รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว

[nathanielnong]

Nat King Cole ที่นักฟังเพลงฯ รู้จักในฐานะนักร้อง golden oldies  มีลูกสาวที่เป็นนักร้องเพลง R&B ที่ดังระดับโลกคนหนึ่งชื่อ  Natalie Cole  เธอเริ่มอาชีพระดับชาติในปี 1975  เป็นช่วงเวลาที่หูผมติดกาวแนบกับลำโพงวิทยุอย่างเหนียวแน่น  ผมจึงได้ยินเพลง (ดัง) ของเธอทุกเพลง  เธอเริ่มต้นด้วยเพลงเพราะสุดใจเพลงนี้



เพลงแผ่นเสียงทองคำแผ่นที่สองของเธอ  เพราะจริง ๆ



นี่คือเพลงโปรดของบรรดาดีเจวิทยุ  เปิดจนกลายเป็นเพลงโหล



ปี 1988 หมดยุค Disco ไปแล้ว  กลายเป็น dance music  พูดง่าย ๆ คือเหล้าเก่าในขวดใหม่  ช่วงนั้นผมยังเข้าบาร์ฯ อยู่ (เข้าไปดิ้นเพราะผมไม่กินเหล้า) แต่ไม่ถี่เหมือนก่อน  เพลงนี้ของเธอมาดังที่นี่



อีกหนึ่งเพลง ballad ของเธอที่วิทยุบ้านเราไม่ลืมที่จะเปิด



ในปี 1991 NC กลับมาสร้างข่าวครึกโครมด้วยการร้องเพลงคู่กับพ่อของเธอในเพลง Unforgettable  ที่เป็นข่าวเพราะว่าเพลงนี้ต้นฉบับร้องโดยพ่อของเธอซึ่งอัดไว้ในปี 1951  ตอนนั้นเธอเพิ่งอายุ 1 ขวบ  เธอนำเทคโนโลยีการอัดเสียงมาสร้างเป็นเพลงคู่ออกมา  ผลคือความฮือฮาระดับแผ่นเสียงทองคำ  album ของเธอกวาดรางวัลจนอุ้มกลับบ้านแทบไม่ไหว  นับเป็นจุดสูงสุดในอาชีพนักร้องของเธอ

[nathanielnong]

เพลง Everlasting love นี้  ได้ยินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงตอนโต  ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพลงโปรดของเหล่าดีเจ  เปิดได้ไม่มีเบื่อ  คนฟังก็ฟังจนจำได้ขึ้นใจแต่จะเบื่อหรือเปล่าดีเจไม่สน  จนกระทั่งมีปูมเพลงของ Joel Whitburn แล้ว  ถึงได้รู้ว่าเพลงนี้ไม่ได้มีคนร้องแล้วดังเพียงคนเดียว

ต้นฉบับออกกระจายเสียงในปี 1967  ที่บอกว่าได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็คือนักร้องคนนี้



มายุคต้น 70s เพลงนี้ก็โผล่มาอีก  ทำนองคล้ายกันดิก  แต่ถ้าสังเกตดี ๆ มีกลิ่นอาย disco  ผมถึงคิดว่าเป็นเพลงอมตะของเหล่าดีเจ  ระดมเปิดกันมาร่วม 10 ปี

[nathanielnong]

วง Sweet sensation เป็นวงลูกผสม (มีผิวขาว 1 คน  ผมเพิ่งมารู้ตอน อตน. เกิดนี่แหละ  ตอนนั้นไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านักร้องนำเป็นผู้หญิงหรือชาย  ในวัยสิบกว่าขวบ  ผมแยกเสียงไม่ออก) เชื้อชาติอังกฤษ  ในปี 1974 วงนี้ปล่อยเพลงดังมาออกอากาศที่บ้านเราด้วยเพลงนี้  เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของผม  ช่วงนั้นไม่ต้องหมุนคลื่นหาเลย  เดี๋ยวก็มีออกมาจากรายการโน้นรายการนี้


(มองย้อนกลับไปแล้ว เป็นโชว์ที่เชยสุด ๆ (เอิ๊ก ๆ)  กางเกงที่เห็นนี่แหละทรง bell bottoms ทรงที่ครองตลาดโลกในยุคต้น 70s ปลายขาต้องครอบรองเท้ามิดชิด)


ตามมาด้วยเพลงนี้  ฟังเหมือนเพลงฝาแฝด

(สังเกตรองเท้านักร้องนำ Marcel King ช่วงนั้นนักร้องวง strings บ้านเราใส่กันเกร่อ)

[nathanielnong]

The Marcels




นำเสนอ






The Orlons




นำเสนอ

[nathanielnong]

เทศกาล Eurovision Song Contest เริ่มมาตั้งแต่ปี 1956 จนถึงปัจจุบัน  แสดงว่า timeline ของมันช่วงหนึ่งมาพาดผ่านวงจรการฟังเพลงของผม

