ความสัมพันธ์ระหว่างพระสรรพการหิรัญกิจ กับ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย นอกจากจะเข้าชื่อร่วมถือหุ้นใหญ่ของแบงก์สยามกัมมาจลแล้ว วังของกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย (พื้นที่สีบานเย็น) และบ้านพระสรรพการหิรัญกิจ (พื้นที่สีเขียว) ยังอยู่ใกล้กันอีกด้วย
วังของกรมหมื่นมหิศรฯ ปัจจุบันนี้เป็นอะไรคะ ใครทราบบ้าง จำได้ว่าตอนรถลงสะพานซังฮี้เลี้ยวมาทางวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ จะต้องผ่านบ้านงามหลังหนึ่ง เมื่อก่อนเคยทำเป็นภัตตาคารชื่อ "บ้านคุณหลวง" เดี๋ยวนี้เป็นอะไรจำไม่ได้แล้วเพราะไม่ได้ไปทางนี้เสียนาน วังท่านคือหลังนี้หรือว่าหลังถัดไป?
อ้างจาก NAVARAT.C
"ส่วนในทางการเงินนั้นก็เปนรัฐประศาสโนบายของเยอรมันอันดำเนิรอยู่โดยทั่วไปหลายแห่ง, คือเอาทุนไปลงไว้ตามบริษัทหรือแบงก์ใหญ่ ๆ ในประเทศต่าง ๆ ที่เขาปราถนาจะครอบงำ, แล้วแลดำเนิรอุบายให้กิจการในบริษัทหรือแบงก์นั้น ๆ ยุ่งเหยิง, แล้วเขาจึ่งตั้งตัวเปนผู้ที่เมตตาเข้าช่วยดูแลแก้ไข, แล้วในที่สุดก็รวบเอาอำนาจอำนวยการในบริษัทหรือแบงก์นั้น ๆ ไปไว้ในกำมือเยอรมันหมด, อุบายนี้ได้ดำเนิรสำเร็จมาแล้วในประเทศอิตาลีเปนตัวอย่าง จนเวลานั้นเยอรมันคุยป๋อว่า อิตาเลียนเท่ากับเปนทาสน้ำเงินของเขาทั้งหมด, สำหรับกรุงสยาม, เยอรมันได้มุ่งจะดำเนิรแบบเดียวกับอิตาลี, ไกเสอร์จึงได้สั่งดยู๊กโยฮันน์อัลเบร็คต์เข้ามา, เพราะรู้อยู่ว่าเปนคนโปรดของทูลกระหม่อม, ต่อมา พอพระสรรพการทำยุ่งและต้องออกจากตำแหน่งผู้จ้ดการ ฝ่ายเยอรมันนึกว่าสำเร็จตามอุบายของเขาได้อีกขั้น ๑, แต่พะเอินมาเกิดมีกรรมการผู้แทนพระคลังข้างที่ขัดคอขึ้น, จึ่งออกขัดใจ, และเปนธรรมเนียมของเยอรมัน, เมื่อจะเอาอะไรไม่ได้อย่างใจก็ต้องนึกถึงใช้อำนาจข่มขู่ก่อน,......"
ฟังๆแล้ว เหมือนคุณพระสรรพการฯ มีคนชักใยอยู่เบื้องหลังงั้นแหละ จนท่านกลายเป็นแพะรับบาปไปเต็มๆ