เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 12847 คดีพระยาพิพิธฤทธิเดชถวายผู้หญิง
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 18 ก.พ. 13, 16:27

เรื่องนี้เป็นคดีครึกโครมคดีหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4   ที่เอามาตั้งกระทู้ เพราะไปเจอบทความอันเป็นเท็จ   คนรุ่นหลังเอามาเขียนเพียงครึ่งเดียวแล้วบิดเบือนตามใจชอบ เพื่อจะก่อความเสียหายให้สถาบัน    ก็เลยไปค้นหาข้อเท็จจริงมาให้อ่านกันว่าเรื่องเต็มๆเป็นยังไงค่ะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2401   เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลทางฝั่งตะวันออก  คือชลบุรี  จันทบุรี และตราด   พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองฯ เป็นจำนวนมาก ทรงใช้เวลาประทับแรมอยู่หลายคืน
เมื่อเสด็จไปถึงเกาะช้าง ประทับแรมอยู่ที่นั่น   พระองค์เจ้าทักษิณชาพระราชบุตรีและเจ้าจอมมารดา ก็มาถวายบังคมลาไปเยี่ยมญาติที่เมืองตราด    ชื่อพระยาพิพิธฤทธิ์เดช  ผู้สำเร็จราชการเมืองตราด และญาติอีกคนชื่อพระผลภูมิไพศาล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 16:31

เหตุการณ์ก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไร   เมื่อเสด็จกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็ทรงทราบความจากเจ้าจอมมารดาของพระองค์เจ้าทักษิณชาว่า  พระยาพิพิธฯ เตรียมหลานสาวในวงศ์ตระกูลไว้ 3 คนเพื่อจะมาถวายตัวรับราชการฝ่ายใน    แต่ว่าไม่ทันการ  พระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับกรุงเทพฯเสียก่อน
ก็โปรดฯให้เจ้าจอมและคุณเถ้าแก่ฝ่ายใน ไปรับตัวหญิงสาวทั้งสามมา   พระราชทานเงินตราคนละ 10 ตำลึงและผ้าคนละ 3 สำรับ    แล้วส่งตัวเธอทั้งสามไปหัดละครและมโหรี  พร้อมกับพักอยู่กับเจ้าจอมและญาติที่รับราชการอยู่ฝ่ายใน

ความจริงเรื่องก็ควรจะจบเพียงแค่นี้    เพราะหญิงสาวสามคนนั้นก็ได้เข้ารับราชการสมกับที่ผู้ใหญ่ถวายมา     ขอให้สังเกตว่าทรงรับเข้ามาทำราชการฝ่ายใน คือให้มาหัดละครและมโหรี    ไม่ได้มาเป็นเจ้าจอม    ส่วนการพักก็พักอยู่กับญาติที่เป็นผู้ใหญ่ในพระบรมมหาราชวัง มีคนคุ้มครอง   
แต่เรื่องไม่จบ  เพราะในปีต่อมานั้นเอง  มารดาของหญิงสาวมาร้องเรียนถวายฎีกาว่า  พระยาพิพิธฯ ไปคร่าเอาตัวลูกสาวมาจากพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความผิดอะไร    เพื่อจะส่งตัวมาถวายพระเจ้าแผ่นดิน  บิดามารดาของหญิงสาวไม่ยินดีให้ลูกสาวเข้ามาอยู่ในวัง   จะมาถวายฎีกาเพื่อขอลูกสาวกลับไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 16:34

หมดเวลา  ขอพักชั่วคราว ดูเรตติ้ง  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 16:52

มารายงานตัวเพิ่มเรทติ้งครับ   เจ๋ง เรื่องนี้คุ้นๆ มากว่าเคยอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่จำรายละเอียดอะไรไม่ได้แล้ว
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 17:13

อ้าว มีคนเล่าตัดหน้าเสียแล้วหรือ

ถ้างั้น เดี๋ยวซายาเพ็ญก็จะมาตัดหน้าบอกตอนจบรึเปล่านี่


บันทึกการเข้า
giggsmay
ชมพูพาน
***
ตอบ: 135


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 17:39

มาเช็คชื่อคะคุณครูขา
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 17:41

ถ้างั้น เดี๋ยวซายาเพ็ญก็จะมาตัดหน้าบอกตอนจบรึเปล่านี่

ฮัดเช้ย !


บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 17:51

ระหว่างคุณครูยังไม่สอน  ซายาเพ็ญก็ยังไม่มาปาดเล่าตอนจบ นักเรียนก็ต้องจับกลุ่มซุบซิบนินทาคุณครูกับตามประสา   ผมแอบอ่านที่เรือนไทยนี่มานานหลายปี ที่จริงสมัครสมาชิกก็หลายหนแต่ไม่เคยสำเร็จเพราะตัวเองไม่อ่านคำแนะนำขั้นตอนการสมัครให้ดีเอง    แต่ระหว่างนั้นได้เห็นชื่อเพ็ญชมพูกับเทาชมพูนี่ก็สงสัยมาตลอดว่าสองท่านนี่เกี่ยวข้องกันยังไง  ทำไมต้องชมพูเหมือนกัน เห็นสองท่านแซวกันไปแซวกันมาสนิทสนมกันดีมาก อดคิดไม่ได้ว่าสองท่านมีความสัมพันธ์กันเช่นใด  น่าจะมีนักเรียนคนอื่นๆ สงสัยแบบผมบ้างเหมือนกัน   มีอยู่วันนึงอดรนทนไม่ได้ต้องส่งข้อความไปถามซายาเพ็ญ ท่านบอกว่าที่ชื่อคล้ายกันเป็นความบังเอิญล้วนๆ

อิอิ ผมน่าจะเปลี่ยนชื่อ login จากประกอบเป็นดำชมพู   รุ้งชมพู  หรือทมิฬชมพูเพื่อเพิ่มความสงสัยให้คนอื่นบ้าง  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 18:11

เปลี่ยนชื่อจากเทาชมพูเป็นอย่างอื่นดีกว่าเรา    จะได้เหลือคุณประกอบชมพู กับคุณเพ็ญชมพูสองคนก็พอ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 18:25

เชื่อว่าในเรือนไทย            มีอีกหลายสีชมพู
สีงามนามก็หรู               วอนคงอยู่คู่เรือนไทย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 18:37

ถึงเปลี่ยนชื่อก็อยู่เรือนไทยเหมือนเดิมได้นี่คะ

กลับมาเรื่องเดิมดีกว่า  คั่นเวลาหน้าม่านนานไปแล้ว เดี๋ยวกระป๋องน้ำหมากจะลอยมาตกบนเวที
****************
แม่ของหญิงสาวหนึ่งในสามคนนั้น ในคดีไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร  แต่ว่าหล่อนก็ช่างกล้าเอาการ กล้ามาทูลเกล้าฯถวายฎีกา ก็แสดงว่าหล่อนคงมั่นใจในความยุติธรรมที่จะได้รับ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อทรงได้รับฎีกาแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนพระทัย     อย่างแรกทรงมีพระราชดำริว่า

"บุตรเป็นที่รักแห่งบิดามารดา    ถ้าพระยาพิพิธฤทธิเดชกรมการไปเกาะบิดามารดามาจองจำ  ลงเอาพัศดุเงินทอง    หรือไปฉุดลากบุตรสาวกรมการราษฎรมาเป็นของตัวเอง   หรือนำไปถวายให้เจ้าอื่นนายอื่น  โดยพลการข่มเหง   พระยาพิพิธฤทธิเดชกรมการจะมีความผิด"

ข้อนี้แสดงชัดว่าพระเจ้าแผ่นดินท่านไม่ยอมขุนนางของท่านไปข่มเหง  บังคับขู่เข็ญเอาลูกสาวชาวบ้านมาเป็นเมีย     หรือแม้แต่ไม่ได้เอามาเป็นเมีย  แต่ไปฉุดลูกสาวชาวบ้านไปถวายเจ้านายหรือผู้เป็นใหญ่      ถ้าทำละก็  ถูกถวายฎีกาเมื่อไร   เป็นโดนข้อหาทำผิดจังๆ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 20:15

ได้เห็นชื่อเพ็ญชมพูกับเทาชมพูนี่ก็สงสัยมาตลอดว่าสองท่านนี่เกี่ยวข้องกันยังไง  ทำไมต้องชมพูเหมือนกัน เห็นสองท่านแซวกันไปแซวกันมาสนิทสนมกันดีมาก อดคิดไม่ได้ว่าสองท่านมีความสัมพันธ์กันเช่นใด  น่าจะมีนักเรียนคนอื่นๆ สงสัยแบบผมบ้างเหมือนกัน   มีอยู่วันนึงอดรนทนไม่ได้ต้องส่งข้อความไปถามซายาเพ็ญ ท่านบอกว่าที่ชื่อคล้ายกันเป็นความบังเอิญล้วนๆ

