เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 34
  พิมพ์  
อ่าน: 217983 “พม่ารบฝรั่ง” บทสุดท้ายของ “มาดูรูปพิธีกรรมสำเร็จโทษเจ้านายในพม่ากัน”
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 150  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 11:32

เอาภาพปืนใหญ่ขนาดจัมโบ้ไซส์ มาให้คุณ NAVARAT.C  ดูครับ ถูกทิ้งไว้ให้ปลวกมันเข้าทำรังเล่น


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 151  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 11:45

กระบอกเดียวกันหรือเปล่าหนอ



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 152  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 12:27

ในกระทู้เก่าของผมครั้งที่พันทิปมีคนถามคล้ายๆอย่างนี้ว่า เมื่ออังกฤษเข้ายึดวังแล้วที่ว่ามีคนพม่าจากในเมืองมารื้อค้นเอาพระราชสมบัติในวังไปเกือบหมดนั้น เชื่อได้หรือเปล่า ตอนนั้นผมไม่มีจดหมายเหตุของฝรั่งที่ใช้เขียนอยู่นี้ จึงบอกไปตามสามัญสำนึกว่า ฝรั่งสู้อุตส่าห์ลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลมาปล้นพม่า ได้วังอยู่ในกำมือแล้วมีหรือจะโง่ให้ขโมยกระจอกมือเปล่าๆบุกเข้ามาฉกฉวยสมบัติไปต่อหน้าต่อตา ปรากฏว่าฝรั่งโง่จริงแฮะและทำให้ผมพลอยโง่ไปด้วย

แต่เรื่องนี้ฝรั่งไม่ได้บันทึกไว้ว่าทรงทำพระเนตรปริบๆ แต่น่าจะพระเนตรค้างเพราะบอกว่าเช้าวันรุ่งขึ้นนายพันเอกสลาเดนที่นอนเฝ้าอยู่ในพระที่นั่งท้องพระโรงนั่นเองได้รับแจ้งจากมหาดเล็กประจำพระองค์ว่า ทรงเสียพระสติไปเลยที่เห็นหญิงชั้นต่ำจำนวนมากเดินขวักไขว่หยิบนั่นฉวยนี่โดยไม่เกรงกลัวพระองค์ และทรงคิดเลยเถิดไปเองว่าทหารอังกฤษจะบุกเข้าไปทำร้าย นายพันเอกสลาเดนจึงรีบเข้าเฝ้าและได้มีโอกาสตามเสด็จพระนางศุภยลัตและพระนางอเลนันดอพระมารดาไปยังพระราชฐานฝ่ายในส่วนพระองค์ ปรากฏว่าเพชรนิลจินดาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพระราชวงศ์ที่เก็บไว้ทั้งหมดยังอยู่ดี จึงเรียกนายทหารคนหนึ่งให้นำลูกน้อง๒๕นายมารักษาการ ตรงจุดนี้น่าจะเป็นช่วงที่หงามุก ทับทิมเม็ดงามคู่พระราชวังได้ถูกนำออกมาปรากฏแก่สายตาของสลาเดน ส่วนเรื่องจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามที่กระทู้ข้างๆ และอย่าลืมกลับไปอ่านที่ผมเขียนไว้แล้วในกระทู้พันทิป(ตอนไหนก็ลืมไปแล้ว อ่านไล่ไปทีละตอนก็แล้วกัน ถ้าตาลายหาไม่พบก็ให้ย้อนอ่านตอน๑ใหม่)

แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่ฝรั่งจะเขียนอย่างนั้นเพื่อออกตัว เพราะภาพที่เอาสมบัติพม่าในวังมาประมูลกันมันฟ้องว่าสมบัติมีมาก เพราะเอามาประมูลถูกๆแล้วยังมีรายได้เข้าหลวงแทบจะคุ้มทุน ดังนั้นไอ้ที่นินทาว่าน่าจะมีมากกว่านี้เยอะนั้น คนพม่าแห่กันมาขนเอาไปแล้วนะ ไม่ใช่พวกฉัน

นี่คือคิดแบบแผนซ้อนแผนพวกอังกฤษ เปลี่ยนโง่ให้เป็นฉลาด


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 153  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 12:36

ซึ่งตอนนั้นเวลาล่วงเข้าไปบ่ายสามโมงแล้ว เมื่อไม่มีการต้านทานใดๆก็เลือกนายทหารที่จะไปด้วยกันไม่กี่คน ให้กรมวังพาเข้าสู่พระราชฐานชั้นในทางประตูหลักด้านตะวันออก

