เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
อ่าน: 132088 " เสียงกวี "
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 105  เมื่อ 15 พ.ย. 20, 10:04


๐ สดับดาว ๐(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

สดับดาวดื่นฟ้า              ฟังลม
สวดส่งสวัสดิ์ชม           แช่มช้อย
พิศะพร่างโพยม             ยอยิ่ง ฟ้าเอย
เดือนปลั่งดาวรวงร้อย    เลื่องชั้นอัปสร ๚

ร่มร่มฤดีเทอญ                ธุระเกินก็วางก่อน
ค่ำค่ำทิฆัมพร                  ภวะจรจะดูดาว

ลุกลุกมิรอรี                     สดุดีนภาพราว
นั่นนั่นมหันต์หาว           สหสรวงสวรรค์ศิลป์

ดึกดึกจะโดยดล               ภวะจนกระจ่างจินต์
ลึกลึกก็รวยริน                 ระบุรื่นฤดีดวง

นอนนอนสะท้อนถึง       นภซึ่งพิสัยสรวง
ร่ำร่ำระบำบวง                 บุระเลื่อง ณ เบื้องบน

ฝันฝันถลันเลิศ                ดละเกิดประกอบกล
ใดใดพิสัยผล                   ก็กมลมนุสสา

เช้าเช้าสุรีย์สรรค์              นภนั้นคละเมฆา
ร้อนร้อนจะวอนว่า          สุขะมามโนมัย ๚

                          ธรรมดา
                     ๑๔/ ๑๑/ ๒๕๖๓
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 106  เมื่อ 26 พ.ย. 20, 10:09

    ๐ จันทร์เสี้ยว ๐

ช่วงต้นเดือนธันวาอากาศหนาว
แสงส่งข่าวบอกลาก่อนฟ้าค่ำ
เวิ้งว้างอยู่โดยรอบอย่างชอบธรรม
เรไรร่ำบรรเลงเพลงราตรี

หลังม่านมืดโรยตัวไปทั่วป่า
ดาวบนฟ้าคึกคักคือสักขี
นกกลางคืนตื่นตารับอารี
สังคมที่ทุกอย่างต่างช่วงชิง

มืดกว่าเก่าเข้าครอบความบอบบาง
ช่วงสว่างพ่ายแพ้ก่อนแน่นิ่ง
โลกค่ำคืนตื่นเต้นตามเป็นจริง
สู้ต่อสิ่งที่เชื่อจากเมื่อวาน

หลายเริ่มต้นต้องกล้ากลางป่าเปลี่ยว
บ้างกินเที่ยวพอพักไม่หักหาญ
ทุกชีวาหน้าที่ต่างมีงาน
ที่ต้องหว่านหวังผลบนแผ่นดิน

ยิ่งดึกยิ่งเงียบงันทรงจันทร์เสี้ยว
ความเปล่าเปลี่ยวตอบมาจากผาหิน
หนาวน้ำค้างน้ำตาจนชาชิน
ก็ถวิลถึงฟ้าเพราะอาลัย

แม้เหน็บหนาวร้าวรักยังหนักหน่วง
หากทุกห้วงแห่งกาลก็หวานไหว
เก็บกำลังฝังแฝงจำแลงใจ
ยิ้มอยู่ในคืนหนาวกับดาวเดือน

            ธรรมดา
       ๒๓/๑๒/๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 107  เมื่อ 26 พ.ย. 20, 10:25

       ๐ ประหยัด ๐

อยากประหยัดความเหงาเอาไว้บ้าง
เพราะกลัวว่าวันอ้างว้างจะห่างหาย
ห่วงแววตาว้าเหว่ทะเลทราย
จะสุดสายตาเคียงเพียงลำพัง
                 ..
ต้องผ่านผันวันคืนยืนร้องไห้
กว่าจะได้ดื่มกินความสิ้นหวัง
ซุ่มสันโดษแดดวงในรวงรัง
จึงเห็นฝั่งเวิ้งว้างกลางเวลา

กว่าจะเหงาเท่านี้นะที่รัก
ต้องแตกหักกับวันเคยหรรษา
หลายรอยยิ้มห่างหายจากสายตา
เฝ้ามองฟ้าหดหู่อยู่คนเดียว

