ปีหน้า เด็กฝรั่งที่ตามกลับไทยมาด้วยจะต้องไปหา รร เข้า ม.1 ก็คงต้องสอบกันเหมือนเดิม เพราะ รร แถวบ้านดูแล้วไม่น่าไว้วางใจเรื่องคุณภาพ
ในขณะที่เด็กอื่นๆ ต้องติวกัน ผมไม่เชื่อมั่นระบบการติวเท่าไหร่ เลยตัดสินใจจะติวเอง
วิชาที่เค้าสอบๆ กัน ตัดทิ้งไปเลย 2 วิชา คือสังคมและภาษาไทย เพราะเป็นท่องจำกับภาษาไทยที่ฝรั่งยังไม่คุ้น
ภาษาอังกฤษให้ลองทำโจทย์ ส่วนใหญ่ได้เกือบเต็ม แต่หลายข้อฝรั่งทำผิด ทั้งด้วยความเผลอเรอเอง
แต่บางส่วนคิดว่าเป็นครูไทยที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงออก คงแบบเดียวกับที่คุณแอนดรูส์ว่ามาข้างบน เพราะอ่านแล้วแม่งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
วิชาวิทยาศาสตร์ ป.6 จริงๆ คือท่องจำไม่ต่างกับสังคม เด็กต้องจำอะไรที่ไม่รู้มีประโยชน์ไหม
เช่นผงชูรสปลอมทำมาจากสารอะไร ไม่รู้มีประโยชน์อย่างไร นอกจากให้เด็กประถมจำชื่อสารเคมี
เลยจะมาเข้มที่คณิตศาสตร์ก็พบว่ามันยากมากๆ ซับซ้อนสุดๆ ค้นหาอัจริยะกันเลย ส่วนใหญ่ผมทำไม่ได้ เกินความรู้ไปมากๆ ยกข้อธรรมหามาให้ดู 1 ข้อ
โจทย์ตัวอย่าง จงหาผลต่างของเลขที่มีค่ามากที่สุดในจำนวนคู่ 5 ตัวที่เรียงกันแล้วบวกกันได้ 100 ลบผลต่างของเลขที่มีค่าน้อยที่สุดของเลขคี่ 4 ตัวที่บวกกันได้ 100 ข้อนี้ผมตอบไม่ตรงเฉลย
แวะดูเฉลย บอกว่าเลขคู่คือ 16 18 20 22 24 อันนี้ไม่แปลกใจ คิดได้เหมือนกัน เพราะมาจาก 100/5 ได้ 20 ก็เอาเลขก่อนหน้า 20 2 ตัวหลัง 20 2 ตัว ดังนั้นตัวที่มากที่สุดคือ 24
แต่เลขคี่ ไม่ได้บอกว่าต้องเรียงกัน เฉลยบอก 21 23 27 29 สังเกตุว่าข้าม 25 ไป เพราะชุดนี้ไม่ได้บอกว่าต้องเรียง แถมถ้าเรียงเลขคี่ 4 ตัวบวกกันได้ร้อยน่าจะไม่มี
ดังนั้น 24 - 21 คำตอบคือ 3 นี่คือที่หนังสือเฉลย
แต่ถ้าไม่ต้องเรียง เอา 1 3 47 49 ไม่ดีกว่าหรือ บวกกันได้ 100 เหมือนกัน ดังนั้นเลขน้อยสุดต้อง 24 - 1 = 23
ข้อสอบนอกจากยาก ต้องตีความโจทย์ ต้องคิดซับซ้อนหลายขั้นแล้ว ยังอาจต้องเจอข้อผิดพลาดของคนออกอีกด้วย
นี่ตอนนนี้บอกญาติพี่น้องเพื่อนฝูงไม่ได้เลยว่าไม่ได้ส่งฝรั่งกวดวิชา เพราะมีแต่คนตกใจ ใครไม่กวดวิชากลายเป็นว่ามันผิดธรรมชาติเด็กไทยมากๆ
ต้องไว้อาลัยให้กับระบบการศึกษาที่ล้มเหลวแล้วอย่างสิ้นเชิง
