เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 34
  พิมพ์  
อ่าน: 218777 “พม่ารบฝรั่ง” บทสุดท้ายของ “มาดูรูปพิธีกรรมสำเร็จโทษเจ้านายในพม่ากัน”
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 07:00

เอาละครับ ตกลง อาจารย์ก็อาจารย์
ว่าแล้วก็ฉายสไลด์ต่อ เชิญนักเรียนหลับตามสบาย

๒๘ พฤศจิกายน

๑๐โมงเช้า กองเรืออังกฤษก็มาถึงฝั่งแม่น้ำหน้าเมืองมัณฑเลย์แต่ทหารยังคงเตรียมพร้อมอยู่ในเรือ ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็พากันมาไทยมุงอย่างเฉยเมยเหมือนดูเขาเล่นหนังเล่นละครกัน ใครจะไปใครจะอยู่กูก็ไม่เกี่ยว  ก่อนหน้านี้มีพระราชโองการมาป่าวประกาศไม่ให้ผู้ใดต่อต้านขัดขืนกองทัพอังกฤษ ฉะนั้นฉากบู๊จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น


ช่วงนี้เหตุการณ์ภายในพระราชวังมัณฑเลย์เป็นอย่างไรบ้างครับ วุ่นวายหรือว่าเพิกเฉย หรือว่าพระนางศุภยลัตย์กำลังใช้อิทธิพลอยู่หรือไม่  ฮืม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 07:08

ใจเย็นนิดนึงครับ จวนถึงตอนนั้นแล้ว

๑๑โมง แม่ทัพอังกฤษให้คนเดินสาส์นถึงอัครมหาเสนาบดี ก็ขอเข้าเฝ้าเพื่อรับมอบพระองค์ของพระเจ้าสีป่อโดยพลันตามที่ทำความเข้าใจกันแล้วแต่วันวาน

เที่ยง มีสาส์นของขิ่นหวุ่น มินจีกลับมาแจ้งว่า ตนจะมาที่เรือธงของกองทัพอังกฤษเพื่อขอเจรจาปรึกษาความในรายละเอียด นายพลเพรนเดอกาสต์อ่านแล้วก็ไม่ว่ากระไร ชวนบรรดานายทหารร่วมโต๊ะเคี้ยว fish and chips ที่จุมโพ่ทำจากปลาคังสดๆตัวบะเริ่มตกได้ท้ายเรือต่อไปอย่างไร้อารมณ์

บ่ายโมง ทหารอังกฤษแต่งเครื่องแบบสนามประดับเครื่องยศและเหรียญตราเต็มพิกัดตามคำสั่งแม่ทัพทยอยยกพลขึ้นบก แล้วจัดแถวเดินสวนสนามไปสู่พระราชวัง ชาวเมืองก็ออกจากบ้านมายืนดูคล้ายกับมีเทศกาลอะไรสักอย่าง ครั้นถึงที่หมายตามแผนแล้วก็กระจายกำลังเข้าล้อมไว้ทั้ง๔ทิศ และระวังประตูวังทุกบานห้ามคนเข้าออก ตอนนี้ร.ป.ภ.ที่ฝังไว้ทั้งเป็นแต่ครั้งกระโน้นพร้อมใจกันลากิจหมด เพราะรู้ว่ามีแต่พวกพม่าด้วยกันเท่านั้นที่จะกลัว ฝรั่งกับแขกไม่กลัวพวกตน อยู่ไปก็เท่านั้น

พระนางศุภยาลัตได้ข่าวว่าทหารอังกฤษมาแล้วก็เสด็จขึ้นไปบนหอคอยของพระราชวังที่สร้างไว้ตรวจเหตุการณ์ภายนอก ครั้นเห็นทหารแขกตาโปนเคราเฟิ้มทั้งกองทัพก็ประชวรพระวาโยหลายตลบ เห..ไหง๋ใครว่าเป็นฝรั่งตาสีฟ้าหมด นี่เห็นอยู่กระหย่อมเดียว พอฟื้นขึ้นมาได้ก็รีบผันพระองค์ไปเก็บสมบัติ


บันทึกการเข้า
chounws
ชมพูพาน
***
ตอบ: 121



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 07:42

ใจเย็นนิดนึงครับ จวนถึงตอนนั้นแล้ว
ในฐานะของคนถ่ายภาพ ภาพเหล่านี้ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ช่วยยืนยันข้อเท็จจริงได้แน่นอนอย่างยิ่ง ขอบพระคุณที่เสาะหามาให้ชมกันครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 07:58

