เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 11302 อำแดงเหมือนกับนายริด
นิลนนท์
มัจฉานุ
**
ตอบ: 58


 เมื่อ 13 ต.ค. 12, 09:28

เคยดูภาพยนตร์อำแดงเหมือนกับนายริดของคุณเชิด ทรงศรี เมื่อปีพ.ศ. 2537 มีความประทับใจมาก
ทาง thaiPBS ได้นำมาสร้างเป็นละครทีวี เพิ่งได้ดูเป็นครั้งแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา คิดว่ามีเรื่องราวในยุคนั้นน่าสนใจให้เรียนรู้ได้มากมาย อยากให้ผู้รู้ทั้งหลายช่วยนำเสนอด้วยครับ
บันทึกการเข้า
นิลนนท์
มัจฉานุ
**
ตอบ: 58


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 09:38

มีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่ลูกขุนตุลาการโรงศาล แลราษฎรในกรุงหัวเมืองให้ทราบทั่วกันว่า เมื่อวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๗ ค่ำ ปีฉลูสัปตศก๑๕ เสด็จออกหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ มีหญิงสาวคนหนึ่ง ทำเรื่องราวฎีกามาทูลเกล้า ฯ ถวาย ความในฎีกาดังนี้

ข้าพระพุทธเจ้าอำแดงเหมือนเป็นบุตรนายเกต อำแดงนุ่น อายุข้าพระพุทธเจ้าได้ ๒๑ ปี ตั้งบ้านเรือนอยู่บางม่วง แขวงเมืองนนทบุรี มีความทุกข์ร้อนขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายเรื่องราวให้ทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระราชอาญาเป็นล้นเกล้าฯ เดิมข้าพระพุทธเจ้ากับนายริดรักใคร่เป็นชู้กัน บิดามารดาข้าพระพุทธเจ้าหารู้ไม่ ครั้นอยู่มา ณ เดือน ๔ ปีชวดฉศก๑๔ นายภูให้เถ้าแก่มาขอข้าพระพุทธเจ้าต่อบิดามารดาข้าพระพุทธเจ้า บิดามารดาก็ยอมจะให้ข้าพระพุทธเจ้าเป็นภรรยานายภู ข้าพระพุทธเจ้ารู้ความว่า บิดามารดาจะยกข้าพระพุทธเจ้าให้เป็นภรรยานายภู ข้าพระพุทธเจ้าไม่ยอม บิดามารดาโกรธด่าว่าทุบตีข้าพระพุทธเจ้า

เพิ่งรู้ว่าเป็นชู้ในสมัยก่อนแตกต่างการการเป็นชู้ในสมัยนี้
อยากรู้ว่าในยุคนั้นอย่างไรจึงเรียกว่า รักใคร่เป็นชู้กัน
บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 10:11

รักใคร่เป็นชู้กัน ในสมัยก่อนผมว่าการเป็นชู้กันอาจจะเป็นการแอบคบหากันและมีความสัมพันธ์ทางเพศกันระหว่างชายหญิงโดยทั้งครู่ยังไม่ได้แต่งงานกันและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้
แต่สมัยนี้การเป็นชู้กันต้องมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 10:49

อภิธานศัพท์สมัยหมอบรัดเล ให้คำอธิบายเรื่อง ชู้ กับความหมายในปัจจุบัน "คู่รัก" ก็ถือว่าเป็นชู้กันแล้วครับ

เพลงน้อยไจยา มีท่อนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "จะเอาเป็นชู้หรือว่าเอาเป็นเมีย"


บันทึกการเข้า
Sujittra
พาลี
****
ตอบ: 326


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 11:06

ได้มีโอกาสดูเหมือนกันครับ เป็นโชคดีมากเพราะปกติจะไม่ค่อยได้เปิดดูทีวี แต่เมื่อได้เปิดดูและได้ดูละครเรื่องดังกล่าวด้วย

รู้สึกประทับใจทั้งการแต่งกาย ทั้งทรงผม(โดยเฉพาะทรงผมสตรีในเรื่องที่เหมือนรูปของท่านจริตในสมัยร.๔) ฉาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงที่ดูดีมีระดับ (ไม่ใช่เอาแต่หล่อสวยแต่แสดงเหมือนแสดงครั้งแรกตอนจะสอบเข้าเรียนการแสดงดังเช่นช่องอื่น)

ชอบคุณพระนนทบุรี ท่านตลาการ (ตามเรื่องเขาใช้ว่า ตลาการนะครับ มิได้พิมพ์ผิด) ใช่คุณสมภพหรือเปล่า?  แสดงดีมากครับ
บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 11:13

