ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ประวัติศาสตร์ไทย
>
ตกลงว่า ประเพณีลอยกระทง ไม่ได้เกิดขึ้นสมัยสุโขทัยหรือครับ
หน้า:
1
2
[
3
]
4
5
...
7
พิมพ์
อ่าน: 20554
ตกลงว่า ประเพณีลอยกระทง ไม่ได้เกิดขึ้นสมัยสุโขทัยหรือครับ
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 30
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 11:57
สระน้ำในเมืองเก่าสุโขทัย
ไม่ขุดไว้ใช้ลอยกระทง
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 31
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 11:59
ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ไม่ใช่วงศ์สุโขทัย
แต่เป็นเชื้อวงศ์สุพรรณภูมิ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 32
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 12:01
ท้าวศรีจุฬาลักษณ์
(ต่อ)
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 33
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 12:02
หนังสือนางนพมาศ เจ้าฟ้ากุ้ง
ไม่มีเห่เรือ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 34
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 12:07
เห่เรือ และ เรือพระราชพิธี
มาจากไหน?
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 12532
ความคิดเห็นที่ 35
เมื่อ 08 พ.ย. 19, 18:20
ลอยกระทง - สารทจีน - เทวทีปาวลี
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=844.msg158584#msg158584
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
ตอบ: 329
ความคิดเห็นที่ 36
เมื่อ 09 พ.ย. 19, 19:05
อ้างจาก: SILA ที่ 08 พ.ย. 19, 12:02
หนังสือนางนพมาศ เจ้าฟ้ากุ้ง
ไม่มีเห่เรือ
สมัยอยุธยามีบันทึกถึงเห่เรือพระที่นั่ง และพิธีลอยกระทงแน่นอน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 37
เมื่อ 09 พ.ย. 19, 19:20
อ้างจาก: SILA ที่ 08 พ.ย. 19, 12:02
หนังสือนางนพมาศ เจ้าฟ้ากุ้ง
ไม่มีเห่เรือ
เอ แล้วถ้างั้นในกาพย์เห่เรือ ของเจ้าฟ้ากุ้งตอนนี้ พลพายเขาร้องอะไรกันคะ จะว่าร้องเพลงก็ไม่น่าจะใช่นะคะ
เรือครุธยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง
ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
บันทึกการเข้า
ศรีสรรเพชญ์
พาลี
ตอบ: 205
ความคิดเห็นที่ 38
เมื่อ 09 พ.ย. 19, 21:26
ในสมัยกรุงศรีอยุทธยา ลอยโคมประทีปทำด้วยกระกาษครับ
จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์บันทึกการชักโคมและลอยประทีปของชาวสยามไว้ว่า
"อนึ่ง ชาวสยามมีมหรสพเนื่องในการพระศาสนาด้วย ลุฤดูน้ำเริ่มลด ประชาชนพลเมืองจะแสดงความขอบคุณแม่คงคาด้วยการตามประทีปโคมไฟขนาดใหญ่ (ในแม่น้ำ) อยู่หลายคืน มิชั่วแต่แม่คงคาจะลดราถอยไปเท่านั้น ยังอำนวยให้พื้นดินที่จะทำการเพาะปลูกอุดมดีด้วย
เราจะได้เห็นทั้งลำแม่น้ำเต็มไปด้วยดวงประทีปลอยน้ำ (กระทง) ไปตามกระแสธาร มีขนาดใหญ่ย่อมต่างกันตามประสาทะของแต่ละคน และมีกระดาษสีต่างๆ ซึ่งประดิษฐ์คิดทำกันขึ้นประดับประดาเครื่องลอบประทีปนั้น เพิ่มให้แสงสีงดงามขึ้นอีก.