เริ่มรู้จักเข้าใจยามไร้ญาติ
อยู่อย่างขาดมิตรแท้ที่แลเหลียว
โลกร้อยลี้หลงร้างทางเคยเทียว
ต้องเปล่าเปลี่ยวประจำยามค่ำคืน

ฟังเสียงลมเรรวนกำสรวลโศก
ซึ้งเพลงโลกระทมที่ขมขื่น
ยินอยู่เช้าสายค่ำความกล้ำกลืน
จนเป็นอื่นอ้างว้างกลางคืนวัน
                  ..
อยากประหยัดความเหงาเอาไว้ว่า
ในหนึ่งหยดน้ำตาต้องกล้าฝัน
เก็บทุกความขมขื่นขึ้นยืนยัน
ให้แสงสรรค์โชติช่วงในดวงมาน ๚

             ธรรมดา
       ๒๐/๑๒/๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 108  เมื่อ 30 พ.ย. 20, 16:23


  ๐ เพลงที่เธอร้อง ๐

อย่าร้องไห้ให้คนเห็นเป็นคนแกร่ง
เธอต้องแข่งความท้อต้องต่อสู้
โลกดีบ้างก็ร้ายหลายฤดู
คอยเป็นครูให้เธอเสมอมา

ยิ้มสักนิดให้เงาความเศร้าโศก
แม้อับโชคเจ็บช้ำยังนำหน้า
ก็เก็บไว้ในทรวงในดวงตา
ต่อศรัทธาเพิ่มพ้องทำนองทาง

เธอจะพ้นพบวันแสงจันทร์ส่อง
หรือไม่ท่องเท้าท้าถึงฟ้าสาง
จะเห็นวันฝันเห็นไม่เว้นวาง
ไม่ก็ห่างที่เห็นเช่นเงาจันทร์

หากเจ็บช้ำแทนเธอเสมอได้
จะร้องไห้แทนเธอทุกเวอร์ชั่น
กุมมือน้อยคล้อยขื่นขึ้นยืนยัน
ว่าโลกนั้นใช่ร้างเหลือทางเทียว
                 ..
ไม่มีใครทำเธอให้เข้มแข็ง
เท่าเธอแกร่งขึ้นข้ามสายน้ำเชี่ยว
กี่กำลังลุกล้มฝ่าคมเคียว
เธอผู้เดียวดื่มด่ำในคำนึง
                 ..
ฉันเขียนรุ้งให้โลกคราโศกเศร้า
ขับความเหงาความงามเธอถามถึง
เชื่อมดินดลหนหาวดาวดึงส์
แม้ไม่ซึ้งสักนิดมิตรราตรี

หากจิตจารผจงพอองอาจ
ก็อยากวาดดอกไม้หลายสิบสี
กำนัลวันฟ้าหม่นให้คนดี
ห่างวิถีทุกข์ท้อจะพอเพลิน

เห็นฟ้างามยามค่ำคอยย้ำยิ้ม
อุ่นเช้าอิ่มแสงเช้าดั่งหาวเหิน
เห็นฝันฟากฝากย้ำในดำเนิน
ให้ก้าวเกินกว่าก้าวเคยร้าวราน
                 ..
แล้ววันที่ฟ้าเปิดก็ปรากฏ
ให้รับรสสุนทรอันอ่อนหวาน
ฟังฟ้าหนึ่งดินได้ ดอกไม้บาน
เล่านิทานทักทายจากสายลม ๚
                 ..
            ธรรมดา
       ๒๙/๑๑/๒๕๖๓
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 109  เมื่อ 01 ม.ค. 21, 20:57


             ๐ กาละวัฏ ๐ (กมลฉันท์ ๑๒)

วระซึ่งสวัสดี                         สุจะศรีสดับดัง
กละเก่าก็เล่าหลัง                   รตะเรื่องระทมทน

กิจะใดสะดุดเดิน                   ขณะเขินคะเนผล
นิรมาณประการกล                ก็จะเกื้อประสพชม

ชิวะเชิญดำเนินใน                  ทิศะใสสวัสดิ์สม
สิริหนึ่งนภาพรม                     ภวะพ้องฉลองสิน

ชุติซึ่งจะพึงพบ                       สุประสพชโลมริน
สมะไซร้ ณ ใดดิน                   ฤดิดั่งอลังการ

สุรทรงประสงค์สรรค์             มนะมั่นอุบายบาน
ชนะหนักลุศักดิ์สาน                ปฏิภาณผดุงดล

วระซึ่งสุวรรณฉาย                  สุขจายชโลมชน
วสะใดอำไพผล                       กะพิพัฒน์พะนอนาน ๚


                                 ธรรมดา
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 110  เมื่อ 02 ก.พ. 21, 09:30


นกพิราบปีกหัก

เมื่อเช้านี้นกพิราบปีกหัก
กระอึกกระอักสะเทือนสะท้านเกินต้านได้
ข่าวร้ายข้ามขอบฟ้ามาไม่ไกล
รินน้ำตาอาบไหลร่วมใจเดียว

เพิ่งจะกางปีกบินขึ้นเหินฟ้า
เพิ่งเช็ดเลือดน้ำตาได้ประเดี๋ยว
เจ้าพิราบปีกอ่อนไม่ปราดเปรียว
เพียงชั่วเสี้ยวตระหนกก็ตกพับ

นกพิราบเมียนมาร์น้ำตาร่วง
นกพิราบทั้งปวงก็ร่วงดับ
นกพิราบทั่วโลกก็โศกยับ
อกเขาอับอกเราอ่อนร้าวรอนใน


                ชมัยภร แสงกระจ่าง
         ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 111  เมื่อ 29 มี.ค. 21, 18:30

นกพิราบเจ้าเอย

 ไม่รู้จะพูดกับใครที่ไหนแล้ว
 เมื่อปีกแก้วแหลกกระจุยเป็นผุยผง
 บนคคนานต์นั่นฟ้าอันควรทระนง
 กลับร่วงลงผล็อยผล็อยพร้อยพื้นดิน

 เสียงประเปรี้ยงดังก้องสนั่นโลก
 ปีกเจ้าโชกกายเจ้าดับใจกลับดิ้น
 เสียงคราวญคร่ำร่ำกระหึ่มทั้งธรณินทร์
 ใครได้ยินบ้างไหมใจจงฟัง
 
 นั่นมนุษย์นะท่านใช่ก้อนหิน
 นั่นแขนขาใช่บินได้ดังหวัง
 เมื่อถูกปืนย่อมล้มได้ไร้กำลัง
 เลือดเนื้อย่อมพ่ายพังต่อเหล็กไฟ

 นั่นผู้หญิงนะท่านใช่พฤกษา
 ยิงก็เข้าเห็นกับตาเห็นใช่ไหม
 นั่นเด็กเด็กนะท่านมองเอาไว้
 ยิงครั้งใดก็ดับดิ้นสิ้นชีวี

 รินน้ำตาทุกครั้งที่ยินข่าว
 แสนปวดร้าวเมื่อหันมาที่นี่
 โอ้บ้านเขาไฟกาฬบรรลัยมี
 โอ้บ้านเราวันนี้มีใครฟัง

        ชมัยภร แสงกระจ่าง
        ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 112  เมื่อ 29 มี.ค. 21, 20:08

ตร.พม่า โต้ ‘แองเจิ้ล’ นางฟ้าแห่งมัณฑะเลย์ สาววัย 19 ร่วมม็อบต้านรัฐประหารไม่ได้ถูกยิงโดยตำรวจ หลังบุกขุดศพจากสุสาน ขณะที่รอยเตอร์ยืนยันด้วยภาพ นาทีก่อน ‘แองเจิ้ล’ ถูกยิง

