เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 177625 สัตว์ประหลาด 2
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 25 ก.ย. 13, 22:05

รูปนี้คงเป็นช่วงเริ่มหัดบินรึเปล่าคะ  เหมือนตุ๊กตาขนฟู


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 25 ก.ย. 13, 22:21

^
ตุ๊กตากระมัง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 25 ก.ย. 13, 22:38

นี่ตัวจริง


บันทึกการเข้า
mrpzone
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 04:39

เห็นคุณกิตติที่ อ.นวรัตน และ อ.เทาชมพู แนบรูปมา โอ๊ยยย นั่งฮาอยู่ตั้งนานสองนาน  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ขอปรับอารมณ์แป๊บนึงครับ


(ภาพจาก http://www.inaturalist.org/observations/126323)

ค้างคาวขาวฮอนดูรัส เป็นค้างคาวจิ๋วพันธุ์หายากและมีจำนวนลดน้อยลง สามารถพบได้เฉพาะในแถบอเมริกาใต้ (คอสตาริกา ฮอนดูรัส นิการากัวและปานามา) มีชื่อสามัญว่า Honduran White Bat, White Bat มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Ectophylla alba ค้นพบโดย H. Allen ในปี ค.ศ.1892

ป้าแหม่มวิกกี้บอกว่า ค้างคาวขาวฮอนดูรัส เป็นค้างคาวเพียง 1 ใน 2 พันธุ์ที่มีสีขาว (อีกพันธุ์หนึ่งคือค้างคาวผี) มีจะงอยจมูกสามเหลี่ยมและหูเป็นสีเหลืองอำพัน ตัวเต็มวัยสูง 3.7-4.7 ซม. กางปีกกว้าง 6-10 ซม. น้ำหนัก 6 กรัม (น้ำหนักมากกว่าค้างคาวคุณกิตติ สัญชาติไทย ที่ได้ชื่อว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลก ประมาณ 3 เท่า) ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่เสียงต่อการสูญพันธ์ ส่วนชีวิตความเป็นอยู่อื่นๆ อาทิเช่น ชอบกินผลไม้และผัก ชอบอาศัยในเต็นท์ทำจากใบเฮลิโคเนีย เกาะเบียดซุกเป็นกลุ่มห้อยแขวนต่องแต่งสูงจากพื้นราว 2 เมตร โดยตัวผู้จะชอบอาศัยรวมกับตัวเมียหลายตัว (ถ้าครองโสดหรือกลับไปนอนบ้านไม่ทัน ก็ไปอยู่เต็นท์ที่สร้างไว้กระจัดกระจายทั่วป่า) ซึ่งตัวเมียแต่ละตัวจะคลอดลูกน้อยเพียงตัวเดียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อลูกโตก็จะถูกย้ายออกจากฮาเร็มเพื่อไปมีคู่ใหม่ ในฮาเร็มใหม่ต่อไป

มักพบตัวเมียในเต็นท์ฮาเร็ม 4-8 ตัว และอาจมากกว่า 12 ตัว ดูท่าชีวิตของชิ๊คหนุ่มขนขาวสำราญยิ่งนัก  อายจัง


(ภาพจาก natgeocreative.com)

ครอบครัวขนขาวเค้าสร้างเต็นท์ห้อยกันแบบนี้ครับ ถ้าใบมันย้วยลงมาก็ไปสร้างกันใหม่


(ภาพจาก arkive.org)

ซูมผ่านหูจมูกเจ้าขนขาวให้เห็นภายในเต็นท์กันชัดๆ ถูกกัดให้ใบโค้งลงและมีรูให้แสงลอดเข้ามาได้


(ภาพจาก arkinspace.com)

ด้วยความน่ารักจึงถูกนำมาเป็นแบบทำเข็มกลัดซะเลย


(ภาพจาก flickriver.com)

ปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ น่ารักดีนะครับ ยิงฟันยิ้ม


(ภาพจาก deviantart.net)
บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 13:15

เห็นอยู่กันเป็นกลุ่มในใบกล้วยแล้วนึกอยากเอามาทำห่อหมก น่าจะกรอบหวาน ไม่ก็ทอดกรอบๆ ไฟแรงๆ ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 18:51

อ่านแล้วนึกถึงคุณป้าม.ล.เนื่อง นิลรัตนเคยเล่า  ท่านบอกว่าเนื้อค้างคาวเป็นเนื้อที่เปื่อยนุ่ม      ท่านเคยรับประทานมาแล้ว    ก็ไม่มีโอกาสจะถามว่ามันมีกลิ่นสาบติดมาบ้างหรือเปล่า   
ห่อหมกค้างคาวจิ๋วตัวขาวๆที่ว่า  น่าจะเนื้อนิ่ม   กระดูกกระเดี้ยวไม่ต้องถอด สับละเอียดลงไปในเนื้อพริกแกงเพื่อเอาแคลเซียม  เป็นสินค้าโอท็อปของเรือนไทย
ถ้าจะตั้งชื่อว่า ห่อหมกเพ็ญชมพู ก็น่าจะเรียกลูกค้าได้มากนะคะ คุณพีว่าไง


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 22:14

 ตกใจ  ตกใจ  ตกใจ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 22:52

หนูช่วยบอกหน่อยได้ไหมจ๊ะ  ว่าใช้ฟ้อนต์อะไร      ถ้าโหลดมาใช้ได้  ก็จะเอาหนูออกจากห่อหมกเป็นรางวัล


บันทึกการเข้า
mrpzone
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 26 ก.ย. 13, 23:38

อ่านแล้วนึกถึงคุณป้าม.ล.เนื่อง นิลรัตนเคยเล่า  ท่านบอกว่าเนื้อค้างคาวเป็นเนื้อที่เปื่อยนุ่ม      ท่านเคยรับประทานมาแล้ว    ก็ไม่มีโอกาสจะถามว่ามันมีกลิ่นสาบติดมาบ้างหรือเปล่า   
ห่อหมกค้างคาวจิ๋วตัวขาวๆที่ว่า  น่าจะเนื้อนิ่ม   กระดูกกระเดี้ยวไม่ต้องถอด สับละเอียดลงไปในเนื้อพริกแกงเพื่อเอาแคลเซียม  เป็นสินค้าโอท็อปของเรือนไทย
ถ้าจะตั้งชื่อว่า ห่อหมกเพ็ญชมพู ก็น่าจะเรียกลูกค้าได้มากนะคะ คุณพีว่าไง

ง่า.. มิกล้ารับประทานเนื้อค้างคาวครับ ได้ยินจากสื่อว่าเป็นพาหะโรคกลัวน้ำอยู่เนืองๆ ขนาดได้ยินเสียงตอนมันบินผ่านข้ามศรีษะยังต้องกลั้นลมหายใจกลัวเชื้อโรคเข้าสิงร่าง อีกทั้งปกติก็ไม่ค่อยได้อาบน้ำบ่อยซักเท่าใด เกรงว่าจะไปกันใหญ่

แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อเมนูว่า "ห่อหมกเพ็ญชมพู" จะกัดฟันรับประทานจนหมดกระทงเลยล่ะคร้าบบบบ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ปล. นำภาพต้นเฮลิโคเนียประดับสวนมาจากกระทู้ ผ่าตัดแปลงโฉมบ้านในพันทิป มาเสริมในกระทู้ครับ เผื่อคุณ hobo หรือท่านอาจารย์ใหญ่ หาเจ้าขนขาวมาได้แต่ขาดกระทงทำห่อหมกเพ็ญชมพู จะได้ไปขอเจ้าของบ้านซักใบสองใบครับ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 27 ก.ย. 13, 09:36

สัตว์ประหลาดสยองขวัญ(สำหรับคุณเพ็ญชมพูและคุณพี)ค่ะ


บันทึกการเข้า
mrpzone
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 27 ก.ย. 13, 12:48

เอื๊อกกก
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 27 ก.ย. 13, 15:23

สัตว์ประหลาดสยองขวัญ(สำหรับคุณเพ็ญชมพูและคุณพี)ค่ะ

คงต้องส่งไปกระทู้ อาหารเครื่องดื่มแปลก ประหลาด หรือพิสดาร ของคุณกระต่าย

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 29 ก.ย. 13, 19:37

ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า

ภาพนี้ดูแล้วช่างน่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร นักประดาน้ำกำลังผจญกับสัตว์ประหลาดอะไรนั่น

รับรองว่าภาพนี้เป็นของจริง ไม่มีการตกแต่งภาพ ไม่มีการสร้างหุ่นจำลองขึ้นมา ไม่ได้มาจากภาพยนตร์ฮอลลีวูด 

นักเรียนชั้นเหรียญทองคงจะต้องลงมือค้นคว้าอีกแล้ว  ยิ้มเท่ห์



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
mrpzone
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 29 ก.ย. 13, 23:43

อนาคอนดาตัวนี้กลายเป็นลูกเจี๊ยบไปเลยครับ  ขยิบตา


บันทึกการเข้า
mrpzone
มัจฉานุ
**
ตอบ: 89


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 30 ก.ย. 13, 01:27

ค้นเจอภาพคนละมุม คาดว่าน่าจะเป็นคนละตัวกัน แต่น่าจะเป็นพันธุ์เดียวกันครับ  ยิงฟันยิ้ม



อากู๋นำพาไปยัง Blog วิทยาศาสตร์ราชมงคล มีภาพและคลิปข่าวที่ระบุว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมว่า นักประดาน้ำในออสเตรเลียได้สัมผัสและบันทึกภาพหนอนทะเลพันธุ์ประหลาดซึ่งมีแสงเรืองในตัวเอง นอกชายฝั่งเมืองทาสมาเนีย ซึ่งถูกตั้งฉายาว่า “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”

รายงานระบุว่า หนอนทะเลหายากดังกล่าวซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Pyrostremma spinosum” มีลำตัวยาวกว่า 30 เมตร หรือเท่ากับรถโดยสารสองคันต่อกัน โดยลำตัวที่มีลักษณะเรืองแสงของมันเกิดจากโคลนขนาดเล็กนับพันกลุ่ม ที่สามารถดูดน้ำผ่านท่อ และกินแพลงตอนเป็นอาหาร ก่อนจะคายเศษแพลงตอนออกมา และมันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ซึ่งหมายถึงมันจะว่ายน้ำได้อย่างอิสระและอยู่ในพื้นที่ทะเลเปิดมากกว่าใกล้ชายฝั่ง และทำให้ยากที่จะพบเห็นมัน โดยมีเพียงนักประดาน้ำเท่านั้น ที่จะสามารถเห็นมันได้ ด้านนักประดาน้ำรายหนึ่งระบุว่า หนอนทะเลพันธุ์นี้ตัวใหญ่มาก ดูน่ากลัว และเคลื่อนตัวผ่านท้องทะเลระดับลึก แต่มีลักษณะนิ่ม จนคล้ายกับงูมีปีก ส่วนผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งระบุว่า พื้นที่คาบสมุทรทาสมานในทาสมาเนีย เป็นหนึ่งในไม่กี่พื้นที่ของโลกที่อาศัยของแพลงตอนวุ้นแห่งท้องทะเลที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง

ตามเ้ข้าไปอ่านบทความในเว็บ deepseanews.com ที่เป็นแหล่งข่าวของคนที่สนใจโลกใต้ทะเลลึก ซึ่ง RR Helm ได้เขียนบทความถึงเรื่องนี้และมีคลิปให้ชมด้วย อ่อ.. มีบางความเห็นเตือนอย่าคิดว่าผิวบอบบางแล้วดำเข้าไปเล่นในตัวมันนะ เพราะอีกพันธุ์หนึ่งในตระกูลนี้เค้าพบนกเพนกวินตายแหงแก๋ในท้อง จนทำให้ผู้เขียนบทความต้องอัพเดทเตือนใจคนอื่นๆ ในอีก 2 วันต่อมา

โอ๊ะโอ.. เจอที่มาของภาพที่ อ.เพ็ญชมพู ให้การบ้านแล้วครับ  ยิงฟันยิ้ม



เว็บไซต์ biodiversityexplorer.org เค้าบอกว่าภาพโดยนายโรเจอร์ เฟนวิค (Mr Roger Fenwick ©, Victoria, Australia) นั่งยิ้มเผล่ถ่ายรูปบนตัวเจ้าหนอนยักษ์ขนาดประมาณ 20 เมตร แชะภาพถ่ายขณะดำน้ำลึก 25 เมตร ที่เกาะมองตากู ออสเตรเลีย (Montague Island in NSW, Australia) เมื่อปี ค.ศ.1985

ส่งท้ายด้วยภาพเปรียบเทียบสัตว์ประหลาดจากหนังเรื่อง El Secreto del Abismo (1989) กับเจ้าหนอนยักษ์ Pyrostremma spinosum (2013) ที่เจ้าของบล็อก federaciongalactica บอกว่าเหมือนกันเด๊ะเลยครับ  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 19 คำสั่ง