นึกว่าจบแล้ว พอดีไปอ่านกระทู้ย้อนหลัง ก็พบเจ้าจอมหม่อมห้ามอีกท่านหนึ่งที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเช่นกัน แต่โชคดีได้รับพระมหากรุณาธิคุณ รอดมาได้
สาเหตุแตกต่างไปจากเจ้าจอมอื่นๆ คือมิใช่เรื่องกบฏ หรือคบชู้สู่ชาย แต่เป็นข้อหาทำเสน่ห์ยาแฝด
เรื่องนี้เล่าไว้ในกระทู้ เราที่สองรองภูมินทร์นามปิ่นเกล้า ค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4184.165เรื่องมีอยู่ว่าพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ทรงมีพระสนมที่โปรดปรานท่านหนึ่งชื่อเจ้าจอมมารดากลีบ มีพระองค์เจ้าหลายพระองค์ รวมทั้งพระองค์เจ้าเปียที่เซอร์จอห์น เบาริง บันทึกไว้ด้วย
นอกจากเป็นเจ้าจอมมารดาที่ถูกพระราชหฤทัย ท่านคงทำกับข้าวเก่งอีกด้วย จึงได้เป็นนายห้องเครื่อง คือเป็นหัวหน้าห้องครัววังหน้า ด้วย แปลว่าอาหารการกินทั้งหลาย โดยเฉพาะของเสวย อยู่ในความควบคุมดูแลของท่าน
"เมื่อปีระกา (พ.ศ.๒๔๐๔) นั้น มีผู้กระซิบทูล (พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ)ว่า เจ้าจอมมารดากลีบทำเสน่ห์ยาแฝด จึงได้โปรดฯให้พระยาพิไชยบุรินทรา พระยามณเฑียรบาล ตุลาการหรือสมัยนั้นเรียกว่าตระลาการในพระบวรราชวังชำระความ
พวกครั้งนั้นตระลาการเห็นว่า พระอัธยาศัยไม่สู้กริ้วนัก ขอตีความว่าอาจจะทรงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่มีผู้ทูลฟ้องก็ต้องสอบสวนไปตามระเบียบ ก็ชำระแต่พอเป็นพิธี ก็มิได้ความจริง
สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เพื่อตัดข้อครหานินทา จึงทรงปลดเจ้าจอมมารดากลีบจากตำแหน่ง ให้พระยาราชโยธา เข้ามากำกับเป็นนายเครื่อง เครื่องนั้นโปรดฯให้พวกพ่อครัวผู้ชายทำ แต่พวกนี้คงทำไม่ถูกปาก เมื่อทรงพระประชวรไม่สบาย เสวยพระกระยาหารไม่ได้ ก็ทรงคิดถึงแม่ครัวคนเก่า อยากจะเสวยฝีมือเจ้าจอมมารดากลีบอีกครั้ง
พวกขุนนางวังหน้า ดูออก พระยาพิไชยบุรินทรา หลวงเสนาพลสิทธิ์ หลวงเพชรชลาลัย จมื่นศรีบริรักษ์ จ่าการประกอบกิจ ท้าวพิพัฒนโภชา (แย้ม) ผู้ช่วย ขำภรรยาพระพรหมธิบาล (เสม) จึงเข้าชื่อกัน ทำเรื่องราวรับประกันกลีบมารดา ถ้าเป็นผู้ทำเสน่ห์ยาแฝดแน่แท้แล้วหรือกลับทำใหม่อีก ก็ให้เอาโทษผู้นายประกันถึงสิ้นชีวิตคือยอมเอาหัวเป็นประกันว่าเจ้าจอมมารดากลีบไม่ได้ทำเสน่ห์
ทรงทราบทัณฑ์บนดังนั้นแล้วก็โปรดฯให้เจ้าจอมมารดากลีบเข้ามาทำเครื่องเสวยตามเดิม