เห็นท่านอาจารย์ใหญ่เอาข้อความที่จากหนังสือพิมพ์แนวหน้ามา ก็เลยขอตั้งข้อสังเกตุบางประการครับ ต้องออกตัวก่อนว่าผมนี่เป็นคนประเภทเกลียดทักษิณยิ่งกว่าอุนจิ ไม่เคยเลือกไม่เคยชื่นชม ไม่ว่าสมัยไหน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ชื่นชมพรรคฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน พบความผิดหวังนายกพระราชทาน เคืองใจนายกหล่อดีแต่พูด รังเกียจนายกที่นอกจากสวยแล้วไม่มีคุณสมบัติอื่นๆ สำหรับการเป็นผู้นำเลย จนกระทั่งยุคนายกปัจจุบัน ผมจัดระดับความรักต่อท่านผู้นำให้เท่าเทียมกับที่มีต่อทักษิณ ผมเป็นพวกไร้สี มีแต่กลิ่น(ตุๆ)เท่านั้น

พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่มี ผมไม่มีตัวเลือกที่คิดว่าจะเลือกเลย ต้องออกตัวก่อน กันใครไม่เข้าใจจะคิดว่าผมออกแนวแดงๆ ฟ้าๆ เขียวๆ โดยส่วนตัวผมว่าผมน่าจะออกสีม่วงๆ นะฮ้าาาา
แนวหน้านี่ในมุมมองผมเป็นสื่อประเภทขวาตกขอบสุดๆ แบบเดียวกับพวกดาวสยามหรืออื่นๆ สมัยปี 2516-2519 ประมาณนั้น เราไม่อาจหาความเป็นกลางจากสื่อประเภทนี้ได้ อ่านเอามันได้แต่เชื่อไม่ได้ เป็นสื่อที่พร้อมจะป้ายสีใครก็ได้เพื่อเอาใจท่านผู้นำ พูดความจริง แต่เป็นความจริงด้านเดียวหรือไม่หมด ยกมาครึ่งๆ กลางๆ เพื่อชี้นำคนอ่านเท่านั้น สิ่งที่แนวหน้าทำ ทำให้ผมนึกถึงกลุ่มกุหลาบขาวต่อต้านนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลย คือในขณะที่บางคนมีความกล้าที่จะยืดหยัดเพื่อสิ่งที่เชื่อ บางคน ซึ่งมีมากกว่าเสมอ พร้อมที่จะรับใช้ผู้มีอำนาจและทำลายผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
สำหรับน้องคนนี้ และน้องผู้หญิง อ่านจากที่ท่านซายาเพ็ญเอามาลง ความคิดอ่านนับว่าไม่ธรรมดา เด็กแบบนี้จะไม่ใช่พวกเก็บตัวเงียบๆ มีความกล้า กล้าคิดกล้าทำกล้าพูดกล้าแสดงออก ดังนั้นจะมีกิจกรรมมาก การจะรู้จักแกนนำสีเสื้อไหนๆ หรือจะมีแนวคิดทางการเมืองโอนเอนไปทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกและเป็นสิทธิ์ที่สามารถจะกระทำได้ ยิ่งมีกิจกรรมเยอะ โอกาสที่จะพบคนอื่นหรือถ่ายภาพกับคนโน้นคนนี้ยิ่งเยอะ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจตรงไหน ถ้าไม่เคยเจอใครเลยนี่สิแปลกสำหรับเด็กกิจกรรมพวกนี้
และต่อให้น้องเป็นเสื้อแดงแบบที่แนวหน้าชี้นำ ก็ไม่ได้แปลว่าน้องไม่มีสิทธิจะแสดงความคิดความเห็น และเมื่อช่องทางแสดงความคิดความเห็นมันจำกัด ไม่มีอำนาจบังคับใครให้ฟังตัวพูดคนเดียวทุกสัปดาห์ได้ การใช้การแสดงออกแบบนี้แม้อาจถูกมองว่าไม่เหมาะ อาจจะเป็นทางเลือกเดียวที่น้องคิดว่าเหมาะสม น้องอาจจะคิดเองทำเองคนเดียว หรือจะมีใครยุยงเบื้องหลังไหมผมไม่ทราบ สิ่งที่สำคัญกว่าว่าน้องคิดเองทำเองหรือใครยุ คือสังคมต้องรับฟังสิ่งที่น้องบอกมาพูดมานำเสนอมา พิจารณาว่ามีเหตุมีผลไหม ไม่ใช่เลือกที่จะไม่ฟังเพราะตั้งป้อมว่าน้องเป็นพวกนั้นพวกนี้
เท่าที่ศึกษาประวัติศาสตร์มา ยอดคนมักมีความกล้าและทำอะไรต่างจากคนส่วนใหญ่ แต่เป็นการกระทำที่ผ่านการไตร่ตรองวางแผนมาแล้วเสมอ คนเหล่านี้มักประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุไม่เยอะ น้องคนนี้ และน้องผู้หญิงจะเป็นยอดคนหรือแค่หุ่นเชิด อนาคตจะบอกให้เราได้รู้เอง ในฐานะคนนอก ถ้ามีโอกาสไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ผมจะสนับสนุนน้องเค้าทุกวิธีทางไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเท่าที่จะทำได้ครับ