ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ปฏิทิน
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ประวัติศาสตร์ไทย
>
ขอถามเรื่องของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ หน่อยครับ
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 5441
ขอถามเรื่องของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ หน่อยครับ
inteera
อสุรผัด
ตอบ: 14
เมื่อ 26 ก.ย. 12, 19:15
พอดีเหตุบ้านการเมืองช่วงไม่กี่วันนี้ มีการกล่าวถึงเรื่อง อ.ปรีดี เสียสละเพื่อบ้านเมืองไม่กลับมาประเทศไทย
ใช่ครับ นี่เป็นสิ่งที่ผมได้เล่าเรียนมาสมัยเรียน หากแต่การโซเชียลเน็ตเวิร์คทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาไปเจออะไรที่ผมไม่เคยเจอในสมัยเรียน ผมจึงชักไม่ค่อยจะแน่ใจ เลยมาขอความรู้จากพวกพี่ ๆ น้า ๆ หน่อยครับ
สิ่งที่ผมได้ไปเห็นเขาถกเถียงกันคือ จริง ๆ แล้ว อ.ปรีดี อยากจะกลับบ้านแต่กลับไม่ได้ แล้วการกลับมาของ อ.ปรีดี ได้กำหนดแผนอะไรบางอย่างที่ใหญ่มาก ๆ
ผมอยากให้พี่ ๆ น้า ๆ ช่วยไขข้อกระจ่างหน่อยครับ ว่าจริงเท็จประการใดและช่วยขยายความด้วยจะขอบน้ำใจพวกท่านเป็นอย่างมากครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
ตอบ: 10932
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ 26 ก.ย. 12, 20:07
คุณinteeraอ่านเรื่องนี้หรือยัง ถ้ายังควรอ่านก่อน แล้วจะเข้าใจและไม่เข้าใจอะไรๆอีกมากมาย
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3438.0
บันทึกการเข้า
inteera
อสุรผัด
ตอบ: 14
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อ 27 ก.ย. 12, 19:02
ขอบคุณครับ ใช้เวลา 2 วันเต็มๆอ่านจนหมด ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย นั่งถามตัวเองว่า นี่สมัยเด็กๆ เราเรียนอะไรไปบ้างวะเนี่ย (ฮา)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 30797
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อ 27 ก.ย. 12, 19:55
ถ้าสนใจ มีอีกหลายกระทู้นะคะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3363.0
ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือคณะราษฎร์
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5194.0
กบฎบวรเดช นี่ทหารการเมืองเขาเล่นอะไรกัน?
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5236.0
คดีลอบสังหาร จอมพลป. : เงื่อนงำเบื้องหลัง ๑๘ ศพ
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
ตอบ: 1432
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อ 28 ก.ย. 12, 08:08
มีข้อสังเกตเพิ่มเติมในเรื่องตัวละครสำคัญในประวัติศาสตร์ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือ
ทั้งพระองค์เจ้าบวรเดช พระยาพหลพลพยุหดสนา หลวงพิบูลสงคราม ซึ่งต่อมาต่างก็เป็นคู่ขัดแย้งกันนั้น
ต่างก็เติบโตมาในเหล่าทหารปืนใหญ่ ซึ่งในสมัยก่อนถือกันว่าเป็นสุดยอดหัวกะทิของกองทัพด้วยกันทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 10773
ความคิดเห็นที่ 5
เมื่อ 28 ก.ย. 12, 08:54
สารคดี "ปรีดี พนมยงค์"
ผลิตโดย โครงการฉลอง ๑๐๐ ปี ชาตกาล นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส พ.ศ. ๒๕๔๓
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 10773
ความคิดเห็นที่ 6
เมื่อ 07 ต.ค. 12, 08:57
ในกระทู้นี้มีหนังสือที่น่าสนใจ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4778.0
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 10773
ความคิดเห็นที่ 7
เมื่อ 11 พ.ค. 17, 09:35
๑๑ พฤษภาคม วันปรีดี
ร่วมรำลึก
"รัฐบุรุษอาวุโส"
ปรีดี พนมยงค์ ทระนง ณ ธรณิน
คือใจอันไม่สิ้น แม้สิ้นใจไม่สิ้นจำ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
บันทึกการเข้า
superboy
ชมพูพาน
ตอบ: 106
ความคิดเห็นที่ 8
เมื่อ 13 พ.ค. 17, 22:15
จนถึงวันนี้ผมยังดองการอ่านเรื่องจอมพลป.กับท่านปรีดีไว้เลย
เหมือนกับเพชรพระอุมาที่อยากอ่านรอบ 2 แบบเก็บรายละเอียดมาก การเดินทางครั้งใหม่ของมณีจันทร์ก็ยัง เวลามันหายไปไหนหมดน้า....
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 10773
ความคิดเห็นที่ 9
เมื่อ 14 พ.ค. 17, 07:21
ฝากหนังสือให้คุณซูเปอร์บอยอ่านอีกเล่ม
ปรีดี บรรณานุสรณ์ ๒๕๖๐ หนังสือที่ระลึกในวันปรีดี พนมยงค์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
http://www.openbase.in.th/files/ebook/eBook-Pridibunnanusorn.pdf
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 30797
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 10
เมื่อ 17 พ.ค. 17, 10:53
ไปเจอเรื่องนี้เข้าใน facebook อยากจะถามคุณเพ็ญชมพูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ซามูไร อโยธยา
11 ชม. ·
นายปรีดี พนมยงค์ บีบคั้นในหลวงจนสละราชบัลลังก์ไปแล้ว พ่อและพรรคพวกทำอะไรกันต่อ
ยึดพระราชทรัพย์
การใช้อำนาจของรัฐบาลคณะราษฎรแทรกแซงกระบวนการของตุลาการ เรื่องมันมีอยู่ว่าอธิบดีศาลแพ่งพระสุทธิอรรถนฤมนตร์ (บุคคลในรูปนี้)ไม่ยอมรังแกในหลวงตามที่รัฐบาลมีความประสงค์ กล่าวคือเมื่อโอนพระคลังข้างที่มาอยู่กับกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งพ่อเป็นรัฐมนตรีการคลังอยู่! ก็ได้กล่าวหาว่าในหลวงและพระราชินี โอนเงินจากบัญชีทรัพย์สินฯ ไปใช้ส่วนตัวถึง ๑๐ รายการ รวมกว่า ๔,๑๙๕,๘๙๔.๘๙ บาท
นายปรีดี พนมยงค์ ในฐานะรมต.คลัง จึงส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๔๘๒ พร้อมกับขอคุ้มครองชั่วคราวแบบฉุกเฉิน โดยให้ศาลยึดหรืออายัดทรัพย์สินของทั้ง ๒ พระองค์ไว้ทั้งหมด โดยอ้างว่ามีการโอนที่ดินไปให้ผู้อื่น เมื่อรับฟ้องและคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแล้ว พระสุทธิอรรถนฤมนตร์(สุข เลขยานนท์) อธิบดีศาลแพ่ง
"มีคำสั่งให้ยกคำร้องของกระทรวงการคลัง"
๓ วันต่อมา นายปรีดี พนมยงค์ ก็ยื่นคำร้องอีก
แต่ศาลแพ่งก็ยังสั่งยกคำร้องอีก โดยให้เหตุผลว่า "...โจทก์มิให้นำบัญชีแม้แผ่นเดียว หรือหนังสือสั่งการของจำเลยที่ ๑ (สมเด็จพระปกเกล้าฯ) แม้แต่ชิ้นเดียวมาแสดง พยาน(ของโจทก์) ทั้ง ๒ ปาก ทราบข้อเท็จจริงมาได้ก็โดยการตรวจพบเอกสารต่าง ๆ จึงมีค่าเสมือนพยานบอกเล่า โจทก์หาได้นำพยานที่รู้เรื่องเดิมแม้แต่ปากเดียวมาสืบประกอบไม่..."
สรุปสั้นๆคือ นายปรีดี พนมยงค์ ไม่ได้เอาหลักฐานที่เป็นเอกสารไปให้ศาลเลยแม้แต่แผ่นเดียว พ่อเพียงเอาพยานสองคนไปแจ้งให้ศาลทราบเท่านั้น
ท่านอธิบดีศาลแพ่งพระสุทธิอรรถนฤมนตร์(สุข เลขยานนท์) จึงสั่งให้ยกคำร้องของพ่อ
พ่อโมโหมากพ่อเลยไปกระซิบให้ณ๊องปอฟัง จากนั้นไม่นานพระสุทธิอรรถนฤมนตร์ก็ถูกย้ายไปอยู่ศาลฎีกา
...และในอีกไม่กี่เดือนถัดมาก็ถูกให้ออกจากราชการ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.ธานินทร์ กรัยวิเชียร ยกตัวอย่างเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ "คุณธรรมและจริยธรรมของนักกฎหมาย" ไว้ว่า
"พระสุทธิอรรถฯ ถูกย้ายไปศาลฎีกาทั้งๆ ที่ท่านกำลังจะได้รับการพิจารณาความดีความชอบ ๒ ขั้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะผลงานของท่านในรอบปีที่ผ่านมาดีเด่น ท่านเป็นนักกฎหมายไทยคนแรกๆ ที่สำเร็จการศึกษาวิชากฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เมื่อท่านถูกย้ายไปศาลฎีกา ท่านก็ไปถามรัฐมนตรีฯ ว่า ทำไมท่านจึงถูกสั่งย้าย ท่านรัฐมนตรีฯตอบท่านว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องการเมือง ท่านจึงไม่ได้รับพิจารณาความดีความชอบ และไม่ช้าท่านก็ถูกปลดออกจากราชการด้วย
ในวงการศาลรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องนี้มาก กังวลกันว่า ต่อไปนี้นักการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงในคดีความของศาล ทำให้ศาลไม่มีความเป็นอิสระ จึงต้องหาทางร่วมกันแก้ไข เพราะในท้ายที่สุดผู้ที่จะเสียหายมากที่สุด ก็คือ ประชาชนผู้เป็นคู่ความในคดีกับรัฐนั่นเอง ต่อมา รัฐบาลชุดนั้นผ่านพ้นไป รัฐบาลชุดนายควง อภัยวงศ์ เข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ผู้เคยเป็นเสนาบดีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ กล่าวว่า ยินดีรับตำแหน่ง แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องให้พระสุทธิอรรถฯ กลับมาเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาตามเดิมต่อไป นายควง อภัยวงศ์ ตกลงรับเงื่อนไขดังกล่าว พระสุทธิอรรถฯ จึงได้กลับเข้ารับราชการตามเดิม หลังจากที่ออกไปเป็นทนายความอยู่พักหนึ่ง หลังจากรัฐบาลชุดนายควง อภัยวงศ์ พ้นตำแหน่ง ก็มีรัฐบาลชุด หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช เข้ามารับตำแหน่ง หม่อมราชวงศ์เสนีย์ฯ ซึ่งเคยเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มาก่อน ได้เชิญพระสุทธิอรรถฯ ไปเป็นรัฐมนตรีสั่งราชการกระทรวงการต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่า ในวงการศาลยุติธรรมของไทยนั้น มีการผนึกกำลังกันช่วยเหลือ และปกป้องดูแลคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมให้พ้นจากการกระทำที่ไม่ชอบ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกันในวิชาชีพที่ดี"
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
ตอบ: 10773
ความคิดเห็นที่ 11
เมื่อ 19 พ.ค. 17, 11:03
คุณเทาชมพูอาจหาข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ได้จากบทความ
คดียึดพระราชทรัพย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ โดย สุพจน์ แจ้งเร็ว นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับที่ ๒๗๒ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕
http://chatcha-mey.blogspot.com/2008/08/blog-post.html
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
ตอบ: 436
ทำงาน
ความคิดเห็นที่ 12
เมื่อ 20 พ.ค. 17, 12:47
ผมรู้สึกนะครับ เอาแค่ความรู้สึก
มันเหมือนกับ "ปล้น" เลยนะครับ
บ้านเมืองสืบทอดกันมาเป็นร้อยปี ทรัพย์สมบัติส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ
ปฏิวัติแล้วก็ยึดทรัพย์สมบัติเข้ากองกลาง
เปลี่ยนแผ่นดินที ทรัพย์ก็ต้องส่งต่อไปให้พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่อยู่แล้ว เป็นของแผ่นดินส่วนใหญ่อยู่แล้ว
ไม่ได้เป็นทรัพย์เฉพาะตัวทั้งหมดด้วยซ้ำ
รัชกาลที่ 7 ทำผิดสิ่งใด?
ผมเป็นคนรุ่นหลัง พอจะเข้าใจอุดมการณ์ของคณะราษฎร์แต่การปฏิบัติกลับเข้าใจไม่ได้เลย
ยุคของเหมา แก้งค์สี่คน ยุคของเขมรแดง คนธรรมดาไม่ได้ผิดอะไรแค่มีทรัพย์สินก็ถูกกระทำต่างๆนาๆเพียงเพราะอุดมการณ์ของความเท่าเทียม
ต้องการให้เท่าเทียมกันโดยการ "ปล้น" คนอื่นนี่นะเหรอเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรกระทำแก่กัน
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 20 คำสั่ง
Loading...