ขอบคุณสำหรับภาพประกอบ ทำให้วันนี้ดิฉันกินข้าวเย็นได้น้อยกว่าปกติ บวกคำอธิบายของคุณประกอบ เอามาดูบ่อยๆคงลดน้ำหนักได้เร็วมาก

กลับมาเรื่องจีนเส็ง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ท่านไม่โปรดเรื่องไสยศาสตร์เอามากๆ โดยเฉพาะเรื่องกลั่นแกล้งกันด้วยคุณไสย ทรงวินิจฉัยว่า ถ้าหากว่าราษฎรไม่สะดุ้งสะเทือนกับการกระทำประเภทนี้ ถือว่าเป็นการกระทำของคนบ้าๆบอๆ ท่านก็เห็นว่าควรเลิกแล้วกันไป
แต่ในเมื่อราษฎรเชื่อเรื่องรำเพรำพัด (คำนี้เป็นภาษาเก่าหมายถึงสิ่งร้ายกาจอัปมงคลที่ปล่อยให้ล่องลอยมา หลังๆนี้เราเรียกว่าลมเพ-ลมพัด ) ให้ถึงตัวผู้เป็นเป้าหมายได้ มันก็เลยกลายเป็นหนทางหากินของพวกที่อวดตัวว่าเป็นหมอรู้วิชาพวกนี้ฝ่ายหนึ่ง และหมอแก้วิชาพวกนี้อีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนชาวบ้านที่เชื่อก็เสียเงินเสียทองไปจ้างให้ทำกับคนอื่นบ้าง หรือเชื่อว่าตัวเองถูกกระทำก็จ้างให้แก้ไข วุ่นวายเดือดร้อนกันไปต่างๆนานา
ความเชื่อเช่นนี้ ก่อให้เกิดพระราชกำหนดกฎหมายเก่า ให้จับคนเป็นชมบเป็นผีปอบฆ่าเสียก็มี ถ้าจับเลขยันต์ได้ระหว่างผู้เป็นความก็ให้ปรับคดีเป็นแพ้ แถมมีเบี้ยปรับอีกต่างหาก เมื่อก่อนนี้มีหมออวดว่ามีวิชาทำเสน่ห์เล่ห์มนตร์ หรือทำจะให้ศัตรูป่วยไข้ล้มตาย หากเรื่องที่ทำเกี่ยวข้องในพระราชวังและหมู่ข้าราชการ ก็ได้ลงพระราชอาญาถึงประหารชีวิตเสียก็มี หรือจำคุกก็มี
สรุปว่าพระองค์ท่านเห็นว่าพวกที่ใช้เล่ห์มนตร์ทำคุณทำไสยต่างๆ เป็นพวกน่ารังเกียจ เพราะก่อความเดือดร้อนให้ประชาชนในวงกว้าง เมื่อเกิดคดีจีนเส็งขึ้นมา จึงมิได้ทรงปล่อยให้ผ่านหรือเลิกแล้วกันไป