พระนางศุภยาลัตได้ข่าวว่าทหารอังกฤษมาแล้วก็เสด็จขึ้นไปบนหอคอยของพระราชวังที่สร้างไว้ตรวจเหตุการณ์ภายนอก

หอคอยเดิมถูกอังกฤษทิ้งระเบิดทำลายพร้อมพระราชวังมัณฑะเลย์ในสงครามโลกครั้งที่ ๒

ที่เห็นอยู่เป็นของที่พม่าสร้างขึ้นใหม่



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 08:03

ขอบคุณที่ช่วยเข้ามากันครับ เช้านี้ค่อยหายเหงาหน่อย

ความยุ่งยากของผมอยู่ที่การนำเสนอรูปแบบที่ไม่ใช่เรียงความ แต่หาภาพมาได้แล้วเอามาบรรยายประกอบ ดังนั้นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับภาพที่มีจึงต้องตัดออกบ้างหรือย่อให้สั้นๆ ยอมให้เสียข้อมูลและอรรถรสบ้าง มิฉะนั้นกระทู้จะเทอะทะมาก

แต่ข้อเสียคือช้าไปหน่อย เพราะผมตาเปียกตาแฉะต้องคัดรูป ทั้งอ่านทั้งแปลทั้งนั่งจิ้มพิมพ์ดีด วันนึงไปได้นิดเดียวเพราะมีภาระที่ต้องทำอย่างอื่นด้วย
ระหว่างที่ทิ้งช่วง เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ เอารูปมาประกอบอย่างข้างบน^ หรือซักถามย้อนเรื่องที่ผมข้ามๆไปกันบ้างก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 08:33

ได้รายละเอียดดีมาก

เคยอ่านของท่านคึกฤทธิ์  นานมาแล้ว ท่านเขียนชวนติดตาม
แต่พฤติกรรมในราชวงศ์พม่าสุดพึลึกพิลั่น

ดูการจัดกองทัพของพม่าไม่ได้เก่งกาจ
ต้องหวนคิดว่าทำไมเราถึงเสียกรุงศรีฯครั้งที่สอง?
บันทึกการเข้า
chounws
ชมพูพาน
***
ตอบ: 121



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 08:49

ขอบคุณที่ช่วยเข้ามากันครับ เช้านี้ค่อยหายเหงาหน่อย

ความยุ่งยากของผมอยู่ที่การนำเสนอรูปแบบที่ไม่ใช่เรียงความ แต่หาภาพมาได้แล้วเอามาบรรยายประกอบ ดังนั้นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับภาพที่มีจึงต้องตัดออกบ้างหรือย่อให้สั้นๆ ยอมให้เสียข้อมูลและอรรถรสบ้าง มิฉะนั้นกระทู้จะเทอะทะมาก

แต่ข้อเสียคือช้าไปหน่อย เพราะผมตาเปียกตาแฉะต้องคัดรูป ทั้งอ่านทั้งแปลทั้งนั่งจิ้มพิมพ์ดีด วันนึงไปได้นิดเดียวเพราะมีภาระที่ต้องทำอย่างอื่นด้วย
ระหว่างที่ทิ้งช่วง เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ เอารูปมาประกอบอย่างข้างบน^ หรือซักถามย้อนเรื่องที่ผมข้ามๆไปกันบ้างก็ได้ครับ

ถ้าเช่นนั้นขอบังอาจทำเป็นโฆษณาคั่นรายการให้ คุณนวรัตน์ฯ ได้พักเหนื่อยหน่อยนะครับ
ไปค้นหาด้วย อินทรเนตร (ชอบคำนี้จริงๆเลยขอยืมมานะครับ) ว่ากล้องถ่ายภาพในสมัยนั้นน่าจะเป็นแบบนี้

เป็นกล้อง Daguerreotype camera สร้างโดย La Maison Susse Frères in 1839, พร้อมเลนส์โดย Charles Chevalier


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 09:35

มายกมือถามซ้ำกับอาจารย์หมอ Visitna อีกคนค่ะ  
สงสัยตะหงิดๆตั้งแต่ตอนทหารอังกฤษเดินเรือเข้ามาอย่างสะดวกง่ายดายเหมือนไปปิคนิค   ผ่านเมืองไหน ทหารพม่าเมืองนั้นแค่เห็นก็หนีญะญ่ายพ่ายจะแจตั้งแต่อังกฤษยังไม่ทันกวักมือเรียกให้มาสู้กันด้วยซ้ำ