อิอิ ผมน่าจะเปลี่ยนชื่อ login จากประกอบเป็นดำชมพู   รุ้งชมพู  หรือทมิฬชมพูเพื่อเพิ่มความสงสัยให้คนอื่นบ้าง  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม

มาฟันเฟิร์มว่าไม่เกี่ยวข้องค่ะ   ดูได้จากที่มาของชื่อ
ซ้าย = เพ็ญชมพู       ขวา = เทาชมพู


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 20:33

ต่อจากค.ห. 10

อย่างไรก็ตาม   พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ก็ทรงให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย    มิได้ด่วนตัดสินลงไป  จึงโปรดเกล้าฯให้สอบสาวราวเรื่อง  ก็ได้ความว่าหญิงสาวที่พระยาพิพิธฤทธิเดชนำมาถวายให้รับราชการในวัง  ไม่ใช่ลูกสาวชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นญาติชั้นหลานของพระยาพิพิธฯเอง    กล่าวคือปู่ทวดของเธอ เป็นลุงของพระยาพิพิธฤทธิเดชนั่นเอง   พระยาพิพิธฯก็อยู่ในลำดับญาติชั้นผู้ใหญ่ของสามสาวนั่น    ถ้าหากว่าจะถวายลูกหลานให้ได้ดีมีหน้ามีตาก็ไม่ถือว่าผิดจนต้องลงโทษ

แต่เมื่อพ่อแม่เขาไม่เต็มใจจะถวายลูกสาว    พระเจ้าอยู่หัวก็โปรดฯให้ตามสามสาวที่ว่านั้นมา ทรงถามว่าอยากจะอยู่ในกรุงเทพฯต่อ หรือว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อแม่     สาวคนแรกกราบบังคมทูลว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อแม่  ส่วนเงิน 10 ตำลึงและผ้านุ่ง3 สำรับที่พระราชทานให้เธอแต่แรก ก็ไม่ทรงเอาคืน   แต่ว่าพระราชทานให้เป็นเงินทำขวัญพ่อแม่ แทนเงินปรับพระยาพิพิธฯ

ส่วนหญิงสาวอีก 2 คน  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงให้ตามตัวมาเช่นกันเพื่อถามความสมัครใจ     สาวสองคนนี้มาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง อาจจะชอบใจชีวิตในวังว่าเป็นสุขกว่าชีวิตที่บ้าน     ก็เลยกราบบังคมทูลว่าไม่กลับไปอยู่กับพ่อแม่   ขออยู่ในวังต่อไป   ก็โปรดเกล้าฯให้เป็นไปตามนั้น   และพระราชทานเบี้ยหวัดให้คนละ 10 ตำลึง

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวท่านมิได้ทรงบังคับฝืนใจราษฎรหญิงชายเลย   แม้ว่าทรงมีพระราชอำนาจเต็มจะกำหนดชีวิตข้าแผ่นดินอย่างใดก็ได้    ก็มิได้ทรงตามอำเภอใจ  และทรงดูความสมัครใจของคนเหล่านั้นเป็นหลัก     ถ้าเขาไม่เต็มใจก็ไม่บังคับ  ส่วนขุนนางที่จงรักภักดี และเจตนาดีจะให้ลูกหลานมีหน้ามีตา  มีเกียรติมากกว่าอยู่เป็นอำแดงในหัวเมือง   ก็ทรงประนีประนอมไม่ลงโทษให้เขาเสียน้ำใจ   
อย่างน้อยเราก็มองเห็นอยู่ข้อหนึ่งว่าพระยาพิพิธฯเป็นพี่ชายของเจ้าจอมมารดาจันทร์ของพระองค์เจ้าทักษิณชา    ตระกูลก็เป็นเจ้าเมืองตราดมาอย่างน้อย 2 ชั่วคน     การผูกใจสร้างความจงรักภักดีแก่ขุนนางระดับสูงเช่นนี้ก็เป็นความถูกต้องเหมาะสมอย่างหนึ่งในการบริหารแผ่นดิน
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 20:45

ต่อจากค.ห. 10

อย่างไรก็ตาม   พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ก็ทรงให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย    มิได้ด่วนตัดสินลงไป  จึงโปรดเกล้าฯให้สอบสาวราวเรื่อง  ก็ได้ความว่าหญิงสาวที่พระยาพิพิธฤทธิเดชนำมาถวายให้รับราชการในวัง  ไม่ใช่ลูกสาวชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นญาติชั้นหลานของพระยาพิพิธฯเอง    กล่าวคือปู่ทวดของเธอ เป็นลุงของพระยาพิพิธฤทธิเดชนั่นเอง   พระยาพิพิธฯก็อยู่ในลำดับญาติชั้นผู้ใหญ่ของสามสาวนั่น    ถ้าหากว่าจะถวายลูกหลานให้ได้ดีมีหน้ามีตาก็ไม่ถือว่าผิดจนต้องลงโทษ

