เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 8585 นกแสก นกฮูก และ นกทึดทือ
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 26 ต.ค. 12, 12:11


   ข่าวเบ็ดเตล็ด  จาก  หนังสือสยามไมตรี  รายสัปดาห์ หรือ  ศิริ ออบเซอร์เวอร์สัปตะมะวาร     

ซึ่งเก็บความมาจากหนังสือ      ออบเซอร์เวอร์

เริ่มพิมพ์ปี ร.ศ. ๑๑๓

เจ้าของคือ มิศเตอร์  ดับลิว. เอ. ยี.  ตีเลกี


        หนังสือสยามไมตรี  จัดว่าเป็นหนังสือข่าวที่หาอ่านยากมาก   นักสะสม/นักเขียนเรื่องเก่าก็ได้เห็น

เพียงฉบับสองฉบับ   ในปัจจุบันเข้าใจว่าห้องสมุดสำคัญ ๆ เก็บเอกสารไม่ให้บริการแล้ว  เนื่องจากกระดาษ

ชำรุดเปื่อย  จับก็ขาดคามือ     

         ดิฉันค้นหาข้อมูลบางประการในเรื่องสกุลใหญ่ของสยาม    ได้ข้อมูลจากหอจดหมายเหตุบ้าง   แต่รายละเอียด

ในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของเป้าหมายแทบหาไม่ได้เลย   มาเจอในสยามไมตรีหลายเรื่อง  เพราะสยามไมตรีออกอยู่หลายปี

        อ่านเจอเรื่องแปลก ๆ  หลายเรื่อง     จึงขอนำบางเรื่องมาฝากเพื่อน ๆ     

       
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 12:31



        เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของการวิ่งราวหมวกสุภาพบุรุษ  ที่เกิดขึ้นชุกชุม   เพราะหมวกจำนำได้ราคาดี

มีลูกค้าต้องการ  และเปลี่ยนมือเร็ว   หมวกสักหลาดสีดำ  น้ำตาล  เทา  ของนอกที่มีริบบิ้นคาด  ที่บอกขายอยู่ราคาใบละ  ๘ บาท

หมวกที่ทำจากใยสับปะรสก็มี   หมวกสานก็มี   แต่ยังไม่มีการเอ่ยถึงหมวกหางนกยูงเลย(ประดิษฐจากก้านแข็งของ

ขนหางนกยูง  สีขาวนวล   ดัดทรงได้ดี)


        การวิ่งราวนั้น  ตัวโจรโดยมากออกกระทำการคนเดียว     บางครั้งมีสองคน     คนแต่งตัวดีจะเป็นคนลงมือ

เพราะเหยื่อไม่ทันระวังตัว     โจรที่แต่งตัวมอซอจะยืนอยู่ห่างออกไป  เช่นหลังประตูวัดเป็นต้น   เมื่อฉกฉวยโฉบ

หมวกได้มาแล้ว   ก็กวดแหน่บมาทางที่ผู้ร่วมคิดคอยอยู่     โจรที่คอยก็จะรีบปิดประตูวัดทันทีที่เพื่อนร่วมทาง

ผ่านประตูวัดเข้ามา    เจ้าของหมวกที่ติดตามมาก็ไม่สามารถจะผ่านเข้าไปได้


       การวิ่งราวหมวกนั้น   ไม่ค่อยมีรายงานเรื่องจับผู้ร้ายได้  เพราะพลตระเวณมีจำนวนน้อย     ขนาดตัดจี้  หรือ

ง้างกำไลเท้าเด็ก  พลตระเวณก็ดูแลแทบไม่ไหวแล้ว     ยิ่งไปกว่านั้น  พลตระเวณยังต้องเผชิญกับอั้งยี่ที่เดินกันเป็นกลุ่ม


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 12:42



       รายงานของ สยามไมตรี  ดูจะมีสีสันอยู่ไม่น้อย     เพราะเรียกการโฉบหมวกจากผู้โดยสารรถว่า  นกแสกโจมตี

นกฮูกโจมตี       

        วิธีปฎิบัติการที่เลือกลูกค้าที่นั่งอยู่ในรถ  เป็น  วิธีปฎิการที่เชี่ยวชาญมาก   โดยมากรถกำลังอยู่บนสพาน  ถ้าเป็นเวลา

กลางคืนกลับจากดูหนังดูลคร  ผู้โดยสารก็เหนื่อยเพลีย   คนขับหรือคนลากก็มัวออกแรงบังคับรถอยู่  ไม่สามารถจะช่วยเหลือ

ผู้โดยสารของตนได้   แค่ช่วยร้อง ไอ้หยา  ไอ้หยา    ไอ้หยา  ก็น่าจะนับว่าเป็นการแสดงความเห็นใจที่พอเพียงแล้ว(กับค่าโดยสาร)

เรื่องคำอุทานซ้ำนั้น  สยามไมตรีเล่าไว้ค่ะ     คนนำมาเล่าต่อคิดเองไม่เป็นว่าควรจะร้องกี่ครั้งดี