ภาพทหารรักษาการณ์ที่ประตูพระราชวังด้านตะวันออกถ่ายเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๘ (ค.ศ. ๑๘๘๕) โดย Willoughby Wallace Hooper ตำแหน่งหัวหน้าสารวัตรทหาร (Provost Marshal) ของกองทัพอังกฤษ



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 154  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 13:19

^
ทหารรักษาวังของพม่า หมดสง่าราศีอย่างสิ้นเชิงเลยนะครับ

ข้างล่างคือภาพส่วนหนึ่งของฝ่ายใน เห็นตำหนักเจ้านายฝ่ายหญิงอยู่ภายในกำแพง รั้วไม้ที่เสริมขึ้นไปและบันไดที่เห็นน่าจะทำขึ้นทีหลังจากถูกยึดครองแล้ว


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 155  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 13:56

หลังจากนี้ พระเจ้าสีป่อกับพระมเหสีทั้งสองและพระมารดา ได้เสด็จจากพระราชฐานส่วนพระองค์(ล่างซ้าย)ออกไปยังพระตำหนักฤดูร้อนเล็กๆริมสระบัวมุมหนึ่งในพระราชอุทยาน(ล่างขวา) อังกฤษได้วางทหารรักษาการณ์ไว้โดยรอบสถานที่ซึ่งกษัตริย์พม่าและพระราชินีจะประทับเป็นนักโทษจนกว่าจะถึงกำหนดพีธีการมอบพระองค์อย่างเป็นทางการอันจะมีขึ้นในตอนบ่าย พระเจ้าสีป่อทรงบ่นอย่างขมขื่นที่อังกฤษไม่ยอมให้หมู่ข้าเฝ้าทั้งหลายมาอยู่เป็นเพื่อนพระองค์


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 156  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 14:15

หลังจากนี้ พระเจ้าสีป่อกับพระมเหสีทั้งสองและพระมารดา ได้เสด็จจากพระราชฐานส่วนพระองค์(ล่างซ้าย)ออกไปยังพระตำหนักฤดูร้อนเล็กๆริมสระบัวมุมหนึ่งในพระราชอุทยาน(ล่างขวา) อังกฤษได้วางทหารรักษาการณ์ไว้โดยรอบสถานที่ซึ่งกษัตริย์พม่าและพระราชินีจะประทับเป็นนักโทษจนกว่าจะถึงกำหนดพีธีการมอบพระองค์อย่างเป็นทางการอันจะมีขึ้นในตอนบ่าย พระเจ้าสีป่อทรงบ่นอย่างขมขื่นที่อังกฤษไม่ยอมให้หมู่ข้าเฝ้าทั้งหลายมาอยู่เป็นเพื่อนพระองค์

จากแผนผังพระราชวังมัณฑเลย์ ไม่ทราบว่าทรงไปพระราชอุทยานทิศไหน มีอยู่ ๒ ที่ตามที่วงไว้


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 157  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 14:21

เจอแล้วครับ สุดท้ายเป็นพระราชอุทยานด้านทิศใต้ซ้ายมือ (วงล่างครับ) ในแผนที่เขียนไว้เลยว่าเป็นที่คุมขังพระเจ้าธีป่อ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 158  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 14:27

^
โห เอาอย่างนั้นเลยนะท่าน นับถือ นับถือ

๑๐.๑๕น. ของวันที่๒๙พฤศจิกายน นั้นเอง นายพลเพรนเดอกาสต์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูใหญ่ของพระราชวังซึ่งอยู่ทิศตะวันออก พร้อมนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา และพร้อมกันเดินตบเท้าเข้าประตูสีชาด ซึ่งเป็นพระทวารเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 159  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 14:29

เวลา๑๓.๐๐น. เสนาบดีระดับมินจี๔นายได้ถูกส่งมาต้อนรับ และนำคณะนายทหารอังกฤษเข้าเฝ้าพระเจ้าสีป่อ ซึ่งประทับอยู่บนพื้นพระตำหนักโดยมีพระมเหสีทั้งสองอยู่เคียงข้าง ไม่พูดพล่ามทำเพลง นายพลเพรนเดอกาสต์ทูลให้พระองค์พร้อมเสด็จไปยังเรือกลไฟในบัดเดี๋ยวนั้น

(ดนตรี- เชิด)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 160  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 14:40

กองทัพอังกฤษเคลื่อนไปล้อมตำหนักพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัต แม่ทัพได้เชิญทั้งสองพระองค์ลงมาเบื้องล่าง พร้อมกับกล่าวว่า "You are under arrested" เท่านั้นเอง

พระเจ้าสีป่อทรงประทับนิ่งด้วยความตกพระทัย ส่วนพระนางศุภยาลัต ทรุดลงกับพื้น ตีอกชกหัว ร่ำไห้ พร่ำรำพันว่า ข้าเสียแผ่นดินไปแล้ว ข้าเสียไปแล้ว....

