เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 4496 คำถามเกี่ยวกับ "ท่านศรีบูรพา" ครับ
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


 เมื่อ 24 เม.ย. 13, 15:55

เรียนท่านอาจารย์เทาชมพู รวมถึงท่านสมาชิกเรือนไทยที่เคารพทุกท่านครับ

   ไหนๆ คุณเด็กชายน้อย ก็เปิดกระทู้ซีไอเอ กับท่านจิตร ภูมิศักดิ์ ขึ้นมาแล้ว ผมก็ขอเปิดกระทู้
ท่านศรีบูรพาบ้างครับ มีคำถามคาใจผมอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ “ทำไมท่านศรีบูรพาไม่กลับบ้าน?”

   เท่าที่อ่านจากประวัติ ท่านศรีบูรพา เดินทางไปดูงาน ณ ประเทศจีน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ครั้นจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ กระทำรัฐประหาร (อีกหน) ใน พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านก็ขอลี้ภัยในจีน และอยู่ที่นั่นตราบจนถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ผมยังค้นไม่พบเหตุผลในการลี้ภัยของท่านครับ ถ้าจะว่ากันตามวิสัย “นักสู้” ท่านศรีบูรพาทำงานเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางมาก็มากชิ้น ท่านถูกจองจำคราวกบฏสันติภาพ ในระหว่างต้องโทษ ก็ผลิตงานออกสู่บรรณภพไทย มี บทกวี (กลอนเปล่า) “อาชญากรผู้ปล่อยนกพิราบ” ความเรียงชุด “อุดมธรรมกับพระพุทธศาสนา” เป็นต้น ท่านไม่เคยใช้เวลาเปลืองเปล่าเลย
   คราวจอมพลสฤษดิ์ฯ จับกุมนักคิด นักเขียนเข้าทัณฑสถาน  พ.ศ. ๒๕๐๑ นั้น แน่นอน นักหนังสือพิมพ์ เพื่อนร่วมอาชีพของท่านถูกจำกัดอิสรภาพกันหลายราย แล้วเหตุใด ท่านศรีบูรพาถึงไม่กลับจากจีนมาผจญชะตากรรมร่วมกับเพื่อนพ้อง ผมไม่เชื่อเด็ดขาดครับว่าบุรุษเหล็กอย่างท่านจะยั่นคุก ตรงกันข้าม สำหรับนักสู้ ยิ่งติดตรวนยิ่งเติบโต หากท่านศรีบูรพากลับมาไทยใน พ.ศ. ๒๕๐๑ อาจถูกจับ แต่ก็จะมีเพื่อนคับคั่ง ทั้งเวลาในคุกอาจก่อให้เกิดผลงานนิพนธ์อีกหลายชิ้นก็ได้

   ผมเคยตั้งสมมุติฐานว่า หรือท่านศรีบูรพา จะเกรงคุณย่าชนิด สายประดิษฐ์ พลอยติดร่างแหไปด้วย อันจะกระทบกระเทือนถึงลูก คือคุณสุรพันธ์ สายประดิษฐ์ แต่แล้วก็เถียงตัวเองขึ้นมาครับ ผมเชื่อมั่นอีกเช่นกันว่าคุณย่าชนิดฯ ท่านก็หญิงเหล็ก พอๆกับคุณย่าเพ็ญศรี พุ่มชูสีนั่นแหละครับ คุณย่าเพ็ญศรี เคยเปิดใจในทำนอง ถ้าติดคุกกับท่านอาจารย์สุวัฒน์ วรดิลกผู้สามีก็ ยอม แต่พอท่านอาจารย์สุวัฒน์ ติดคนเดียว คุณย่าเพ็ญศรีฯ ก็เทียวส่งอาหารการกินมิได้ขาด ทำนองเดียวกัน หากแม้ท่านศรีบูรพาติดคุก คุณย่าชนิดย่อมเต็มใจพร้อมส่งเสบียง ส่วนคุณสุรพันธ์ ก็อาจนำไปฝากกับญาติฝ่ายบิดาหรือฝ่ายมารดาให้อุปถัมภ์บำรุงชั่วคราวได้

   เอาหละครับ ถ้าในกรณี พ.ศ. ๒๕๐๑ อาจมีอุปสรรคมากมายที่ผม
สุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด (กราบขออนุญาตยืมสำนวนในร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี ของ ท่านเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มาใช้สักครั้งเถิดขอรับ ผมคิดว่าดวงวิญญาณของท่านเจ้าพระยาพระคลัง (หน) คงไม่เคืองกระผมนะขอรับ) ก็แล้วหลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เล่า ท้องฟ้าสีทอง(ปลอม) แล้ว ภายหลังท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านศรีบูรพาก็น่าจะกลับไทยได้อย่างปลอดโปร่ง ทำไมท่านจึงอยู่จีนต่อ?

   ที่น่าแปลกไปกว่านั้น คือนอกจากบทกวี “พลังประชาชน”
(หยดฝนย้อยหยาดฟ้ามาสู่ดิน ประมวลสิ้นเป็นมหาสาครใหญ่ฯลฯ) ที่ท่านเขียนส่งมาจากประเทศจีน ในราว พ.ศ. ๒๕๑๗ แล้ว เมื่อนำอัฐิท่านคืนมาตุภูมิภายหลังท่านถึงแก่กรรม ก็ไม่พบผลงานใดๆจากประเทศจีนเพิ่มเติม
เป็นไปได้หรือ ที่ผู้ชายซึ่งทุกหยดเลือดคือหยาดหมึก ทุกเส้นโลหิตคือเส้นสายลายลักษณ์ จะอยู่จีนถึง ๑๖ ปีกว่าๆ โดยไม่ขีดๆเขียนๆอะไรไว้ ผมน่ะร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อครับ

   บรรดาปริศนาในใจผมก็ได้สาธยายสู่ทุกท่านแล้ว รอก็แต่หลักฐาน ข้อมูล ความรู้ ที่ทุกท่านจะกรุณาแบ่งปันมาให้คนโง่ๆอย่างผม ได้วิทยาเพิ่มเติมบ้าง ผมเชื่อสำนวนที่ว่า
“การอ่านโดยไม่คิดต่อ เป็นอันตราย” ครับ ฉะนั้น เมื่ออ่านชีวประวัติท่านศรีบูรพา ผมจึงต้องคิด คิดเพื่อให้เกิดคำถาม แล้วใช้คำถามนั้นประดุจกุญแจไขทวารวิชา ขอท่านผู้ได้อ่านกระทู้นี้ โปรดเอื้อแสงสว่างทางสมองแก่ผมด้วยเถิดครับ

ขอแสดงความนับถืออย่างสูงยิ่ง
ชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 24 เม.ย. 13, 18:42

หลังจากลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในจีน  "ศรีบูรพา" ก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆเฉยๆนะคะ      ท่านก็มีกิจกรรมอยู่ทางโน้น เช่นเดินทางจากจีนไปร่วมประชุมกลุ่มนักเขียนเอเชีย-แอฟริกาที่เมืองทาชเคนท์ สหภาพโซเวียตในช่วงที่จอมพลสฤษดิ์ยังครองอำนาจอยู่
เมื่อจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม    จอมพลถนอมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี  ในพ.ศ. ๒๕๐๗  ศรีบูรพาเป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุมสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ (สาขาสังคมศาสตร์) ที่ปักกิ่ง
พ.ศ. ๒๕๐๘ - เป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุมนานาชาติที่ฮานอย ในการสนับสนุนประชาชนเวียดนามต่อต้านการรุกรานของสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. ๒๕๐๙ - เป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุมกลุ่มนักเขียนเอเชีย-แอฟริกาที่ปักกิ่ง

เมื่อพ.ศ. ๒๕๑๖ - ในประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม  นิสิตนักศึกษาและประชาชนลุกขึ้นล้มล้างรัฐบาลจอมพลถนอม-ประภาส  ศรีบูรพาเขียนบทกวีร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ส่งมาเมืองไทย  แสดงว่าได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอด

การที่ท่านได้ไปประชุมนานาชาติในฐานะหัวหน้าคณะ  ก็แสดงว่าบทบาททางการเมืองของศรีบูรพาในประเทศจีนขณะนั้น  มีความสำคัญไม่เบาเลย    นี่คงจะตอบคำถามคุณชูพงศ์ได้ว่าทำไมท่านถึงไม่กลับประเทศไทย

พ.ศ. ๒๕๑๗ - วันที่ ๑๖ มิถุนายน กุหลาบ สายประดิษฐ์ ถึงแก่กรรมด้วยโรคปอดบวมและเส้นโลหิตหัวใจตีบที่โรงพยาบาลเซียะเหอในปักกิ่ง อัฐิส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่สุสานปาเป่าซาน
บันทึกการเข้า
เด็กชายน้อย
อสุรผัด
*
ตอบ: 15


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 25 เม.ย. 13, 00:04

แต่ละคำ วิลิศมาหรามากครับ
เรื่องท่านศรีบูรพา ผมก็ไม่ทราบ มารอฟังครับ
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 25 เม.ย. 13, 08:01

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เทาชมพูอย่างสูงยิ่งครับ ที่ปรานีให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านศรีบูรพาเพิ่มเติม หนังสือเสียงที่ผมฟัง เป็นรวมเรื่องสั้นชุด “ขอแรงหน่อยเถอะ” ตอนต้น มีกล่าวถึงประวัติท่าน แต่ทางสำนักพิมพ์จะเน้นคุณูปการที่ท่านมีต่อสังคมไทยเป็นหลัก กรณียกิจซึ่งท่านบำเพ็ญที่ประเทศจีน มิได้กล่าวไว้อย่างละเอียดเช่นนี้ครับ ผมอ่านข้อความของอาจารย์แล้วก็ร้อง โอ้โห ท่านศรีบูรพายิ่งใหญ่เหลือเกิน พร้อมกันนั้น ก็รู้สึกเศร้าลึกๆครับ รำพึงกับตัวเอง เอ ท่านศรีบูรพาจะคิดถึงบ้านมากเหมือน
ท่านอัสนี พลจันทร ไหมหนอ ทำไมนะ เวลาอ่านชีวประวัติของนักต่อสู้ทางการเมือง จะต้องมีเรื่องเศร้าหดหู่แทรกอยู่ด้วย ท่านเหล่านั้นล้วนเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อผู้อื่นแท้ๆ

   สวัสดีครับ คุณเด็กชายน้อย
   ขอบพระคุณมากๆครับ ที่ตั้งกระทู้ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ ทำให้ผมคิดอะไรขึ้นมาได้อีกหลายประเด็นเลยครับ
   
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 25 เม.ย. 13, 18:31

ขออนุญาตออกความเห็นตามประสาเด็กหัวรุนแรงปากเสียป่วนเรือนไทยเสมอ วิเคราะห์เรื่องที่คุณชูพงค์สงสัยว่าทำไมศรีบูรพาไม่กลับไทย


เท่าที่ผมเห็นมา นักคิดนักต่อสู้ทางความคิด ถ้าต้องสู้กับคนพาลไร้เหตุผลที่มีอำนาจหรือมือปืนในมือ ไม่มีใครยอมเอาตัวเองไปอยู่ใต้อุ้งมือพาล เพราะมีหวังตายลูกเดียว อุดมการณ์สู้ปืนไม่ได้ ตายอย่างเดียว ดูอย่างท่านมหาตมะ คานทีสิครับ คานทีก็สู้กับรัฐบาลอังกฤษ ในยุคสมัยที่อังกฤษยังยึดหลักเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษ ท่านคานทีเลยมีชีวิตรอดมาจนอินเดียได้เอกราช  แต่พอมาเจอพวกหัวรุนแรงฮินดู ท่านคานทีก็โดนกำจัดไปตามระเบียบ  แต่ถ้าคานทีตั้งแต่สมัยก่อนประกาศเอกราชไม่ได้สู้กับรัฐบาลอังกฤษ แต่เป็นรัฐบาลนายแปลก นายสฤษดิ์  ผมสงสัยว่าท่านคานทีอาจโดนโจรมลายูซุ่มชิงตัวจนถูกสังหารระหว่างทางเหมือนอดีต 4 รัฐมนตรีไปนานแล้วก็ได้  ดังนั้นการที่คุณกุหลาบไม่กลับมาก็ไม่แปลก ไม่ได้แปลว่าท่านขี้ขลาดหรือละทิ้งอุดมการณ์ เพียงแต่ท่านอาจจะเห็นแบบผมว่าการเอาอุดมการณ์ไปสู้กับคนที่ไม่มีวันจะเข้าใจเรื่องอุดมการณ์นั้น แถมมีปืนมีอำนาจล้นฟ้าสั่งเป็นสั่งตายคนได้ มีหวังจะเหลือแต่ชื่อทิ้งไว้ให้ลูกหลาน  เอาง่ายๆ สมัยฮิตเล่อร์ คนทั้งเยอรมันไม่ได้รักฮิตเลอร์หมด แต่ใครขัดขืนหรือไม่ทำตามก็มีหวังได้ไปใช้แรงงานในแคมป์เป็นเพื่อนคนยิวหละครับ



บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 31 มี.ค. 20, 11:47

๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓  รำลึก ๑๑๕ ปีชาตกาล ศรีบูรพา "กุหลาบ สายประดิษฐ์" สุภาพบุรุษสามัญชน  ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 31 มี.ค. 20, 17:31

ศรีบูรพา คือใคร

 เป็นศรีแห่งบูรพาอาณาจักร
 เป็นศรีแห่งตำหนักวรรณศิลป์
 เป็นศรีแห่งอิสระ ณ ปฐพิน
 เป็นศรีแห่งห้วงจินตนาการ
 เป็นนักคิดผู้คิดต่างสร้างคิดใหม่
 เป็นนักสร้างประชาธิปไตยให้ก้าวผ่าน
 เป็นนักเขียนเพื่อคนอื่นมายืนนาน
 เป็นนักหนังสือพิมพ์ผู้ต่อต้านฝ่ายอธรรม
 เป็นบุคคลมีธรรมประจำจิต
 เป็นบุคคลผู้มากพิษต่อฝ่ายต่ำ
 เป็นบุคคลเรียนรู้เป็นครูคำ
 เป็นบุคคลลึกล้ำในความจริง
 เป็นคนของครอบครัวเป็นตัวอย่าง
 เป็นแบบสร้างของสังคมสมใจยิ่ง
 เป็นคนที่ประเทศชาติไม่อาจทิ้ง
 เป็นทุกสิ่งทุกอันขวัญของไทย
 ๑๑๕ ปีแล้ว ชาตกาล
 ยังยิ่งยงยืนนานผ่านมาได้
 "ศรีบูรพา" ศรีแห่งชาติ ศรีแห่งใจ
 รำลึกมั่นวันนี้ไว้ให้ไทยจำ


ชมัยภร  แสงกระจ่าง
 ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 31 มี.ค. 21, 07:40

ศรีบูรพา ๑๑๖
วันครบรอบชาตกาล ๑๑๖ ปีศรีบูรพา

     บูรพทิศมิดมืดชืดไปทั่ว
     หล้าสลัวทุกขอบฟ้าเกินฝ่าฝัน
     ทุรโรคทุรพลพ้นรำพัน
     เหมือนชีวันไร้ชีวีนาทีธรรม

     โรคไล่ล่าฆ่ามนุษย์สุดมุมโลก
     คนไล่ฆ่าคนโศกโลกระส่ำ
     ทั้งฟากฟ้าผืนปฐพีพิรี้พิรำ
     น้ำตาฉ่ำทั้งสากลผจญพาล

     ๑๑๖ ปี ศรีบูรพาแล้ว
     ฟ้าไม่แผ้วดินไม่ผ่องหมองทุกด้าน
     ตัวอักษรนอนตายนับหลายล้าน
     โลกเขียนอ่านอับมุมสู่หลุมใด

     ทำอย่างไรดีหนอจะต่อสาน
     ทำอย่างไรจึงจะขานรับคำได้
     กราบครูศรีบูรพา ณ ฟ้าไกล
     ทั้งหัวใจอับจนอยู่บนดิน

     ขอครูช่วยอำนวยให้ด้วยเถิด
     ขอครูเปิดดวงตาวรรณศิลป์
    ให้มองเห็นทางหนังสือลือระบิล
    ให้ทุกถิ่นงามดีเป็นศรีบูรพา

         ชมัยภร แสงกระจ่าง
         ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 31 มี.ค. 22, 20:15

๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ร่วมรำลึก ๑๑๗ ปีชาตกาล ศรีบูรพา "กุหลาบ สายประดิษฐ์"


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 01 เม.ย. 22, 09:37

      โดยบังเอิญ, เมื่อวานเช้า คุยกับเพื่อนเรื่อง ข้างหลังภาพ

แม้เรามิได้เกิดเป็นดอกซากุระ ก็อย่ารังเกียจที่เกิดเป็นบุปผาพรรณอื่นเลย
ขอแต่ให้เป็นดอกไม้ที่งามที่สุดในพรรณของเรา

ภูเขาฟูจีมีอยู่ลูกเดียว แต่เขาทั้งหลายก็หาไร้ค่าไม่

................

จะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นสักอย่างหนึ่ง
จะเป็นอะไรมิใช่ปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่า จงเป็นให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 01 เม.ย. 22, 09:48

ศ. ฐะปะนีย์  นาครทรรพ ท่านคงได้มาจาก "ข้างหลังภาพ" ยิงฟันยิ้ม

เป็นอะไรเป็นให้ดีที่สุด

แม้มิได้เป็นดอกกุหลาบหอม
ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว
แม้มิได้เป็นจันทร์อันสกาว
จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา

แม้มิได้เป็นหงส์ทะนงศักดิ์
ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา
แม้มิได้เป็นน้ำแม่คงคา
ก็จงเป็นธาราใสที่ไหลเย็น

แม้มิได้เป็นมหาหิมาลัย
จงพอใจจอมปลวกที่แลเห็น
แม้มิได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ
ก็จงเป็นวันแรมอันแจ่มจาง

แม้มิได้เป็นต้นสนระหง
จงเป็นพงอ้อสะบัดไม่ขัดขวาง
แม้มิได้เป็นนุชสุดสะอาง
จงเป็นนางที่มิใช่ไร้ความดี

อันจะเป็นอะไรนั้นไม่แปลก
ย่อมผิดแผกดีงามตามวิถี
ประกอบกิจบำเพ็ญให้เด่นดี
สมกับที่ตนเป็นเช่นนั้นเทอญ

ศ. ฐะปะนีย์  นาครทรรพ
หนังสือ "เรียนรู้ร้อยใจ เพื่อใครคนนั้นที่ชื่อว่าเรา"



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 03 เม.ย. 22, 09:30

ศรีบูรพา   : ดั่งดวงเทียน ปืน และดอกไม้หอม

 คือดวงเทียนส่องทางสร้างความคิด
 ส่องทางชนให้ชีวิตเพื่อคิดใหม่
 เป็นขุนพลคนสำคัญวงวรรณไทย
 สร้างความจริงที่ยิ่งใหญ่ในมนุษย์
 ชี้มนุษย์เท่าเทียมกันยืนยันได้
 ส่งอุทธรณ์เป็นเสียงใสอันพิสุทธิ์
 “มนุษยภาพ”ยืนยันการก้าวรุด
 ล้างอยุติธรรมเหลื่อมล้ำนั้น

 คือนักหนังสือพิมพ์-ชั้นหนึ่ง
 ประกอบซึ่งหลักการจรรยามั่น
 เป็นแบบอย่างยืนตนคนสำคัญ
 ไม่อ่อนข้อให้ “มัน” เผด็จการ
 พร้อมจะยิงปืนคิดเป็นอักษร
 ให้ศัตรูกระเด็นกระดอนต้องวิ่งพล่าน
 อานุภาพแห่งคำล้วนทำงาน
 ประหัตประหารดั่งลูกปืนให้ชื่น-ชน

 คือนักเขียนเป็นดั่งดอกไม้หอม
 ให้อวลออมอบร่ำตามนุสนธิ์
 งามละเมียดละเอียดลึกผนึกกมล
 เห็นค่าคนลงรากหยั่งถึงสังคม
 ทั้งเรื่องรัก เรื่องผู้หญิง เรื่องชีวิต
 ล้วนตราติดตรึงนานประสานประสม
 เป็นมาลัยบูชาค่าควรชม
 หรือดอมดมหนึ่งในได้ดังตรอง
 
 เป็นดั่งเทียนนำทางสว่างไสว
 เป็นดั่งปืนยิงไปให้ทางส่อง
 เป็นดั่งดอกไม้หอมล้อมละออง
 เป็นสามสิ่งสำคัญของสังคมไทย
 ๑๑๗ ปีชาตกาล นานมาแล้ว
 แต่ดวงแก้ว “ศรีบูรพา”ยังสวยใส
 ยังอยู่ในทรงจำและทรงใจ
 ยังอยู่ในประวัติศาสตร์ องอาจเทอญ

          ชมัยภร แสงกระจ่าง
 ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ๒๕๕๗
        ประธานกองทุนศรีบูรพา  
          ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 19 คำสั่ง