๕ พลโท พระยาวาสุเทพ (กูสตาฟ เชาว์-Gustav Schau)
ความคิดเห็นที่ 21
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ห้า เมื่อกัปตันเอมซ์เกษียณอายุไปแล้ว ได้ทรงว่าจ้างกัปตันกูสตาฟ เชาว์ (Captain Gustav Schau)ชาวเดนมาร์กมาเป็นผู้วางโครงการต่อเพื่อขยายกิจการของกองโปลิส และเขตรักษาการกว้างขวางออกไปเป็นลำดับ เพื่อให้คุ้มครองคนไทยทั่วไปได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งโรงพักพลตระเวนขึ้นในพระนคร นอกพระนคร และฟากกรุงธนบุรี รวมกันทั้งหมดถึง๖๔โรงพัก บางโรงพักก็ตั้งอยู่บนแพ มีหน้าที่ลาดตระเวนรักษาแม่น้ำลำคลอง เช่น โรงพักปากคลองสาน โรงพักปากคลองบางกอกใหญ่เป็นต้น
ในต่างจังหวัดก็มีจัดตั้งตำรวจภูธรขึ้นด้วยในรูปทหารโปลิสในปี พ.ศ.2419 ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมกองตระเวนหัวเมือง จนถึงปี พ.ศ.2440 ได้ตั้งเป็นกรมตำรวจภูธรขึ้นในสังกัดกระทรวงมหาดไทยแทน โดยมีนายพลตรี พระยาวาสุเทพ (กูสตาฟ เชาว์) เป็นเจ้ากรม ใช้กฎหมายเกณฑ์คนเข้าเป็นตำรวจเช่นเดียวกับทหาร
เมื่อถึงรัชกาลที่หก จึงโปรดเกล้าฯให้รวมกรมตำรวจภูธรกับกรมพลตระเวนเข้าเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า “กรมตำรวจภูธรและกรมพลตระเวน” สังกัดกระทรวงนครบาลเมื่อวันที่13 ตุลาคม พ.ศ.2458
กุสตาฟ เชาว์(Gustav Schau)จบโรงเรียนนายทหารของเดนมาร์กและมียศร้อยโท แต่เลือกเส้นทางชีวิตมุ่งหน้ามาหาอนาคตในสยามเมื่อพ.ศ.๒๔๑๘ โดยขอเข้าเฝ้าพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ทูลแนะนำตนเองขอสมัครเป็นนายทหาร พร้อมกับถวายประกาศนียบัตรให้ทอดพระเนตร จากรูปร่างที่สูงใหญ่ ผมบรอนซ์สีทองสง่างาม เสด็จนายกรมชอบพระทัยจึงทรงรับไว้ทันที และมอบหน้าที่เป็นครูฝึกทหารหน้า ที่วังสราญรมย์ ตามมาตรฐานยุโรป
พ.ศ.๒๔๑๙ เมื่อมีการปรับปรุงกิจการตำรวจ นอกจากได้ขยายงานกรมกองตระเวนนครบาลสมัยนายยาดีนเป็นอธิบดี ยังได้จัดตั้งกองทหารโปลิศ สามารถปฏิบัติการแบบทหารสำหรับเป็นกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในหัวเมือง โดยร้อยโทกุสตาฟ เชาว์ ได้ถูกมอบหมายให้เป็นผู้วางโครงการฝึก ผู้บังคับบัญชาส่วนมากก็โอนมาจากนายทหาร ต่อมาได้เปลี่ยน "กองทหารโปลิศ" เป็น "กรมกองตระเวนหัวเมือง"
กุสตาฟ เชาว์ได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก ยังคงเป็นนายทหารอยู่มิได้ย้ายไปไหน เมื่อพ.ศ.๒๔๓๒ได้นำทหารใต้บังคับบัญชา๓๐๐นาย สมทบกับทหารเรือ๔๐๐นายภายใต้บังคับบัญชาของกัปตันริชลิว นายทหารเรือสยามเชื้อชาติเดนมาร์กเช่นกัน เข้าปราบแก๊งค์อั้งยี่กวนเมืองที่ยกพวกตีกันเองแย่งเขตอิทธิพล แต่ทำความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านชาวเมืองจนไม่มีอันจะทำมาหากิน โดยปิดล้อมย่านสำเพ็งเข้ากระชับพื้นที่ จับตายพวกที่เข้าต่อสู้ และลากตัวพวกกวนเมืองไปพิจารณาโทษจนราบคาบ ได้รับความดีความชอบมาก