พักในโคราชสองคืนเชียวหนอจะขอบอก

เมื่อกองทัพยกมาถึงเมืองนครราชสีมา คุณหลวงพัฒนพงศ์ภักดีพรรณนาเรื่องราวต่าง ๆ
ถึงสามสักยักแยกมาเบื้องซ้าย คนเรียงรายนั่งดูอยู่หนักหนา
เห็นโรงผู้หญิงคนชั่วดูทั่วมา เหมือนหญิงข่าไม่น่ารักเลยสักคน
มาประเดี๋ยววกเลี้ยวซ้ายมือแว้ง เห็นกำแพงโคราชสูงผาดโผน
แม้นข้าศึกหมายจะมาประจญ ซึ่งจะปล้นเมืองได้เห็นไม่มี
ด้วยกำแพงสูงมีสักสี่วา ดูแน่นหนาคึกคักเป็นศักดิ์ศรี
ซึ่งข้างนอกกำแพงวุ้งแวงดี ล้วนแต่มีคูรอบขอบสีมา
มีเชิงดินชั้นนอกห้าศอกสูง แม้นมีฝูงปรปักษ์เรารักษา
เพียงเชิงเทินชั้นนอกออกประดา ศัตรูอย่าเข้าไปถึงในคู
เมืองโคราชกว้างใหญ่มิใช่น้อย ข้าศึกเพียงสิบร้อยเห็นพอสู้
เมืองใหญ่โตทำไมมีสี่ประตู หอรบอยู่ข้างบนชอบกลดี ฯ
กองทัพกรุงเทพฯ พักอยู่เมืองนครราชสีมาได้สองวัน แม่ทัพก็ให้มีงานบัตรพลีไหว้ศาลหลักเมือง
พอหยุดพักอยู่นั่นสองวันครบ เจ้าพระยาปรารภจะผายผัน
นายทัพนายกองมาพร้อมหน้ากัน ไปอภิวันท์เทพารักษ์เจ้าหลักเมือง
พร้อมนายทัพนายกองมาซ้องแซ่ ท่านเจ้าคุณขี่แคร่ไม้ลายเหลือง
พร้อมนายทัพนายกองตามนองเนือง เสร็จย่างเยื้องเข้าไปในประตู
ครั้นถึงศาลอารักษ์พระหลักเมือง พร้อมด้วยเครื่องบูชาไก่ปลาหมู
ทั้งบายศรีซ้ายขวาน่าเอ็นดู เสร็จแล้วบูชาเจ้าทั้งเหล้ายา
แล้วเรียกคนขลุ่ยกลองกระบองควง แกว่งบวงสรวงอารักษ์เป็นหนักหนา
ทั้งต่อยมวยรำละครฟ้อนบูชา พิณพาทย์สาธุการประสานตี
แวะพักทัพที่โคราชอยู่นานเลยครับ ยังได้ซ่อมเจดีย์ที่วัดกลางด้วย แต่ไม่ได้กล่าวถึงศึกเจ้าอนุวงศ์จริง
เมื่อวันหนึ่งเจ้าคุณจึ่งออกจากหอนั่ง พร้อมสะพรั่งนายพหลพลขันธ์
จึ่งปรึกษาไต่ถามเนื้อความพลัน ว่าวันนั้นเข้าไปที่ในเมือง
เห็นเจดีย์องค์ใหญ่ในวัดกลาง ทำลายร้างอยากบำรุงให้ฟุ้งเฟื่อง
จึงหันหน้าปรึกษาท่านเจ้าเมือง ก็พูดเยื้องชักเชือนบิดเบือนไป
เพราะว่าในเมืองนี้สุดที่คิด ด้วยปูนอิฐไม่มีอยู่ที่ไหน
เจ้าคุณฟังยุบลเป็นจนใจ ก็มิได้ตอบความตามยุบล
ไม่มีอิฐปูนก็คงซ่อมเจดีย์ไม่ได้
เนื้อความข้างบน เอามาจาก
ตู้หนังสือเรือนไทย ของคุณม้านั่นแหละ