แต่เมื่อพ่อแม่เขาไม่เต็มใจจะถวายลูกสาว    พระเจ้าอยู่หัวก็โปรดฯให้ตามสามสาวที่ว่านั้นมา ทรงถามว่าอยากจะอยู่ในกรุงเทพฯต่อ หรือว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อแม่     สาวคนแรกกราบบังคมทูลว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อแม่  ส่วนเงิน 10 ตำลึงและผ้านุ่ง3 สำรับที่พระราชทานให้เธอแต่แรก ก็ไม่ทรงเอาคืน   แต่ว่าพระราชทานให้เป็นเงินทำขวัญพ่อแม่ แทนเงินปรับพระยาพิพิธฯ

ส่วนหญิงสาวอีก 2 คน  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงให้ตามตัวมาเช่นกันเพื่อถามความสมัครใจ     สาวสองคนนี้มาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง อาจจะชอบใจชีวิตในวังว่าเป็นสุขกว่าชีวิตที่บ้าน     ก็เลยกราบบังคมทูลว่าไม่กลับไปอยู่กับพ่อแม่   ขออยู่ในวังต่อไป   ก็โปรดเกล้าฯให้เป็นไปตามนั้น   และพระราชทานเบี้ยหวัดให้คนละ 10 ตำลึง

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวท่านมิได้ทรงบังคับฝืนใจราษฎรหญิงชายเลย   แม้ว่าทรงมีพระราชอำนาจเต็มจะกำหนดชีวิตข้าแผ่นดินอย่างใดก็ได้    ก็มิได้ทรงตามอำเภอใจ  และทรงดูความสมัครใจของคนเหล่านั้นเป็นหลัก     ถ้าเขาไม่เต็มใจก็ไม่บังคับ  ส่วนขุนนางที่จงรักภักดี และเจตนาดีจะให้ลูกหลานมีหน้ามีตา  มีเกียรติมากกว่าอยู่เป็นอำแดงในหัวเมือง   ก็ทรงประนีประนอมไม่ลงโทษให้เขาเสียน้ำใจ   
อย่างน้อยเราก็มองเห็นอยู่ข้อหนึ่งว่าพระยาพิพิธฯเป็นพี่ชายของเจ้าจอมมารดาจันทร์ของพระองค์เจ้าทักษิณชา    ตระกูลก็เป็นเจ้าเมืองตราดมาอย่างน้อย 2 ชั่วคน     การผูกใจสร้างความจงรักภักดีแก่ขุนนางระดับสูงเช่นนี้ก็เป็นความถูกต้องเหมาะสมอย่างหนึ่งในการบริหารแผ่นดิน


ธรรมเนียมการถวายตัว จะต้องมีดอกไม้ ธูปเทียนแพ จัดวางไว้ แล้วนำไปกราบ ไม่รู้ว่าท่านนี้จักได้ทำสิ่งนี้หรือไม่หนอ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 18 ก.พ. 13, 20:55

ไม่รู้เหมือนกันค่ะ       ในนี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าสามสาวนี้อยู่ในฐานะเจ้าจอม หรือนางข้าหลวง   บอกแต่ว่าทรงให้ไปเป็นนางละครมโหรี 
ฟังเหมือนเป็นระดับนางพระกำนัล หรือนางข้าหลวงในวังมากกว่า  แต่พระยาพิพิธฯ ท่านก็คงอยากถวายหลานเป็นเจ้าจอมละค่ะ

เคยได้ยินมาว่า  การถวายลูกสาวหลานสาวนั้นมีอีกทางหนึ่ง ไม่ใช่จู่ๆไปถวายตรงๆ  แต่ถวายผ่านเจ้านายฝ่ายใน หรือเจ้าจอม ส่วนใหญ่เป็นญาติกัน    จากนั้นท่านในวังดูแล้วว่าคนนี้ใช้ได้  ก็ขัดเกลาให้งามพร้อมเสียก่อนทั้งบุคลิกและกิริยามารยาท   แล้วจึงนำขึ้นถวายเป็นเจ้าจอมในภายหลัง   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง