รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว

[เทาชมพู]

ได้ข่าวเหมือนกันค่ะ  แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเพลงของวงนี้  ต้องรอคุณ SILA

[SILA]

           ดาวดับลับจากฟากฟ้าดวงล่าสุด Prince (1958-2016) นักร้องผิวสีผู้มากลีลา,มากสีสรรพ์
แห่งวงการเพลงมะริกัน ถูกพบเสียชีวิตด้วยวัย 57 ปี ที่สตูดิโอในอาณาจักรส่วนตัวของเขา - Paisley
Park ในรัฐ Minnesota สาเหตุการตายไม่ประจักษ์ต้องรอการผ่าศพพิสูจน์ในวันนี้

           พรินซ์ปรับแต่งรูปโฉมเพลงแดนซ์ด้วยการก้าวผ่านขอบเขตแนวดนตรีป็อป,ฟังก์,ร็อคและอาร์แอนด์บี
สร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมโด่งดังทั้งยังได้รับรางวัลมากมายทั้งแกรมมี่และออสการ์

[SILA]

         ไม่เคยมีอัลบั้มเพลงจากเสียงร้องของเขาเลยแม้แต่เพลงเดียว เนื่องด้วยแนวดนตรีและสไตล์การร้อง
ที่ไม่ต้องกัน แต่มีเพลงจากผลงานการประพันธ์ของเขาที่เป็นเพลงโปรด นั่นคือ  Nothing Compares 2 U
เสียงครวญใส่อารมณ์โดยนักร้องสาว Sinead O’Connor ร่วมด้วยช่วยกันส่งผลจนโด่งดังไปทั่วหล้าในปี 1990

[kulapha]

กระทู้นี้ ไม่ใช่ดาว
แต่เป็นผู้ที่ทำให้เรารู้จักบรรดาดาวเสียงต่างชาติที่ดับแสงไปแล้ว
นั่นก็คือดีเจ นั่นเอง
ขอแทรกในกระทูู้นี้คงไมผิดกติกาอะไรนะคะ

ข่าวเล็กๆสำหรับนักฟังเพลงย้อนอดีตต้องอดเศร้าใจไม่ได้
นั่นก็คือ การจากไปของ ผู้จัดรายการ  Dream and Memories
คุณลำพูน  ลวะเปารยะ ได้เดินทางตามหาความฝันและความทรงจำในอีกภพหนึ่งแล้ว
เมื่อไม่กี่เพลามานี้เอง

สำหรับนักฟังเพลงปัจจุบันคงไม่คุ้นชื่อกับดีเจรุ่นใหญ่ท่านนี้เป็นแน่
อีกทั้งเจ้าตัวเองก็ไม่ค่อยชอบเปิดตัวกับสาธารณชนเท่าไหร่นัก
แม้แต่ในระหว่างจัดรายการก็ไม่เคยบอกชื่อเสียงเรียงนาม
จะเรียกแทนตัวเองว่า ผู้ดำเนินรายการเสมอ
แต่ก็ทราบมาว่าเธอคือ “พี่เภา”สำหรับนักจัดรายการรุ่นน้องๆ

Dream and Memories เป็นรายการเพลงเพราะๆของนักร้องสากลทั่วโลก
(ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดาวอับแสงไปแล้ว)ที่พี่เภาจัดมานานร่วมสามสี่สิบปี 
โดยขอยืมเพลงต้นรายการมาจาก เซอเรเนดของ Toselli  มาเปิดและปิดท้าย
พี่เภาจัดเองอยู่คนเดียวทุกบ่ายวันอาทิตย์ ตั้งแต่ช่วงบ่าย จนกระทั่งพลบเย็น 5 ชั่วโมงเต็ม
ไม่เคยขาดยกเว้นธุระจำเป็นจริงๆ

สไตล์การจัดรายการของเธอชัดเจนแน่นอน
ชั่วโมงแรกเป็นเพลงป๊อปสแตนดาร์ดทั่วไป
ชั่วโมงที่สองเป็นเพลงดัดแปลงจากเพลงคลาสสิคหรือ Light Classical 
ชั่วโมงที่สาม เพลงจาก ละครบรอดเวย์หรือภาพยนตร์เพลงในอดีต
(ถ้าใกล้วันชาติ วันสำคัญของประเทศไหน ก็จะเอาเพลงของประเทศนั้นๆมาเปิด
แม้แต่วันประกาศขอแยกตัวของสก็อตแลนด์ เธอก็เอาเพลงสก็อตมาเปิด
ถ้าได้จัดตอน Brexit ก็คงต้องเอาเพลงอังกฤประเภท Londonderry Air มาเปิดเแน่ๆ)
ชั่วโมงที่สี่ ชั่วโมงพิเศษสำหรับนักร้องที่เกิดในเดือนนั้นๆ
และชั่วโมงสุดท้าย คือเพลงอำลาจากไปประจำสัปดาห์

