล่าวนั้น ไมเคิล คอลลินส์ ผู้บังคับยานแม่ของอพอลโล ๑๑ ที่จำเป็นต้องโคจรผ่านด้านมืดของดวงจันทร์ ในขณะที่ บัซ อัลดริน และนีล อาร์มสตรอง กำลังเดินอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์ ก็ได้ยินเสียงดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน แต่คอลลินส์ระบุว่า ได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่เทคนิคแล้วว่าจะเจอเข้ากับเสียงที่เกิดจาก “การกวนกันของคลื่นวีเอชเอฟ” ของยานลูกและยานแม่เช่นนี้

ข้อกังขาสำคัญนอกเหนือจากแหล่งที่มาของเสียงดังกล่าวนี้ก็คือ ทำไมนาซาถึงได้เก็บเป็นความลับไว้นานกว่า ๔๐ ปีเช่นนี้?

ข่าวจาก มติชน

ความเห็นอีกทางหนึ่งซึ่งน่าจะรวมไว้ด้วยก็คืออาจเป็นเสียงที่ทำขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกพิภพ หรือเป็นเสียงของสิ่งมีชีวิตนั้นโดยตรงก็เป็นได้ ความเห็นนี้น่าจะถูกใจเหล่าบรรดานักสืบอวกาศที่สุด   ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 03 มี.ค. 16, 17:39

หลักฐานจานบินตกในรัสเซีย และศพมนุษย์ต่างดาว

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 18 เม.ย. 16, 10:16

เศรษฐีและนักฟิสิกส์ชาวรัสเซีย Yuri Milner ได้ออกมาประกาศโครงการ Breakthrough Starshot ในการส่งยานอวกาศที่มีขนาดเล็กกว่า iPhone เดินทางด้วยความเร็ว ๒๐ % ของความเร็วแสง ไปสำรวจ Alpha Centauri ซึ่งจะใช้ระยะเวลาเพียง ๒๐ ปี โดยเป็นความร่วมมือระหว่างนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก Stephen Hawking และ Mark Zuckerberg CEO แห่ง Facebook

ระบบดาว Alpha Centauri เป็นระบบที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด มีระยะห่างเพียง ๔.๓๗ ปีแสง ประกอบด้วยดาวเคราะห์ที่นักดาราศาสตร์เชื่อกันว่าเป็นดาวที่มีแนวโน้มว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่หรือมนุษย์สามารถเดินทางไปอยู่อาศัยได้ เพราะมันมีขนาดเล็ก มีมวลใกล้เคียงกับโลกของเรานั่นเอง (ดาวนี้แอบไปปรากฏในหนังเรื่อง Avatar ด้วยนะ)

อย่างไรก็ตาม ๔.๓๗ ปีแสงตัวเลขที่ดูเหมือนจะน้อย แต่เนื่องจากอัตราเร็วแสงนั้นมีค่าประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ กิโลเมตรต่อวินาที นั่นหมายความว่าแสงจากดาว Alpha Centauri ต้องเดินทางไกลถึง ๔๐.๒ ล้านล้านกิโลเมตร ด้วยระยะทางเท่านี้ แม้จะเป็นยานอวกาศที่เร็วที่สุดในขณะนี้ก็ต้องใช้เวลาถึง ๓๐,๐๐๐ ปี เลยทีเดียว!

โครงการ Breakthrough Starshot เป็นความพยายามครั้งใหม่ของมนุษย์ในการสำรวจอวกาศ มีเป้าหมายสำรวจดาว Alpha Centauri โดยทำการติดตั้งยานอวกาศอัตโนมัติขนาดเล็ก Nanocraft ที่มีน้ำหนักเบามาก เบาขนาดที่ต้องน้ำหนักของยานนี้วัดเป็นหน่วยกรัม ซึ่งประกอบด้วย StarChip เป็นอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว ติดตั้งกล้อง ตัวผลักดันโฟตอน แหล่งจ่ายพลังงาน ระบบนำทิศทาง และอุปกรณ์ในการสื่อสาร เพื่อใช้ในการสำรวจ LightSail เปรียบผืนผ้าใบขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบา ทำหน้าที่เปรียบเสมือนใบของเรือใบ แต่แทนที่จะรับลม เป็นการรับแรงผลักจากโฟตอนแทน nanocraft