ต่อมา สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทางการเมียนมาได้ชี้แจงสาเหตุที่มีการขุดศพ แองเจิ้ล ขึ้นจากหลุมที่สุสาน เพื่อต้องการนำไปชันสูตรศพ โดยคณะแพทย์ รวมทั้ง ผู้พิพากษา และตำรวจ ซึ่งมาเป็นสักขีพยานการชันสูตรศพ พบว่า มีรอยกระสุนเจาะเข้าบริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลังของแองเจิ้ล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 เซนติเมตร และในสมองมีรอยเจาะ ขนาด 0.7
สถานีโทรทัศน์ MRTV ยังรายงานว่า ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระบุว่ามีการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในลักษณะประจันหน้ากัน ทว่ารอยกระสุนบนศีรษะของแองเจิ้ลนั้น แสดงให้เห็นว่าถูกยิงมาจากด้านหลัง และเธอถูกยิงด้วยปืนขนาดลำกล้อง.38 ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่าแองเจิ้ลถูกลอบสังหารโดยกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดการไร้เสถียรภาพ
อยเตอร์ชี้ว่า ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันพุธที่ 3 มี.ค.เปิดเผยว่า พวกตนถูกยิงด้วยกระสุนจริงในช่วงเวลาที่แจ สิ่น ซึ่งสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความบนหน้าอกเสื้อว่า ‘Everything will be OK’ เสียชีวิต ซึ่งภาพของรอยเตอร์ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ แสดงให้เห็นว่า เจ สิ่น ได้หันศีรษะไปยังแนวตำรวจปราบจลาจล ในช่วงก่อนเธอจะถูกกระสุนเข้าที่ศีรษะด้านหลังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต.

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2045427
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 113  เมื่อ 30 มี.ค. 21, 11:20


แด่...สาวน้อยแห่งมัณฑะเลย์

มะเจซิน
โลกยลยินภาพนามนี้สุดหวั่นไหว
วีรสตรีประชาธิปไตย
เผด็จการพรากเธอไปที่เมียนมา

ด้วยมือซุ่มยิงอำมหิต
มันมุ่งปลิดจิตใจอหิงสา
เลือดแดงพุ่งกระฉูดทาบทา
ปลุกเพื่อนให้มุ่งหน้าฝ่าฟัน

"ถ้าฉันเป็นอะไรไป
มอบร่างฉันให้ใครได้ทั้งนั้น
เพื่อชีวิตผู้อื่นผู้โรมรัน"
ปฏิญาณมุ่งมั่นมะเจซิน

        ปรีดา ข้าวบ่อ
      ๔ มีนาคม ๒๕๖๔


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 114  เมื่อ 26 มิ.ย. 21, 08:48

นิราศโควิดบุรี

 ต้องจำร้างห่างหายไม่เห็นหน้า
 ทุกคืนค่ำร่ำร้องนองน้ำตา
 อนิจจาทุกข์เศร้าร้าวชีวี

 นับต้นปีหกสามโรคลามร้าย
 ต้องกักตัวหัวหายใจหดหนี
 ทำท่าเหมือนจะคุมได้ใกล้ใกล้ดี
 ตอนปลายปีเริ่มเริงร่าพากันครื้น

 พอเหยียบเข้าหกสี่อนิจจา
 สงกรานต์เดือนเมษาแสนขมขื่น
 เป็นสงกรานต์ปีสองต้องกล้ำกลืน
 กราบพระน้ำตารื้นน้ำตานอง

 โควิดลามงามหน้าพญาวัน
 เริ่มคับขันฝืนตาแม่ค้าหมอง
 คนทำมาหากินสิ้นครรลอง
 ได้แต่มองหน้ากันฝันหนีไกล

 ประเทศอื่นฉีดวัคซีนชีวินชื่น
 ประเทศไทยฝืดฝืนน้ำตาไหล
 รอวัคซีนก็เลื่อนไม่เหมือนใจ
 โอ้ อะไรอะไร มารุมเร้า

 โควิดขึ้นเหมือนเห็ดที่โน่นนี่
 คลัสเตอร์มาถี่ถี่ก็แสนเศร้า
 ทั้งในคุกนอกคุกไม่บรรเทา
 ทั้งโรงเล่าโรงเรียนก็เพียรมา

 แม้แต่หมอพยาบาลมันรู้จัก
 เข้าประชิดฝากรักให้หนักหนา
 เตียงไม่มีเตียงไม่พอท้ออุรา
 ชาวประชาน้ำตานองแสนหมองตรม

 จะกราบพระอย่างไรให้เรารอด
 จะกกกอดความสุขใดให้เหลือข่ม
 คิดถึงครูสุนทรร้อนคำคม
 ขอคำครูสู้อารมณ์ที่ขุ่นมัว