ถ้าเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระราชินีและในหลวง
ก็จะจัดเพลงที่เกี่ยวข้องหรือเพลงที่ทรงโปรด
โดยเฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือนธันวาคม เป็นที่รู้กันว่า พี่เภา ล้มผังรายการทั้งหมด
ให้เป็นเพลงแจ๊ส หรือเพลงบลูส์จากบรรดา  ศิลปินเจ้าของบทเพลง อันเป็นที่โปรดปรานของในหลวง
ที่สำคัญ จะไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างรายการใดๆ โดยขอความร่วมมือจากผู้สนับสนุนสปอนเซอร์สินค้าทั้งหลายปีล่ะครั้ง

ดังที่เกริ่นมาแล้วพี่เภา เป็นดีเจที่เก็บตัวมากถึงมากที่สุด
เพราะไม่ค่อยปรากฏชื่อหรือหน้าตาในสื่อสาธารณะเลย
เจ้าของกระทู้เลยไม่ทราบประวัติความเป็นมาของเธอแต่อย่างไร
แต่ก็พอเดาๆได้ว่า น่าจะจบการศึกษาจากสถาบันแห่งหนึ่งในรั้วจามจุรี   คณะสิงห์ดำ
เพราะดูเธอมีความสนิทสนมพอสมควรกับบรรดารุ่นพี่ที่เอ่ยชื่อทักทาย
โดยเฉพาะ อาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร (ดวงใจ  )
ถึงขนาด อาจารย์ประทุมพร  นำเรื่องราวบางส่วนของพี่เภาไปเขียนในนวนิยายเรื่อง  “เพลงรักลมหวน”
ที่เคยลงพิมพ์ในสกุลไทย 
เนื้อเรื่องกล่าวถึงรายการเพลงบ่ายวันอาทิตย์ที่สร้างความผูกพันและสายใยความทรงจำของกลุ่มคนในแวดวงต่างๆให้รื้อฟื้นกลับมาอีก
โดยมีตัวพี่เภาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก
ทำให้คนอ่านและคนฟังรายการคาดเดาบุคลิกลักษณะของพี่เภา ต่างๆนานา
จนพี่เภาก็ขำขำและบอกว่า ไม่ใช่ตัวจริงๆ (จริงๆนะ)

นักฟังเพลงทั่วไป ฟังการจัดรายการของ พี่เภา จะรู้สึกว่า เธอไม่ค่อยเอาใจแฟนเพลงเท่าไหร่นัก
เพราะจัดในสไตล์ของตัวเอง ชอบใคร รักใคร ก็จะเปิดผลงานของเขาหรือเธอบ่อยๆ
แต่แฟนรายการประจำจะ”อิน”กับวิธีดำเนินรายการสไตล์นี้
จนแทบจะรู้ว่าวันนี้ เธอจะเอาเรื่องของใครมาเล่า
แล้วประเภทที่มาขอเพลงเปิดสดๆด้นเดี๋ยวนั้น ไม่มีหรอก
เพราะผู้ดำเนินรายการไม่ได้เอาแผ่นมา  ขอติดไว้อาทิตย์หน้า ถ้าไม่ลืมนะ
อ้อ...นักร้องที่ขอต้องมีเอกลักษณ์หน่อยนะ
อย่าง Frank   Sinatra/ Perry Como/ Cole Porter/Nat King Cole/
Michel Le Grand / Henry Mancini/ Irving berlin
มีนักร้องหลายคนที่พี่เภา ปฎิเสธที่จะเปิด
อย่างผลงานของริชาร์ด  เคลย์เดอมองค์ ไม่อยู่ในรายชื่อแผ่นที่จะเปิด(ไม่รู้เพราะอะไร)

ใครๆว่าพี่เภาเป็นคนดุ แต่ในความคิดของเจ้าของกระทู้เอง
เธอน่าจะเป็นคนที่ปิดและค่อนข้างเข้มงวดกับตัวเองมากกว่า
ระหว่างรายการจะไม่รับโทรศัพท์จากแฟนรายการ
ไม่มีคุยจ๊ะจ๋าเหมือนดีเจยุคนี้  หากใครจะฝากของเล็กๆน้อยๆมาให้
ก็ขอให้ฝากข้างนอก เพราะเจ้าตัวไม่สามารถออกไปรับได้
และขอร้องว่า ไม่จำเป็นต้องฝากของขวัญอะไรมาให้
เพราะการจัดรายการคือ ของขวัญแห่งความสุขที่สุดของเธอ... พอล่ะ