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 13:24



        เรื่องนกแสก  นกฮูก  และนกทึดทือนี่    มีความหมายบางอย่างแฝงอยู่

คดีืีที่เกิดขึ้น  อ่านแล้วอดหัวเราะไม่ได้   เพราะนกแสกโฉบเฉี่ยวมา  แล้วหมวกก็หายไป

ผู้โดยสารนั้นจะมีผ้าคลุมปิดอยู่ด้านหน้า       รายงานบางชิ้นก็ลงรายละเอียดว่า

มีผ้าคลุมลายดอกไม้      ผู้โดยสารส่วนมากก็วิ่งตาม  แต่ไม่ทัน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 13:35



ขอนำเรื่องที่จำไว้มาเล่าพอครึกครื้นนะคะ

สยามไมตรี  ๑๔ มกราคม  ร.ศ. ๑๑๓

       เมื่อวันที่ ๗ มกราคม  เวลา  ๕ ทุ่มเศษ   นายสินนั่งรถมากับภรรยาจะกลับบ้าน

นายผันคนร้ายก็ลอบฉวยหมวกที่นายสินสรวม      นายสินก็นั่งงงอยู่     

ภรรยานายสิน(เสียดายมากที่ไม่ได้ลงชื่อ)    ก็กระชากไม้ถือจากสามี  วิ่งตามผู้ร้ายไป

ผู้ร้ายโชคร้ายมาก    อำแดงผู้นี้ก็ฟาดไม้ลงกลางศีรษะผู้ร้าน   แตกยาว ๔ นิ้ว  กว้าง ๑ เมล็ดข้าวเปลือก

ผู้ร้ายล้มลงแทบพื้นถนน (คุณนายเธอคงตวาดสุดเสียงด้วยล่ะ/คนเล่า)   

พลตระเวณซึ่งรักษาหน้าที่จึงตรงเข้าจับตัวอ้ายผันคนร้ายไว้ได้

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 13:42

"โจรขโมยหมวก" ในละครเรื่อง "สาวน้อย"



ตั้งแต่นาทีที่ ๗.๓๐ ถึงนาทีที่ ๑๐.๐๐ ข่าวใหญ่ขณะนั้นคือการฟอร์มรัฐบาล คาดว่าหลวงพิบูลจะได้ขึ้นเป็นนายก  ข่าวเล็กคือโจรขโมยหมวกอาละวาดแถวคลองหลอด

การโฉบหมวกไม่ใช้นกแสก นกฮูก แต่ใช้ตุ๊กแก

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 13:48


วันที่  ๑๔  มกราคม

        จีนเจียงเปิดร้านขายของที่สำเพ็งเวลาเช้า  ๑ โมงเศษ   อ้ายผ่องคนร้ายลอบเข้าไปขโมยผ้าห่มลายสกอต

ไปได้หนึ่งผืน  แล้ววิ่งไป         พลตระเวณจึงวิ่งไล่จับตัวไอ้ผ่องคนร้ายกับของกลาง   ส่งศาลแล้ว

(เรื่องคำว่า อ้าย  หรือ ไอ้เป็นธรรมเนียมเรียกผู้ต้องคดีค่ะ   ขนาดพระยาโดนถอดยศก็คือ  "อ้าย"  เหมือนกัน)


๑๙  มีนาคม
         ผู้ร้ายวิ่งหมวก  ติดคุกหนึ่งเดือน


นกฮูกเฉี่ยวหมวกข้าราชการที่อ่างศิลา


๒๑ พฤษภาคม
        นกแสก  ปฎิบัติการเชิงสพานวัดสุทัศน์


๔  มิถุนายน
        จีนบู๊เสียหมวก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 13:57



ขอบคุณค่ะ  คุณเพ็ญชมพูชูใจ


       ฮ่ะ ๆ   สมัยหนึ่ง  รัชกาลที่ ๖ กระมัง     สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์หนึ่งยืนสนทนาอยู่กับ

ข้าราชการสองสามคนแถวสนามหลวง       พระมาลาฝรั่งของเสด็จในกรมก็โดนเบ็ดเกี่ยวหายแว่บไป   ข้าราชการที่อยู่แถวนั้น

หายใจไม่ทั่วท้อง       เสด็จในกรมก็รับสั่งต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   แป้บเดียวก็มีเสียงวิ่งตึก...ตึกมา   พระมาลา

ของเสด็จในกรมก็กลับมาอย่างเรียบร้อย         คนที่วิ่งราวพึ่งจำเสด็จในกรมได้          พลทหารเรือนี้วิ่งได้เร็วจริง ๆ

        ใช้เบ็ดเกี่ยวค่ะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 14:02



๒  กค  จ.ศ. ๑๑๔            วิ่งราวในเรือ

๒๓  กค                        วิ่งราวหมวก

๒๗  สค                        วิ่งราวหมวกสาน

๑ กย                           ผู้หญิงวิ่งราวหมวก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 14:23