รักใคร่เป็นชู้กัน ในสมัยก่อนผมว่าการเป็นชู้กันอาจจะเป็นการแอบคบหากันและมีความสัมพันธ์ทางเพศกันระหว่างชายหญิงโดยทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกันและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้
แต่สมัยนี้การเป็นชู้กันต้องมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 14:30

การที่อำแดงเหมือน จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรมในการเลือกคู่ได้นั้น ถือเป็นความก้าวหน้าในด้านกฎหมายและสิทธิอันพึงมีพึงได้ของสตรีสมัยรัชกาลที่ ๔

นอกจากอำแดงเหมือนแล้ว ในยุคเดียวกัน "อำแดงจั่น" ก็ลุกขึ้นมาประกาศสิทธิอันชอบธรรมของตนเองเช่นกัน อำแดงจั่นลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเป็นร่างกายของตนเอง ต่อสู้กับการถูกขายเป็นทาส
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 14:49

แยกซอยเรื่อง อำแดงจั่น
อำแดงจั่นได้ทูลเกล้าถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   กล่าวโทษผัวชื่อนายเอี่ยม  ว่าลักเอาชื่อของตนไปขายให้เป็นทาสแก่ผู้อื่น โดยที่ตนมิได้รู้เห็นด้วย   พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงตัดสินว่า
"ผัวลักเอาชื่อภรรยาไปขาย ภรรยาไม่ได้รู้เห็นด้วจะเรียกว่าเป็นเรือนเบื้ยไม่ควร"

กฎหมายสมัยนั้นอนุญาตให้ผัวหรือพ่อแม่มีสิทธิที่จะเอาชื่อเมียหรือลูกใส่ลงในกรมธรรม์เพื่อขายให้แก่ผู้อื่นได้ โดยที่ลูกหรือเมียจะรู้หรือไม่รู้ก็ตามก็มีสิทธิ์ทำได้   เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ได้ทรงทราบหลักกฎหมายดังกล่าวแล้ว  ทรงมีพระราชดำริว่า
"กฎหมายนี้เมื่อพิเคราะห์ดูเหมือนผู้หญิงเปนความ ผู้ชายเปนคน หาเปนยุติธรรมไม่ ให้ยกเสีย"

คดีอำแดงจั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ถ้าผัวจะขายเมีย ให้พิจารณาดูฐานะของเมียก่อนโดยสามารถแยกออกเป็น 2 กรณี คือ
1. ถ้าเมียนั้นไม่ใช่ทาส ผัวจะขายได้ก็ต่อเมื่อเมียยินยอมให้ขาย และเมียจะต้องลงลายมือชื่อ หรือทำเครื่องหมายแกงไดลงในสารกรรม์นั้น และจะต้องมีพยานรู้เห็น การขายจึงมีผลผูกมัดตามกฎหมาย
2. ถ้าเป็นเมียทาส หรือเป็นทาสโดยทั่วไป จะเป็นไทแก่ตัวก็ต่อเมื่อผัว หรือนายเงิน ฉีกกรมธรรม์ยกค่าตัวให้ ถ้าตราบใดที่ผัวยังไม่ฉีกสารกรมธรรม์ทิ้งก็ยังอยู่ในฐานะทาส ผัวจะเอาชื่อของตนไปขายในราคาค่าตัวเดิม หรือหย่อนกว่าค่าตัวเดิมก็ได้ โดยผัวจะต้องมอบสารกรมธรรม์เก่าให้แก่นายเงินเพื่อซื้อตัวคนใหม่เป็นหลักฐาน แต่ถ้าผัวจะขายสูงกว่าค่าตัวเดิม เพียงแต่การมอบสารกรมธรรม์ให้แก่นายเงินคนใหม่ไปนั้นยังไม่เพียงพอ แต่ทาสจะต้องลงแกงไดยินยอมรับค่าตัวใหม่ด้วย ทั้งนี้เพราะการเพิ่มค่าตัวย่อมเป็นการเพิ่มภาระผูกพันของทาสให้มากขึ้น
3. กรณีบิดามารดาขายบุตร ถ้าลูกอายุต่ำกว่า 15 ปี และอยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่มีสิทธิขายได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมของลูก แต่ถ้าลูกอายุ 15 ปี ขึ้นไปแล้ว ต้องให้ลูกลงแกงไดยินยอมและต้องมีพยานรู้เห็น สัญญาซื้อขายจุึงจะสมบูรณ์ อีกประการหนึ่ง ถ้าพ่อแม่หย่าร้างกัน และลูกแยกไปอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง หรือญาติของอีกฝ่ายหนึ่ง พ่อหรือแม่จะลักเอาชื่อของลูกไปขายไม่ได้

http://www.learners.in.th/blogs/posts/257346
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 21:10

อำแดงเหมือน กับนายริด ตอนที่ ๑

http://clip.thaipbs.or.th/home.php?vid=2946&ap=flase

อำแดงเหมือน กับนายริด ตอนที่ ๒

http://clip.thaipbs.or.th/home.php?vid=2958&ap=flase


บันทึกการเข้า
นิลนนท์
มัจฉานุ
**
ตอบ: 58


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 22:51

ขอบคุณสำหรับ link ละครตอนที่ 1 ครับ (ได้ดูแต่ตอนที่ 2)


คดีอำแดงจั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ถ้าผัวจะขายเมีย ให้พิจารณาดูฐานะของเมียก่อนโดยสามารถแยกออกเป็น 2 กรณี คือ
1. ถ้าเมียนั้นไม่ใช่ทาส ผัวจะขายได้ก็ต่อเมื่อเมียยินยอมให้ขาย และเมียจะต้องลงลายมือชื่อ หรือทำเครื่องหมายแกงไดลงในสารกรรม์นั้น และจะต้องมีพยานรู้เห็น การขายจึงมีผลผูกมัดตามกฎหมาย
http://www.learners.in.th/blogs/posts/257346

     ตามพจนานุกรมแห่งราชบัณฑิตยสถาน
แกงได   น. รอยกากบาทหรือรอยขีดเขียน ซึ่งบุคคลทําไว้เป็นสําคัญ, ในทางกฎหมาย ถ้าทําลงในเอกสารโดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรอง ๒ คน หรือทําต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ถือเสมอกับลงลายมือชื่อ.
          ตามกฎหมายโบราณ แกงได หมายถึง รอยขีดเขียนที่บุคคลผู้นั้นได้ขีดเขียนไว้ในหนังสือสำคัญต่าง ๆ การขีดแกงไดมักใช้กับบุคคลผู้ไม่รู้หนังสือแทนการลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน การทำหนังสือสัญญากู้หนี้ยืมสิน การจำนำ การขายคนเป็นทาส การขายที่ดิน ต้องให้มีการลงลายมือหรือขีดแกงไดไว้เป็นพยานหลักฐาน


ประมวมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙
            เมื่อมีกิจการอันใดซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือบุคคลผู้จะต้องทำหนังสือ ไม่จำเป็นต้องเขียนเองแต่หนังสือนั้นต้องลงลายมือชื่อของ บุคคลนั้น
            ลายพิมพ์นิ้วมือ แกงได ตราประทับหรือเครื่องหมายอื่นทำนองเช่นว่านั้นที่ทำลงในเอกสารแทนการลงลายมือชื่อ หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้ด้วยสองคนแล้วให้ถือเสมอกับลงลายมือชื่อ
            ความใน วรรคสอง ไม่ให้ใช้บังคับแก่การลงลายพิมพ์นิ้วมือ แกงได ตราประทับหรือเครื่องหมายอื่นทำนองเช่นว่านั้นซึ่งทำลงในเอกสารที่ทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่
 
บันทึกการเข้า
นิลนนท์
มัจฉานุ
**
ตอบ: 58


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 13 ต.ค. 12, 23:07

หรือ รักใคร่เป็นชู้กันของอำแดงเหมือน เป็นเพียงบอกให้รู้ว่ารักใคร่เชิงชู้สาว อาจมีการแตะเนื้อต้องตัวโดยยังไม่เสียความบริสุทธิ์?
นึกถึงเพลงปลูกรักของครูเอื้อได้ว่า ฉันถนอมออมไว้ ชื่นชู้ชูใจมิให้หมางเมิน
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 14 ต.ค. 12, 21:43

เอาทะเบียนขายทาสมาให้ชม เดิมก่อนหน้านั้นทะเบียนขายทาสจะเป็นลักษณะข้อความสัญญาระหว่างกัน ภายหลังมีแบบฟอร์มขึ้นมาเพื่อที่จะให้มีความสะดวกในการไถ่ตัว สะดวกในการฟ้องร้องกันได้

ทั้งนี้การขายตัวเป็นทาส เกิดจากการขายตัวเพื่อใช้หนี้เป็นส่วนใหญ่ โดยทำสัญญาเพื่อขอเงินจากนายเงิน และยอมลดตนเองเป็นทาสรับใช้ในเรือน บ้างก็นำลูกเมียมาขายเพื่อเอาเงิน จึงมีสัญญาผูกขาดกันไว้ เมื่อหาเงินมาคืนนายเงินได้ก็หมดความเป็นทาสไป แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ "ลูกทาส" ซึ่งเกิดมาขณะแม่เป็นทาส สถานะของลูกก็ติดตัวเป็นทาสมาเลย


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 19 คำสั่ง