พี่เภา จัดรายการเดียวมาตลอด แต่เปลี่ยนสถานีไปมาตามเหตุผลของธุรกิจ
จนสถานีสุดท้ายคือ 93.5 fm.
ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ พี่เภา ขออำลาเก้าอี้จัดรายการชั่วคราวเพื่อไปรักษาตัวโดยให้ดีเจรุ่นน้องรับหน้าที่แทน
จากหนึ่งอาทิตย์เป็นหนึ่งเดือนเป็นสอง สาม สี่ ห้า และก้อถึงวันสุดท้าย
เก้าอี้ตัวที่พี่เภานั่งประจำหลังไมค์ก็ยังว่างเปล่า

พี่เภา เกิดเดือนกันยายน
ถ้ายังดำเนินรายการอยู่ก็คงจะเตรียมเพลงประจำเดือนนี้ทั้งหลายไว้ในชั่วโมงสุดท้าย
ในเมื่อเธออำลาไปแล้ว เจ้าของกระทู้ก็ขอกล่าวขอบคุณและอำลาเธอด้วยเพลงนี้เช่นกัน

[SILA]

         ใจหายเมื่อได้รับทราบข่าวตอนบ่ายวานนี้ขณะฟังรายการเพลง Dreams and Memories
รู้สึกเหมือนญาติผู้ใหญ่จากไป เพราะได้รู้จัก, ได้ฟังรายการนี้มานานนับสิบๆ ปี แม้ว่าจะเป็นการฟัง
บางช่วง, บางอาทิตย์ แต่ในช่วงปีกว่าที่ผ่านไปนี้ได้มีโอกาสฟังเป็นประจำแทบทุกอาทิตย์

     ขอบคุณดีเจในตำนานผู้มอบผ่านความสุขและความทรงจำที่ดีทางรายการเพลง 'ฝันและความทรงจำ'
ทุกบ่ายวันอาทิตย์

อีกเพลงเดือนกันยาที่น่าจะได้ยินจากรายการคือเพลงนี้ ครับ

                     September in the rain  

[SILA]

           แถมนิดหนึ่ง ครับ, ดีเจรายการวิทยุที่มีอายุมากที่สุดในโลก(ตามสกู๊ปของนสพ.บางกอก โพสท์ 6 Dec 2015)
คือ คุณทวด Jim Davison เคยฟังรายการของคุณทวดในบางคืนวันอาทิตย์เมื่อนานมากแล้ว. คุณทวดกลับมาจัดรายการ
วิทยุอีกครั้งด้วยวัย 102 ปี

http://www.bangkokpost.com/lifestyle/nostalgia/786229/the-world-oldest-radio-dj-spins-his-life-story

[เทาชมพู]

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

[kulapha]

คุณทวดจิม เดวิดสัน ก็เป็นอีกหนึ่ง ดีเจในตำนานค่ะ
ไม่ทราบตอนนี้อยู่ไหนแล้ว
ออกไปเดินบนถนนในปารีสหรือเปล่าคะ
เพราะเพลงประจำรายการคือ The Poor People of Paris

[SILA]

          จากสกู๊ปเมื่อ ธ.ค. ๑๕ นั้นบอกว่า คุณทวดจัดรายการที่ Radio Thailand's 88FM from 4pm to 6pm
this afternoon(วันอาทิตย์) ครับ

[kulapha]

ได้ข้อมูลด้านชีวประวัติพี่เภาจากผู้ใกล้ชิด รู้จริงดังนี้
(พี่เภา จบรั้วยูงทองค่ะ)


 ดำรัส โรจนพิเชฐ

 รายการวิทยุเพลงสากลที่เปิดเพลงแจ๊ส สแตนดาร์ด ยืนหยัดยาวนานร่วม 40 ปี
 คงไม่มีรายการไหนจัดนานเท่ากับรายการ DREAMS AND MEMORIES
 รายการเริ่มจัดที่สถานีวิทยุในเครือข่าย อ.ส.ม.ท.
 แล้วย้ายมาจัดที่ 1 ป.ณ. คลื่น FM 98.5 ท้ายสุดมาจัดที่ FM 93.5
 จนกระทั่งผู้ดำเนินรายการเสียชีวิตเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

 ทุกครั้งรายการจะนำร่องด้วยเพลง DREAMS AND MEMORIES จากเสียงร้องของเปอร์รี โคโม
 ซึ่งต้นฉบับมาจากเพลง TOSELLI'S SERENADE
 ทุกครั้งเธอไม่เคยเอ่ยชื่อผู้ดำเนินรายการ
 หลายคนมาทราบทีหลังว่าเธอชื่อ ลำพูน ลวะเปารยะ
 รายการ DREAMS AND MEMORIES สมัยจัดอยู่ที่ 1 ป.ณ. FM 98.5 ทุกวันอาทิตย์
 เริ่มเวลา 13.00 น. แล้วไปจบเอาที่ 18.00 น.

 ในรายการเธอจะเปิดเพลงแจ๊ส สแตนดาร์ด ป๊อป จากเสียงของนักร้องชื่อดังอย่าง
 แฟรงก์ ซิเนตรา, แนต คิง โคล, เป็กกี ลี, ดอริส เดย์ เพลงบรรเลงของวง แฟรงก์ แชคส์ฟิลด์, มิเชล เลอกรังด์
 บางครั้งเพลงเดียวกันมีให้ฟังทั้งเวอร์ชั่นร้องกับบรรเลง
 เพลงจากละครบรอดเวย์อย่าง SOUTH PACIFIC
 เพลงจากภาพยนตร์แถมยังมีชั่วโมงไฮไลต์ นักร้องพร้อมเล่าประวัติในโอกาสสำคัญ
 อย่างเช่น วันชาติอเมริกา เธอจะจัดเพลงที่มีชื่อรัฐและเมือง
 บางครั้งจะมีแขกรับเชิญมาให้สัมภาษณ์ในรายการ อย่างเช่น จอห์นนี ทิลลอตซัน

 ทุกครั้งที่เธอทำรายการเธอจะเตรียมอย่างละเอียด พูดผ่านสคริปต์
 ใครที่โทรศัพท์มาขอเพลงต้องรอฟังอาทิตย์ต่อไป
 เสียงเธอบางครั้งใส เพราะ บางครั้ง ดุ แล้วแต่อารมณ์ขณะนั้น
 เธอมักจะพูดปิดหัวปิดท้ายเพลงที่เธอเปิดเพื่อป้องกันคนอัดเทปเพลงในรายการเธอ
 แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีแฟนเพลงอย่างเหนียวแน่น
 ตั้งแต่ระดับไฮโซถึงชาวบ้าน

 ฟังดูจากรายชื่อผู้อุปถัมภ์รายการล้วนแล้วแต่ระดับอภิมหามิตรทั้งนั้น
 หลายครั้งที่เราจะได้ยินชื่อการสื่อสารแห่งประเทศไทย
 การบินไทย เบียร์สิงห์ เครื่องเสียง BOSE AIS
 ทำให้น้อยครั้งที่เธอจะพลาดไม่มาจัดรายการนอกจากจะติดธุระจริงๆ

 พื้นเพ ลำพูน ลวะเปารยะ เป็นคนกรุงเทพฯ นามสกุลเดิม เทวะประทีป
 เธอจบการศึกษาจากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 แล้วเข้าทำงานที่บริษัท การบินไทย สาขาเจริญกรุง แผนกขายตั๋วเดินทาง
 จากนั้นย้ายไปทำงานที่ธนาคารออมสินพักหนึ่ง
 แล้วเข้าบรรจุเป็นพนักงานในกรมไปรษณีย์โทรเลข ในแผนกลูกค้าสัมพันธ์
 ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณเป็นผู้อำนวยการกองโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การสื่อสารแห่งประเทศไทย

 นอกจากจะจัดรายการวิทยุ เธอยังเคยเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับสุชาติ ชวางกูร
 ผลักดันให้เขาเข้าสู่วงการเพลงและประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้

 ชีวิตส่วนตัว เธอสมรสกับพลอากาศเอกวีระวุธ ลวะเปารยะ (เสียชีวิตเมื่อปี 2013)
 แต่แยกกันอยู่ เธอไม่มีทายาท

 ระยะหลังลำพูน ลวะเปารยะ ประสบปัญหาสุขภาพ
 เธอขาดการจัดรายการวิทยุบ่อยครั้ง บางช่วงหายไปเป็นเวลาสองเดือน
 มาทราบอีกทีว่าเธอพำนักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
 จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่เต้านมเมื่อบ่ายวันพฤหัสฯ ที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
 สิริอายุรวม 76 ปี
 ศพตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดมกุฏฯ ศาลา 8 จนถึงวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม
 แล้วจะทำการฌาปนกิจในบ่ายวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม เวลา 16.00 น.

 ปิดฉากตำนานดีเจคนสำคัญอีกคนหนึ่งในบ้านเราที่หลายคนอาลัย.

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2488041

[เทาชมพู]

ดาวเสียงดวงใหญ่ดับแสงส่งท้ายปี 2016    เดบบี้ เรย์โนลด์ ลับฟ้าไปในวัย 84  ปี

รำลึกถึงเสียงของเธอในเพลงเก่าแก่นานเกือบ 60 ปี    Tammy จากหนัง Tammy and the Bachelor, เดบบี้เล่นเป็นน้องนางบ้านนาผู้ไร้เดียงสากับหนุ่มชาวกรุง



ดวงเพลงของเดบบี้พุ่งสุดๆจากเพลงนี้   นอกจากได้แผ่นเสียงทองคำ และทำสถิตินักร้องหญิงเดี่ยวยอดนิยมของปี   1957  เพลงนี้ยืนเด่นเป็นสง่าอันดับหนึ่งถึง 5 สัปดาห์ และถูกส่งชิงออสการ์ด้วย แต่ไปพ่ายแพ้เพลง "All The Way" อย่างน่าเสียดาย

[SILA]

            นอกจากเพลง Tammy แล้วยังชอบเพลงของคุณย่าเด็บบี้จากหนังเรื่อง "The Singing Nun"
ซึ่งมีเพลงไพเราะหลายเพลงเช่น เพลงนี้ Beyond the Stars

[เทาชมพู]

ส่วนดิฉัน  ต้องเพลงนี้ค่ะ

[เทาชมพู]

ฺBrother John ก็เพราะค่ะ

[เทาชมพู]

เพลงนี้เต็มเปี่ยมด้วยความหลัง ในชีวิตของเดบบี้
Am I That Easy To Forget



เพลงนี้ติดอันดับ 25 ในบิลบอร์ดเมื่อปี 1960  ไม่ใช่เพลงใหม่ เป็นเพลงคันทรีที่มีคนร้องมาแล้ว     แต่เป็นเพลงที่แฟนคลับของเดบบี้จำได้แม่นว่า มันสะท้อนอารมณ์เจ็บปวดรวดร้าวของเธอ ที่ถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดฉกชิงสามีไปอย่างเลือดเย็น
เพื่อนรักคนนั้นคือ ลิซ หรือเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ดาวอภิมหาอมตะคนหนึ่งของฮอลลีวู้ด

ย้อนหลังไปในยุค 1950s  เดบบี้เป็นดารานักร้องกำลังรุ่ง แต่งงานกับนักร้องหนุ่มยอดฮิทคนหนึ่งของยุคชื่อเอ็ดดี้ ฟิชเชอร์   ที่ดังขนาดมีรายการโชว์ของตัวเอง   ลูกสาวคนแรก แครี่เกิดเมื่อ 1956  สองปีต่อมาตามมาด้วยลูกชายชื่อท็อดด์  เป็นครอบครัวเล็กๆที่สมบูรณ์แบบครอบครัวหนึ่งของฮอลลีวู้ด
เพื่อนสนิทของครอบครัวนี้คือดาราสาวสวยที่สุดในยุคนั้น ลิซ เทเลอร์ซึ่งขณะนั้นสมรสกับไมค์ ท็อดด์  ผู้กำกับหนังชื่อดัง  สนิทกันขนาดลิซเป็นแม่ทูนหัวให้แครี่      ไมค์ ท็อดด์เสียชีวิตปุบปับด้วยเครื่องบินตก    เดบบี้และสามีช่วยกันปลอบโยนให้กำลังใจแม่ม่ายสาวสวย อย่างเพื่อนแท้ไม่ทิ้งกันในยามลำบาก
ผลก็คือ   ลิซคว้าสามีเพื่อนมาเป็นยาสมานแผลแทนสามีผู้จากไป    เดบบี้บ้านแตก    เธอกับเอ็ดดี้หย่ากันในปี 1959  ปีต่อมาเพลงนี้ก็ออกมาสู่คนฟัง
ในครึ่งศตวรรษก่อน ศีลธรรมของชาวบ้านเข้มงวดกว่าสมัยนี้มาก      เรื่องของลิซกับเอ็ดดี้อื้อฉาวจนรายการโชว์ของเขาถูกยกเลิกไป     สองคนนี้เสวยสุขอยู่บนต้นงิ้วได้ไม่กี่ปี  ลิซก็ไปก่อรักอื้อฉาวครั้งใหม่กับริชาร์ด เบอร์ตัน  เมื่อเล่นหนังคลีโอพัตรา    แล้วทิ้งเอ็ดดี้ไปไม่ไยดี    ส่วนเดบบี้แต่งงานใหม่ไปแล้วในตอนนั้น   ทั้งคู่ไม่ได้กลับมาคืนดีกันอีกเลย