จาก พันทิป-พม่าเสียเมือง ฉบับ"คนพม่า"บันทึก

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 161  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 15:02

ส่วนพม่ารบฝรั่งของนวรัตนดอทซีขอดั้นเมฆบันทึกดังนี้

องค์สีป่อนั้นเล่า ทรงพยายามที่จะขอประวิงเวลาไปอีกสักเพลาหนึ่งแต่ถูกปฏิเสธกลับมาเสียงกร้าว ในที่สุดทรงจำยอมที่จะยันพระวรกายขึ้นและเสด็จพระราชดำเนินมาตามทางที่อังกฤษชี้นำอย่างช้าๆ ผ่านพระราชฐานองค์ใดก็หยุดทอดพระเนตรเป็นครั้งสุดท้ายอย่างอาลัยอาวรณ์ พระอัสสุชลไหลย้อยอาบพระพักตร์ ส่วนพระนางทั้งสามนั้นเล่า ก็มิได้ทรงหยุดที่จะกรรแสงกระซิกๆปิ่มว่าจะขาดใจน่าเวทนายิ่งนักแล้ว  เวรกรรมจริงแท้หนอที่วงศ์กษัตริย์ขัตติยาจะมาสิ้นแผ่นดินพุกามประเทศเอาในรัชสมัยของพระองค์

ครั้นมาถึงประตูพระราชวังอันเป็นที่สุดท้าย เมื่อแลเห็นพาหนะที่อังกฤษจัดไว้เพื่อการเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่หมายริมฝั่งมหานทีอิระวดีอันศักดิ์สิทธิ์ เสียงกรรแสงของพระนางก็ถูกกลบไปด้วยเสียงร้องไห้ระงมขึ้นมาของเหล่านางพระกำนัลที่พากันมาส่งเสด็จ

ฉันใดหนอ ทำไมฝรั่งเจ้าจึงต้องหยามพระเกียรติยศเกียรติศักดิ์ของพระเจ้าเหนือหัวแห่งพระราชอาณาจักรอันรุ่งเรืองเกรียงไกรในบูรพทิศอย่างเหลือเชื่อถึงเพียงนี้

นี่นี่ ดูดู๋ มันเล่นไปเช่าแทกซี่ของหม่องอูแจ้ลำนี้มาเลย อพิโธอพิถังเอ๋ย


(ดนตรี-โอด)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 162  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 15:12

^
จำได้ว่า ในระหว่างที่เชิญออกจากวังและไปขึ้นเรือนั้น อังกฤษให้ท่านเดินด้วยพระบาท แต่ท่านไม่ยอมจึงต้องหารถเทียมวัวกันให้วุ่นวายอยู่พักหนึ่ง จนหาระแทะได้ท่านจึงเสด็จขึ้นประทับ (พม่าเสียเมือง)
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 163  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 15:25

แหะ แหะ นั่น"พม่าเสียเมือง"นะน้อง ของพี่มัน"ฝรั่งได้เมือง"คนละเล่มกัน

เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าสีป่อได้เห็นบ้านเมืองของพระองค์หลังเสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นเวลาเจ็ดปีเศษมาแล้วที่พระองค์ทรงถูกพระมเหษีทั้งสองกับพระราชมารดากักตัวให้เสพย์สุขโลกียสุขอยู่ในพระราชวัง แต่ภาพที่พระองค์เห็นตลอดทางที่ผ่านไปนั้น คือใบหน้าที่เฉยเมยของชาวพม่า นอกจากข้าราชบริพารไม่กี่คนที่ตามมาส่งเสด็จโดยส่งเสียงร่ำไห้แทนเสียงแห่งโยธะวาฑิตแล้ว หามีผู้ใดแสดงกิริยาอาการโศกเศร้าในชะตากรรมของพระราชวงศ์ไม่


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 164  เมื่อ 08 ม.ค. 13, 15:33


^
^
ผมวัดในกูเกลแมปแล้ว จากประตูวังไปถึงริมแม่น้ำ เดินแบบลัดสั้นยังสามกิโลเมตรกว่า ถ้าให้เดินเท้าไปจริงๆ ดนตรีของผมสงสัยต้องให้บรรเลงเพลงพญาโศก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 34
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง