SILA
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 16:40
|
|
11) Countess de Toulouse-Lautrec (1881)
Henri de Toulouse-Lautrec (1864 - 1901) ศิลปินชาวฝรั่งเศสโพสท์อิมเพรชชั่นนิสม์ ร่วมสมัยแวน โก เจ้าของผลงานภาพวาดลายเส้นสีสรรพ์สดใสสะท้อนภาพชีวิตเริงราตรีในนครปารีส ช่วงเวลารอยต่อศตวรรษ 19-20 ที่เรียกว่า ‘belle epoque’ (beautiful era) ผลงานของเขาสร้าง ความประทับใจให้กับปิกัซโซ่ผู้ลือชื่อเป็นอย่างมาก
Dance at the Moulin Rouge
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 16:44
|
|
12) ลอเทรคเกิดในครอบครัวชั้นสูง เป็นลูกชายคนเดียว(น้องชายของเขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก) เมื่อพ่อแม่แยกทางกันลอเทร็คได้ไปอาศัยอยู่กับแม่ ตอนย่างเข้าวัยรุ่นอายุ 13-14 ปี เขาเริ่มออกอาการป่วยด้วยโรคทางพันธุกรรมมีปัญหา ในระบบกระดูกโครงสร้างส่งผลให้เขามีลำตัวเท่าผู้ใหญ่แต่ขาสั้นเหมือนเด็ก แม่พยายามเสาะหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อที่จะรักษาอาการเจ็บป่วย ของลูกผู้เป็นที่รักแต่ก็ไม่ได้ผล
อุปสรรคทางกายทำให้ลอเทรคไม่สามารถทำกิจกรรมเช่นเด็กชายวัยเดียวกันได้ เขาจึงทุ่มเท เวลาให้กับงานศิลปะที่เขารักและเติบโตขึ้นมาเป็นจิตรกรหนุ่มที่มีปมด้อย ย่าน Montmartre ในปารีสถิ่นที่ชุมนุมของนักคิดนักเขียน และศิลปินคือสถานที่โปรดที่ ดึงดูดให้เขาไปขลุกอยู่ที่นั่นใช้ชีวิตเริงราตรี จนส่งผลเสียต่อสุขภาพของเขา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 16:53
|
|
13) เมื่อลอเทรคมีอายุได้ 35 ปี เขาก็ป่วยด้วยโรคพิษสุราและมีอาการสมองเสื่อม ซึ่งน่าจะเป็นผลจากซิฟิลิส ในที่สุดแม่ต้องนำเขาเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลกักกัน
เขาเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 36 ปี โดยมีแม่และเพื่อนสนิทอยู่เคียงข้างรอบกาย พ่อผู้หายไปจากชีวิตของเขาเดินทางมาทันดูใจและได้ฟังเขากล่าวกับพ่อว่า "Good Papa, I knew you wouldn't miss the kill." แล้วก็พึมพำว่า "Old fool"
หลังการจากไปของเขา แม่ผู้รักลูกชายไม่คลายคลอนต้องการที่จะรักษา"ภาพ" (แห่งความทรงจำ)ของลูกชายให้คงอยู่และให้ผู้คนได้ร่วมชื่นชมในตัวลูกของแม่ ได้ร่วมกับ ผู้จัดการงานศิลป์ของเขาก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่อแสดงผลงานของลอเทรคที่บ้านเกิด
Self Portrait
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 16:59
|
|
14)
ลอเทรควาดรูปแม่โดยใช้สีอ่อน(แต่ยังคงเส้นสายฝีแปรงตะหวัดไว) ให้บรรยากาศ ยามเช้าที่สงบอบอุ่นสดใส แม่ที่นั่งเหลือบตาลงมองดูอาหารเช้าเบื้องหน้าแต่น่าจะกำลังครุ่นคิดเรื่องอื่นอยู่ แลดู เป็นผู้หญิงที่นิ่ง จริงจัง เป็นที่หวังที่พึ่งพิง คือ ผู้หญิงที่รักเขามากที่สุด ผู้รับภาระดูแลและพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาโรคทางกาย ของเขาแต่ก็ไม่สำเร็จ เช่นเดียวกับสภาพจิตใจของเขาซึ่งเป็นผลมาจากความพิการทางกายที่ ไม่อาจเยียวยาได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:03
|
|
15)
Jim brickman นักเพียโนร่วมงานกับ Mark Masri ถ่ายทอดความรู้สึกจากใจลูก ที่ได้รับความรักจากแม่เสมอมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่-
A Mother's Love
Thank you for watching over me All of the sleepless nights you lay awake Thank you for knowing when to hold me close When to let me go
Thank you for every stepping stone And for the path that always leads me home I thank you for the time you took To see the heart inside of me
You gave me the roots to start this life And then you gave me wings to fly And I learned to dream Because you believed in me
There's no power like it on this earth No treasure equal to its worth The gift of a mother's love
Thank you for every sunlit day That fill the corners of my memory Thank you for every selfless unsung deed I know you did for me
Thank you for giving me the choice To search my soul 'till I could find my voice And I thank you for teaching me To be strong enough to bend
I thank God for a mother's love
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:06
|
|
16)
Lady with Japanese Screen and Goldfish (1886)
โดย James Cadenhead (12 January 1858 – 22 January 1927)
ศิลปินวาดภาพทิวทัศน์และภาพพอร์เทรทชาวสก็อต เกิดที่อเบอร์ดีน เป็นลูกชายคนเดียว ของเจ้าหน้าที่สอบสวนการตาย เริ่มเรียนศิลปะในเมืองเกิด จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านศิลปะในเอดินเบรอะและปารีส แล้วกลับมาเป็นศิลปิน ในบ้านเกิดก่อนจะย้ายไปเอดินเบรอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:09
|
|
17) เขาวาดภาพแม่สวมชุดดำ ใบหน้าที่แลดูสงบเงียบขรึมก้มลงมองงานปักผ้า "รูปร่าง"แม่ตัดกับส่วนอื่นของภาพที่มีสีสรรพ์สดใสสว่าง ทั้งเบื้องหน้าที่มีปลาทองในโหล ช่อแดฟโฟดิลปักแจกัน เส้นไหมสีสดบนโต๊ะที่คลุมด้วยผ้าปูลายดอกบนพื้นสีนวล ส่วนเบื้องหลังเป็นฉากญี่ปุ่นสีทองสว่างที่ขัดขับกับร่างแม่ในชุดดำ และนาฬิกา ตั้งพื้นที่อยู่ในเงามืดด้านหลัง ได้เป็นภาพที่จัดองค์ประกอบได้สมดุลและขัดแย้งแสงสี อย่างงดงามและแยบยล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:12
|
|
18) ลูกชายของแม่ ได้รับความรักความเอาใจใส่จากแม่มาแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากนี้ไปลูกจะเป็นความ(สม)หวังให้ได้ดังที่แม่ได้ตั้งใจสั่งสอนลูกไว้
Barry manilow กับเพลง I Am Your Child (And I am your chance)
I am your child Wherever you go You take me too Whatever I know I learned from you
Whatever I do You taught me to do I am your child
And I am your chance Whatever will come Will come from me Tomorrow is won By winning me
Whatever I am You taught me to be I am your hope I am your chance I am your child
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:20
|
|
19) ภาพแม่โดยศิลปินแนวโพสท์อิมเพรชชั่นนิสม์ผู้โด่งดังหลังจากเสียชีวิต
Portrait of the Artist's Mother (1888)
ภาพแม่ของแวน โก Van Gogh (30 March 1853 – 29 July 1890) นี้ ศิลปินลูกชายวาดขึ้นในปี 1888 จากภาพถ่ายขาวดำ
(เว็บบีบีซีบอกว่า อังกฤษออกเสียงเป็น แวน กอฟ หรือ โก ในขณะที่คนดัทช์ออกเสียงว่า วัน ก็อก และแนะนำให้ออกเสียงแบบผสมยอมประนอมประนีระหว่างสองแบบว่า แวน ก็อก*) ศิลปินลูกชายวาดขึ้นในปี 1888 จากภาพถ่ายขาวดำ