 ขอให้กลอนชำระคราบความเศร้า
 ขอให้กลอนบรรเทาความมืดสลัว
 ขอให้กลอนเสริมใจให้ไม่กลัว
 ขอให้ชัวร์ชัวร์ในว่าใจมี

 จะได้หยัดยืนสู้ช่วยกู้จิต
 จะได้เชื่อมชีวิตเต็มศักดิ์ศรี
 วันนี้วันสุนทรภู่ครูกวี
 กราบเอาแรงด้วยยินดีมีชัยเทอญ

         ชมัยภร แสงกระจ่าง
         ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๔


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 115  เมื่อ 25 ก.ค. 21, 17:32

พรรษาธิษฐาน

     ขอ บ้านเมืองคลี่คลายหายทุกข์โศก
     ขอ ให้โลกเคลื่อนไปได้ดังเก่า
     ขอ ให้คนแบ่งปันช่วยบรรเทา
     ขอ ให้แพทย์ทันเท่าเจ้าโรคร้าย

     ให้ ผู้คนเรียนรู้การอยู่ร่วม
     ให้ สมรมสำรวมสู่จุดหมาย
     ให้ หลีกเรื่องสารพันอันตราย
     ให้ แสงฉายสำนึกรู้ทุกผู้คน

     มี ความรักต่อกันฉันมนุษย์
     มี ดวงใจพิสุทธิ์ทุกแห่งหน
     มี มุ่งมาดหมายซึ่งจะพึ่งตน
     มี ตายลสิ่งต่างอย่างลงตัว

     เรื่อง ขัดแย้งไม่เห็นเป็นขัดแย้ง
     เรื่อง ขันแข่งก็เห็นเป็นยิ้มหัว
     เรื่อง หลอกหลอนยิ้มได้ไม่น่ากลัว
     เรื่อง มั่วมั่วก็ขำได้ไม่ว่ากัน

     ดี พอได้ดีพองามดียามยาก
     ดี ลำบากดีลำบนดีจนฝัน
     ดี แต่เหนื่อยดีแต่หน่ายดีรายวัน
     ดี ประจันดีประจญดีผลมี

     เข้าพรรษาอธิษฐานเบิกบานยิ่ง
     ล้วนแต่สิ่งนึกฝันทุกวันวี่
     หวังแต่หวังว่าเมื่อคิดตั้งจิตดี
     โลกรอบตัวย่อมคลายคลี่เป็นศรีเทอญ

              ชมัยภร แสงกระจ่าง
              ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔
                 วันเข้าพรรษา


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 116  เมื่อ 04 ก.ค. 22, 10:35


หิ่งห้อย

 วับวับวิบพริบพรายในความมืด
 โลกที่ชืดชากร่อยค่อยมีแสง
 ดั่งดวงดาวดวงน้อยร้อยรุ่งแรง
 กระพริบแซงซ้อนซ้อนเป็นพรพราย

 เจ้าผู้เป็นแสงหวังสว่างหล้า
 เจ้าผู้คล้อยเคลื่อนคลาวาบวาบหาย
 เจ้าผู้เป็นทิพย์ธิดาราตรีราย
 เจ้าผู้จุดประกายฝันแก่คน

 โลกของเด็กตราตรึงหนึ่งหิ่งห้อย
 หนึ่งตัวน้อยแต่ยิ่งใหญ่ในใจหม่น
 วันที่ล้าทุกข์เหงาร้าวทุรน
 หนึ่งแสงดลดาลใจให้คลายทุกข์

 เจ้าเป็นฝันเจ้าเป็นไฟในชีวิต
 เจ้าสถิตเป็นแสงแห่งความสุข
 เจ้าเป็นอัญมณีศรีแห่งยุค
 เจ้าปลอบปลุกให้รักยิ่งสิ่งแวดล้อม

 สิ่งแวดล้อมไม่ดีไม่มีเจ้า
 เจ้าเตือนเราให้รู้จักรักถนอม
 หนึ่งแสงวิบจุดประกายไพรพฤกษ์น้อม
 ขอก้มค้อมแก่หิ่งห้อยตัวน้อยนิรันดร์

       ชมัยภร แสงกระจ่าง
       ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 117  เมื่อ 05 ก.ค. 22, 15:35

