รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว

[เทาชมพู]

สุนทราภรณ์ บิ๊กแบนด์

[เทาชมพู]

วินัย จุลละบุษปะ  และชวลี ช่วงวิทย์ แห่งอเมริกา
Jimmy Roberts and Norma Zimmer



Jimmy Roberts and Norma Zimmer แห่งประเทศไทย
วินัย จุลละบุษปะ และชวลี ช่วงวิทย์




ในวิดีโอข้่างบนนี้ คุณชวลีวัยสูงขึ้นแล้ว ประกอบกับมีโรคเบียดเบียนทำให้เสียงเธอขึ้นไม่สูงเท่าที่ควร   แต่ก็ยังเห็นแววของ "สาริกาเสียงใส" ซึ่งเป็นสมญาของเธออยู่
ขอเอามาลงเพื่อให้เปรียบกับนักร้องคู่ของลอเรนซ์ เวลค์  ข้างบนนี้ค่ะ

ใครอยากฟังเสียงคุณวินัยและคุณชวลี  ในช่วงที่ยังหนุ่มสาว เสียงใส ขึ้นได้สูงถึงที่สุด ฟังได้จากวิดีโอข้างล่างนี้

[เทาชมพู]

สมศักดิ์ เทพานนท์ และมาริษา อมาตยกุล อดีตนักร้อง สุนทราภรณ์



สมศักดิ์และมาริษา ของอเมริกา  Guy Hovis and Ralna English

[เทาชมพู]

นักร้องของวงลอเรนซ์ เวลค์ จะต้องสวมชุดราตรียาวสวยหรู   เช่นเดียวกับนักร้องชายก็ต้องสวมเสื้อนอก ตัดผมเผ้าเรียบร้อย
ที่ขาดไม่ได้คือ นอกจากร้องเดี่ยวแล้วยังมีร้องหมู่อีกด้วย

สาวๆคลื่นลูกใหม่ ของสุนทราภรณ์



สาวๆของลอเรนซ์ เวลค์

[เทาชมพู]

ของเขามีเต้นรำพื้นเมือง  square dance...



ของเราก็มีรำวง

[SILA]

            เคยได้ยินชื่อคุณปู่ลอว์เรนซ์นานแล้ว อ่านเรื่องวงและนักร้องของคุณปู่เปรียบกับ
วงสุนทราภรณ์แล้วก็ยิ้มไปด้วย ครับ

             ในอดีตไทยเรามีเพลงแต่งสำหรับร้องคู่ชายหญิงตอบต่อความมากมาย ในขณะที่เพลงฝรั่ง
ที่แต่งเป็นเพลงคู่แบบไทยนั้นมีน้อย ที่คุ้นเคยในอดีตก็คือ Paul & Paula (ยังมีชีวิตอยู่ทั้งสองท่าน)

         
 
           คุ้นเคยเพลง My Wonderful One และ I Can't Stop Loving You
เวอร์ชั่นร้องเดี่ยวครับ
     
             
             

[เทาชมพู]

เคยฟัง  Paul & Paula  เมื่อเป็นเด็กๆ  แต่ไม่ได้ยินอีกนานจนกระทั่งลืม  มานึกได้เมื่อคุณ SILA โพสต์วิดีโอให้ดูนี่เองละค่ะ    เพิ่งรู้ว่ายังอยู่ทั้งสองคน  เดี๋ยวจะไปหาเพิ่มในยูทูบ
ต้องขอบใจผู้คิดเว็บยูทูบขึ้นมา ทำให้มีโอกาสนั่งยานเวลากลับไปดูรายการทีวีในอดีตได้นับไม่ถ้วน   อะไรที่ไม่คิดว่าจะได้ดู (เพราะดาราแก่ตายไปหลายปีแล้ว) ก็ได้ดู    รวมทั้งรายการคุณปู่ลอเรนซ์ เวลค์นี่ด้วย   

เสียดายที่ดิฉันยังหาตัวนักร้องเสียงน้ำเซาะหินอย่างคุณรวงทอง  ในวงของปู่ลอเรนซ์ไม่พบ     พบแต่นักร้องสาวชาวเมกซิกัน เสียงเจื้อยแจ้วเข้าคนหนึ่ง    เธอชื่อ Anacani  (อ่านว่า อันนาคานี)
ลองเอามาเทียบกันให้คุณ SILA ฟังว่า เสียงของอันนาคานีพอจะเป็นน้ำเซาะหิน เท่าคุณรวงทองของเราได้ไหมคะ

เสียงคุณรวงทอง



เสียงของอันนาคานี 

[SILA]

          ฟังแล้วเสียงคุณรวงทองจะหวานแหลม(คมชัด)กว่า ครับ

[เทาชมพู]

หาเสียงน้ำเซาะหินในเมืองฝรั่งมาเทียบคุณรวงทองได้ยากจริงๆ

[เทาชมพู]