ช่วงนั้น (เริ่มต้นแผ่ว ๆ ที่ 1972 มาบูมที่ 1973 – 1977 ก่อนจะเริ่มจางไป และสาบสูญไปจากลำโพงวิทยุหลังจากปี 1982 ปีนั้น Nicole ตัวแทนประเทศเยอรมันชนะด้วยเพลง A Little Peace) เทศกาลนี้ดังมากในบ้านเรา  มี สถน. วิทยุเพลงฝรั่งหลาย สถน. ติดตามผลจากเทศกาลนี้  และนำเสนอเพลงต่าง ๆ ให้พวกเราฟัง
 
ผมจำได้ว่าเพลงไหนที่ได้รางวัลชนะเลิศ (อาจรวมถึงตำแหน่งรองในบางปีที่ producer คิดว่าน่าจะขายได้) ถ้าไม่ใช่เพลงมีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ  เพลงนั้นจะต้องมีการเพิ่มตัวเลือกในฉบับเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษเพื่อการตลาดในวงกว้าง  วิทยุบ้านเราจะเปิดเพลงฉบับแปลงเป็นภาษาอังกฤษนี้  

ผมลองค้นดูว่ามีนักร้องที่เข้าประกวดที่นักฟังเพลงฯ เคยได้ยินเพลงของพวกเขาคนไหนบ้างที่ตายไปแล้ว  ซึ่งมีข้อมูลให้ค้นน้อยมากเพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ดังในวงกว้างอย่างศิลปินเพลงจากอังกฤษหรืออเมริกา ปรากฏว่าส่วนใหญ่ยังอยู่ดีกินดี  แต่ก็เล่าเหลาอายุเข้า 70 กันทั้งนั้น  อย่างไรก็ตามที่ตายไปแล้วก็มีเช่น

Domenico Modugno ตัวแทนจากอิตาลีเข้าประกวดในปี 1958 ได้อันดับ 3 ด้วยเพลงนี้  เป็นเพลงดังในบ้านเรา  มีคนนำมาร้องกันเกร่อ  เป็นเสียงของใครบ้างก็ไม่รู้จำไม่ได้  จำได้แต่ทำนอง






ในปี 1974 วงคู่หูจาก Netherlands ชื่อ Mouth & MacNeal ส่งเพลง I see a star เข้าประกวด ผลออกมาได้ที่ 3



นักฟังเพลงฯ รู้จักวงนี้มาตั้งแต่ปี 1972  เพลงนี้กระหน่ำหูพวกเราอยู่ทุกวันเป็นเวลานานเลยละ

[nathanielnong]

ปิดท้ายด้วยปี 1977 นักร้องคู่จากอังกฤษ Lynsey de Paul & Mike Moran นำเพลงนี้เข้าประกวดและได้ที่ 2



ผมจำหน้า LdP ได้เป็นอย่างดีเพราะในช่วงนั้นหนังสือเพลง 3 ชื่อ  รวมถึง นส. Starpics ต่างลงรูปเธอ (เป็นรูปเดี่ยว ไม่มีรูป MM) กันพร้อมเพรียงพร้อมคำโปรยว่าเธอดูเซ็กซี่มาก  เธอไม่ดังที่อเมริกา  วิทยุบ้านเราเคยเปิดเพลงของเธออยู่ 2-3 เพลง  ผมชอบเพลงนี้

(0.33 ดูเหมือน Nancy Sinatra เลย สงสัยคนทำ clip ผิดพลาด)





ถ้ามีนักร้องเข้าประกวดฯ คนไหนตายอีกผมจะนำข่าวและเพลงมาเสนอ

หมายเหตุ - ผมว่าการที่ประเทศไทยของเราเป็นเอกเทศไม่อิง (ในแง่เรื่องบันเทิง) กับฝ่ายไหน  ทำได้เรามีโอกาสได้รับข่าวสารและอื่น ๆ จากทั้ง 2 ฝั่งคือ ฝั่งอเมริกา และฝั่งยุโรป  อย่างการประกวดเพลงฯ นี้  มันอยู่ในฝั่งยุโรป  ฝั่งอเมริกาไม่เคยสนใจ  ผมเคยเล่าให้เพื่อนฝรั่งอเมริกัน (ยุคก่อน อตน.) ฟังแล้วเธอทำหน้างง ๆ 

[nathanielnong]

นี่เป็นเพลง soul ในยุค 70s  ที่หาฟังได้ง่าย ๆ ตามหน้าปัดวิทยุ


(ตอนนั้นผมนึกว่ามันชื่อเพลง You’re gonna miss my love เพราะนักร้องเน้นช่วงนี้มาก  สังเกตทรงผม afro อันลือลั่นของยุค)




รวมถึง 2 เพลงนี้ (ที่ผมไม่ชอบฟังเล้ย)

[nathanielnong]

2 เพลงนี้ต้องได้ยินทุกครั้งที่เยื้องกรายเข้าไปดิ้นในบาร์ฯ




(RJ ตายเพราะโรคหัวใจอันสืบเนื่องมาจากเบาหวานและยาเสพย์ติด)





(S ตายเพราะโรค AIDS)

[nathanielnong]

ในปี 1979 เพลงนี้ค่อย ๆ แทรกออกมาตามลำโพงวิทยุ  ต่อมาไม่นานทุกคลื่นที่ออกอากาศเพลงฝรั่งโดยเฉพาะรายการ S.O.S. หรือ Songs of society ต่างแย่งกันเปิดเพลงนี้จนกลายเป็นเพลงโหลเพลงหนึ่ง







นี่เป็นเพลงของวงคู่ที่โผล่เข้ามาเดี่ยว ๆ ซึ่งเพราะมาก  ชวนเคลิ้มเลยละ  หลังจากเพลงนี้ก็ไม่มีผลงานของวงนี้มาให้ได้ยินอีกเลย


(ถ้าฟังเฉพาะ audio จะเพราะกว่านี้มาก  เอา clip นี้ซึ่งคุณภาพไม่ดีมาลงให้ดู in action น่ะ)

[nathanielnong]

คู่นี้เป็นรวมการเฉพาะกิจที่ตอนนี้ตายไปหนึ่ง  เพลงนี้เป็นเพลงเปิดรายการ Let It Be Me  จำไม่ได้แล้วว่าเจ้าของรายการเป็นใคร  แต่อุปถัมภ์รายการโดยยาสีฟันใกล้ชิด







เพลงดังของวง The Skyliners นี้ต้องบอกว่าไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  แต่เคยได้ยินบ่อยมากจากเสียงร้องของ Art Garfunkel ในยุค 70s





สมาชิกดั้งเดิมตายกันหมดแล้ว


The Penguins

[nathanielnong]

ตอนเด็ก ๆ บ้านเราเปิดเพลงดังชื่อ Young Love  สิ่งที่ผมรู้สึกว่าแปลก (คือ สมองยังพัฒนา) คือ  ทำไมบางครั้งเสียงร้องและดนตรีต่างกัน  จนกระทั่งโตขึ้นและมีปูมฯ ของ JW  ผมถึงได้รู้รายละเอียดว่า  เพลงนี้มีคนร้อง 2 คน  ที่เก๋คือ 2 ฉบับนี้ออกอากาศและอยู่ในตาราง billboard ในช่วงเวลาเดียวกัน  ที่เก๋ไปกว่านี้คือ  ในที่สุดทั้ง 2 ฉบับขึ้นถึงอันดับ 1 เหมือนกัน  ในเวลาห่างกัน 2 อาทิตย์

ฉบับแรกติดอันดับ 1 ก่อนเมื่อ 12/29/1956  ส่วนฉบับที่ 2 ติดอันดับ 1 ตามมาเมื่อ 01/12/1957 (ข้อมูลจาก Wikiฯ  บอกเวลาต่างออกไป  ผมเชื่อข้อมูลจากปูมฯ ที่ผมมีมากกว่า  เพราะเป็น format ของหนังสือที่พิมพ์ออกขายย่อมต้องมีกองบรรณาธิการพิสูจน์ความถูกต้อง  ไม่งั้นเป็นโดนฟ้องตูดบาน  อีกทั้ง Joel Whitburn เป็นชื่อที่ได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลายในวงการดนตรี)

ฉบับที่ติดอันดับ 1 ก่อนค้างอยู่ 1 สัปดาห์เป็นเสียงร้องของ Sonny James  นักร้องแนว country



ฉบับที่ติดอันดับ 1 ทีหลังและค้างอยู่นาน 6 สัปดาห์เป็นเสียงร้องของนักแสดงหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ ชื่อ Tab Hunter



TH เป็นดารา/นักแสดงในยุคทองของ Hollywood  เธอสังกัด Warner Bros. Studio  ความดังของเพลงนี้ทำให้ WB ตัดสินใจตั้ง บ. จัดจำหน่ายแผ่นเสียงของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Warner Bros. Records

Young love เป็นเพลงเดียวของ TH ที่วิทยุเปิดให้ผมได้ยิน  วันหนึ่งผมได้ดูสารคดี (2015) ของเธอที่เล่าเรื่องการใช้ชีวิตสองด้านขณะดำรงตำแหน่งขวัญใจสาว ๆ ตอนอยู่ในยุคทองของ Hollywood  อันเป็นสารคดีที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์เพราะเป็นดารา/นักแสดงในยุคทองของ Hollywood คนเดียวที่กล้า ‘เปิดเผย’ ชีวิตส่วนตัวของตัวเองให้โลกได้รับรู้
 
