เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 8881 หนังสือภาษาอังกฤษที่ครูแหม่มเลือกนำมาสอนเจ้าหญิงผู้ทรงปัญญาของไทย
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 04 ก.ย. 12, 01:04


        เนื่องจากอ่านหนังสือและเอกสารเรื่อง "สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น"  ของหม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย  ดิศกุล

อยู่หลายรอบ      ชอบตอนท่านหญิงเรียนภาษาอังกฤษที่วัง    ท่านหญิงเล่าว่าครูเป็นภรรยาของ รองกงสุล

อังกฤษประจำประเทศไทย  ท่านเล่าไว้แค่นั้น


        ในวันแรก   ครูมาสอนที่วัง   ท่านหญิงอายุประมาณ ๑๕ - ๑๖ ปี    ท่านเรียนกับน้องท่านที่อายุไล่เลี่ยกันอีกสององค์

จุดประสงค์ของ "เด็จพ่อ"  ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ดำรงตำแหน่งกรรมการการคลัง   มีกิจเกี่ยวข้องกับชาวต่างประเทศ

ซึ่งเลยไปถึงการสมาคม  การเลี้ยงตอบแทนตามประเพณี


        เด็จพ่อรับสั่งว่า   พ่อจำจะต้องมีแม่บ้านช่วยรับแขกผู้หญิงด้วยกัน  เพราะแขกเขาก็ต้องมีผู้หญิงมาด้วย
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 01:24



        สมเด็จฯ  กรมพระยาดำรง  ตรัสว่า   ท่านอาจไปวานผู้หญิงอื่นมาทำหน้าที่แม่บ้านให้ก็ได้   แต่ท่านอายว่า

มีลูกไม่ดีพอจะทำได้เอง   จึงคิดจะหาครูดี ๆ มาสอนให้เต็มที่


        ท่านอธิบายว่า "พ่อจะยอมเสียเงินซื้อกุญแจทองไว้ให้เธอหาความสุข    เพราะการอ่านหนังสือนั้น 

เราเปิดตู้ออกเลือกได้ตามอารมณ์ของเรา    ถ้าเราไม่ถูกใจก็ใส่ตู้เก็บมันเสีย   ผิดกับคุยกับคนซึ่งแม้นจะไม่ถูกอารมณ์เราก็ต้องทนฟัง"


        ท่านเรียกผู้ที่ไว้ใจมาปรึกษาหารือ

        ความต้องการคือต้องการครูอังกฤษชั้นดี  และพูดภาษาไทยไม่ได้    เขาจะคิดแพงเท่าไรก็ยอม     

ต่อมาก็ได้ตัวครูเป็นภรรยาของรองกงสุลในสถานทูตอังกฤษ  เพิ่งแต่งงานออกมาจากยุโรปและมีลูกเล็ก ๆ คนหนึ่ง 

ต้องการเงินช่วยค่าใช้จ่ายมากขึ้น   เขาจะคิดชั่วโมงละ ๕ บาท 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 02:04



        เช้าวันหนึ่ง  ครูก็มาเฝ้าและรู้จักกับหม่อมเจ้าหญิงทั้ง ๓ คน  คือท่านหญิงพิลัย   ท่านหญิงหญิงเหลือ  

และท่านหญิงพูน


ครู อายุราว ๓๐  หน้าตาท่าทางเป็นหญิงอังกฤษอย่างบริบูรณ์     สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

อธิบายว่าทรงต้องการให้ท่านหญิงเป็นแม่บ้านทั้งจัดงานและรับแขกได้   ส่วนเลขนั้นให้เรียนแต่พอทำบัญชี

ได้ก็พอแล้ว   ขอแต่ให้เป็นผู้หญิงที่ educated จริง ๆ  อย่าง accomplish เท่านั้น    
                            
เราก็ตกลงกันถึงเวลาว่าจะเป็นสามวันในหนึ่งอาทิตย์   ตั้งต้นเรียนเวลา ๙ นาฬิกาถึง ๑๑ นาฬิกา  เป็นวันละสองชั่วโมง


        วันแรกครูก็ให้อ่านเรื่อง  The Wheel of The  Law  ที่ อาลาบาสเตอร์เป็นคนเขียน        เพราะเป็นเรื่องของ

พระพุทธศาสนาที่เรารู้แล้วในภาษาไทย   ต่อจากนั้นก็ให้อ่านเรื่องของ  Charles Dicken    มีเรื่องของ

David Copperfield,   A Tale of Two Cities       และ  Picvic Papers
                                

        (ได้ยินชื่อ ปิควิค  เปเปอร์ แว่บ ๆ  ในเรื่อง สี่ดรุณี  ไม่เคยได้อ่านเลย       ไม่ละอายที่จะรายงานว่า

The Wheel of Law  นั้น คิดเอาเองว่าเป็นหนังสือกฎหมาย  

จนได้จับอ่านที่คริสตีส์ นำมาประมูลแถวราชประสงค์หลายปีมาแล้ว   และได้เป็นสมบัติมาเล่มหนึ่งจากหนังสือสะสมของ คุณ

บอนนี่  เดวีส   ภรรยาของคุณ เจมส์ อี. เดวิส  เป็นฉบับที่พิมพ์ในปี  ๑๙๗๑  ที่ไทเป)


        จึงไปตามหาประวัติครูมา  ซึ่งมีน้อยมาก     ประวัติของตาสามีนั้นมากมีจนคิดผิดไปว่ามีฝรั่งชื่อนี่สองคนค่ะ

ติดต่อเพื่อน ๆ นักอ่านไป ว่า  ไฉนไม่มีใครเล่าเรื่องสามีภรรยาคู่นี้ไว้บ้างเลย   



บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 09:21



        ครูแหม่มนั้น  ท่านหญิงพูนพิสมัยเล่าประทานไว้ว่าชื่อ   Le May   มีลูกเล็ก ชื่อ Audrey


        ค้นข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ว่า  สามี ชื่อ  Reginald Le May   มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะได้เขียน

หนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้มากมาย     อยู่เมืองไทยนานถึง ๒๖ ปี

       Reginald Le May  เกิดเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ค.ศ. ๑๘๘๕  ณ Kent, ประเทศอังกฤษ

ตอนเด็ก ๆ  คนเรียกว่า Rex    เรียนหนังสือเก่ง  จนไปจบที่ King College    จบมาก็ไปทำงาน

เป็นเสมียนระดับงานปกปิดที่สถานกงศุลใหญ่ในซูริค    ต่อมาก็สอบงานนักแปล  และเดินทางมาเมืองกรุงเทพ

ในเดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๔๕๑

สำนักงานที่ ขึ้นอยู่ คือ  His Britannic Majesty's Far East Consular Service(ปฎิบัติราชการใน ประเทศจีน

ญี่ปุ่น  และสยาม)

หกปีต่อมาก็ย้ายขึ้นไปประจำเชียงใหม่   ปลายปีนั้นเองก็ย้ายไปลำปาง    Le May  เดินทางไปทั่วภาคเหนือ

ขบวนของเขาน่าสนใจมาก  เพราะมีช้าง ๔ เชือก(ที่อยู่ประจำกงศุลที่เชีบงใหม่  ยืมมา)   เสมียนไทย ๑ คน 

เสมียนพม่า ๑ คน   หัวหน้าควาญช้างผู้นอกจากจะดูแลช้างแล้วยังรับงานเป็นช่างตัดผมและพ่อครัวไปด้วย

ควาญ ๔ คน  ลา ๒ ตัว   คนเลี้ยงลา ๒ คน  หัวหน้าคนเลี้ยงลา ๑ คน    กุลีแบกของ ๒ คน  คนส่งสาร ๒ คน 

พ่อครัว ๑ คน  และเด็กหนุ่มรับใช้ทั่วไป ๒ คน   เรื่องการเดินทางนี้  Le May  บรรยายไว้ว่า เดินทางจากเชียงใหม่ 

แวะที่ลำปาง  เดินทางไปแพร่ และน่าน  และกลับมาที่ลำปาง   ระยะทาง ๗๐๐ ไมล์   ใช้เวลา ๕ เดือน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 11:05



ครูแหม่มชื่อ   Dorothy  Madeline  Castle
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 14:02



        ท่าทางเป็นหญิงอังกฤษอย่างบริบูรณ์   เป็นอย่างไร


ผิวขาว  แก้มราวดอกกุหลาบที่มีชมพูสดใส  กิริยาองอาจแต่สงบเสงี่ยม

สายตาแจ่มใส  สนใจที่ได้เข้ามาเป็นแขกในบ้านเสนาบดีของสยาม  และได้พบกับ

princess  คนสำคัญที่ใคร ๆ ก็รู้จักว่าเป็นผู้มีความกรุณาและสนใจจะคบกับ

แขกบ้านแขกเมือง


        คุณ Le May   คงสวมใส่ผ้าลินิน  หรือผ้าป่านลายดอกเล็ก ๆ   เสื้อเป็นคอกลมติดคอ  กระโปรงจีบบาน

อาจจะมีลูกไม้ถักเองประดับ      แน่นอนเธอต้องใส่หมวก  และไม่ถอดออกเมื่อเข้ามาในห้องรับแขก

เธอสอนท่านหญิงทั้งสามอยู่เป็นเวลาถึง ๑๘ เดือน     ซึ่งหมายความว่าสามีประจำอยู่ในกรุงเทพในเวลานั้น

ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงหลายคน   ที่มาจากครอบครัวสามัญ  การศึกษาลุ่ม ๆ ดอน ๆ    อาศัยความอดทน 

อดกลั้นและขยันขันแข็ง   ก็สามารถก้าวหน้าทำงานที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้นได้       เมื่อพร้อมจะสมรสก็จะ

กลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอน  และเลือกสตรีที่อยู่ในสังคมที่สูงกว่าได้  เพราะอังกฤษตื่นเต้นกับเสน่ห์ของตะวันออก

และพร้อมจะผจญภัย        ทรัพย์สินส่วนตัวที่ติดตัวมาก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของสามีโดยสิ้นเชิง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 14:11




เมื่อฮะรีปักส์กลับไปอังกฤษ    ก็ได้แต่งงานกับธิดาของอดีตนายทหารเรือ  และพาเธอกลับมา

เมืองจีนผ่านเมืองไทย   กระเป๋าเสื้อผ้าเกิดติดไปกับเรือโดยสารลำอื่น  หนุ่มน้อยเขียนจดหมาย

บ่นไปทั่ว     ผลสุดท้ายก็ขอนุญาตหน่วยงานใช้เงินสำรองซื้อเสื้อผ้าเพียงเล็กน้อย  เพราะเป็นเรื่องสุดจะทนที่

สุภาพสตรีเยี่ยงเจ้าสาวหมาด ๆ ของเขาต้องทนทรมานในเสื้อผ้าแบบอังกฤษที่ติดตัวมา
บันทึกการเข้า
giggsmay
ชมพูพาน
***
ตอบ: 135


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 14:15

พอดีเพิ่งจะได้อ่านหนังสือ สัมภาษณ์ ม.จ.จงจิตรถนอม ดิศกุล โดย ส.ศิวลักษณ์ เป็นผู้สัมภาษณ์ มีตอนนึงท่านหญิงทรงให้สัมภาษณ์ว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ท่านไม่ทรงให้หม่อมคนไหนขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่เพราะว่าท่านบอกว่าถ้าผู้หญิงขึ้นมาอยู่แล้วจะสกปรกจะไม่สะอาด ไม่ทราบว่าท่านทรงหมายความว่ายังไงคะอ่านแล้วก็งงปนเคืองหน่อยๆ(อย่าถือเลยนะคะ) อายจัง อายจัง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 14:17

หารูปครูแหม่ม Dorothy  Madeline  Castle มาช่วยงานไม่ได้

หาได้แต่รูปคุณฝาระมี Reginald Le May ก็น่าจะยังดี


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 15:12


ขอบพระคุณคุณ  navarat.c ค่ะ


คุณ gigsamay  คะ

        สมเด็จกรมพระยาดำรงท่านมีหม่อมถึง ๘ คน  พระโอราธิดา  ๓๓ องค์

ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการเนื้อที่ส่วนตัวไม่น้อย   ไหนจะกระโถนน้ำหมาก   โหลอบผ้า

เครื่องสำอางค์มากมี  ขนาดน้ำมันและสีผึ้งเอาไว้เกล้าจุกเจ้าชายและเจ้าหญิง



        สมเด็จทรงงานตลอดเวลา   ท่านต้องการความสงบอย่างยิ่งยวด

เอกสารของท่านก็ไม่ทรงอยากให้ใครอ่านจะแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ    แล้วญาติผู้ใหญ่ของหม่อม

ที่จะมาค้างคืนสักสามวันเจ็ดวันเพื่อชื่นชมเจ้าชายเจ้าหญิง  ก็คงก่อความรำคาญให้มาก


คนที่ท่านคุยด้วยเห็นมีแต่คุณยายของท่านหญิงพูนเท่านั้น   ท่านว่าคุยแล้วได้ความรู้



พระโอรสธิดาก็จะส่งเสียงขึ้นมาได้ทุกขณะ    



       ท่านเล่าถึงหม่อมเฉื่อยที่ท่านไปสู่ขอและพาเข้าวังมาว่า

เป็นคนไม่พูดมาก   ไปไหนมาไหนเห็นอะไรก็เก็บความเอาไว้เงียบ ๆ   เมื่ออยู่ตามลำพังจึงถ่ายทอดเรื่องที่ได้ยินมาถวาย




