เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 11922 เชิญธงลงจากเขาพระวิหาร ใครบัญชาการ ?
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


 เมื่อ 17 มี.ค. 13, 09:35

คำอธิบายภาพ

๑๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังคำพิพากษาศาลโลก พลโท ประภาส จารุเสถียร รมว.มหาดไทย (ยืนซ้ายสุด) คุมตำรวจตระเวนชายแดนเชิญเสาธงชาติไทยจากยอดผาเป้ยตาดีมาทั้งเสา โดยไม่มีการเชิญธงชาติลงจากยอดเสา แล้วนำมาตั้งไว้ที่ผามออีแดง


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 09:36

พอดีมีหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ นายพ่วง สุวรรณรัฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยในพ.ศ.นั้น (ภายหลังท่านได้เป็นปลัดกระทรวงและร.ม.ช.กระทรวงมหาดไทยตามลำดับ)ลูกชายท่านมอบให้ผมหลายปีแล้ว เปิดอ่านดูพบบทความหนึ่งเขียนโดยนายโชดก วีรธรรม พูลสวัสดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัด กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งที่เชิญธงชาติไทยออกมาจากเขตที่จะส่งคืนเขมรตามคำพิพากษาของศาลโลก


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 09:39

ขอเชิญท่านอ่านเอาเอง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 10:11

ผู้เขียน


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 11:10

สองภาพนี้ ผมดูเหมือนต่างสถานที่ ต่างเหตุการณ์


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 11:13

ขออนุญาตเจ้าของรูปนี้ด้วยครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 11:19

ขออนุญาตเจ้าของรูปนี้อีกรูปด้วยครับ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 11:21

แล้วก้อนหินโหนกๆที่พลโทประภาสยืนอยู่ข้างๆ มันอยู่ตรงไหน


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 12:36

อ. NAVARAT.C พอจะมีภาพเกี่ยวกับชะง่อนผาที่เป้ยตาดีไหม ที่บรรพชนของไทยไปสลักไว้ 118 สรรพสิทธิ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 17 มี.ค. 13, 12:37

ไม่มีคะร้าบ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 18 มี.ค. 13, 08:49

แล้วก้อนหินโหนกๆที่พลโทประภาสยืนอยู่ข้างๆ มันอยู่ตรงไหน

ทางซ้ายของภาพนี้

คล้ายนัก ๆ



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 18 มี.ค. 13, 09:18

อื้อ ... แต่ยังไม่ค่อยจะเนียนเท่าไหร่นะครับ

หินที่พลโทประภาสยืนอยู่จะเห็นไลเคน หรือลายดอกหินที่เกิดจากราหรือสาหร่ายเป็นดวงๆ แต่ภาพสี หน้าหินเปิงๆชอบกล


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 18 มี.ค. 13, 09:34

ยังสงสัยอยู่ว่ารถจิ๊ปขึ้นไปบนเขาพระวิหารได้อย่างไร



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 18 มี.ค. 13, 10:05

ก็ต้องคันหาความจริงต่อ....
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 18 มี.ค. 13, 10:15

เจอร่องรอยคำตอบ

จาก“ย้อนรอยขึ้นเขาพระวิหาร” ที่โยงไว้ให้แล้วข้างล่าง จะเห็นว่าสมัยที่ยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ใครมีกิจจะขึ้นไปก็จะใช้รถ เช่นจี๊ปที่มีเกียร์สโลว์น่ะครับ ที่เดินขึ้นก็คงได้ แต่มันไม่วีไอพี
 
