เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 55
  พิมพ์  
อ่าน: 142241 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 06 ต.ค. 12, 22:24

คราวนี้เปลี่ยนเป็นนักร้องชายบ้าง   
คุณ SILA อาจจะโตไม่ทัน Ricky Nelson  เมื่อเขาเป็นวัยรุ่น  แต่คงเคยได้ยินชื่อ เพราะหนุ่มหน้าหวานรายนี้ เป็นขวัญใจวัยรุ่นในยุค 1960s ต้นๆ     เพลงของเขาทำสถิติอันดับหนึ่งสูสีมากับเอลวิส เพรสลีย์ และเป็นเพลงร็อคแอนด์โรลเช่นกัน



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 07 ต.ค. 12, 22:19

ริคกี...ริกกี...หริกกี...ริคกี้   เอาเป็นว่าเป็นคำยืมจากชื่อ Ricky ก็แล้วกัน  ได้ไม่มีปัญหาเรื่องทับศัพท์

ริคกี้ เนลสัน เกิดเมื่อค.ศ. 1940  เป็นดาราเด็กมาหลายปีก่อนจะเป็นวัยรุ่นในยุค 1960s ต้นๆ     พ่อแม่เขาอยู่ในวงการบันเทิง ดังขึ้นมาจากละครวิทยุ ซึ่งต่อมากลายเป็นหนังครอบครัวเรื่องยาวยอดฮิททางทีวี เรื่อง The Adventures of Ozzie and Harriet  
ริคกี้กับพี่ชายชื่อเดวิดเล่นเป็นลูกชายพ่อแม่ในเรื่อง     คนอเมริกันก็หลงรักเด็กน้อยตัวผอมบางมาจนกระทั่งโตขึ้นมาเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส  สไตล์สะอาดสะอ้าน    อย่างที่นิยมกันในยุค 1960s ต้นๆ

ยุคนั้นเป็นยุคทองของเพลงป๊อบ โดยเฉพาะร็อคแอนด์โรล    แม้ว่าเสียงของริคกี้ไม่ได้วิเศษอย่างเสียงของเอลวิส   เขาร้องเพลงเสียงใสๆ อย่างเด็กหนุ่ม  ออกจะเสียงขึ้นจมูกด้วยซ้ำ   แต่ด้วยความหล่อหวานแบบเทพบุตร  สาวๆก็กรี๊ดกันสนั่นทั้งประเทศ   ไม่ว่าร้องเพลงไหนก็ฮิทติดอันดับหนึ่งอย่างง่ายดาย



  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 07 ต.ค. 12, 22:38

ในยุค 1960s ภาพลักษณ์ของดาราสำคัญมาก  แฟนคลับชอบวาดฝันไว้ว่าดาราหรือนักร้องในดวงใจจะต้องเป็นเทพ ไม่ใช่คนเดินดินชั่วๆดีๆปนกันอย่างชาวบ้าน     ดาราจึงต้องสร้างภาพกันสุดฤทธิ์    พ่อของริคกี้สร้างภาพลูกชายออกมาเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก สะอาดสะอ้านราวกับผ้าขาว   เพื่อให้ครองคะแนนนิยมสูงสุดเอาไว้    
ทั้งๆในความเป็นจริง ริคกี้ถูกกดดันกับอาชีพดาราที่ทำให้เขาไม่มีวัยเด็กเป็นอิสระอย่างที่ควรเป็น   พอโตเป็นหนุ่ม   เจ้าหนุ่มก็เลยแอบเฮ้ว  ไปโลดโผนหัวหกก้นขวิด  ทำตัวเป็นอันธพาลครองเมืองยามค่ำคืนเวลาอยู่นอกจอทีวี   ทำให้พ่อแทบสิ้นสติ  ต้องวิ่งเต้นหาทางกลบเกลื่อน   ซ่อนเร้นพฤติกรรมลูกชายเอาไว้  ไม่ให้รั่วไหลออกมาได้
ริคกี้ในสายตาสื่อและคนดู จึงเป็นหนุ่มน้อยเรียบกริบ  สะอาดสะอ้านตั้งแต่ทรงผมจดปลายเท้า   ร้องเพลงร็อคด้วยกิริยาเรียบร้อยดุจผ้าพับไว้



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 08 ต.ค. 12, 09:57

ช่วงกลางของทศวรรษ 1960s  วงการร็อคแอนด์โรลของอเมริกาถูกถล่มหนักด้วยกระแสคลื่นลูกใหม่(และใหญ่มหึมา) จากอังกฤษ คือนักร้องวง "The Beatles" หรือที่ไทยเรียกว่า "สี่เต่าทอง"  นักร้องขวัญใจวัยรุ่นอเมริกันที่กำลังฮิทๆอยู่ในขณะนั้นจมหายลงไปใต้กระแสคลื่นกันมาก     รวมทั้งริคกี้ เนลสันด้วย     
เขาหายจากเวทียอดนิยมไปนานร่วม 10 ปี   กลับมาอีกครั้งในค.ศ. 1972   กลายเป็นหนุ่มใหญ่มาดเข้ม ผมยาวเป็นกระเซิง  ร้องเพลงที่เขาแต่งเอง คือ Garden Party    เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิท  แผ่นเสียงจำหน่ายได้เป็นล้าน   ขึ้นถึงอันดับ 6  ของบิลบอร์ด
เพลงนี้ ริคกี้เขียนอย่างถอดหัวใจออกมา    เขาผ่านประสบการณ์ทั้งรุ่งและร่วงมาแล้ว  จนบัดนี้จึงเข้าใจบทเรียนจากชีวิต    ตอนหนึ่งของเพลงคือ
Can't please everyone, gotta please yourself 
เขียนขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อปรากฏตัวร้องเพลงบนเวทีที่เมดิสัน สแควร์    ริคกี้เปลี่ยนสไตล์ร้องจากร็อคแบบเดิมมาเป็นคันทรีร็อค   เพราะไม่อยากหากินกับความสำเร็จสมัยเป็นวัยรุ่น      แต่แฟนเพลงมาฟังเพราะอยากฟังเขาร้องเพลงเก่าๆอีกครั้ง   ก็เลยโห่ไล่ว่าไม่ชอบ   ทำให้ริคกี้เจ็บปวดมากจนแต่งเพลงนี้ขึ้นมา


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 08 ต.ค. 12, 10:08

แม้ว่าเพลงต่อๆมาของริคกี้จะไม่ฮิทติดอันดับอีก   เขาก็ยังมีงานร้องเพลงไม่ขาดสาย ให้ตระเวนไปโชว์ที่โน่นที่นี่ทั่วอเมริกา   จนกระทั่งคืนส่งท้ายปีเก่า ค.ศ. 1985  เมื่อนั่งเครื่องบินส่วนตัวจากอลาบาม่า เพื่อจะร้องโชว์บนเวทีงานปีใหม่ที่ดัลลัส เทกซัส   เครื่องบินประสบอุบัติเหตุเพลิงไหม้  ริคกี้เสียชีวิตพร้อมคู่หมั้น  เมื่ออายุเพียง 45 ปี

ขอส่งท้ายด้วยเพลงดังที่สุดของเขา  Hello, Mary Lou ที่ร้องเมื่อค.ศ. 1961   นอกจากขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาแล้ว ยังขึ้นอันดับ 1 อีกใน 32 ประเทศทั่วโลก

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=zLkCWT2neuI

ด้วยเสียงเรียกร้องจากแฟนๆคอนเสิร์ต อยากเห็นรูปลักษณ์เดิม      ริคกี้ก็ต้องกลับมาร้องเพลงนี้อีกเวลาไปโชว์ตามเวทีต่างๆ  แต่งตัวดี  ตัดผมตัดเผ้าเรียบร้อยคล้ายๆสมัยวัยรุ่น

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 08 ต.ค. 12, 12:11

         มีเพลงฮิทอีกเพลงหนึ่งของริคที่วิทยุสมัยก่อนนิยมเปิดบ่อยๆ ฟังเหงาๆ เศร้า ๆ ครับ

                      Down Home

          
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 08 ต.ค. 12, 12:14

        อีกเพลงทีชอบ - ความทุกข์ ความเหงา ความในใจของขวัญใจวัยรุ่น ครับ

                 Teenage Idol

        http://www.youtube.com/watch?v=q2xeL2_eSUY
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 08 ต.ค. 12, 15:57



ตอนที่รุ่ง  ริคกี้ก็รุ่งจริงๆ  เมื่ออายุ 19  เขาได้เล่นหนังใหญ่สไตล์คาวบอยตะวันตก ประกบคู่กับดาราชั้นนำอย่างจอห์น เวย์น  และดีน มาร์ติน  เรื่อง Rio Bravo   (ค.ศ. 1959)
จากบทในเรื่องนี้ ริคกี้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทอง ในฐานะดาราชายหน้าใหม่ดาวรุ่งพรุ่งนี้แห่งปี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 10:04

ขอเล่าถึงเสียงสวรรค์อีกเสียงหนึ่งที่ล่วงไปสู่สวรรค์ตั้งแต่ปี 2008 ด้วยวัยสุกงอมถึง 90 ปี
เธอชื่อ Jo Stafford    เป็นดาวเสียงที่พุ่งแรงมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1930s   จนถึงต้น 1960s  ในวงการเพลงป๊อปและเพลงแจ๊ซ ที่มาแรงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2
เสียงของโจ  สตัฟฟอร์ด สูง ใส และเจื้อยแจ้ว   เหมาะจะร้องเพลงเนิบช้า ทอดเสียงโหยหวน   เพลงที่รู้จักกันดีคือ You Belong to Me  (ค.ศ. 1952)




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 10:08

ในยุคที่จังหวะบีกินเป็นที่นิยมในงานลีลาศ    เพลงนี้ของ Jo  กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวะบีกิน   วงดนตรีเล่นจังหวะนี้ทีไร ก็ต้องมีเพลงนี้อยู่ด้วยเสมอ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 11:44

เพลงเก่าอีกเพลงหนึ่งที่โจนำมาร้องจนติดหูคนฟัง   ทั้งๆก็มีนักร้องร้องอยู่หลายคน คือเพลง Till We Meet Again   เป็นเพลงฮิทในสงครามโลกครั้งที่ 1    ที่ซาบซึ้งตรึงใจคนฟัง  เพราะถือกันว่าเป็นเพลงสัญลักษณ์ของการอำลาของคู่รักที่ชายหนุ่มต้องจากไปสงคราม    ฝ่ายหญิงสาวก็เฝ้ารอว่าเมื่อไรจะกลับมา จะได้แต่งงานกัน
สงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงไปแล้ว  เพลงนี้ก็ยังแพร่หลายอยู่   เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2  เกิดขึ้น เพลงนี้ก็กลับมาซาบซึ้งตรึงใจคนฟัง   ยากจะหาเพลงลาเพลงใดเทียบได้อีกครั้ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 15:20

เพลง It's Almost Tomorrow  ขึ้นอันดับ 14 ของบิลบอร์ดในปี  1955. เพลงนี้เคยร้องโดยคณะนักร้อง Dream Weavers ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิทประจำวง ขึ้นถึงอันดับ  7.

เนื้อเพลงก็น่าสงสาร   ผู้หญิงไม่อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเพราะคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่กับแฟน  วันรุ่งขึ้นก็จะสูญเสียเขาไปแล้ว  ในเนื้อเพลงไม่ได้บอกว่าเจ้าหนุ่มจะไปไหน แต่มีนัยยะว่าคงจะไปแต่งงานเพราะท่าทางบอกให้รู้ว่ากำลังตีจาก   แต่ผู้หญิงก็ยังพร่ำเพ้อเพราะตัดใจไม่ได้อยู่ดี
แต่ความคิดแบบนี้เป็นสมัย 1955  ไม่ใช่ 2012 ค่ะ



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 15:29

โจร้องประกบกับเอลลา ฟิตซเจอรัลด์  สุดยอดแห่งเสียงสวรรค์อีกคนหนึ่งในยุคเดียวกัน

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 15:45

            อีกเพลงเอกที่รายการวิทยุนิยมเปิด ครับ

                      No Other Love

          

            จากทำนองเพลง Étude No. 3 in E, Op. 10 ของโชแปง

            
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 09 ต.ค. 12, 16:01

ผัดผ่อนตัวเองไม่โพสต์เพลง No Other Love เพราะยังหาไม่เจอว่ามาจากเพลงคลาสสิคของใคร  จำชื่อเพลงเดิมไม่ได้ว่าของโมสาร์ท หรือใคร
คุณ SILA เข้ามาตอบพอดี   ประหยัดพลังงานและเวลาได้มากค่ะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 55
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 19 คำสั่ง