เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 177523 สัตว์ประหลาด 2
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 04 มิ.ย. 13, 15:56

ผมเดาว่าไอ้ฟ้าๆ ที่เหมือนมือคือปลาหมึกครับ

คุณประกอบหมายถึงภาพนี้หรือคะ


คร้าบบบบ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 04 มิ.ย. 13, 16:01

มือสีฟ้าข้างขวา ของตัวนี้มากกว่ามั้ง


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 04 มิ.ย. 13, 16:30

ขออภัยที่ลบรูปเด็กที่มีอาการเมอร์เมดซินโดรมออกค่ะ เพราะเคยมีรูปลงในกระทู้นี้ และมีสมาชิกท้วงมาแล้วค่ะ เพราะชื่อกระทู้คือ สัตว์ประหลาด

ขอโทษค่ะ ลืมนึกถึงชื่อกระทู้ไป มัวแต่นึกถึงนางเงือก.. เศร้า


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 05 มิ.ย. 13, 19:57

ความจริงเตรียมคำตอบไว้แล้ว รอเพื่อน ๆ ชาวเรือนไทยมาร่วมแสดงความคิดเห็นสัก ๒-๓ ท่าน
คุณดีดี คุณหนุ่มสยาม คุณประกอบ ว่าไง

มาปั่นเรตติ้ง   รอคำตอบจากซายาเพ็ญ ว่ามันตัวอะไรกันแน่

คลิปนางเงือกทั้งสองคลิปข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของรายการ Mermaids: The New Evidence ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง Animal Planet เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖  ก่อนหน้านั้นหนึ่งปีทางช่อง Animal Planet ได้ออกอากาศรายการ Mermaids: The Body Found เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ รายการครั้งนั้นเป็นที่ฮือฮามาก ทำให้หลายคนเชื่อว่าเงือกมีจริง จนทางการสหรัฐต้องออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่า "นางเงือกไม่มีจริง"

ความจริงโฆษณารายการก่อนออกอากาศก็ให้ข้อมูลแล้วว่า รายการนี้เป็น "science fiction based on some real events and scientific theory"  ยิ้มเท่ห์



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 05 มิ.ย. 13, 20:15

สำหรับรายการเงือกตอนที่ ๒ Mermaids: The New Evidence  ก็เช่นเดียวกัน เดลิเมล ให้ข้อมูลว่าตอนท้ายของรายการก็แจ้งไว้ว่า รายการนี้เป็น 'science fiction' based on 'scientific theory'.  นักวิทยาศาสตร์ในรายการก็เป็นเพียงนักแสดง และเงือกในคลิปก็เป็นของปลอม



มือเงือกก็น่าจะเป็นมือของนักแสดงสวมถุงน่อง สังเกตให้ดีมีเส้นลายมือด้วย  ยิ้มเท่ห์

สนใจรายการ "เงือก" ของ Animal Planet เข้าไปดูได้ที่

http://animal.discovery.com/tv-shows/mermaids/videos/circus-trick-or-real-mermaid.htm

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 05 มิ.ย. 13, 20:21



ถูกต้มซะสุก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 05 มิ.ย. 13, 20:46

เอามาฝากคุณเพ็ญชมพูและขาประจำกระทู้นี้ค่ะ
ไม่รู้ว่าสัตว์น้ำจริงๆหรือเปล่า   ถ้าจริง  น่าจะเป็นแมงกระพรุนยักษ์

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 05 มิ.ย. 13, 20:53

Deepstaria enigmatica

อ่านรายละเอียดได้ที่ เดลิเมล

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 08 มิ.ย. 13, 14:43

คลิปรายการ Mermaids: The Body Found ของคุณเทาชมพู


มีเรื่องที่น่าสนใจตั้งแต่นาทีที่ ๕๗.๐๐ - ๕๘.๔๐ เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพเขียนเกี่ยวกับคนมีหางเป็นปลา-เงือก? ในถ้ำที่อียิปต์