ชื่อนกที่ สยามไมตรีเรียกนักวิ่งราว  เป็นสัญลักษณ์ของนกที่หากินกลาางคืน

ไม่ใช่หัดนกให้เป็นนกจารกรรมค่ะ

นกแสกบินมาร้อง  "แสก....."   แว่บหายไป

นกฮูก  ร้องดัง  "ฮูก....ฮูก"     ตกใจแน่นอน  อะไรแว่บ ๆ มาข้างตัว

นกเค้าแมวร้องว่าอย่างไร   วันดีถามสหายหนุ่มน้อย ผมดกปกไหล่  ใบหน้าผ่องใสดังทองทาผู้หนึ่ง

ชายหนุ่มตอบว่า  "เมี้ยว ๆ"  ครับ

วันดี      "บ้านคุณหรือนกเค้าแมวร้อง เมี้ยวๆ"


       นกทึดทือ  นี้  หนังสือพิมพ์ใช้ในเรื่องเจ้านายชั้นผู้ใหญ่  และข้าราชการระดับอธิบดี  เพียงสองครั้งเท่านั้น

วันหนึ่ง  เสด็จในกรมองค์หนึ่งนั่งรถ   มีคุณหลวงนั่งตรงข้าม     นกทึดทือโจมตี   คุณหลวงผู้สังเกตอยู่แล้วป้องกันไว้ได้

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 14:32



๒๕  ​​กุมภาพันธ์  ร.ศ. ๑๑๔
        
        หมวกใยสับปะรด


๓  มิถุนายน  ร.ศ. ๑๑๔
      
        คนสรวมหมวกสาน  ยืนคอยขึ้นรถไออยู่เชิงสพานเหล็ก  คลองผดุง

ผู้ร้ายดึง   เจ้าของหมวกมีกำลังมากดึงหมวกไว้อยู่


๑๐  มีนาคม   ร.ศ. ๑๑๔
        
        เกิดเหตุริมถนนเฟื่องนคร   วิ่งราวหมวก


๒๖  พฤษภาคม   ร.ศ. ๑๑๕
        นายหึงเสียหมวก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 14:54



๙  มีนาคม ๑๑๕

       วิ่งหมวกที่ประตูวัดสามจีนบ่อย    พลตระเวณไม่พอกับงาน


๑๖  มีนาคม  ๑๑๕

        นายปุ่นเดินอยู่ผู้เดียวที่ถนนรอบกำแพงพระนคร  เสียหมวก


๕ เมษายน  ๑๑๖     สยามไมตรีโวยวายว่านกทึดทือบุกบ้านขุนหลวงพระไกรศรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลพระราชอาชญา

        งัดเข้ามาในบ้าน  กำลังจะแกะรูปภาพที่ผนัก สองรูปไป    บังเอิญทีเด็กหนุ่มนอนอยู่ในห้องรับแขก

จึงไม่เสียของ


๒๐ เมษายน    นายโชคเข้าตรอกวัดราชบูรณะ     โชคไม่ดีเสียหมวกไป

วันเดียวกัน    นายชุ่ม  แย่งหมวกกับคนร้าย    เสียสายนาฬิกาทองคำไปหลายร้อยบาท
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 15:09



สยามไมตรี  รายงานข่าวค่ะ       

อั้งยี่เกะกะมาก   นึกไม่ถึงว่ารายละเอียดจะมีมากถึงเพียงนี้   

ปล้นแบบไอ้เสือเอาวาไม่มี   แต่ร้องไอ้เสือถอยมี

อั้งยี่ให้สิทธิสตรีมาก  คือทำร้ายก่อนทำร้ายฝ่ายชายด้วยซ้ำไป

ปล้นแม่ค้าขายขนม  เหยียบเรือล่ม  ถ้วยขนมจมน้ำ  แม่ค้าขอค่าเสียหายนิดเดียว

ใครขายอะไรได้   อั้งยี่ปล้นหมดไม่เกี่ยง

หลอกเด็กผู้หญิงไปขายต่อที่ซ่องหรือสำนักโสเภณี

กระชากต่างหูเพชร  หูขาดทั้งสองข้างก็มี

ปล้นแล้วเผา
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 15:13



ฝากปัญหาไว้ข้อหนึ่งนะคะ

        นกทึดทือร้องว่าอย่างไร
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 26 ต.ค. 12, 18:46

ทึดทือ น. ชื่อนกในวงศ์ Strigidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับนกเค้า ตัวสีนํ้าตาล มีลายกระสีขาว ลําตัวด้านบนและปีกสีเข้มกว่าด้านท้อง ขนคิ้วยาว เห็นได้ชัด ตาสีเหลือง ขาไม่มีขน หากินในเวลากลางคืน ในประเทศ ไทยมี ๒ ชนิด คือทึดทือพันธุ์เหนือ (Ketupa zeylonensis) และ ทึดทือมลายู (K. ketupa).

ทึดทือพันธุ์เหนือ (Ketupa zeylonensis) ชื่อภาษาอังกฤษคือ Brown Fish Owl

คุณวันดีฟังเสียงร้องของมันได้จากคลิปนี้



 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 19 คำสั่ง