แม่ของแวน โก Anna Cornelia Carbentus เป็นแม่บ้านผู้มีใจใฝ่ในงานศิลปะ- เป็นศิลปินสมัครเล่น ผู้ที่นอกจากจะเบิกโลกใบนี้ให้แก่ลูกแล้วแม่ยังเป็นผู้เปิดโลกศิลปะให้กับลูกๆ ของแม่ซึ่งรวมถึงแวน โกด้วย แวน โกมักจะวาดรูปที่คิดว่าแม่พึงพอใจที่สุด ได้แก่ รูปดอกไม้ และ ธรรมชาติ แวน โก ในวัยเยาว์เป็นเด็กอารมณ์แปรปรวน เขาบอกน้องชายว่า ตัวเขาคือคนที่ปลุกปลอบ แม่ให้สบายใจและในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีค่าพอที่จะได้รับการปลอบประโลมจากแม่เช่นกัน
Self Portrait
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:23
|
|
20) แม่มีอายุยืนยาวนานกว่าสามีและลูกชายสามคนของแม่ แต่ยังคงมีกำลังกายและใจ อันเข้มแข็งที่จะก้าวผ่านความโศกเศร้าเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่านี้ไปได้
แวน โก วาดภาพแม่ของเขาเป็นหญิงชนชั้นกลางหน้าตาดูใจดีและทรงความภาคภูมิ น่านับถือ
ในจดหมายที่เขาเขียนถึงน้องชาย แวน โกบอกว่าเขาทนรูปถ่ายขาวดำของแม่ที่ไร้สีสัน ไม่ได้ จึงวาดรูปแม่ขึ้นมาโดยใช้สีประสานกลมกลืนกันดั่งเช่นที่เขาเห็นภาพแม่ในความทรงจำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:26
|
|
21)
บทความโดย Anthony Sapienza ในแม็กซีน Seventh Hour Blues วิเคราะห์การวาดภาพแม่จากรูปถ่ายของแม่โดยทำการการเจือจางสีภาพวาดจนกระทั่งในที่สุด ได้รูปจากภาพวาดและภาพถ่ายที่ตรงกันราวกับเป็นหนึ่งภาพเดียวกัน จนเกิดการตั้งข้อสันนิษฐานว่า แวน โก อาจจะใช้เทคนิคทางทัศนศาสตร์ซึ่งอาจจะเป็นเลนส์ หรือกล้องที่เรียกว่า camera obscura หรือ camera lucida ในการถ่ายทอดรูปถ่ายของแม่มาสู่รูปวาด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:28
|
|
22) Camera Lucida
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:28
|
|
23)
Camera Obscura
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:32
|
|
24)
นอกจากนี้แวน โก ยังวาดภาพแม่และน้องสาวจากความทรงจำในสวนที่ Etten และ นำไปแขวนไว้ในห้องนอนด้วย
Memory of the Garden at Etten (Ladies of Arles), 1888
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 17 ก.ย. 12, 17:35
|
|
25)
เพลง Mother Of Mine โดย Neil Reid
เด็กน้อยชาวอังกฤษผู้ชนะจากรายการโทรทัศน์ Opportunity Knocks ในเดือนธันวาคม ปี 1971 จากการร้องเพลงนี้ที่ปีต่อมาเมื่อนำไปบันทึกเสียงก็ได้รับความนิยมติดชาร์ทในอังกฤษแล้ว ข้ามไปฮิทในประเทศอื่นๆ รวมทั้งบ้านเราโดยไม่ยาก ด้วยเสียงใสๆ ของหนูน้อยที่น่ารักและด้วย เนื้อหาง่ายๆ ฟังดูจริงใจใสบริสุทธิ์แบบเด็กๆ ทุกสิ่งมีวันเปลี่ยนผันสิ้นสุด สองปีต่อมานีลก็ต้องอำลาวงการนักร้องอาชีพเมื่อเสียงของเขาแตก
(เพลงนี้ยังมีอีกเวอร์ชันฮิทจากเสียงร้องโดยน้องคนเล็กของวง The Osmonds - Jimmy Osmond)
http://www.youtube.com/watch?v=ziPuQF8Xojo
Mother of mine you gave to me, All of my life to do as I plead, I owe everything I have to you, Mother sweet Mother of mine.
Mother of mine when I was young You showed me the right way things had to be done, Without your arms where would I be, Mother sweet Mother of mine.
Mother you gave me happiness, Much more than words can say, I thank the lord let me breath with you, Every night and every day.
Mother of mine now I am grown And I can walk straight all on my own, I'd like to give you what you gave to me, Mother sweet Mother of mine.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|