แต่ว่านั่นเป็นของจริงหรือเป็นผลงานของฝ่ายศิลปกรรมของรายการกันแน่

ภาพดูใหม่ไม่มีร่องรอยความเก่าแก่ให้เห็นเลยหนอ





บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 11 มิ.ย. 13, 20:03

ภาพวาดคนมีหางเป็นปลาบนผนังถ้ำของจริงแท้ มีอยู่ในเขต Karoo ประเทศแอฟริกาใต้



ภาพวาดอยู่นาทีที่ ๓.๒๐-๓.๕๐

ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมในรายการ "เงือก" ของ Animal Planet ไม่เอาภาพวาดของจริงมาใช้  ฮืม




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 11 มิ.ย. 13, 20:35

ดูนางเงือกมาหลายคลิปแล้ว   ชวนมาดูนายเงือกกันบ้าง

บันทึกการเข้า
กระต่ายหมายจันทร์
พาลี
****
ตอบ: 284


ศศ (สะสะ) แปลว่ากระต่ายและกวาง


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 12 มิ.ย. 13, 20:34



ขอแจมด้วยค่ะ อันนี้สัตว์ไม่ประหลาด แต่คนเอามาทำให้ประหลาดเอง

เห็นเค้าว่าฮิตกันมากที่เมืองจีนค่ะ  ลังเล รูดซิบปาก ลังเล รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 13 มิ.ย. 13, 21:22

เอามาปั่นเรตติ้งค่ะ  ไม่รู้ว่าตัวอะไร


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 14 มิ.ย. 13, 18:21

บอกไม่ถูกเหมือนกัน   ยิ้มเท่ห์

http://www.ufunk.net/en/artistes/les-animaux-etranges-de-carn-dearg/


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 18 มิ.ย. 13, 19:30

มีทฤษฎีวิวัฒนการของมนุษย์ทฤษฎีหนึ่งชื่อว่า "ทฤษฎีลิงน้ำ" ที่เชื่อว่าคนมาจากลิงซึ่งลงไปใช้ชีวิตอยู่ใต้น้ำนับล้านปีก่อนที่จะขึ้นมาใช้ชีวิตบนบก

บรรพบุรุษมนุษย์เป็นลิงน้ำ?

มีผู้เสนอทฤษฎีวิวัฒนาการของมนุษย์ว่า บรรพบุรุษของพวกเรานั้นแรกเริ่มเดิมทีเป็นลิงอาศัยอยู่ในน้ำ ก่อนที่จะขึ้นบก เส้นขนหายไป เดินหลังตรง และมีขนาดสมองใหญ่ขึ้น

ทฤษฎีที่ว่านี้มีผู้สนับสนุนหลายคน รวมถึงเซอร์ เดวิด แอทเทนโบโรห์ นักธรรมชาติวิทยาและสื่อมวลชนชื่อดัง พวกเขาเชื่อว่าในสมัยดึกดำบรรพ์ มีลิงชนิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ เส้นขนค่อย ๆ หายไป แล้วเริ่มเดินหลังตรง ก่อนที่จะพัฒนาขนาดสมองให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวมีผู้เสนอมาแล้วเมื่อ ๕๐ ปีก่อน แต่มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนเย้ยหยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้
 
ปีเตอร์ ไรส์ อีวานส์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศีรษะและคอจากโรงพยาบาลรอยัลมาร์สเดน กรุงลอนดอน กล่าวว่า มนุษย์มีลักษณะแตกต่างจากลิงเอพ อื่น ๆ อย่างมาก เพราะเราไม่มีขน เดินหลังตรง มีสมองขนาดใหญ่ มีไขมันใต้ผิวหนัง และมีกล่องเสียง ซึ่งเป็นลักษณะร่วมของสัตว์น้ำทั่วไป