ยานลำนี้จะเคลื่อนที่ได้โดยอาศัยการยิงแสงเลเซอร์ (Light Beamer) ทีมีกำลังถึง ๑๐๐ กิกะวัตต์ ซึ่งประกอบด้วยโฟตอนจำนวนมากจากบนพื้นโลก ไปชนกับ LightSail เพื่อดันยานอวกาศให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง ๒๐ % ของแสง เรียกว่า Light Sail หรือ Solar Sail ทำให้ยานอวกาศใช้เวลาในการเดินทางถึง Alpha Centauri ที่อยู่ห่างออกไป ๔.๓๗  ปีแสง ในระยะเวลาเพียง ๒๐ ปี ถือเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยยานอวกาศปกติซึ่งต้องใช้เวลาถึงประมาณ ๓๐,๐๐๐ ปี หรือถ้าเป็นยาน Voyager 1 จะต้องใช้เวลาถึง ๗๐,๐๐๐ ปี

ในการเดินทางไปยัง Alpha Centauri จะเป็นการพิสูจน์ว่าดาวเคราะห์ที่ค้นพบนั้นมนุษย์สามารถไปอาศัยอยู่ได้ โดยจะทำการถ่ายภาพลักษณะต่าง ๆ ของพื้นผิว เช่น มหาสมุทรหรือผืนดิน และส่งข้อมูลกลับมายังโลกโดยจะใช้เวลาประมาณ ๔ ปี

http://www.youtube.com/watch?time_continue=20&v=wMkWGN1G6Kg#ws

“Today we commit to the next great leap in the cosmos, because we are human and our nature is to fly.” ดร. Stephen Hawking กล่าว

ข้อมูลจาก  ชมรมสื่อและประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อีกไม่เกิน ๒๕ ปีเราอาจเดินทางไปถึงดาวเคราะห์ที่มีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่ (ถ้าโครงการตามข่าวสำเร็จ)   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 20 เม.ย. 16, 10:18

ระบบดาว Alpha Centauri เป็นระบบที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด มีระยะห่างเพียง ๔.๓๗ ปีแสง ประกอบด้วยดาวเคราะห์ที่นักดาราศาสตร์เชื่อกันว่าเป็นดาวที่มีแนวโน้มว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่หรือมนุษย์สามารถเดินทางไปอยู่อาศัยได้ เพราะมันมีขนาดเล็ก มีมวลใกล้เคียงกับโลกของเรานั่นเอง (ดาวนี้แอบไปปรากฏในหนังเรื่อง Avatar ด้วยนะ)
ระบบดาวอัลฟา เซ็นทอรี อยู่ใน กลุ่มดาวคนครึ่งม้า (Centaurus) อัลฟา เซ็นทอรี ประกอบด้วยดาวฤกษ์ ๓ ดวง ๒ ดวงแรกคือ A และ  B  เป็นดาวคู่  ส่วนดวงที่ ๓ คือ Proxima เป็นดาวแคระแดง ภาพข้างล่างแสดงขนาดเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์



มีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงหนึ่งขนาดใกล้เคียงกับโลกโคจรรอบดาวอัลฟา เซ็นทอรีบี แต่ท่าทางสิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ลำบากเพราะอยู่ใกล้ดาวแม่เกินไปทำให้อุณหภูมิสูงถึง ๑,๒๐๐ องศาเซลเซียส (มีรายละเอียดอยู่ในข่าวของ ผู้จัดการ)


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 20 เม.ย. 16, 10:50

ทีนี้มาถึงเรืองมโนของ เจมส์ คาเมรอน ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "อวตาร" (Avatar) เหตุการณ์ในเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างมนุษย์ (ผู้รุกราน) กับชาวนาวี ( Na'vi ชนพื้นเมือง) บนดาวแพนดอรา (Pandora) ซึ่งเป็นดวงจันทร์ของดาวแก๊สยักษ์โพลีฟีมัส (Polyphemus) ซึ่งโคจรรอบอัลฟา เซ็นทอรีเอ (ซึ่งความจริงยังไม่มีการค้นพบดาวบริวาร)

เรื่อง อวตาร ชาวโลก คือ คาวบอยอเมริกัน ส่วนคนพื้นเมืองชาวดาวแพนดอรา ก็คือ ชนพื้นเมืองอเมริกันอินเดียนนั่นเอง

อเมริกันอินเดียนไม่เคยรุกรานคาวบอยก่อนสักที


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 26 เม.ย. 16, 13:13

แม้อยู่ไกลถึงสุดขอบจักรวาล คาเมรอนยังฝากมโนภาพของ "อเมริกันอินเดียน" ไว้กับชาวนาวีแห่งแพนดอรา   ยิงฟันยิ้ม

ภาพจาก monsterlegacy.net


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 06 ม.ค. 17, 15:08

ยังสงสัยเรื่องหินบนดาวอังคารอยู่ค่ะ  บางก้อนมันเหมือนไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ แต่มีมือมนุษย์เกลาให้เป็นรูปทรงต่างๆ
รวบรวมไว้ในรูปข้างล่างนี้ค่ะ




ปี ๒๕๕๘ ยานสำรวจดาวอังคารของนาซาก็ยังส่งภาพ "ช้อน" ในลักษณะที่ส่วนปลายลอยอยู่มาให้ชม

http://www.space.com/30454-floating-spoon-on-mars-weird-rock-photo.html


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 06 ม.ค. 17, 15:26

สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว (๒๕๕๙) นาซาเผยแพร่ภาพ "ช้อน" อีกคันหนึ่งบนดาวอังคาร ทำเอานักมนุษย์ต่างดาววิทยาฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง  ยิงฟันยิ้ม

http://metro.co.uk/2016/12/27/is-this-spoon-a-sign-of-intelligent-life-on-mars-6345719/



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 06 ม.ค. 17, 18:05

ช้อนลอยในรูป    เหมือนส่วนตัวด้ามที่ยาวมากจมอยู่ในพื้นหิน(หรือทราย?) มีแต่ตัวปลายช้อนยื่นออกมา  จึงลอยอยู่เหนือพื้นล่าง มองเห็นเงาทอดอยู่ข้างใต้ช้อน
แบบนี้ไม่ใช่วัตถุธรรมชาติเสียแล้วซีคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 26 ก.ย. 17, 20:15

ข่าวที่ทำให้นักมนุษย์ต่างดาววิทยา อกหักไปอีกรายการหนึ่ง
(ความจริงเป็นข่าวเก่า แต่มาลงใหม่ค่ะ)
สารภาพหมดเปลือก! ความจริงเบื้องหลัง ‘คลิปผ่าเอเลี่ยน’ ปี 1995

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1081110


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 24 ต.ค. 17, 17:20

ต้นเรื่องคลิปผ่าเอเลี่ยนมาจากข่าวนี้

หนังสือพิมพ์ Roswell Daily Record ฉบับวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ ลงข่าวว่าสามารถจับ "จานบิน" ได้ ซึ่งแม้ทางการออกมาแก้ข่าวว่าเป็นเพียง "บอลลูนตรวจอากาศ" เท่านั้น เหล่านักจานบินวิทยาก็ไม่มีใครเชื่อ


นอกจากคลิปผ่าตัดยังมีคลิปก่อนหน้านั้น



ที่สำคัญยังมีนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานใน Area 51 ยืนยันก่อนเสียชีวิตว่าเขาเคยเจอมนุษย์ต่างดาวตัวจริงเสียงจริง

ข่าวจาก ไทยรัฐ

เผยความลับสุดยอดก่อนตาย! นักวิทย์มะกัน ยัน ‘มนุษย์ต่างดาว’ มีจริง

เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๗ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวที่สร้างความฮือฮา และปริศนาลี้ลับเกี่ยวกับเอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว, ยูเอฟโอ ยิ่งมีความเป็นจริงมากขึ้น เมื่อ ดร.บอยด์ บุชแมน วิศวกรชาวอเมริกัน ซึ่งเคยทำงานร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์ Area 51 ได้เปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดก่อนเสียชีวิต เกี่ยวกับหน้าที่การงานของเขา ซึ่งได้ศึกษาเรื่องจานบิน UFO และชีวิตของมนุษย์ต่างดาว ที่ฐานปฏิบัติการลับแห่งหนึ่ง

ดร.บุชแมน ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลของมนุษย์ต่างดาว และจานบินนอกโลก ผ่านการบันทึกลงในคลิปวิดีโอสั้น ๆ ก่อนเขาจะเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ‘ด้วยความเคารพต่อยานมนุษย์ต่างดาว พวกเรา: พลเมืองอเมริกันกำลังทำงานเกี่ยวกับจานบิน UFO ๒๔ ชม.ต่อวัน’ ดร.บุชแมน เปิดเผยถึงภารกิจของเขาและทีมงาน พร้อมระบุว่า พวกตนกำลังพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าควรทำอะไร

อดีตนักวิทยาศาสตร์อาวุโสผู้นี้ ได้อธิบายเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไว้ว่า ตามที่พวกตนรู้นั้น เอเลี่ยนสามารถแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม ซึ่งเหมือนกับในฝูงปศุสัตว์ คือ กลุ่มหนึ่งทำหน้าที่เป็นโคบาล หรือผู้ต้อนสัตว์ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง เหมือนกับผู้ขโมยวัวควาย โดยกลุ่มเอเลี่ยน ที่คล้ายกับเป็นโคบาลนั้น มีลักษณะนิสัยที่มีความเป็นมิตรมากกว่า มีความสัมพันธ์ที่ดี มีความเป็นเพื่อนและช่วยเหลือกับพวกตนมากกว่า

ขณะเดียวกัน ดร.บุชแมน ยังอธิบายถึงลักษณะของเอเลี่ยน และเผยภาพถ่ายของเอเลี่ยนด้วยว่า มีความสูงแค่เพียง ๕ ฟุตเท่านั้น โดยมี เอเลี่ยน ๑ หรือ ๒ ตน ของพวกเอเลี่ยนเหล่านี้ มีอายุยืนถึง ๒๓๐ ปี ขณะที่ ตาและจมูกของเอเลี่ยนมีความแตกต่างจากมนุษย์ แต่ก็มีนิ้วมือและนิ้วเท้าข้างละ ๕ นิ้วเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม (ที่น่าทึ่ง) คือ เอเลี่ยนมีความสามารถในการสื่อสารทางโทรจิต

‘พวกเขาสามารถใช้เสียงของเขา สื่อสารผ่านทางโทรจิตเพื่อคุยกับคุณ’ ดร.บุชแมน กล่าวถึงความสามารถเหนือมนุษย์ของเอเลี่ยน



คลิปผ่าเอเลี่ยนอาจจะเป็นของปลอม แต่มีหลักฐานเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวใน Area 51 รอให้พิสูจน์ว่าเป็นของแท้หรือเทียม  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 04 พ.ย. 17, 14:19

เมื่อ ๒-๓ วันที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับวัตถุบินกำหนดเอกลักษณ์ไม่ได้หรือ UFO ในสื่อต่างประเทศหลายสำนัก เรื่องของเรื่องมีว่า

หญิงสาวจากเมือง Cairns ทางเหนือสุดของรัฐควีนสแลนด์อ้างว่าได้ถ่ายภาพที่เชื่อว่าเป็นวัตถุจากต่างดาวบินอยู่เหนือมหาสมุทรใกล้เกาะ Fitzroy Island ในขณะที่เธอแล่นเรือกลับเข้าสู่ฝั่งหลังจากไปเที่ยวตกปลาที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟในตอนบ่ายของวันเสาร์ที่ ๒๘ ตุลาคม

นางสาว Jenny Morrison กล่าวว่าเธอกลับจาก Elford Reef ประมาณ ๕๐ กิโลเมตรจากชายฝั่งเมือง Cairns หลังจากใช้เวลาอยู่บนเรือ ๑ วันกับเพื่อน ๆ ในระหว่างทางเธอได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะพระอาทิตย์ตกดินโดยมีเกาะ Fitzroy Island เป็นฉากเบื้องหลังจำนวนหลายภาพ

ต่อมาเธอพบว่าภาพที่ถ่ายไว้มีแสงสว่างสีเขียวเป็นจุดเล็ก ๆ อยู่เหนือท้องฟ้า วัตถุสีเขียวนี้อยู่ตรงกลางเงาที่มีรูปร่างคล้ายจานบิน

ภาพจุดสีเขียวปรากฎอยู่ในภาพที่เธอถ่ายไว้หลายภาพ ก่อนที่มันหายไปจากภาพที่ถ่ายในช่วงหลัง ๆ

นางสาว Morrison กล่าวว่าตอนถ่ายภาพเธอไม่เห็นอะไรผิดปกติอยู่บนท้องฟ้าจากการมองด้วยตาเปล่า แต่เมื่อเธอตรวจเช็คภาพที่ถ่ายไว้กลับพบวัตุประหลาดนี้ติดมาด้วย

ขณะนี้ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ความเห็นว่าภาพที่นางสาว Morrison บันทึกได้คืออะไร

พื้นที่ Far North Queensland ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของรัฐควีนสแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มี UFO มาเยือนอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหลายคนออกมาอ้างว่าได้เห็นวัตถุประหลาดบนท้องฟ้าจำนวนมากตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

เมือง Cardwell ประมาณ ๑๘๐ กิโลเมตรทางใต้ของเมือง Cairns จัดให้มีงานเทศกาล Cardwell UFO Festival ในเดือนตุลาคมของทุกปี เพื่อฉลองความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวกับพื้นที่ทางเหนือของรัฐควีนสแลนด์ที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ UFO มาเยือน และชักชวนให้สาธารณชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้เห็นสิ่งลึกลับจากต่างดาว

https://jingjonews.com/2017/11/02/หญิงสาวอ้างเห็น-ufo-บินอยู/

http://www.cairnspost.com.au/flying-saucer-photographed-over-great-barrier-reef/news-story/28dcdb7a7a8a0a9c635ba09ad376acab


เพื่อน ๆ ชาวเรือนไทยคิดว่าภาพที่นางสาว Morrison บันทึกได้คืออะไร   ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 18 พ.ย. 17, 16:17

เรื่องของนางสาว Morrison อาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าเรื่องที่ซุปตาร์ของเราเล่า

เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ คุณวรนุช ภิรมย์ภักดีเดินทางไปทำงานที่ประเทศฝรั่งเศส ได้พบสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง เธอเล่าว่า ในวันที่ ๕ กรกฎาคม เวลาประมาณ ๒๒.๒๐ น. หลังจากกลับจากถ่ายรูปที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ เมืองโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยนั่งรถไปกันทั้งหมด ๔ คน ในขณะนั้นเธอและเพื่อนได้มองเห็นแสงเป็นกลุ่ม ๆ เธอคิดว่าเป็นหมู่บ้านคน เพราะหมู่บ้านฝรั่งเศสบริเวณนั้นจะอยู่บนเขา

เธอถามไกด์ที่มาด้วย ไกด์บอกว่าตรงนั้นไม่มีหมู่บ้าน ซึ่งขณะนั้นผู้ที่อยู่ในรถคันเดียวกันก็เห็นในแบบเดียวกัน ลักษณะเป็นแสงไฟเป็นดวง ๆ หลายดวงอยู่ในกลุ่มเดียวกันและเคลื่อนตัวเร็ว สักพักแสงดังกล่าวก็ได้หายไป และกลับมาให้เธอเห็นอีกเป็นจำนวน ๓ ครั้ง

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เธอเล่า



เธอถ่ายรูปการกลับมาครั้งที่ ๓ ของสิ่งที่เธอคิดว่าเป็น UFO ไว้หลายรูป

https://www.facebook.com/woranuch.wongsawan/posts/10155486077944921

รูปนี้เป็นรูปที่ชัดที่สุด


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 32
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 20 คำสั่ง