เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 10195 ขอภาพบุคคลทั้งชาย และิงในชุดพระราชนิยม รัชกาลที่ ๖ ครับ ต้องการเป็นแบบในการจัดงานที่ วังส
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 26 พ.ย. 12, 21:02

พลตรี พระยาอนิรุทธเทวา (ม.ล.ฟื้น พึ่งบุญ)
คำอธิบายถึงเครื่องแบบของท่าน เห็นจะต้องพึ่งความรู้ของคุณ V_Mee ตามเคยค่ะ


บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 26 พ.ย. 12, 21:37

ภาพพระยาอนิรุทธเทวานั้น  ท่านแต่งเครื่แงแบบเต็มยศนายพันตรี นายทหารพิเศษกรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ จ.ป.ร.
ประดับสายราชองครักษ์โยงจากบ่าขวามาที่ดุมเม็ดต้น  หมายเป็นราชองครักษ์พิเศษในรัชกาลที่ ๖  โปรดังเกตว่า ในภาพนี้ท่านเจ้าคุณ
มิได้สะพายสายคันชีพ (สายกระเป๋ากระสุน) เฉียงบ่าซ้ายเหมือนนายทหารประจำการ  เพราะระเบียบในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้น
นายทหารพิเศษกรมรักษาพระองค์จะไม่สะพายสายคันชีพ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 06:26

จากหนังสือ การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์ รวบรวมโดยเอนก นาวิกมูล ในเรื่องทรงผมของผู้หญิงในรัชกาลที่๖


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 06:29

การแต่งกายและทรงผมของหญิงสามัญชนในหัวเมืองภาคใต้ ในวันสำคัญของเธอ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 09:44

    สมัยรัชกาลที่ ๖ เป็นต้นมา การแต่งกายแบบลำลองของชาย เปลี่ยนจากการนุ่งผ้าลอยชายมาเป็นนุ่งกางเกงแพรลายสีต่าง ๆ เรียกว่า “กางเกงจีน” ยังคงใส่เสื้อคอกลมผ้าขาวบาง ถ้าจะออกนอกบ้านก็จะสวมเสื้อทับอีกชั้นหนึ่งและสวมหมวกเพื่อเป็นการสุภาพ
           การแต่งกายของสตรีสมัยต้นรัชกาลที่ ๖ ยังคงนุ่งโจงกระเบน ใส่เสื้อระบายลูกไม้ ต่อมาเริ่มนุ่งซิ่นตามพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖ นิยมผ้าซิ่นลายเชิงงดงาม แบบเสื้อจึงเปลี่ยนไปเพื่อให้เหมาะสำหรับใส่เข้าชุดกับผ้าซิ่น สตรีสมัยนี้ยังคงสวมถุงน่องและรองเท้าส้นสูง แต่ถุงน่องไม่นิยมที่เป็นผ้าโปร่งมีลวดลายหรือปัดดิ้นอย่างแต่ก่อน หันไปนิยมถุงน่องเป็นสีพื้นธรรมดา ให้เข้ากับสีผ้าซิ่นหรือสีเสื้อแทน
           ทางด้านทรงผมในระยะแรก มีพระราชดำริให้สตรีในราชสำนักปล่อยผมยาวแบบตะวันตกแทนการไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม ต่อมาก็เกล้าผมยาวนั้นตลบไว้ที่ท้ายทอย เรียกว่า           ข้าง ๆ ตัด“ผมโป่ง” บางคนนิยมไว้ “ผมบ๊อบ” คือตัดผมยาวเสมอคอ ผมข้าง ๆ ตัดให้ดูเป็นจอนหู ถ้าจอนใหญ่มากเรียกว่า“บ๊อบหู” ในสมัยนี้นิยมใช้เครื่องประดับคาดที่ศีรษะ ผู้ริเริ่มคือ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระวรกัญญาปทาน

http://www.thaithai.thmy.com/index4.html


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 10:25

ผมสงสัยว่า "เหตุใดสตรีฝ่ายในราชสำนัก จึงหันมานุ่งซิ่น ?"  ฮืม เพราะถ้าย้อนลึกไปสตรีราชสำนักจะนุ่งโจง กับ นุ่งจีบหน้านาง (ทรงแบบผ้าถุง)
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 12:55

ผมสงสัยว่า "เหตุใดสตรีฝ่ายในราชสำนัก จึงหันมานุ่งซิ่น ?"  ฮืม


แม่พลอยว่า "ท่านทรงโปรด"  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 19:09

ภาพข้างล่างนี้คือแฟชั่นในยุค 1920s  ซึ่งตรงกับช่วงปลายรัชกาลที่ 6     
การนุ่งผ้าซิ่นสมัยรัชกาลที่ 6  คล้ายทรงกระโปรงตรงๆของผู้หญิงฝรั่ง  เป็นการนุ่งแบบครึ่งน่อง หรือยาวคลุมน่อง   แต่ไม่ยาวกรอมเท้าอย่างการนุ่งซิ่นของเจ้านายทางเหนือในสมัยรัชกาลที่ 5
จึงพอจะอนุมานได้ไหมว่า พระราชนิยมมาจากแนวแฟชั่นแบบตะวันตก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 27 พ.ย. 12, 19:09

แฟชั่นยุค 1920s



บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 28 พ.ย. 12, 06:46

เรื่องกางเกงที่เราเรียกกันว่า “กางเกงจีน” กันนั้น  มีพระบรมราชาธิบายในรัชกาลที่ ๖ พระราชทานแก่
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น  เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เมื่อวันที่  ๘  พฤษภาคม  ๒๔๕๔ ดังนี้ครับ

"เรื่องชื่อกางเกงนี้  ได้โจทย์กันขึ้นเมื่อไปทเลคราวที่แล้วมานี้เอง  เวลานั้นฃ้ากำลังแค้นเจ๊กด้วยเรื่องต่างๆ
จึ่งกล่าวติเตียนอยู่  มีใครก็จำไม่ได้กล่าวขึ้นว่าไทยเราควรฃอบใจเจ๊กอยู่อย่าง ๑  ที่เราได้เอากางเกงของเฃา
มาใช้นุ่งเปนของสบายนัก  ฃ้าจึ่งตอบว่าโบราณกาลจะเปนมาแล้วอย่างไรำม่ทราบ  บางทีไทยจะได้จำอย่าง
กางเกงมาจากจีนจริง  แต่ไทยเราได้เคยนุ่งกางเกงมาช้านานแล้ว  เมื่อเขมรมาเปนนาย  บังคับให้ไทยนุ่งผ้า
ยังนุ่งทับกางเกงเฃ้าไปอีกชั้น ๑  ดังปรากฏอยู่ในเครื่องต้นและเครื่องลครจนทุกวันนี้  และในปัตยุบันนี้
กางเกงที่เรียกว่า "กางเกงจีน" นั้น  ฃ้าไม่เห็นเจ๊กใช้เลย  เห็นแต่คนไทยนุ่ง  กางเกงที่เจ๊กใช้เห็นฃาแคบๆ
ทั้งนั้น  เพราะเมืองเฃาหนาวนุ่งกางเกงอย่างเราๆ นุงกันทนไม่ได้  ฃ้าจึ่งเห็นว่าางเกงที่พวกเราๆ ใช้นุ่งกันอยู่
กับบ้านควรจะเรียกว่า "กางเกงไทย" มากกว่า "กางเกงจีน"  กรมหลวงดำรงรับรองและยังมีคำอธิบายอีกชั้น ๑
ว่า "กางเกงไทยคือกางเกงที่ถลกฃาขึ้นมาปัสสาวะได้"  ซึ่งเปนเดฟินิชั่นที่ตลกๆ แต่ก็ตรงอยู่"
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 20 คำสั่ง