เขาได้สังเกตพบว่า มนุษย์มีโพรงในกระดูกศีรษะที่ใหญ่ และพื้นที่ว่างในกะโหลกระหว่างแก้ม จมูก และหน้าผาก ทำหน้าที่เหมือนเป็นทุ่นเพื่อช่วยให้ศีรษะอยู่เหนือน้ำได้

ทฤษฎีวิวัฒนาการอื่น ๆ มักจะบอกว่า ลักษณะต่าง ๆ ข้างต้นได้เกิดขึ้นกับมนุษย์ในช่วงเวลาที่ต่างกัน และมีสาเหตุที่ต่างกัน แต่ทฤษฎีลิงน้ำระบุว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากบรรพบุรุษของเราได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในน้ำ หรือใกล้แหล่งน้ำเป็นเวลาหลายล้านปี

เซอร์ อลิสเตอร์ ฮาร์ดี นักชีววิทยาชาวอังกฤษ ผู้เสนอทฤษฎีนี้เป็นคนแรก เคยเขียนไว้ว่า ในอดีตลิงบางสายพันธุ์ได้ลงจากต้นไม้มาใช้ชีวิตบริเวณที่มีอาหารเพียงพอ เช่น ตามลำธาร แม่น้ำ และทะเล จากนั้นพวกเขากลายเป็นสัตว์เดินหลังตรง เนื่องจากความพยายามในการรักษาให้ศีรษะอยู่เหนือระดับน้ำ ส่วนเส้นขนก็ค่อยๆ หายไป ก่อนที่จะพัฒนาชั้นไขมันขึ้นเพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นใต้น้ำ

มีผู้สนับสนุนอีกจำนวนหนึ่งบอกว่า ลักษณะชีวเคมีของสมองมนุษย์สามารถช่วยพิสูจน์ความสัมพันธ์ของทฤษฎีได้ โดยเฉพาะ Docosahexaenoic acid หรือดีเอชเอ กรดไขมันโอเมกา ๓ ที่พบในอาหารทะเล ช่วยให้สมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเจริญเติบโตได้ดี

ไมเคิล ครอว์ฟอร์ด จากวิทยาลัยอิมพีเรียล กรุงลอนดอน กล่าวว่า หากไม่มีสารโอเมกา ๓ ในปริมาณสูงจากอาหารทะเล มนุษย์เราคงไม่สามารถพัฒนาจนมีสมองขนาดใหญ่ได้ ซึ่งแหล่งดีเอชเอที่สำคัญของโลกก็คืออาหารจำพวกปลา ขณะนี้ถูกคุกคามอย่างหนัก กังวลว่าจะนำไปสู่ผลที่ตามมาอันน่าสะพรึงกลัวกับสายพันธุ์ของเรา

"หากไม่มีดีเอชเอที่เพียงพอ ในอนาคตเราจะเผชิญกับปัญหาโรคภัยที่เกี่ยวกับสมอง และระดับสติปัญญาก็จะถูกทำลาย เราต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน และนี่คือเหตุผลที่แท้จริงของการนำเสนอทฤษฎีลิงน้ำ" นักวิชาการผู้นี้ระบุ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ โดยเฉพาะคริส สตริงเกอร์ จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ กรุงลอนดอน ที่แย้งว่า หากบรรพบุรุษมนุษย์เคยมีช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในน้ำ เราก็คงใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมแบบนั้นหลายล้านปี แล้วเหตุใดถึงไม่พบหลักฐานหรือตัวอย่างฟอสซิล มิพักต้องพูดถึงการใช้ชีวิตร่วมกับจระเข้ และสัตว์น้ำที่ดุร้ายชนิดอื่น ๆ จึงไม่เข้าใจว่าพวกเขามีชีวิตรอดจากสิ่งแวดล้อมแบบนั้นมาได้อย่างไร

จาก ไทยโพสต์



ถ้าทฤษฎีลิงน้ำถูกต้อง ลิงที่อยู่ในน้ำนี้แหละคือ "เงือก"

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง