เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 34
  พิมพ์  
อ่าน: 218839 “พม่ารบฝรั่ง” บทสุดท้ายของ “มาดูรูปพิธีกรรมสำเร็จโทษเจ้านายในพม่ากัน”
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 240  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 11:35

พญาธาตุบนประตูเมืองด้านทิศใต้ เป็นภาพสุดท้าย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 241  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 11:42

อ้างถึง
กำลังจะประหมัดกับคุณประกอบอยู่ทีเดียว ว่าด้วยเรื่อง "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส..."


ขอเชิญท่านอาจารย์เทาชมพูเบิกโรงเรื่องพม่าดาค้อยท์เลยครับ ผมจะได้ตามด้วยรูปสนับสนุน
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 242  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 12:15

บนกำแพงเมืองมีหอรบ ที่ศัพท์เฉพาะของพม่าเรียกว่าพญาธาตุ (Pyatthat) ขยิบตา นี่ผมจะโดนสอบสวนอีกไหมเนี่ย

มิได้เข้าสอบสวน แต่หมายจะส่งเสริม  

Pyatthat พม่าอ่านว่า “เปี๊ยะตั๊ด” ไทยทางเหนือก็มี เรียกว่า "พญาธาตุ" ซึงมาจากคำว่า प्रासाद (ปรา-สะ-ดะ) ในภาษาสันสกฤต ไทยเรานำมาใช้ว่า "ปราสาท"

สนใจอ่านต่อได้ที่   http://chamma.exteen.com/20090827/entry

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 243  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 12:53

อ้างถึง
กำลังจะประหมัดกับคุณประกอบอยู่ทีเดียว ว่าด้วยเรื่อง "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส..."


ขอเชิญท่านอาจารย์เทาชมพูเบิกโรงเรื่องพม่าดาค้อยท์เลยครับ ผมจะได้ตามด้วยรูปสนับสนุน

อ้าว เวรกรรมแล้วซี  ลังเล
ตั้งใจจะขัดคอคุณประกอบนิดเดียวเท่านั้นเอง ว่าด้วยเรื่องตกเป็นอาณานิคมว่ามันเลวมากกว่าดี      เผลอแป๊บเดียว ถูกท่านอาจารย์ใหญ่กว่า ไล่เข้าป่าไปสมทบกับสงครามกองโจรพม่าเฉยเลย


ดังนั้นเราอาจจะต้องเปรียบเทียบพม่าตอนบนที่นายทีบอแกเป็นกษัตริย์อยู่ กับพม่าตอนล่างภายใต้การปกครองอังกฤษว่าประชาชนพม่าแถวไหนมีคุณภาพชีวิตดีกว่ากันด้วย  มีอิสระเสรีในการทำมาค้าขายกว่าไหม มีระบบกฏหมายที่เป็นหลักเป็นฐาน มีระบบการคุ้มครองสิทธิพลเมืองที่ดีกว่าเดิมไหม  เพราะสำหรับประชาชนทั่วไปแล้วผู้ปกครองเป็นใคร เอกราชเป็นใครในช่วงนั้นคงไม่ใช่สิ่งสำคัญมากกว่าว่าชีวิตของชาวบ้านตอนนั้นอยู่ที่ไหนคุณภาพชีวิตจะดีกว่ากัน  ประวัติศาสตร์มักจะพูดถึงการต่อสู้ต่างๆ ของชนชั้นปกครอง แต่ไม่ค่อยบอกว่าวิธีชีวิตของคนภายใต้การปกครองเป็นอย่างไร  ต้องถูกเกณฑ์แรงงานอย่างไร   การเสียเอกราชจริงๆ แล้วอาจจะเป็นแค่การเปลี่ยนสิทธิในการปกครองจากฝ่ายหนึ่งไปเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ผู้ใต้ปกครองก็เหมือนเดิม เพราะไม่ว่าฝ่ายไหนปกครอง ผู้ใต้ปกครองก็ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไรแต่อย่างใดเหมือนเดิม

การเข้ามาของมหาอำนาจตะวันตกไม่ใช่มีแต่เพียงข้อเสียเพียงอย่างเดียวต่อภูมิภาคแถวๆ นี้ ตามที่ประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมมักจะให้ภาพไว้ในแนวๆ นั้น เพราะบางชาติก็ปรับตัวได้ดี บางชาติก็ล่มสลายไป แต่การล่มสลายจริงๆ แล้วเป็นการล่มสลายของชนชั้นปกครองหรือผู้มีอำนาจที่มีการเปลี่ยนมือไปมากกว่าจะเป็นการล่มของชาติจริงๆ  การเข้ามาของตะวันตกไม่ได้มีแต่การเข้ามาดูดกลืนทรัพยากรจากตะวันออกแบบที่เรามักจะเชื่อกันมาเพราะตำราเราไม่ชี้ข้อดีอื่นๆ บ้าง เช่น การทำให้ระบบการผูกขาดการค้าหายไป  ทำให้มีการพัฒนาระบบคมนาคมแบบก้าวกระโดด พัฒนาระบบการศึกษา  ทำให้มีการพัฒนาระบบการศาลยุติธรรมแบบมีมาตรฐานที่ไม่ใช่ขึ้นกับผู้ตัดสินเพียวๆ แบบเดิม   และอื่นๆ  แต่ไอ้ที่ห่วยๆ เข้ามาก็มีเช่นเอาฝิ่นมาบังคับขาย  ดังนั้นต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป


ตั้งใจจะบอกคุณประกอบว่า ประเทศอาณานิคมทั้งหลายต่างก็ได้ข้อดีจากนายฝรั่งมาบ้าง ไม่ใช่ไม่มีดีซะเลย  อย่างหนึ่งคือวัฒนธรรมฝรั่งถูกปลูกฝังลงในอาณานิคมแข็งแรงเอาการ   เห็นได้อย่างหนึ่งคือหลักสูตรการเรียนการสอนในประเทศอาณานิคมเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าประเทศที่ไม่เคยเป็นอาณานิคม     
สมัยอังกฤษครอบครองอินเดีย   นักเรียนอินเดียรู้ภาษาอังกฤษแน่นเปรี๊ยะ  คนเก่งๆสมองดียิ่งแบกวรรณคดีภาษาและวิทยาการอินเดียลงในหัวไว้เพียบ     ข้อนี้ประยุกต์กับมาเลย์เซียได้เช่นกัน  วิชาการที่อังกฤษวางหลักสูตรไว้ให้ทำให้เขาพัฒนาไปได้โลด   
แม้แต่พม่าเอง  คนพม่าเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เฉพาะชนชั้นหัวกะทิ  แต่สืบทอดมาถึงชาวบ้านร้านถิ่น     สาวลูกจ้างพม่าที่มาทำงานบ้านเพื่อนดิฉัน  สื่อสารกับนายด้วยภาษาอังกฤษ  เวลาถูกใช้ให้ไปซื้อของ ถ้าสินค้าพิมพ์ชื่ออังกฤษและคำอธิบายภาษาอังกฤษไว้ เธอซื้อได้ถูกต้อง เพราะอ่านฉลากได้คล่องกว่านายเสียอีก

แต่...
ความดีแค่นี้ก็เหมือนอังกฤษเอากุ้งฝอยมามอบให้ หลังจากเอาอวนกวาดปลากะพงไปหมดทะเลแล้ว      สิ่งสำคัญคือทรัพยากรของประเทศนั้นๆไม่ว่าในน้ำหรือบนดิน  ในปราสาทราชวังหรือตามเมืองตามหมู่บ้าน   โดนดูดไปเพิ่มความมั่งคั่งให้นายอย่างไม่อั้น    เหลือไว้แต่ความกระจอกงอกง่อยให้อยู่กันไป 
ของมันก็เห็นๆ   ในเมื่อเข้ามายึดประเทศได้ทั้งที   ก็ต้องเด็ดยอดกลับไปบ้านตัวเอง   ยอดยังไม่พอ ดอกใบทั้งหลายถูกรูดไปเกลี้ยง  เหลือรากฝอยเอาไว้ยืนต้นซังกะตาย  ไม่ถึงกับตายซาก       
หลักฐานที่ยืนยันได้คือถ้าชีวิตที่มีฝรั่งอยู่เป็นนายมันทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นแล้วไซร้  ประเทศอาณานิคมทั้งหลายคงไม่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาอิสรภาพคืนมา    ก็คงอยู่กันไปแบบนี้ดีกว่า 
เอาเข้าจริงเมื่ออังกฤษหมดความเป็นมหาอำนาจ  อาณานิคมทั้งหลายก็ขอเป็นไทแก่ตัวกันเป็นแถวๆ   ไม่เห็นมีชนชาติไหนเดินขบวนขอกลับไปอยู่กับเจ้าอาณานิคมเลยสักราย   แถมตอนเป็นอาณานิคมยังมีขบวนการกู้ชาติเกิดขึ้นประเทศโน้นบ้างประเทศนี้บ้าง ยอมตายยอมลำบากกันเพื่อเอาเอกราชคืนมา
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 244  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 14:22

(แทรกนิดเดียวคร้าบ)
.
.
อ้างถึง
มิได้เข้าสอบสวน แต่หมายจะส่งเสริม

Pyatthat พม่าอ่านว่า “เปี๊ยะตั๊ด” ไทยทางเหนือก็มี เรียกว่า "พญาธาตุ" ซึงมาจากคำว่า प्रासाद (ปรา-สะ-ดะ) ในภาษาสันสกฤต ไทยเรานำมาใช้ว่า "ปราสาท


ไชโย  ไชโย  ไชโย
รอดตัวไป ขอบคุณคร้าบ

ดังนั้นพญาธาตุจึงไม่ได้แปลว่าหอรบ ดังที่เรียกอาคารน้อยบนกำแพงเมืองของไทย แต่หมายถึงยอดปราสาทที่มีรูปทรงแหลมขึ้นไปสู่สวรรค์ ไทยเรียกส่วนสถาปัตยกรรมนี้ว่ากุฎาคาร ซึ่งเป็นของสูงใช้กับอาคารทางพระพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์เท่านั้น

พม่าเองใช้พญาธาตุในวัดก็เยอะ ในวังก็เยอะ แต่ผมงงว่าพม่าทำพญาธาตุไว้เยอะแยะบนกำแพงเมืองทำไม   คงเป็นเชิงสัญญลักษณ์ไม่จะทำไว้รับเสด็จเวลากษัตริย์มาทรงบัญชาการรบ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 245  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 15:20

อ้างถึง
กำลังจะประหมัดกับคุณประกอบอยู่ทีเดียว ว่าด้วยเรื่อง "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส..."


ขอเชิญท่านอาจารย์เทาชมพูเบิกโรงเรื่องพม่าดาค้อยท์เลยครับ ผมจะได้ตามด้วยรูปสนับสนุน

ตั้งตัวไม่ทัน ขอลาเข้าป่าไปตามรอยกองโจรดาค้อยท์กู้ชาติแห่งพม่าสัก 2-3 วันนะคะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 246  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 18:28

ระหว่างรอ ขอชวนทุกท่านเข้าไปรับบริการสปาแบบพม่ามัณฑเลย์กันหน่อย ใครจะรบจะอยู่หนูไม่เกี่ยว รับรองไม่อู้งานให้หงุดหงิด


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 247  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 18:34

^
เห็นแค้มป์ทหารริมกำแพงไหมครับ ภาพถ่ายจากสถานที่จริงที่อาบังทั้งหลายอยู่เป็นอย่างนี้


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 248  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 18:39