Think Again

        คอยอ่อนน้อม ถ่อมตน ในความรู้
        อย่าผยอง ว่าตัวกู นั้นยิ่งใหญ่
        คอยยำเกรง ความไม่รู้ คู่กันไป
        อย่าหยุดใฝ่ แสวงหา ปัญญาเดิม

        ร่วมคิดใหม่ ทำใหม่ ด้วยใจเปิด
        ร่วมให้เกิด ความสงสัย ให้ส่งเสริม
        ร่วมตรวจทาน ทบทวน ความเชื่อเดิม
        เพื่อให้เพิ่ม ปัญญาใหม่ ไว้แบ่งปัน

        ขอคิดใหม่ ทำใหม่ ได้ประโยชน์
        ลดความโกรธ คลายความเกลียด สร้างความฝัน
        Think Again สร้างสิ่งใหม่ ไปพร้อมกัน
        ช่วยสร้างสรรค์ สังคมดี ที่เป็นจริง

                 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
           คำนิยมหนังสือ Think Again

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 118  เมื่อ 14 ก.ค. 22, 11:35

จากวันอาสาฬหบูชาถึงวันเข้าพรรษา

๏ ระลึกแรกพระพุทธเจ้า     แสดงธรรม
แก่เหล่าปัญจวัคคีย์จำ        แห่ห้อม
พระโกณฑัญญะนำ           ขอบวช
รัตนตรัยจึงพร้อม             ครบถ้วนสามประการ ฯ

๏ กราบกรานน้อมแนบเกล้า เนาดิน
พระคุณย่ิงปฐพิน              แกร่งกล้า
ตรัสรู้เพื่อชีวิน                 ล้ำเลิศ มนุษย์เฮย
โปรดสัตว์ทั้งแหล่งหล้า      ร่วมร้อยนิรวาณ ฯ

๏ ปณิธานจิตตั้ง              ตามมา
ขอแต่บุญรักษา               จิตไว้
สามเดือนแห่งพรรษา         ฝนฝาก
จักส่องมองในไซร้            สติพร้อมยอมธรรม ๚ะ๛

              ชมัยภร  แสงกระจ่าง
              ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕

บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 119  เมื่อ 13 ก.ย. 23, 13:08


  ๐ สุดสายน้ำเชี่ยว ๐

แสงแดดอ่อนอรุณเริ่มอุ่นหล้า
ภาพท้องนาผืนนั้นในวันเก่า
ปลุกสำนึกริบหรี่โลกสีเทา
ที่คละเคล้าควัน-คนอย่างทนทาน
                  ...
อยากมีฝันวันคืนอันตื่นตา
ได้เทียบท่าธงทิวมีวิวหวาน
หากวาดหวังดั่งได้ดอกไม้บาน
สมผสานสักครั้งที่ยังยืน

เมื่ออยากมีให้มากไม่อยากหยุด
มองไม่สุดไม่ชัด ยังขัดขืน
แต่ละก้าวเก็บกำความกล้ำกลืน
ก่อเป็นฟืนเป็นไฟในดวงตา

ต้องเจ็บจมคมหนามตามเล่ห์โลก
สุขบ้างโศกแซกซัดสิ่งขัดขา
เพื่อจะพ้นพบฝันของมรรคา
ก็ต้องกล้ากว่าเก่าอีกเท่าทน

ถึงบางอ้อ อารมณ์ประสมสี
เพราะอยากมีอยากได้อยู่หลายหน
ลืมคำเล่าหลายเรื่องของเมืองคน
ในม่านหม่นมายาและอารมณ์

เธอมาไกลกว่าเก่าได้เท่านี้
จำโลกที่เธอท้าเอามาห่ม
พบไม่พบภาพฝันพระจันทร์จม
ก็สั่งสมให้สร้างเป็นทางเทียว
                  ...
แสงเช้าซึ่งอ่อนโยนจากโพ้นฟ้า
เหนือทุ่งนาผืนเก่าภูเขาเขียว
โอบอาภรณ์อ่อนช้อยรับรอยเรียว
สายน้ำเชี่ยวสุดสาย ถึงปลายทาง ๚

          ธรรมดา
      ๑๒/๙/๒๕๖๖
ขอบพระคุณ อ.เพ็ญชมพู ครับผม
ห่างหายไปนานพอสมควรครับ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 20 คำสั่ง