กองเรือรบได้ยาตราผ่านเมืองปาท่องโก๋ Pakokko ในวันที่๒๔ ข่าวว่าที่นั่นมีทหารจากมัณฑเลย์ประมาณ๑๐๐๐นายถูกส่งมารักษาการ แต่ทหารพวกนี้ก็หลบเอาตัวรอดไปแล้วในทันทีที่เห็นกองเรือขนาดมหึมาโผล่คุ้งน้ำเข้ามา บ่ายคล้อยของวันนั้นเองกองเรือก็เข้าสู่เขตเมืองสำคัญที่ตั้งควบคุมบริเวณที่แม่น้ำสำคัญสองสาย คืออิระวดีกับชินวินมาบรรจบกัน ชื่อว่าเมืองเมียงยาน รายงานของอังกฤษระบุว่าพม่าได้มาตั้งค่ายทหารรออยู่
เหตุผลอย่างหนึ่งที่คุณนวรัตนเคยให้ไว้ ในค.ห.ไหนจำไม่ได้ว่า ชาวบ้านพม่าไม่ได้มีความรู้สึกจงรักภักดีต่อพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัตอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน    เพราะฉะนั้นก็ไม่คิดจะลุกฮือขึ้นสู้อังกฤษ
แต่จากบันทึกฝรั่งที่ให้ไว้    การยึดพม่านั้นง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก   ทำให้นึกสงสัยจริงๆว่าวิญญาณทรหดของทหารพม่าสมัยอลองพญาและมังระ ที่ปักหลักล้อมกรุงศรีอยุธยาจนน้ำท่วมขนาดไหนก็ไม่ถอนทัพ  ล้อมอยู่เป็นปีๆ จนยิงปืนใหญ่เอาไฟสุมรากกำแพงจนพัง เข้ากรุงของเราได้     ความแข็งแกร่งของพวกนี้หายไปไหนกันหมด?

อ้อ  ยังสะดุดใจกับพวกดาค้อยท์ด้วยค่ะ  ขนาดเป็นกองโจรกระจัดกระจายกันไปไม่รวมเป็นทัพใหญ่  อังกฤษยังต้องปราบอีกตั้ง 3 ปี?
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 09:51

เหตุผลที่สองน่าจะเป็นคำสั่งของท่านนายกกวงที่ไม่ให้ทหารพม่ายิงทหารอังกฤษก่อน

อูควง เพิ่งเจอว่าพม่าให้อ่านออกเสียงว่าอูกวง ทำไงดี ผมล่ออูควงไปแล้ว ไหนๆก็ไหนๆขออูควงต่อแล้วกัน

บั้นปลายชีวิตของขิ่นหวุ่น มิงจีจบไม่ค่อยจะสวย เพราะคนพม่าส่วนหนึ่งจะเห็นว่าท่านขายชาติ ทั้งๆที่ท่านทำไปก็เพื่อจะสงวนรักษาชีวิตของเพื่อนร่วมชาติชาวพม่านั่นเอง
การกระทำที่เกิดข้อตำหนิมากที่สุดคือการที่ท่านให้ม้าเร็วไปแจ้งแม่ทัพที่รักษาด่านหน้าทั้งหมดไม่ให้ยิงก่อนทหารอังกฤษ เวลานั้นอังกฤษเคลื่อนขบวนเรือมาทางแม่น้ำอิระวดีแล้ว ราชสำนักได้ข่าวก็ตกใจ ในที่สุดก็ยอมฟังคำแนะนำของท่านสมุหนายกควง ให้ผ่อนหนักเป็นเบาให้มากที่สุด อย่าแข็งขืนต่อกองทัพอังกฤษ ใช้การทูตนำกองทัพด้วยการเจรจาอย่างเดียว

ท่านหวังว่า การที่พม่าไม่ยิงก่อนอาจทำให้สงครามไม่เกิด ที่ไหนได้ ฝรั่งง้างหมัดมาตั้งแต่ไกล พม่าตั้งการ์ดอยู่เฉยๆแต่ไม่ออกหมัด ฝรั่งไปเข้าใจว่าโง่เองก็ออกหมัดตูมเข้าไป พม่าก็หงายผลึ่ง ปืนของอังกฤษวิถียาวกว่าของพม่าอยู่แล้ว เข้าระยะยิงก่อนก็ต้องยิง ขืนช้าไปเข้าระยะยิงของปืนศัตรูเข้า แม้จะล้าสมัยกว่าแต่อาจมีลูกฟลุ๊กมาโดนให้เจ็บตัวได้

ดังนั้นจึงเกิดวลีพม่า เขียนด้วยอักษรโรมันว่า" U Kaung lein htouk, minzet pyouk " อูกวงเล่นท่วก มึนเสร็จอ้วก( ฮืม? ฮืม?) แปลเป็นอังกฤษว่า U Kaung's treachery, end of dynasty หรือถอดความเป็นไทยๆว่า “นายกทรยศ สูญหมดพระราชวงศ์”