ไม่ทราบเหมือนกันว่า หลังฉากเสื่อไม้ไผ่สานนั่นเป็นอะไร ท่านผู้อ่านจะเดาเหมือนอย่างผมหรือเปล่าหนอ?
แหม ไปสร้างซะอยู่ใต้พญาธาตุเลย


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 249  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 21:28

อา....เจอแล้วครับว่าพญาธาตุมีความหมายในเชิงสัญญลักษณ์ ไม่ได้สร้างให้กษัตริย์เสด็จขึ้นไปจริงๆ

หนังสือของฝรั่งเล่มหนึ่งบอกว่า อังกฤษเมื่อเข้าไปครอบครองพระราชวังมัณฑเลย์แต่แรกได้ทำผิดอย่างแรงด้วยการนำศูนย์อำนวยการกลางของทำเนียบนายเบอนาร์ดข้าหลวงใหญ่อังกฤษไปตั้งอยู่บนกำแพงในพญาธาตุด้านทิศเหนือ ซึ่งมีหลังคาปราสาทเพียง๗ชั้น แทนที่จะไปตั้งอยู่ในท้องพระโรงหลวงอันเป็นที่ตั้งของสีหบัลลังก์ ซึ่งที่นั่นมียอดหลังคาปราสาท๙ชั้น

เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของพม่า แม้แต่เจ้าประเทศราชในรัฐฉาน พม่ายังยอมให้สร้างหลังคาปราสาททรงนี้ได้เพียง๗ชั้น มีแต่ผู้เป็นใหญ่สูงสุดในแผ่นดินเท่านั้นที่จะอยู่ภายใต้ยอดปราสาท๙ชั้น น้อยกว่านั้นถือว่าไม่ใช่

ในเมื่อพระตำหนักอันเป็นศูนย์กลางของจักรวาลซึ่งอยู่ภายใต้หลังคาปราสาท๙ชั้น มีปราสาท๗ชั้นอื่นๆล้อมรอบอยู่ทุกทิศานุทิศประดุจดาวล้อมเดือน ยังคงว่างอยู่ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเข้าไปครอบครอง จึงสร้างความคาดเดาให้แก่คนพม่าไปต่างๆนาๆว่า อังกฤษอาจจะรอสถาปนาผู้ใดผู้หนึ่งขึ้นมาเป็นกษัตริย์ก็ได้ และความคิดนึ้ก็ได้ปลุกกระตุ้นผู้นำกองกำลังติดอาวุธทั้งหลายให้มีความหวังที่จะกอบกู้ชาติ ขับไล่ฝรั่งออกไปเพื่อโอกาสที่ตนจะได้เข้าไปสถิตย์อยู่ในพระมหาปราสาท๙ชั้นองค์นั้นแทน

พม่าเป็นชาติที่เชื่อในโชคลางอะไรพวกนี้อย่างมาก ความผิดพลาดที่ไม่รู้ตัวของคนอังกฤษเองจึงสร้างสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าที่ควรขึ้นรอบๆเมืองหลวง จากกลุ่มพม่าที่อังกฤษนิยามว่าเป็นพวกดาค้อยต์


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 250  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 21:45

ท่านอาจารย์ใหญ่กว่า กดสัญญาณเปิดไฟเขียวให้แล้ว

ท่านที่ติดตามเรื่องนี้มาแต่แรกคงเห็นว่า อังกฤษได้แผ่นดินพระเจ้าสีป่ออย่างง่ายดายจนออกจะสะดวกเกินไปด้วยซ้ำ     แทบจะกลายเป็นว่าทหารอังกฤษยกพลมาปิคนิคมากกว่ามาสงคราม      ไม่ทันจะได้เหงื่อ  มัณฑเลย์ก็อยู่ในอุ้งมืออังกฤษอย่างง่ายดาย   
แต่...ด้วยเหตุนี้ มันก็มีคำว่าแต่ขึ้นมาจนได้