ถ้าท่านออกเดินทางจากศรีสะเกษในตอนเช้า (ประมาณ 7.30 น.) ก็จะทันอาหารกลางวันที่อำเภอกันทรลักษณ์พอดี เมื่อท่านถึงกันทรลักษณ์แล้ว ขอแนะนำให้ท่านเตรียมน้ำบริโภคและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ในการบริโภคไว้ให้พร้อม เพราะบนเขาพระวิหารท่านจะหาน้ำรับประทานได้โดยยาก เมื่อท่านได้เตรียมน้ำและสิ่งอื่น ๆ อันจำเป็นเกี่ยวกับการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ควรต้องรีบเดินทางต่อไปทันที เพราะว่าทางจากอำเภอกันทรลักษณ์ไปยังเขาพระวิหารนั้นเป็นทางซึ่งผ่านเข้าไปในดงทึบและแคบมาก ถ้าฝนตกหนักรถก็จะไปได้โดยยากหรืออาจจะไปไม่ได้ ระหว่างทางที่ไปนี้ต้องข้ามห้วย 2 ห้วย ห้วยที่ 3 ห่างจากกันทรลักษณ์ประมาณ 7 กิโลเมตร เรียกว่าห้วยขะยุง ท้องห้วยเป็นทราย ก่อนจะนำรถข้ามห้วยนี้ ขอแนะนำให้ท่านกวาดทรายตามร่องลอยล้อออกให้ถึงพื้นทรายแข็งหรือจะตัดใบไม้กิ่งไม้ทับลงตามรอยล้อให้หนาพอสมควรเพื่อกันรถติดทราย ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านเสียเวลา หากท่านเสียเวลาเมื่อรถติดทรายแล้ว ท่านจะขึ้นเขาพระวิหารในเวลาค่ำคืนไม่ได้ เพราะเป็นทางชันและมีก้อนหินโผล่ขึ้นมาเกะกะตามทางรถอันจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ ต่อจากห้วยขะยุงไปอีกประมาณ 12 กม. ก็จะต้องข้ามห้วยอีกหนึ่งห้วย เรียกว่าห้วยตาเงิด ห้วยนี้ลึก มีสะพานไม้ชั่วคราวข้าม ตามระยะทางที่รถแล่นมานี้จะผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายแห่ง หมู่บ้านเหล่าเราจะต้องอาศัยข้าวปลาอาหารได้ยาก เพราะว่าชาวบ้านราษฎรแถวนี้ค่อนข้างจะอัตคัดขาดแคลนในเรื่องข้าวปลาอาหารโดยทั่วไป
จนกระทั่งถึงหมู่บ้านหมู่หนึ่งซึ่งอยู่เชิงเขา เรียกว่าบ้านปงซอน (ปัจจุบันนี้คือหมู่บ้านภูมิสรอล) หมู่บ้านนี้มีประมาณ 10 หลังคาเรือน และทางอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ 4 นาย ผลัดเปลี่ยนกันอยู่เป็นกะ ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากว่า หมู่บ้านนี้มีทางติดต่อกับราษฎรเขมรต่ำ (ประเทศเขมร) โดยมีด่านตาเฒ่าเป็นทางขึ้นลงติดต่อกับซึ่งกันและกัน จากบ้านปงซอนนี้ไปประมาณ 9 กม. ก็จะถึงเขาพระวิหาร ทางตอนนี้รู้สึกว่าค่อนข้างจะแคบมาก และบางแห่งรถจะแล่นไปบนทางซึ่งมีหินโผล่ขึ้นมาระเกะระกะ และบางตอนทางขึ้นก็ชันมาก (ขอแนะนำให้ท่านพยายามหารถซึ่งมีกำลังดีและแข็งแรงเป็นพาหนะ เพราะทางขึ้นเขาในระยะนี้อยู่ในเกณฑ์ลำบาก) เมื่อท่านขึ้นไปบนเขาแล้วจะพบบ้านพักอยู่ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นบ้านซึ่งสร้างมานานแล้ว แต่อยู่ในสภาพที่แข็งแรงกันลมและฝนได้ดี และอีกหลังหนึ่งสร้างเมื่อคราวกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจเสด็จวันที่ 22 มี.ค.2498 นี้ ถ้าท่านออกจากอำเภอกันทรลักษณ์เวลาประมาณ 12 น. และไม่มีอุปสรรคในระหว่างเดินทาง ท่านก็จะถึงเขาพระวิหารเวลาประมาณ 16 น. เป็นอย่างช้า ซึ่งมีเวลาพักผ่อนและเตรียมเสบียงอาหารเพื่อรับประทานในเย็นวันนั้นได้ทัน


http://it-programmer.doh.go.th:8080/Highways_Journal/index.php?option=com_content&task=view&id=193&Itemid=93

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.055 วินาที กับ 19 คำสั่ง