โดยนัยเดียวกัน เพื่อแสดงความขอบคุณต่อแม่พระธรณีที่อนุเคราะห์ให้เก็บเกี่ยวพืชพรรณธัญญาหารได้อย่างอุดมสมบูรณ์ในวันต้นๆ ของปีใหม่ ชาวสยามก็จะตามประทีปโคมไฟขึ้นอย่างมโหฬารอีกครั้งหนึ่ง"
ในจดหมายเหตุราชทูตลังกาเข้ามาขอพระสงฆ์สยามสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ระบุว่าในพระราชพิธีจองเปรียงมีการลอย "โคมกระดาษทำเป็นรูปดอกบัว" กับ "ดอกไม้น้ำ" ลงในแม่น้ำด้วย
"ตามบรรดาวัดริมฝั่งน้ำทั้ง ๒ ฟาก ทุกวัดต่างปักไม้ไผ่ลำยาวขึ้นเป็นเสา โน้มปลายลงมาผูกเชือกชักโคมต่างๆ (ครั้นได้เวลา) พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาเสด็จโดยกระบวนเรือพร้อมด้วยกรมพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ แลเจ้าพระยามหาอุปราช เรือที่เสด็จล้วนปิดทองมีกันยาดาดสีแลผูกม่าน ในลำเรือปักเชิงทองแลเงิน มีเทียนจุดตลอดลำ มีเรือข้าราชการล้วนแต่งประทีปแห่นำตามเสด็จด้วยเป็นอันมาก
แลในการพิธีนี้ ยังมีโคมกระดาษทำเป็นรูปดอกบัวสีแดงบ้าง สีขาวบ้าง มีเทียนจุดอยู่ในนั้น ปล่อยลงน้ำลงมาเป็นอันมาก จะนับจะประมาณมิได้ นอกจากลอยโคม ยังมีการจุดดอกไม้น้ำกันอีกเป็นอันมาก
และมีระบำดนตรีมาในเรือด้วย ต่อกระบวนเสด็จถึงเรือกระบวนผ้าแห่ไตรแลเครื่องบริขารเป็นของทรงพระราชอุทิศแก่พระสงฆ์ตามพระอารามในพระนคร แลพระอารามที่อยู่ตามริมแม่น้ำในการพระราชพิธีนี้
การพระราชพิธีที่พรรณนามานี้ ข้าราชการไทยอธิบายแก่ทูตานุทูตว่า เป็นราชประเพณีเคยทำมาในกรุงศรีอยุธยาแต่ดึกดำบรรพ์ ทำวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนพินระวัน ๑ วันกลางเดือนนั้นวัน ๑ วันแรมค่ำ ๑ วันแรม ๗ ค่ำ วันแรม ๘ ค่ำ แลวันต้นเดือนเมื่อพ้นแต่วสาแล้ว พระราชพิธีอันนี้ ทำเพื่อการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (ซึ่งบรรจุไว้ในพระจุฬามณีเจดีย์) ในดาวดึงสพิภพ แลบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งพระยานาคได้กราบทูลอัญเชิญสมเด็จพระพุทธองค์ให้ทรงประดิษฐานไว้เหนือหาดทรายฝั่งแม่น้ำนัมมานที
รุ่งขึ้น ณ วันพุธ ข้าราชการไทย ๒ คน
นำทั้งโคมบัวแลดอกไม้น้ำมายังที่พักทูตานุทูต
บอกว่าเป็นของพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาพระราชทานมาเพื่อให้ทูตานุทูตได้บำเพ็ญการกุศลในพระราชพิธีนั้นด้วย พวกทูตานุทูตจึงลงเรือไปกับข้าราชการไทย
ได้จุดโคมบัวลอยน้ำแลจุดดอกไม้น้ำซึ่งพระราชทานมา
ทั้งเมื่อวันพุธแลต่อไปในวันพฤหัสบดีแลวันศุกร์ รวม ๓ วัน"
จะเห็นได้ว่าในสมัยอยุทธยามีการลอยประทีปแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีช่วงปลายปีและลอยกันหลายวัน ไม่ได้ลอยวันเดียวเหมือนปัจจุบัน โดยในสมัยอยุทธยาตอนปลายประทีปมีลักษณะเป็นโคมกระดาษ จึงปรากฏในกฎมณเฑียรบาลเรียกว่า "ลอยโคม" เข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจากจีนที่มีการทำโคมรูปดอกบัวเหมือนกัน
ส่วนดอกไม้น้ำอาจจะลักษณะคล้ายกระทงดอกไม้ในสมัยหลัง พอถึงสมัยรัตนโกสินทร์เข้าใจว่าเปลี่ยนมาใช้ดอกบัวสด ปักเทียนบ้าง เย็บใบตอง ใบพลับพลึง ทำเป็นกระทงเจิมปักทูปเทียนดอกไม้ หรือทำเป็นเรือหยวกปักธูปเทียนดอกไม้ จึงปรากฏเรียกว่า "ลอยกระทง" สืบมาครับ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 39
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 10:57
สุจิตต์ วงษ์เทศ :
เห่เรือ มีครั้งแรก สมัย ร.4 กรุงรัตนโกสินทร์ กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง ยุคอยุธยา ไม่ใช้เห่เรือ
นสพ.มติชน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559
เห่เรือ ที่เข้าใจกันทุกวันนี้ หมายถึงขับลำนำเป็นทำนองอย่างหนึ่งในกระบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตรา
ทางชลมารค
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 40
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 10:59
กาพย์เห่เรือ
ไม่ใช้เห่เรือ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 41
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 11:00
ยุคอยุธยา ไม่พบเห่เรือพระที่นั่ง
เห่เรือ เมื่อจอดกลางน้ำ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
ตอบ: 6355
ความคิดเห็นที่ 42
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 11:08
โคลงทวาทศมาส
เห่ กล่อม
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Koratian
พาลี
ตอบ: 329
ความคิดเห็นที่ 43
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 16:06
อ้างจาก: SILA ที่ 10 พ.ย. 19, 11:00
ยุคอยุธยา ไม่พบเห่เรือพระที่นั่ง
เห่เรือ เมื่อจอดกลางน้ำ
ข้อความนี้ไม่ถูกต้องแน่ๆ ครับ
ในสมัยพระเจ้าปราสาททองมีเห่เรือพระที่นั่ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33416
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 44
เมื่อ 10 พ.ย. 19, 17:10
รู้สึกมั่วๆนะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า:
1
2
[
3
]
4
5
...
7
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.036 วินาที กับ 19 คำสั่ง
Loading...