เพราะว่ากองทัพพม่าที่ออกไปตั้งรับพม่าแล้วแตกพ่ายหนีไปทัพแล้วทัพเล่า โดยไม่ทันจะสู้รบกันให้แหลกลาญกันไปข้างหนึ่ง  ไม่ได้แตกหนีไปเฉยๆ  แต่ถืออาวุธที่คลังอาวุธแจกจ่ายมา ติดมือไปด้วย
มัณฑเลย์อยู่ในอุ้งมือทหารอังกฤษก็จริง   แต่ออกไปข้างนอกเมือง   อย่างที่ท่านนวรัตนเกริ่นไว้ข้างบนนี้   พม่ายังมีเขี้ยวเล็บ  ไม่ปล่อยให้สิงโตอังกฤษมากลืนสิงห์พม่าได้ง่ายๆ       
พวกนี้ถือว่ามวยแพ้คนไม่แพ้ อย่างที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้

ดังนั้น  ดาค้อยท์หรือกองโจรพม่า อันได้แก่กองกำลังติดอาวุธ ก็กระจายไปทั่วทุกแห่งในพม่าใต้      รอโอกาสจะทิ่มแทงอังกฤษเท่าที่จะทำได้  เพื่อรอทีเอาแผ่นดินพม่ากลับมาเป็นของพม่าอีกครั้ง

ฉายหนังตัวอย่างไว้แค่นี้   กำลังแกะรอยตามพวกนี้เข้าป่าอยู่ค่ะ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 251  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 22:11

ไม่ทราบเหมือนกันว่า หลังฉากเสื่อไม้ไผ่สานนั่นเป็นอะไร ท่านผู้อ่านจะเดาเหมือนอย่างผมหรือเปล่าหนอ?
แหม ไปสร้างซะอยู่ใต้พญาธาตุเลย

ตากแดดฆ่าเชื้อ ?  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 252  เมื่อ 12 ม.ค. 13, 22:24

ไม่ทราบเหมือนกันว่า หลังฉากเสื่อไม้ไผ่สานนั่นเป็นอะไร ท่านผู้อ่านจะเดาเหมือนอย่างผมหรือเปล่าหนอ?
แหม ไปสร้างซะอยู่ใต้พญาธาตุเลย

สุขาอยู่หนใด?


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 253  เมื่อ 13 ม.ค. 13, 07:55

หลังจากเนรเทศพระเจ้าสีป่อไม่นาน กบฏพม่าดาคอยต์เปิดฉากยิงทหารอังกฤษในมัณฑเลย์นั่นเลย แต่ก็ใช้กลยุทธแบบกองโจรคือยิงแล้วเผ่น อาศัยความชำนาญในพื้นที่ ฝ่ายไล่ล่าจึงจะมักจะคว้าน้ำเหลว

ผู้ถ่ายภาพเป็นทหารโดยอาชีพ ได้บรรยายภาพไว้ว่า

“ ภาพนี้คงจะทำให้เข้าใจได้ดีว่าทำไมการปฏิบัติการทางทหารในการต่อสู้กับพวกดาคอนต์จึงยากลำบากในสภาพหญ้าสูงขนาดนี้ ระหว่างฤดูหนาวช่วงพฤศจิกายนไปถึงกุมภาพันธุ์ พวกมันจะโผล่ออกมาจากป่าหญ้าและโจมตี ถ้าถูกไล่ล่ามันก็จะยิงแค่สองสามนัดแล้วก็หายเข้าที่ซ่อน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามไปเอาตัวมันออกมา แม้ทหารม้าก็ยังไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงในการยุทธแบบนี้..”


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 254  เมื่อ 13 ม.ค. 13, 10:51

อ้าวแล้วกัน ผมลืมรูปสำคัญ เป็นรูปถ่ายท่านลอร์ดดรัฟฟรินนั่งเหนือพระราชอาส์นภายใต้สีหบัลลังก์ของพม่า ครั้งมาเหยียบเมืองมัณฑเลย์


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 34
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.09 วินาที กับ 20 คำสั่ง