หม่อมสุขภาพไม่ดี   แต่ก็มีถักถุงทองตาชุนได้สวยเลอเลิศ    สมเด็จพระพันวษาเมื่อคราวจะส่งของไปงานที่ฟิลาเดเฟีย

ได้โปรดประทานผ้าทองมาใช้ทำงาน    รับสั่งว่ากวนแต่ความรู้คำแนะนำ  ไม่อยากให้เสียสตางค์แต่อย่างใด



















บันทึกการเข้า
giggsmay
ชมพูพาน
***
ตอบ: 135


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 15:51

 ;Dขอขอบคุณ คุณ Wandee มากๆเลยคะที่มาตอบให้หายเคืองใจ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 16:14



อิอิ  เรื่องปลีกย่อยจำแม่นค่ะ    ใครอย่ามาถามเรื่องปี เรื่อง ร.ศ. นะ   นึกไม่ทันซักที

ไปคอยเพื่อนที่หอจดหมายเหตุ   อ่านหนังสือได้ไวมาก   เพื่อนกลับมาถามว่า  เหตุเกิดเมื่อใด

โอ๊ะ!    อ่า...  (จาไปรู้เหรอ)  เอ่อ...เดือนธันวาจ้ะ

ปีไหน...(บอกว่าไม่ทราบ  ไม่ทราบ)  อ่า....

ปีที่เท่าไร  หา!??!      ปีที่สองในรัชกาลที่หกจ้ะ

อากาศที่ห้องค้นต้นฉบับน่ะ  หนาวเจีี๊ยบ    ธรรมชาติก็ดี

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 16:32



        ต่อจากนั้นครูก็ให้อ่านเรื่องของ  Charles Dicken     ครูทันสมัยจัง

เมื่ออ่านแล้วครูก็เอาหนังสือนั้นกลับไปบ้านด้วย   และสั่งนักเรียนให้ให้เขียนเล่าเรื่อง

ที่อ่านแล้วว่าเข้าใจอย่างไรทุกวัน

เมื่ออ่านหนังสือเล่ม ๆ จบ   ก็อ่านหนังสือพิมพ์รายวัน  และสนทนาถึงเรื่องต่าง ๆนั้น

บางวันครูให้ผลัดกันเป็นเจ้าของบ้านทีละคน   นอกจากนั้นออกไปอยู่ข้างนอก  แล้วเข้ามา

เป็นแขกกินน้ำชา    พอจบฉากของเราแล้ว  ครูก็เข้ามาเป็นเจ้าของบ้าน   ให้พวกเราเป็นแขกเข้ามาทีละคน

ถ้าครูมีการเลี้ยงดูที่บ้านก็ให้พวกเราไปช่วยจัดและทำกับข้าวไปด้วย  (ครูแหม่มเฉียบแหลมมาก   สามารถเอ่ยแบบ

ไม่ตั้งใจว่า  วุ๊ย!    เมื่อครู่  เจ้าหญิงของ ปริ๊นซ์ดำรงก็มาปรุงให้นะ  แขกเหรื่อก็คงกลืนน้ำลายกันเอื้อกอ้าก)

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 04 ก.ย. 12, 22:29



       ครูแหม่มสอนวิธีเลี้ยงดูทารก   การรักษาพยาบาลเบื้องต้น  การเตรียมของจะใช้ก่อนหมอมา

เธอเอาใจใส่เรื่องสีมาก   โดยถามว่าห้องนี้ควรใช้สีอะไร    การจัดห้องรับแขกหรือห้องกินข้าวจะ

จะถามเสมอว่า  จะปักดอกไม้สีอะไรห้องจะสดใสขึ้น


        ดรั้งหนึ่งครูกลับไปเยี่ยมบ้านสองสามเดือน  ได้บอกวันกลับให้เราไปรับที่สถานีรถไฟ

เราก็ไปกันทุกคน    พอรถไฟหยุดเราก็วิ่งไปหาครูหัวเราะกันลั่น    แต่ครูหน้าแดงเฉยไม่หัวเราะ

เป็นแต่ยิ้ม ๆ มาตลอดทาง   จนถึงบ้านก็ตรงเข้ากอดจูบบอกว่าคิดถึงพวกเรามากกว่าทุกคน

แต่ในที่ประชุมชนเช่นสถานีรถไฟ  ไม่ใช่สถานที่ที่จะแสดงความรู้สึก   


        เราเรียนกับ Mrs. Le May  พร้อมกับทำงานรับแขกด้วยเขียนจดหมายเชิญจนถึงจัดที่นั่ง  ทำเมนู

จนถึงเวลาครูกลับบ้านก็เลิกเรียน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.04 วินาที กับ 19 คำสั่ง