ผมก็เริ่มสนใจอาชีพเสริมของเธอคือการร้องเพลง  ก็เปิด youtube หาเพลงอื่น ๆ  เสียงของเธอเพราะมาก  นี่ถ้าไม่มี youtube พวกเราจะไม่มีทางได้ยินเสียงของเธอจากเพลงอื่น ๆ เลย 









นี่คือสารคดีเรื่องที่เอ่ยถึง

[nathanielnong]

Fontella Bass กับเพลงดังของเธอทั้งที่บ้านเราและบ้านเขา




นำเสนอเพลงคู่เพลงนี้ที่บ้านเราไม่เคยได้ยินอย่างแน่นอน  ผมได้ยินตอนอยู่กับซี้ classic เป็นเพลงที่มีทำนองมันมาก

(หมายเหตุ – Bobby McClure ไม่ประสบความสำเร็จในวงการเพลง  ในบั้นปลายเธอหาเลี้ยงชีพที่ Illinois Jail ในตำแหน่ง corrections officer)

[nathanielnong]

ฟัง Rescue Me ของ Fontella Bass แล้วต้องต่อด้วย My Guy ของ Mary Wells ซึ่งเป็นเพลงเดียวเช่นกันของเธอที่วิทยุบ้านเราเปิด 




นำเสนอเพลงอื่นของเธอที่ซี้ classic เปิดให้ฟังซึ่งเพราะดี

[nathanielnong]

ในปี 1984 เพลงนี้ดังออกมาจากหลายสถานีวิทยุ  จังหวะมันมาก  ผมหมุนไปเจอแล้วต้องหยุดฟัง




หลังจากนั้นภาพของวง Wham ก็กระจายอยู่ตามหน้าหนังสือ SP และหนังสือเพลง 3 หัวที่วางขายอยู่บนแผง  พอเพลงที่ 2 กระจายเสียงออกมานี่เองที่ทำให้ผมต้องโผออกไปหาซื้อแผ่นเสียงมาฟัง



ความจริงทำนองไม่โดนใจผมเท่าไร  เพียงผมเป็นโรคบ้าเพลงดัง  เพลงนี้ดังมาก  เปิดบ่อยจนกลายเป็นเพลงโหล  ถ้ารู้ว่าต่อมาในอนาคตเราจะมี อตน. มี .mp3, .flac ฯลฯ  ผมคงไม่เสียเงินซื้อแผ่นฯ ตั้งแต่ต้นหรอก  รอ ‘โหลด’ เอาก็ได้  เหตุการณ์บ้าเห่อทำนองนี้เกิดขึ้นกับสมองโง่ ๆ และกระเป๋าตังค์แฟบ ๆ ของผมเป็นประจำ

วงจรชีวิตของวงคู่หูนี้ผาดโผนอยู่ในวงการฯ เพียง 2 ปีก่อนจะยุบตัว  อย่างไรก็ตามวงยังปล่อยออกมาอีก 1 เพลงดังในช่วง Christmas  เป็นอีกหนึ่งเพลงโหลบนหน้าปัดวิทยุบ้านเรา



หลังจากยุบวงหนึ่งในคู่หูชื่อ George Michael โลดแล่นต่อไปในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จท่วมท้นในวงการฯ  ก่อนจะเอาชื่อเสียงมาแปดเปื้อนเป็นมลทินในอีก 10 กว่าปีต่อมา  ความที่ตอนนั้นตัวเองมีชื่อเสียงก้องโลก  ข่าวฉาวโฉ่ที่ตัวเองสร้างก็พลอยดังกระหึ่มโลกเป็นเงาตามตัว

[nathanielnong]

Dave Dee, Dozy, Beaky, Mick & Tich ชื่อแบบนี้  อย่าว่าแต่เด็กเลย  แม้แต่ผู้ใหญ่คนไทยก็จำไม่ได้  ผมมารู้เอาเมื่อโตแล้ว  แต่จนบัดนี้ก็ยังร่ายยาวเองได้ไม่หมด  
เป็นวงจากอังกฤษ  ร้องเพลงนี้ที่จำได้ไม่ลืม
 





ตอนผมได้ยินเพลงนี้หลังจากเวลาของมัน  รู้เลยว่าเคยได้ยินมันมาก่อน  ทำนองคุ้นหูจนสามารถฮัมไปด้วยได้  มันฝังอยู่ลึกมาก  มากจนลืมไปเลย  พอมาอ่านใน Wikiฯ  ได้ข้อมูลว่าเป็นคู่ศิลปินที่ไม่ดังเอาเลย  คือมีเพลงฮิตเพลงเดียว






วงนี้ก็เช่นกัน