เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 300 เมื่อ 18 ม.ค. 13, 10:09
|
|
ขบวนการกู้ชาติของพม่าแม้ว่ากระจายไปทั่วพม่า แต่ก็ถูกปราบปรามจนกระทั่งค่อยๆหายกันไปทีละกลุ่ม วิธีปราบปรามของอังกฤษนอกจากมีอาวุธเหนือกว่า ระดมพลจากอินเดียเข้ามามากกว่า รวมแล้วเป็นจำนวนหลายหมื่น ก็ยัง "เชือดไก่ให้ลิงดู" ชนิดไม่ปรานีปราศรัย เหมือนกับชนชาวพม่าเป็นอะไรอีกอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์มีเลือดเนื้อมีชีวิตเหมือนกัน ในช่วงการกวาดล้างฝ่ายต่อต้าน อังกฤษยิงทิ้งโจรที่จับได้วันละหลายราย ตายแล้วศพก็ถูกแห่ประจานไปรอบเมืองเพื่อให้ชาวบ้านหวาดกลัว จะได้ไม่กล้าเอาเยี่ยงอย่าง ความโหดเหี้ยมมีมากถึงขั้นที่ว่า เพียงแค่สงสัยว่าชาวบ้านคนไหนเป็นฝ่ายตรงข้าม ก็ลากตัวมายิงทิ้งได้เลยโดยไม่ต้องหาหลักฐานให้เสียเวลา วิธีนี้อังกฤษเห็นว่าได้ผลชะงัด ที่จะทำให้ประชาชนตกอยู่ในความกลัว ยอมสงบอยู่ใต้การปกครองอย่างไม่มีเงื่อนไข
วิธีนี้ดำเนินอยู่ยาวนานถึง 11 ปี กว่าอังกฤษจะกวาดล้างดาค้อยท์ลงไปได้หมดประเทศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33584
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 301 เมื่อ 19 ม.ค. 13, 11:51
|
|
นอกจากเจ้าชายเชื้อสายราชวงศ์คองบอง พระสงฆ์สำคัญๆ แล้ว ดาค้อยท์ยังรวมถึงสามัญชนที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านอังกฤษทั่วประเทศอีกด้วย ขอยกตัวอย่างมาสักรายหนึ่ง ที่ขึ้นชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์พม่าในช่วงนี้ ดาค้อยท์คนนี้ชื่อโบส่วย (Bo Swe) เขาเป็น thugyi หัวหน้าหมู่บ้าน หรือทางไทยน่าจะเทียบได้กับกำนัน โบส่วยสืบตระกูลกันมาหลายชั่วคนในหมู่บ้านมินดัต ติดเขตแดนพม่าตอนล่าง เขาไม่เคยเห็นด้วยเลยที่อังกฤษรุกรานพม่ามาตั้งแต่ยึดพม่าเหนือนั่นเลยทีเดียว ก็ต่อต้านมาตลอด ขนาดลอบโจมตีก่อกวนทหารอังกฤษทางชายแดนอยู่หลายครั้ง จนอังกฤษยึดมัณฑะเลย์ได้ อังกฤษเรียกตัวโบส่วยไปสอบสวน ตักเตือนให้เลิกกระทำการ ก่อนปล่อยตัวกลับหมู่บ้าน แต่แทนที่โบส่วยจะยอมจำนนเพราะเห็นพม่าตกเป็นเมืองขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว กลับฮึดสู้ ไปซ่องสุมผู้คนอยู่บนเทือกเขาทุรกันดาร ซึ่งเป็นที่ที่เขาจะได้เปรียบทหารอังกฤษ หนึ่งเดือนหลังมัณฑเลย์ถูกยึด โบส่วยก็คุมกำลังเข้ายึดสถานีตำรวจของอังกฤษที่ชายแดน ปะทะกับนายทหารที่ประจำอยู่ สามารถยิงนายทหารผู้บังคับการที่นั่นบาดเจ็บได้ ก่อนจะต้องล่าถอยไปเมื่อมีกำลังทหารมาสมทบตีโต้เขา
โบส่วยมีกำลังน้อยกว่า จึงใช้วิธีแบบกองโจร คุมลูกน้องเข้าโจมตีทหารอังกฤษที่ประจำอยู่ตามเมืองต่างๆ แหย่เข้าไปให้ระส่ำระสาย เปลืองกำลังพลแล้วก็ถอยหนีกลับขึ้นไปซุ่มซ่อนตัวบนเทือกเขา ผลงานของโบส่วยผู้ชำนาญภูมิประเทศมากกว่ากลายเป็นหนามยอกอกอังกฤษจนตั้งค่าหัวให้ถึง 5000 รูปี โบส่วยก็สวนกลับไม่น้อยหน้า ตั้งค่าหัวนายแฟร์ รองข้าหลวงอังกฤษประจำเขตเป็นเงิน 500 รูปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 302 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 06:46