 นึกถึงนักแต่งเพลงอีกคนหนึ่งซึ่งถึงแม้ว่าไม่ได้ร้องเอง  แต่ก็บันดาลให้เกิดเสียงสวรรค์ขับกล่อมคนไปได้ทั่วอเมริกาและประเทศอื่นๆทั่วโลก     เป็นนักแต่งทำนองเพลงคนโปรดของดิฉันด้วย  จึงขอนำมารวมไว้ในกระทู้นี้เป็นที่ระลึกถึงเขา
เขาคือเฮนรี มันชินี (Henry Mancini) เกิดเมื่อ 16 เมษายน ค.ศ. 1924  ถึงแก่กรรม 14 มิถุนายน ค.ศ. 1994    เจ้าของทำนองเพลงที่ได้ทั้งรางวัลออสการ์และรางวัลแกรมมี่       ในจำนวนนี้ที่คอเพลงรู้จักดีคือ Moon River , Days of Wine and Roses, เพลงจากหนัง Dr.Zhivago (Lara's Theme)

นอกจากนี้ มันชินีแต่งเพลงประกอบไตเติ้ลภาพยนตร์และหนังชุดทางทีวี เรื่องดังๆเอาไว้หลายเรื่อง      แฟนหนังและทีวีชาวไทยจำนวนมากรู้จักเพลงและหนังพวกนี้ดี  แต่อาจไม่รู้ว่าใครเป็นคนแต่ง

อย่างเจ้าเสือดาวสีชมพูตัวนี้  พิงค์ แพนเตอร์ ก็ฝีมือของมันชินี

[เทาชมพู]

ขบวนการพยัคฆ์ร้าย   Mission Impossible  ที่เอามาทำใหม่ก็ยังใช้เพลงเก่าอันลือลั่นอยู่ดี

[เทาชมพู]

Remington Steele ที่ส่งให้ Pierce Brosnan โด่งดังขึ้นมาในอเมริกา  เพลงนำเรื่องก็เป็นผลงานของมันชินีเช่นกัน




ย้อนหลังกลับไปในยุค 1970s  ไม่มีใครไม่รู้จัก นางฟ้าชาลี ยุคแรก

[เทาชมพู]

ย้อนหลังไปในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 1960s  เป็นยุคที่หนุ่มสาวอเมริกันเรียกตัวเองว่า "บุปผาชน" หรือ flower people  ออกมาเดินเกลื่อนถนน  ส่งดอกไม้ให้คนแปลกหน้าเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ และสันติภาพ     ในช่วงนี้สงครามเวียตนามกลายเป็นความเบื่อหน่ายของหนุ่มสาวที่ไม่รู้ว่าจะไปตายเพื่อประเทศอื่นทำไม     เป็นยุคของการแหวกออกจากกฎเกณฑ์ประเพณีทั้งหลายของหนุ่มสาวที่เกิดมาในยุคเบบี้บูมเมอร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2     ได้รับการประคบประหงมจากพ่อแม่และรัฐบาลอย่างดีเกินไป   จนไม่อยากอยู่ในสังคมแบบเดิมๆอีก แต่แสวงหาอิสระเสรีของตนเอง  กลายเป็นพวกฮิปปี้ ติดยา ร่อนเร่ เพื่อแสวงหาความหมายของชีวิต

ในตอนนั้น เพลง San Francisco  ก็เกิดขึ้นมา    เนื้อเพลงบรรยายถึงบุปผาชนในเมืองซานฟรานซิสโก    เป็นเพลงที่กลายเป็นไฟลามทุ่งฮิทติดอันดับ เป็นสัญลักษณ์ของแนวคิดแบบเสรีชนคนฮิปปี้   เมืองซานฟรานซิสโกที่เคยเลื่องลือเรื่องไชน่าทาวน์และข้าวหน้าเป็ดมาก่อน  ก็เปลี่ยนเป็นเมืองแห่งเสรีภาพ ไม่ทำตามค่านิยมกฎระเบียบใดๆที่เข้มงวดกันมาก่อน

คนร้องเพลงนี้คือ Scott McKenzie หนุ่มนักร้องวัย 28 ปีซึ่งมีเพลงนี้เป็นเพลงลายเซ็น  ชื่อเสียงก้องกำจายไปทั่วสองฟากฝั่งแอตแลนติค ทั้งอเมริกาและอังกฤษ

สก๊อตดับแสงไปด้วยวัย 73 ปี  ในปี 2012  ปีก่อนนี้เองค่ะ

[เทาชมพู]

อีกเพลงหนึ่งของสก๊อต

[SILA]

เพิ่งได้ทราบข่าวดาวเสียงดับแสงไปอีกดวง

เธอคือนักร้องหญิง

              Eydie Gorme (August 16, 1928 – August 10, 2013) เจ้าของเพลงคุ้นหู

                    "Blame It on the Bossa Nova"    เพลงฮิทติดชาร์ทอันดับสูงสุดของเธอ