เมื่อฝรั่งเข้ายึดครองพระราชวังมัณฑเลย์แบบผู้พิชิต ท่านผู้เฒ่าก็อุตส่าห์ไปเข้าแถวต้อนรับ และรับใช้ระบอบปกครองของอังกฤษในพม่ากับเขาด้วย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 10:19

ผมอ่านไปเขียนไปก็ยิ่งมีความรู้สึกว่า การที่พม่ารบอย่างไม่เอาจริงน่าจะมาจากคำสั่งของนายกกวง อัครมหาเสนาบดีขิ่นหวุ่น มิงจี ที่ไม่ให้ยิงอังกฤษก่อนอย่างที่เขียนไปแล้ว เพราะยังหวังการเจรจาทางการทูตมากกว่าชัยชนะทางการทหาร

เรื่องคำสั่งนี้ เป็นตราบาปของท่านผู้เฒ่าที่ล้างไม่ออก อ๊วกเสร็จแล้วก็คงยังไม่หายมึน ฮืม

ส่วนเลือดบ้าของพม่าในการรบนั้นคงมีอยู่แน่นอน จะเห็นได้จากการที่ทหารทั้งนั้นไม่ยอมมอบตัววางอาวุธต่ออังกฤษตามพระราชบัญชา แต่เลือกที่จะหนีไปพร้อมอาวุธไปทำสงครามกองโจร จริงอยู่ สมัยนั้นอาจจะไม่ได้มีหลักคิดในเรื่องเอกราชเหมือนสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่๒ แต่น่าจะประมาณว่าคล้ายตอนกรุงแตก คนไทยเองก็จับอาวุธแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ตั้งตัวเป็นใหญ่ไม่ขึ้นต่อกัน เผอิญในกรณีย์ของเราทัพพม่านั้นรีบถอยไปหมด เหลือกำลังมอญของสุกี้พระนายกองไว้รักษากรุงศรีหน่อยเดียว พอไม่มีศัตรูตัวสำคัญตรงนี้ เราเลยรบกันเอง เพื่อชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดินต่อไป

ดาค้อยท์ของพม่าก็เป็นเช่นนั้น มีคนชื่อประหลาดๆตั้งตนขึ้นมาเป็นกษัตริย์และรบกับกับอังกฤษ ซึ่งนวรัตนดอทซีพยายามจะแปลงชื่อประหลาดๆนั้นมาประกอบเรื่องและภาพต่อไป โปรดติดตาม


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 10:41

ปฏิบัติการยึดวังตอนนี้ นายพลเพรนเดอแกสต์มอบหน้าที่ให้นายพันเอกสลาเดนซึ่งมากับกองทัพในตำแหน่งนายทหารฝ่ายการเมือง ในฐานะที่เคยเป็นอัครราชทูตประจำกรุงมัณฑเลย์และคุ้นเคยกับพระราชวงศ์มาก่อน นายคนนี้รู้ทางหนีทีไล่ของพระราชวังอันกว้างใหญ่ไพศาลราวกับเมืองๆหนึ่งดี และได้ใช้ประตูด้านใต้ที่จะพากองทหารจำนวนหนึ่งตบเท้าเข้าไปพร้อมกับตน ซึ่งตอนนั้นเวลาล่วงเข้าไปบ่ายสามโมงแล้ว เมื่อไม่มีการต้านทานใดๆก็เลือกนายทหารที่จะไปด้วยกันไม่กี่คน ให้กรมวังพาเข้าสู่พระราชฐานชั้นในทางประตูหลักด้านตะวันออก ที่นั่น ขิ่นหวุ่น มิงจีอัครมหาเสนาบดีสวมเครื่องแบบเข้าเฝ้าเต็มยศตามราชประเพณีนั่งช้างมาถึง ทักทายเจรจากันหน่อยหนึ่งแล้วก็เข้าไปด้วยกันเพียงสองคนยังพระที่นั่งองค์สำคัญสำหรับออกขุนนางในภาพข้างล่าง ซึ่งบนนั้นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ยังถืออาวุธอยู่ประจำตำแหน่งโดยครบครัน


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 10:59

รอสักอึดใจเดียวพระเจ้าสีป่อก็เสด็จออกพร้อมพระนางศุภยาลัตและพระราชมารดาที่เสมือนเงาของพระนาง หลังอารัมภกถาแล้ว พระเจ้าสีป่อก็ทรงถอนพระทัย มอบพระราชอาณาจักรและยอมมอบพระองค์ต่อของกองทัพอังกฤษ แต่ทรงร้องขอเวลาสักวันสองวันที่จะเตรียมข้าวของ โดยจะยอมออกจากพระราชฐานส่วนพระองค์ไปประทับที่พระตำหนักฤดูร้อนในสวนหลวง ซึ่งนายพันเอกสลาเดนทูลตอบว่า แม่ทัพใหญ่คงจะไม่รบกวนพระยุคลบาทในคืนนี้ แต่พรุ่งนี้เช้าขอใต้ฝ่าละอองพระบาททรงพร้อมเมื่อนายพลเพรนเดอแกสต์จะมาเข้าเฝ้าด้วยตนเอง เพื่อรับมอบพระองค์ในฐานะเชลย


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 11:06

รอสักอึดใจเดียวพระเจ้าสีป่อก็เสด็จออกพร้อมพระนางศุภยาลัตและพระราชมารดาที่เสมือนเงาของพระนาง หลังอารัมภกถาแล้ว

จริงไหมที่พระเจ้าสีป่อ นั้นตกอยู่ในวงเวียนของโหรและคำทำนายต่าง ๆ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 11:22

เอ… ฝรั่งไม่ได้เขียนเรื่องนี้แฮะ
แต่คำทำนายของโหรที่ว่าเขียนไว้ก่อน หรือหลังเหตุการณ์ไปแล้วเล่า ? ที่บันทึกแบบ “กล่าวกันว่า..”นั้น เขียนที่หลังทั้งนั้น ยังไงๆก็ต้องแม่น

หลังทรงต่อรองได้อีกนิดหน่อย นายพันเอกสลาเดนก็กลับออกมาจากที่เข้าเฝ้าแล้วก็สั่งการให้ทหารอังกฤษตรึงกำลังรักษาการไว้อย่าให้เกินอาณาเขตพระที่นั่งท้องพระโรง  ห้ามเข้าไปยังเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ และให้เปิดประตูด้านทิศตะวันตกที่เป็นช่องทางเข้าออกของฝ่ายใน เพื่อให้เจ้าจอมหม่อมห้ามและผู้หญิงในวังรีบย้ายออกไปได้ก่อนที่ฝรั่งจะเข้าครอบครอง พร้อมกับกำชับให้ตรวจตราให้ดี อย่าให้ผู้ใดปลอมตัวเป็นหญิง เข้าออกผ่านจุดนั้นได้ ข่าวไม่แจ้งว่าบรรดากระเทียมทั้งหลายจะยอมให้ออกไปได้ด้วยหรือเปล่า

ผลลัพท์ก็คือ ในคืนนั้นสาวสรรกำนัลในบรรดามีในพระราชวังประมาณ๓๐๐คนเศษก็เรียกญาติโกโหติกาของตน เอาเฉพาะที่เป็นหญิงเข้ามาในวัง อ้างว่าจะมาช่วยท่านขนของ แต่บรรดาสรรพสิ่งที่หยิบฉวยได้ทุกอย่างในเขตพระราชฐานที่ประทับส่วนพระองค์ ไม่รู้ว่าของตนของหลวง ก็แย่งกันทึ้งแย่งกันขนออกจากวังไปทั้งคืน ฝรั่งไม่ได้เขียนว่า พระเจ้าสีป่อทอดพระเนตรเห็นแล้วก็ได้แต่ทำพระเนตรปริบๆดังที่คุณสยามหนุ่มสงสัยหรือเปล่า  แต่เช้าขึ้นมาแล้วปรากฏว่ามีนางในเพียง๑๗คนเท่านั้นที่ยังมั่นคงอยู่หน้าที่ต่อไปด้วยความจงรักภักดี ที่เหลือหายจ้อย

ภาพข้างล่างคือพระราชฐานส่วนพระองค์ของพระนางศุภยลัต ซึ่งอยู่เขตฝ่ายในเหมือนกัน พอฝรั่งเข้าไปแล้วพบว่าข้าวของทุกอย่างเกลี้ยงหมดก็บ่นเจ็บใจไม่น้อย พากันโทษสลาเดนที่ไม่น่าพลาดไปโง่ง่ายๆทำให้ขาดรายได้เข้ากระเป๋าไปแยะ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 11:28

เอาภาพถ่ายหอสังเกตุการณ์ในพระราชวังมัณฑเลย์มาให้คุณเพ็ญฯดูครับ สวยจริง ๆ มีสายไว้ชักรอกด้วย


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 34
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 20 คำสั่ง