เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9
  พิมพ์  
อ่าน: 132071 " เสียงกวี "
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 16 พ.ย. 18, 15:18


                     ๐ เถลิงการ ๐
                  (อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

ลิบล่องเถลิงหลง              มนะยงทะยานยิน
ต่ำตกก็ผกผิน                    ผิวะผล ณ ดลดาว

ดื่มด่ำระกำกลืน                กวะฟืนทิวาวาว
เติมตนปะหนหาว             รุหะห้วง ณ ดวงมาน

รุ่งรื่นมะรืนรับ                  รุจิซับพิสัยสาน   
ท่องทิศสุธาธาร                ธุระถ้วนปะชวนชัย

ชีพหนึ่ง ณ พึงหมาย          มุประกายประสงค์ใส
โลกล้วนชนวนใน             นิธินับคณาคุณ

เพียงเพียรพินิจเนือง          ภวะเปรื่องปะมานหมุน
ทุกที่วิธี-ทุน                       ทะลุเท่าธนานันท์

หลังล่องทะเลหลง             ทิศะทรงกะวาววัน
เทียบท่าอุษาสรรค์             ชยะซ้องสกุลชน ๚ะ         

                            ธรรมดา
                      ๑๖ พ.ย. ๒๕๖๑

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 04 ม.ค. 19, 13:18

ปาบึกบุก  ตกใจ


บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 09 ส.ค. 19, 12:18


ค่ำกะลารุ่งเช้า                  ทรงทอง
มากหมื่นมนนอง             หนึ่งพ้น
ศิลารุ่งครรลอง                โลกลุ่ม ลาญนา
นับเนื่องนทีท้น                ท่วมเท้าธานี๚ะ๛

ริบหรี่หลงเถื่อนทิ้ง           ทางปลา
หาวห่อนสกุณา                นุ่งก้าง
กลีกิ่งกันกา                       เพียงเกลื่อน
กบบ่เกรงใจจ้าง                จึ่งกร้าวกินเดือน๚ะ๛

                "ขอบคุณ อ.เพ็ญชมพูครับ"
                           ธรรมดา
                      ๒๗/๑๐/๒๕๖๑
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 06 ต.ค. 19, 16:19


        ๐ อาวรณ์ ๐

ดอกรักร้างทางรักมักสิ้นชื่น
ต่อให้ตื่นตาตวงแต่ทรวงเศร้า
ฝังใจจำจากสิ่งเคยพริ้งเพรา
แม้เมื่อเก่าก็ใกล้ในคำนึง
                ..
นกไม่หวนคืนคอนตอนพลบค่ำ
ฟ้าไม่ต่ำแต่นิดก็คิดถึง
เพียงพิษรักหนักหนาให้ตราตรึง
ต่อภาพซึ่งผุพังยังอาวรณ์

หากรักล้นลงจมจะขมหวาน
จะเนิ่นนานหนักนิ่งดังสิงขร
แม้นไม่คู่เคียงฝันนิรันดร
แต่อาทรท่วมท้นจนตัวตาย

เมื่อมั่นคงความรักภักดิ์สมร
จะอาวรณ์ตราบสิ้นดินสลาย
ตราบคืนค่ำแห่งฟ้าทิวาวาย
ซึ่งหาใช่สุดท้ายที่ตายตน
                 ..
สู่รู้สึกนึกน้อมกล่อมแก้วตา
หลับใหลใฝ่นิทรา ณ แห่งหน
ป่านฉะนี้จักสุขหรือทุกข์ทน
รัตติกาลม่านหม่นเมื่ออาลัย

ห่มวิโยคโลกหลากซากกำสรวล
ประหนึ่งล้วนแหลกลับกับมอดไหม้
ค่ำเช้าช่างหนาวเนิ่นเผชิญใจ
ดุจโลกไร้สิ่งสุขทุกเวลา

หวีดหวิวพลิ้วผ่านเสียงสำเนียงศิลป์
ฟ้าสู่ดินใดเล่าเฝ้าห่วงหา
วิเวกห่มลมหนาวดาวน้ำตา
วาสนานิ่งนั้น,นิรันดร
               ..

          ธรรมดา
      ๒๕/๑/๒๕๕๕
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 13 ต.ค. 19, 11:40




ขณะหนึ่งนัยน์ตาผู้ล้าโลก
หวั่นไหวในลมโบกวิโยคอยู่
ขณะฝนร่วงรายปลายฤดู
กำสรวลสู่ผู้คนบนแผ่นดิน

อาดูรพูนเทวษประเทศนี้
ฟ้าเศร้าสีหม่นมัวทั่วทั้งสิ้น
ขณะนั้นน้ำตาทั่วธานินทร์
ก็รู้รินอาบอ้างกลางผู้คน

ทอดอาลัยใจน้อยในรอยพ่อฯ
เพราะเมื่อต่อแต่นี้อีกกี่ฝน
จะยังจำกำสรวลของมวลชน
จำอยู่จนสุดท้าย ลมหายใจ๚

   ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

*************************************

               ธรรมดา
           ๑๐/๑๐/๒๕๖๑

บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 27 พ.ย. 19, 16:28


     ๐ คลื่นคำนับ ๐

ขณะลมล้อคลื่นให้ครื้นเครง
เข้าข่มเหงความเงียบเคยเลียบง่าย
ทั่วทะเลเริ่มลุ้นความวุ่นวาย
แล้วลางร้ายคนเรือ ก็เมื่อนั้น

เมฆทะมึนมามากจากท้องฟ้า
กลบแสงเดือนดาราให้ฝ้าฝัน
คนเรือจะเหลือไรในชีวัน
หากต้องหันหัวเรือยอมเชื่อฟัง

คนมีความทะนงที่หลงเหลือ
พอสืบเชื้อศรัทธาให้กล้าหวัง
วัดใจตัวกลัวตายต้องพ่ายพัง
หรือรอหลั่งน้ำตาเพื่ออาลัย

อยู่เหนือน้ำหนักอึ้งถึงดวงจิต
เห็นทุกทิศสะเทือนการเคลื่อนไหว
เติมอัตราเต้นรัวของหัวใจ
แต่การให้หันกลับยังอับอาย

สู้โทสาพายุ ปะทุทั่ว
แข่งความกลัวกี่กล้าเอามาขาย
ทุ่มใจซื้อหมดใจไม่เสียดาย
แลกจุดหมายการมุ่งสู่พรุ่งนี้

คลื่นลูกแล้วลูกเล่าโถมเข้าใส่
จะหนักไหนเท่าหนักในศักดิ์ศรี
ลูกชาวเลร้องท้า โดยท่าที
เพื่อต้องมีหวังอยู่ให้สู้ชน

คืนยาวนานน้ำฟ้าความบ้าคลั่ง
ไม่รู้หลังหน้านับความสับสน
ฝ่าคลื่นซัดซวนเซร้อยเล่ห์กล
กว่าจะพ้นคมคลื่นที่กลืนกิน

เหนื่อยไม่น้อยน้ำเค็มยังเข้มค่า
หากความกล้าแลกรับเป็นทรัพย์สิน
คงไม่มาไกลมากจากแผ่นดิน
แทบพังภินท์ย่อยยับคนจับปลา

เพื่อครอบครัวหลายคนอยู่บนฝั่ง
แบกความหวังไว้หนักต้องรักษา
ลูกชาวเลต้องรอดปลอดภัยมา
คำสัญญาย้ำอยู่ ลูกผู้ชาย

          ธรรมดา
      ๒๖/๑๑/๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 12 ธ.ค. 19, 15:21



            ๐ กบกินเดือน ๐

ค่ำกะลารุ่งเช้า            ทรงทอง
มากหมื่นมนนอง       หนึ่งพ้น
ศิลารุ่งครรลอง          โลกลุ่ม ลาญนา
นับเนื่องนทีท้น          ท่วมเท้าธานี ๚

ริบหรี่หลงเถื่อนทิ้ง     ทางปลา
หาวห่อนสกุณา          นุ่งก้าง
กลีกิ่งกันกา                 เพียงเกลื่อน   
กบบ่เกรงใจจ้าง          จึ่งกร้าวกินเดือน ๚

เถิดเพื่อนผู้หยั่งย้ำ        ยูงยาง
ขับคลื่นคำเฟืองฟาง    ขึ่นฟ้า
นับจะหนึ่งเทียนทาง   ทุกข์หมื่น เมืองชน
สิบสุข ฤ ควรค้า          ค่ำคล้อยพญายม ๚

สูงสมบูรณ์เบิ่งใบ้        บาดาล
เดือนช่วงสุรีย์ลาญ       ร่มกั้น
กลีร่น ฤๅ บาน             บัวบิ่น บรรทม
ถึงถ่องทางปลาปั้น      ป่านซึ้งสุราลัย ๚

ธรรมใจจึงดื่มได้          เดือนดาว
สูงส่งชมสกาว              กิ่งฟ้า
ลาภยศอยู่ยืนยาว          เพียงคู่ คนเป็น
ปรุงปราชญ์ยอระย้า     หยั่งแม้นมรรคผล ๚
                       
                          ธรรมดา
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 20 ธ.ค. 19, 10:11


        ๐ บ้าน ๐(สาลินีฉันท์ ๑๑)

เกิดมามีอาศัย            จะเล็กใหญ่ก็ยินยล
บ้านเรารับเอาผล       พิสิฐทรง ณ คงควร

ยินดีมีน้อยมาก          ฤ ลำบาก บ ผันผวน
ต่างจุดชำรุดรวน        และหลายจุดก็ทรุดทรง

ซ่อมส่องจึงผ่องผล    พยุงจนจะอ่าองค์
บ้านเราใครเขาหลง    พิไลเหลือจะเชื่อชม

หลังคาหน้าต่างตัว      ระเบียงรั้วระวังลม
ขาเข่าดังเสาสม           สภาพพร้อมผดุงเดิน

บ้านดีดั่งมีมนต์           มิขัดสนสภาพเพลิน
จิตด้วยไม่ขวยเขิน       ขนาบเน้นประเด็นดี

กายจิตสัมฤทธิ์โลก     จะสุขโศกก็ศักดิ์ศรี
คุณค้ำสัมมามี              สุภัคผองประคองควร ๚

                        ธรรมดา
                ๑๕/ ๑๒/ ๒๕๖๒
   
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 29 ธ.ค. 19, 10:41


๐ พายคะนึง ๐(อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

ทะเลจะรู้ไหม               ขณะไกลก็โหยหา
คะนึงประหนึ่งปลา       นิรน้ำนะทรามเชย

ลุโลกละทางเทียว          กะจะเลี้ยวเลาะเคียงเคย
คุคำจะพร่ำเผย               เฉพาะพักตร์ตระหนักนวล

ฤดีฉะนี้นับ                    ระยะกลับกมลมวล
ผลิพร้อมจะหอมหวน    มหะห้วงฤทัยถึง

ทะเลลุเห่หอม                วิจิค้อมคละอื้ออึง
คะครื้นผสานซึ่ง-           สระร้องประคองเคียง

ถกลกะโลมลาน             วจะหวานวิเศษเสียง
ละล่องก็พ้องเพียง          พิเราะโลก บ โศกซม

พระพายกระหายหา       ทวิว่าวิสัยสม
ทิศาอุราลม                     ก็ลุร้อยทยอยเยือน ๚

                          ธรรมดา
                    ๑๑/ ๑๒/ ๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 99  เมื่อ 25 เม.ย. 20, 16:54


        ๐ โลก ๐

คารวะอาหารทานช่วงเช้า
ทำให้เท้ามือท้องสมองมั่น
ขอบคุณปลาอารี สิ้นชีวัน
กุศลนั้นน้ำฟ้ามาประมาณ
                  ..
หลังโลกถือกำเนิดเกิดมนุษย์
ดินน้ำผุดผักปลาเป็นอาหาร
สรรพสิ่งทราบสิ้นโดยวิญญาณ
โลกคือบ้านหลังใหญ่ในอนันต์

ดั่งบิดาอาทรผู้สอนศาสตร์
บ้างมีฟาดด้วยไฟให้มหันต์
เตือนลูกหลงรั้งร้ายทำลายกัน
พ่อบีบคั้นคุกคามปรามเป็นนัย

เมื่อมารดามาโปรดพิโรธสิ้น
ธรณินน้ำฟ้าน่าหลงใหล
อร่ามรักลูกน้อยดั่งกลอยใจ
กล่อมขวัญให้หลับฝันบรรณาการ

ล้วนบิดามารดรสะท้อนทั่ว
ปลุกครอบครัวขึ้นรับทุกขับขาน
เคลื่อนครรลองร้อนหนาวมายาวนาน
ให้ถิ่นฐานทั้งมวลควรชีวิต

แค่คนดีที่พ่อขอให้เป็น
แม่อยากเห็นลูกรักประจักษ์จิต
แจ้งสมดุลคุณงามในความคิด
รู้สึกสิทธิ์รักษาคุณฟ้าดิน

ด้วยโลกรักลูกล้วนทั้งมวลมั่น
ไม่เคยหันหลังให้อาศัยสิ้น
กี่มากน้อยร้อยรัดลูกกัดกิน
ควรหรือผินหลังไร้ซึ่งไยดี
                 ..
คารวะอาหารทานมื้อเที่ยง
โลกยังเลี้ยงเรามาเหมือนหน้าที่
ขอบคุณดินน้ำฟ้าผู้อารี
ขาดโลกนี้ขาดแคลนแดนชีวิต

            ธรรมดา
     ๓ / ๑๒ / ๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 25 เม.ย. 20, 17:02


        ๐ ภาระ ๐

……ที่รัก
โลกนี้จักดำรงการหลงใหล
รูปรสเสียงซึ้งซ่านสำราญใด
จะย้อมใจเราล้วนแต่ชวนชม

นู่นนี่นั่นสรรพสรรบันเทิงทั่ว
ใครจะกลัวความเหงาเข้ามาข่ม
โลกยังยิ้มหยิบยื่นความรื่นรมย์
ให้นิยมยินดี ตามที่เป็น
                 
เรายอมรับข้อแม้ตั้งแต่เกิด
สาธุเทิดทุกข์สุขแห่งยุคเข็ญ
จึงเงื่อนไขเร่งเท้าทุกเช้าเย็น
หาสิ่งเซ่นศรัทธาพายุร้าย

วิ่งตามลมซมซานจนกร้านกล้า
ถึงรู้ค่าสมควรที่ขวนขวาย
หลังรุ่งลาญหวานขมเคยงมงาย
แก้กระหายแห่งตนให้พ้นพบ

ว่าการเกิดการุณย์บุญญายิ่ง
หนึ่งในสิ่งอัศจรรย์จึงบรรจบ
เส้นชีวิตวาดวางทางควรคบ
ทั้งรู้หลบเรื่องร้ายอบายบัง

นับถนอมในตนเช่นคนซื่อ
บ่าแบกถือมือมั่นไม่หันหลัง
ผูกภาระหลากหลายแทบพ่ายพัง
แต่คนยังยิ้มสู้ ให้ดูดี