|
|
ผมขอคั่นรายการสักเล็กน้อยนะครับ เพื่อเอาภาพเก็บตกมาสลับฉาก ภาพเหล่านี้น่าจะอยู่ตามคคห.ที่ผมบรรยายผ่านมาแล้ว แต่ไม่เป็นไร ดูกันตอนนี้ก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 303 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 06:48
|
|
ความคิดเห็นที่ 116 กองเรือรบได้ยาตราผ่านเมืองปาท่องโก๋ Pakokko ในวันที่๒๔ ข่าวว่าที่นั่นมีทหารจากมัณฑเลย์ประมาณ๑๐๐๐นายถูกส่งมารักษาการ แต่ทหารพวกนี้ก็หลบเอาตัวรอดไปแล้วในทันทีที่เห็นกองเรือขนาดมหึมาโผล่คุ้งน้ำเข้ามา บ่ายคล้อยของวันนั้นเองกองเรือก็เข้าสู่เขตเมืองสำคัญที่ตั้งควบคุมบริเวณที่แม่น้ำสำคัญสองสาย คืออิระวดีกับชินวินมาบรรจบกัน ชื่อว่าเมืองเมียงยาน รายงานของอังกฤษระบุว่าพม่าได้มาตั้งค่ายทหารรออยู่ ภาพค่ายดังกล่าวที่เป็นแค่มูลดินกำบังกระสุนที่พม่าทิ้งไว้ ใต้ภาพบอกว่ามีธงขาวปักไว้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 304 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 06:50
|
|
ความคิดเห็นที่ 121 วันที่๒๖พฤศจิกายน กองเรืออังกฤษเคลื่อนขบวนต่อจากเมียงยานไปนิดเดียวก็ผ่านหมู่บ้านยันดาโบ จุดที่สงครามอังกฤษกับพม่าครั้งแรกในปี๑๘๒๖ยุติลงด้วยการทำสนธิสัญญาต่อกัน สักพักหนึ่งก็เห็นเรือเร็วของพม่าขนาด๔๔ฝีพาย ปักธงขาวที่หัวเรือและอัญเชิญธงประจำพระองค์ไว้ท้ายเรือวิ่งตรงเข้ามาหา ที่นั่งวีไอพีนั้น ขุนทหารสองนายนั่งวางท่าเหมือนหุ่นขี้ผึ้งอยู่ ปรากฏนามที่คนไทยเรียกขานได้สบายๆสไตน์นวรัตนดอทซีว่า ขวากเมือง อัศวินหวุ่น(Kyaukmyaung Atwin Wun) สองพยางค์หลังนี้เป็นชื่อตำแหน่ง อีกคนหนึ่งชื่อ เว็จไม่สุด หวุ่นดวก (Wetmasut Wundauk) ทั้งคู่ถอดรองเท้าของตนออกก่อนที่จะขึ้นมาบนเรือของแม่ทัพอังกฤษ เพื่อยื่นสาส์นให้แก่นายพลเพรนเดอกาสต์ (General Prendergast) และพันเอกสลาเดน (Colonel Sladen) ภาพเรือรบของพม่าลำที่ว่าข้างบน คือลำนี้เลยละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 305 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:02
|
|
ความคิดเห็นที่ 134 ๒๘ พฤศจิกายน
๑๐โมงเช้า กองเรืออังกฤษก็มาถึงฝั่งแม่น้ำหน้าเมืองมัณฑเลย์แต่ทหารยังคงเตรียมพร้อมอยู่ในเรือ ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็พากันมาไทยมุงอย่างเฉยเมยเหมือนดูเขาเล่นหนังเล่นละครกัน ใครจะไปใครจะอยู่กูก็ไม่เกี่ยว ก่อนหน้านี้มีพระราชโองการมาป่าวประกาศไม่ให้ผู้ใดต่อต้านขัดขืนกองทัพอังกฤษ ฉะนั้นฉากบู๊จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น ภาพอังกฤษขณะยกพลขึ้นบกอีกรูปหนึ่ง มีชาวบ้านมานั่งเฝ้าชมเหมือนมาดูพิธีต้อนรับเมียรัฐมนตรีที่จะมาเป็นประธานในงานทอดกฐินของวัดประจำหมู่บ้าน
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 306 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:07
|
|
ความคิดเห็นที่ 158 ๑๐.๑๕น. ของวันที่๒๙พฤศจิกายน นั้นเอง นายพลเพรนเดอกาสต์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูใหญ่ของพระราชวังซึ่งอยู่ทิศตะวันออก พร้อมนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา และพร้อมกันเดินตบเท้าเข้าประตูสีชาด ซึ่งเป็นพระทวารเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน ภาพกองทหารขณะเดินแถวมาถึงกำแพงเมืองชั้นนอก นายพลนายพลเพรนเดอกาสต์นั่งอยู่บนหลังม้า มีชาวเมือง(ดูท่าจะเป็นชาวยุโรปนะ)มาขอจับมือแสดงความยินดี
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 307 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:11
|
|
นี่ก็ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น น่าจะเป็นตอนขึ้นจากเรือใหม่ๆ
บรรยายใต้ภาพว่าข้าราชการชาวพม่ามาแสดงความยินดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 308 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:16
|
|
เหตุการณ์เดียวกันที่หน้าประตูเมือง
อ้าว ภาพบนเป็นคนยุโรป ภาพนี้เป็นพม่าไปซะแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 309 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:51
|
|
ภาพชุดสุดท้ายก่อนกลับไปเรื่องขบวนการกู้ชาติพม่านะครับ
ข้างล่างเป็นภาพภายในคุก"เล็ตมายูน"อันมีชื่อเสียงของมัณฑเลย์ ซึ่งเป็นคุกที่ไม่จำเป็นต้องมีลูกกรงในห้องจองจำนักโทษ และปรากฏว่ามีฝรั่งมิชชันนารีได้เข้าไปเป็นนักโทษในคุกนี้ด้วย ดังนั้น การยึดครองพม่าเพื่อปลดปล่อยคุกเล็ตมายูน อังกฤษจึงถือว่าเป็นความชอบธรรมประการหนึ่ง
แต่แล้วอังกฤษก็อดมิได้ที่จะใช้วิธีโหดเหี้ยมปานกันเพื่อกำหราบพม่าดาค้อยต์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 310 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:56
|
|
อย่างเช่นเอาพวกดาคอนต์ที่รบเก่งๆ ฆ่าทหารอังกฤษไปหลายนาย ไปทำพม่าแดดเดียวที่ทางสามแพร่งเป็นต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 311 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 07:58
|
|
ทุกสมรภูมิรบนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่เอาไว้เชลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 312 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 08:05
|
|
หมู่บ้านใดที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้สนับสนุนขบวนการกู้ชาตินั้น จะเผาทิ้งแล้วกวาดต้อนชาวบ้านไปอยู่ถิ่นอื่นให้ไกลออกไปยังพม่าใต้ ซึ่งเป็นเขตปกครองของอังกฤษ ซึ่งกำลังมีโครงการมากมายที่จะพัฒนาและต้องการแรงงานราคาถูกเป็นจำนวนมาก
พวกที่ยังไม่ไว้ใจ ก็จะนำใส่เรือไปขังในคุกของเมืองแรงกูน
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 313 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 08:13
|
|
พวกดาคอยท์ที่มอบตัว อังกฤษถือเป็นนักโทษมีจำนวนน้อยมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 314 เมื่อ 20 ม.ค. 13, 08:15
|
|
พวกนี้จะอยู่ในคุกหลายปี กว่าอังกฤษจะแน่ใจว่าสิ้นพิษสงแล้วจึงให้อิสระภาพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|