โลกต้องเป็นเช่นนี้นะที่รัก
ยิ่งรู้จักมันมากยิ่งอยากหนี
แต่ยิ่งถอยยิ่งเสียท่าต้องราวี
หากทุกการเสียที จะมีชัย ๚

            ธรรมดา
    ๒๓ / ๑๑ / ๒๕๖๒
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 26 ก.ค. 20, 07:15

เรื่องหดหู่
 
 คุณดีใจคุณไม่ถูกสั่งฟ้อง
 คุณดีใจที่เงินทองช่วยกางกั้น
 คุณดีใจที่ครอบครัวประคองกัน
 คุณดีใจที่ยุติธรรม์ไม่ถึงคุณ
 มีคนตายก็ตายไปไม่ติดคุก
 ชีวิตจะเป็นสุขแสนอบอุ่น
 เหมือนอยู่ในฟองสบู่อุ่นละมุน
 ลอยหอมกรุ่นอยู่ในสายชีวิน
 
 แต่คุณจะเสียใจอยู่ในลึก
 เมื่อตรองตรึกนึกได้ไม่สุดสิ้น
 คุณฆ่าเขา คุณทิ้งเขาบนผืนดิน
 หัวใจคุณจะแหว่งวิ่นไม่สมบูรณ์
 จะกินนอนอย่างไรไม่เต็มสุข
 เหมือนมีคุกในใจไม่สิ้นสูญ
 เสียงก่นด่าร่ำไห้ใจอาดูร
 คือกองกูณฑ์ก่อไว้อยู่ในลึก

 ถึงคุณผู้ไม่ทำตามหน้าที่
 เหมือนรอยตราต่อตีปิดผนึก
 ความผิดบาปจะหลอกหลอนในสำนึก
 เหมือนออกศึกแต่ยอมใจให้ศัตรู
 ภาพวันนี้จะตีตรึงไปวันหน้า
 กาลเวลาจะบันทึกความอดสู
 คนรุ่นหลังจะสำรวจขมวดดู
 เรื่องหดหู่จะหลอนเรานานเท่านาน

 ชมัยภร แสงกระจ่าง
 ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 102  เมื่อ 19 ก.ย. 20, 11:54


ตั้งจิตอธิษฐาน
ขอบัวบานในดวงใจ
สัจจะอันอยู่ใน
จงตระการบานดังบัว

ขอให้ความมุ่งมั่น
บรรลุพลันฝันระรัว
ที่มืดและหมองมัว
จงคลายคลี่ให้มีทาง

ชุมนุมใสสะอาด
ใดพินาศให้ไกลห่าง
ใดกรอบใดบอบบาง
ให้แข็งแกร่งมีแรงยัน

ขอความพิสุทธิ์ใส
จากดวงใจที่รวมกัน
เป็นพลังอันสร้างสรรค์
และงามงดทุกบทตอน

ช้าช้ามีสติ
ใดแตกปริระวังก่อน
มีภัยอย่าใจร้อน
ระวังสิสติมา

ดอกบัวจงบานกระจ่าง
ส่องสว่างในขวัญหล้า
งามวาดทุกยาตรา
ประสบชัยนะวัยเยาว์

ชมัยภร แสงกระจ่าง
๑๙ กันยายน ๒๕๖๓

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 103  เมื่อ 20 ก.ย. 20, 16:59




รุ้งต่อรุ้ง

เมื่อเนิ่นนานผ่านมาเกือบร้อยปี
เขามองเห็นสิ่งนี้ ความใฝ่ฝัน
เขาชื่อรุ้ง ยอมตนประจญประจัญ
สังเวยวันด้วยคุกทุกข์รันทด
เขายืนยันสันติประชาธิปไตย
เฝ้ากู่ก้องร้องไปใจกำสรด
ยุคสมัยเผด็จการผ่านโค้งคด
น้ำตารดอดีตช้ำย่ำเท้ารอ

เธอชื่อรุ้ง เช่นกัน ณ วันนี้
ส่งประกายฉายรวีการสืบต่อ
แปดสิบปีเจ็บช้ำน้ำตาคลอ
น้องยื่นช่อดอกไม้ให้มวลชน
งดงามในความงามของชีวิต
ทุกก้าวร้อยต่อคิดตั้งแต่ต้น
เธอชื่อรุ้งเรืองรองผ่องมณฑล
งามทุกก้าวพราวพ้น คำใดใด

รุ้งต่อรุ้งย่อมฉายประกายส่อง
รุ้งต่อรุ้งประคับประคองให้อยู่ได้
รุ้งต่อรุ้งย่อมถักทอต่อกันไป
สิ ฝนตกในแผ่นดินนี้ด้วยปรีดา

ชมัยภร แสงกระจ่าง
๒๐ กันยายน ๒๕๖๓

บันทึกการเข้า
Thammada
ชมพูพาน
***
ตอบ: 104


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 104  เมื่อ 10 ต.ค. 20, 12:35


    ๐ กระซิบนคร ๐
                 ..
ตึกทรงสูงสู่ฟ้าบรรดาศักดิ์
สัญลักษณ์โลกใหม่มีไว้หวัง
ก่อบันไดไปเป็นคนเด่นดัง
ปีนขอบขังความคิดสิทธิ์เสรี
                 
เขาหรือเธอทุ่มท้าปัญญาชน
ศรัทธาผลพร่างพรายระบายสี
หอมไฟฝันดินฟ้าในธานี
ทุกก้าวที่ทอดท้า อนาคต

มากสัมมาอาชีพให้รีบเร่ง
เขาต้องเก่งเธอกล้าจึงปรากฏ
นั่น! รุ้งรางกลางกองเกียรติยศ
ต้องผ่านบทลำบากอยู่มากมาย
                  ..
ครั้นสังคมเคยหรู เริ่มดูแย่
ฝันคงแค่ความฝันเมื่อมันหาย
เหมือนสาวซึ่งเจ็บช้ำเพราะคำชาย
ฝืนทรงทรุดสุดท้าย ทำลายกัน

เมื่อเมฆครึ้มมาขู่ ฤดูฝน
ดอกไม้หล่นลงคว้างเซ่นทางฝัน
จะค่อยค่อยเหือดหายเมื่อปลายวัน
คอยเช้านั้นช่างหนาวในยาวนาน

หากจะมีฝนมาเมื่อฟ้ารุ่ง
เพียงวันพรุ่งหมื่นพันจุดบรรสาน
ดอกฝนหนึ่งนับได้ดอกไม้บาน
ร้อยเป็นล้านดอกใบในแผ่นดิน
                  ..
กี่ร้างรุ้งหลังฝน ฟังคนฝัน
นับฟ้านั้นมีเมฆไม่เสกสินธุ์
คนเคยมีความหวังเมื่อพังภินท์
ย่อมต้องดิ้นรนสู้ในหมู่คน
                   ..
โน่นแน่ะ! ความงดงามยังสามหาว
ท้าทุกก้าวที่กล้า จะฝ่าฝน
สังเวยวันหดหู่วิญญูชน
กล่อมกมลเมื่อหน้าประชาชัย

ผ่านฟ้ารุ่งพรุ่งนี้ อีกกี่รุ่ง
เขายังมุ่งดวงมานเธอหวานไหว
แม้มืดยังยาวนานการจุดไฟ
แต่ต้นให้ดอกดื่นได้ฟืนเฟือง
           
            ธรรมดา
      ๑๐ / ๑๐ / ๒๕๖๓
"ขอบคุณ อ.เพ็ญชมพู ครับผม"
ห่างหายไปหลายเดือน งานที่เขื่อนเยอะมากครับช่วงฤดูฝน
ทำให้ขาดความมั่นคงในจินตนาการได้ง่าย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 20 คำสั่ง