เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
อ่าน: 34575 ท้าวมหาพรหมเอราวัณ พระพรหมแห่งภาคพื้นเอเซีย
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 16:20

ที่ไต้หวันก็มีศาลพระพรหม

แต่แก้บนไม่เหมือนเมืองไทย

 ขยิบตา

ความเชื่อเรื่องพระพรหมนี้ ในฮ่องกง ท่าทางจะเป็นที่นิยมมาก เพราะสมัยเด็ก ๆ ผมเคยดูภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปราบผีดิบ แล้วฝ่ายหมอผี จะต้องมีการเข้าทรงเพื่อนำวิญญาณต่าง ๆ มาช่วยปราบผีดิบ หนึ่งในนั้นคือเข้าทรงพระพรหมครับ พอพระพรหมประทับผ่านร่าง คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็น 4 คนในร่างเดียวตามหน้าของพระพรหมครับ

ขอบคุณท่านทั้งสองครับ นอกจากนี้แล้วพระพรหมที่ได้จำลองรูปแบบไปประดิษฐานยังต่างประเทศนั้น มีหลายประเทศเช่น

ที่ไต้หวัน

ที่ฮ่องกง (วัดต้าไม)

ที่อเมริกา (ที่ลาสเวกัส และไทยแลนด์พลาซ่า ฮอลีวู๊ด)

ที่ประเทศจีน (วัดม้าขาว กรุงปักกิ่ง)
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 16:28

การแก้บนที่พิศดารอย่างที่คุณเพ็ญฯ นำมาให้ดูเป็นโคโยวตี้มันน้อยไป

เมื่อราว ๓๐ ปีก่อนนั้นมีดาราฮ่องกง เธอคิดอย่างไรไม่ทราบ เข้ามาจ้างพนักงานศาลท้าวมหาพรหมล้อมผ้าขาวไว้รอบบริเวณ ทันใดนั้นเธอก็แก้ผ้า ร่างเปลือยเปล่าเต้นโชว์ นัยว่าเธอมีทุกข์หนักแล้วมาขอพรและด้วยความทุกข์หนักนั้นทำให้เธอพลั้งปากไปว่า หากสำเร็จแล้วเธอจะแก้ผ้ารำถวาย

แต่ก็รำได้ไม่นานนัก เพราะมันผิดศีลธรรมประเพณีของชาวไทยและเสี่ยงกับตำรวจจับ แต่กระแสข่าวนั้นยังพัดโหมอยู่ทุกวันนี้ บางครั้งก็มีชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาถามว่า ตอนไหนคนไหว้น้อยสุดเขาจะแก้ผ้ารำ หรือไม่ก็ถามตรงๆ เลยว่า จะขอแก้ผ้ารำได้ไหม  ขยิบตา ซึ่งตอนนี้รำไม่ได้แล้ว เมื่อห้ามก็แต่งตัวโป๊ ๆ มาไหว้พระแทนที่
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 16:49

จนทุกวันนี้ ดาราฮ่องกงก็ยังยกขบวนกันมาไหว้พระพรหมกันไม่ขาด  จัดเป็นทริปไหว้เจ้ากันเลยทีเดียว
สวนทางกับคนไทยที่ยกขบวนกันไปไหว้ขอลูกกับเจ้าแม่กวนอิมที่ฮ่องกง

 ชาวฝรั่งต่างชาติทั่วโลกไม่ว่าใครก็เชื่อว่าบ้านเราเมืองเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของดีของขลังอยู่มากมาย และเท่าที่ทราบทั้งข่าววงในวงนอกว่าทุกๆ ปี มีดาราฮ่องกงจำนวนไม่น้อยที่ทั้งแอบหรือเปิดเผยมากราบไหว้สักการะขอพรองค์พระพรหมเอราวัณไม่ขาดสาย อีกทั้งตระเวนไหว้พระไหว้เจ้าตามวัดต่างๆ ที่บ้านเราก็มาก


อย่างเมื่อตรุษจีนปีใหม่จีนที่ผ่านมา "เจิ้งจื่อเวย" ก็พาทีมดารานักแสดงยกโขยงมาขอพรจากเทพมังกรขาวบ้านเราที่ได้รับความเลื่อมใสศร้ทธาจากชาวฮ่องกงไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีมะโรงมังกรไฟซะด้วย ตามความเชื่อของชาวจีนด้วยแล้ว ในปีมังกรไฟอย่างนี้การมักเคารพสักการะบูชาเทพเจ้ามังกรขาวนั้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับปีนี้ จึงทำให้ทัวร์ไหว้เจ้าทริปนี้ยังไงขาดไม่ได้จริงๆ ถึงขนาดมีข่าวว่าร่างทรงของเทพมังกรขาวไม่สบาย แต่เมื่อคณะนักแสดงชาวฮ่องกงมาถึงสำนักในเวลา 7 โมงเช้า ท่านเทพก็ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง พร้อมทำพิธีเจิมศรีษะให้พร ถึงแม้ในศาลเจ้าจะมีลูกศิษย์ลูกหามารอขอพรอยู่มากมายจนต้องเข้าคิวต่อแถวยาดเหยียดก็ตาม แต่เมื่อทางคณะของ "เจิ้งจื่อเวย" มาถึงก็ได้สิทธิพิเศษมาถึงปุ๊บก็ได้เข้าเจิมปั๊บ ทีมดาราผู้ศรัทธานี้มีแต่ดาราดังทั้งสิ้นที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาก็อาทิ "อู๋ฉี่หัว" , "เฉินไป๋เสียง" , "หวงซิ่งซิ่ว" , "ชีเหม่ยหลิง" และผู้กำกับมือทอง "หลิวเว่ยเฉียง" พร้อมคุณภรรยา เป็นต้น

เนื่องจากตำนักเทพมังกรขาว มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย การทำพิธีให้พรของร่างทรงในแต่ละวันต้องเวลานานถึง 6-7 ชม. และวันที่คณะนักแสดงชาวฮ่องกงมานั้นถือเป็นวันที่สองของการทำพิธีให้พรเจิมศรีษะกว่าจะทำพิธีให้ครบทุกคนก็ต้องใช้เวลาพอสมควร  และหวังว่าปีมังกรนี้ทุกท่านจะเฮงๆกันถ้วนทั่วหน้าด้วย

http://www.siamdara.com/Asia/120215_57327.html
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 19:02

ดาราฮ่องกงที่เคยเห็นกับตาผมคือ

๑. ซูฉี (Shu Qi)

๒. กู่เทียนเล่อ ดาราผิวคล้ำ

และยังมีดาราอีกมากที่มาไหว้พระพรหมเอราวัณรวมทั้งดาราไทยก็มีไม่น้อยเช่นกัน

สำหรับสถานที่อีกแห่งที่ อ.เทาชมพูกล่าวถึงคือ "วัดมังกรขาว"

ชาวจีนสิงคโปร์มาถามข้าพเจ้ารู้จัก "แปะเล้งเมี่ยว" ไหม ก็เลยตอบว่าไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ หากแต่อยู่ที่ชลบุรี ซึ่งเขามาไหว้พระ ๒ แห่งนี้แล้วจะกลับสิงคโปร์
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 19:29

เงินบริจาคช่วยผู้คนกว่า ๖๖๗ ล้านบาท

คัดจากบทสัมภาษณ์ที่ลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๙ จัดใจความได้ว่า

"มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม ได้นำเงินที่มีผู้ศรัทธาบริจาคแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานค่าเงินเดือนพนักงานและซ่อมแซมบูรณะ อีกส่วนหนึ่งนำเงินทั้งหมดซื้อเครื่องมือแพทย์ชิ้นใหญ่ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องมือผ่าตัด ซึ่งมีราคาแพงและโรงพยาบาลรัฐต่างจังหวัดไม่สามารถซื้อหาได้ สามารถติดต่อผ่านมูลนิธิท่านท้าวมหาพรหม ตลอดระยะ ๓๕ ปีที่ก่อตั้งมูลนิธิ (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๒) ได้รับเงินซึ่งมูลนิธิได้ทำการบริจาครวมทั้งสิ้นกว่า ๖๖๗ ล้านบาท ซึ่งการไหว้พระอยากจะให้เลื่อมใสศรัทธาเป็นไปอย่างมีสติ และทำให้ถูกต้องและเหมาะสม"

ซึ่งใน พ.ศ. ๒๕๕๕ นี้จำนวนยอดบริจาคสูงกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งรายได้นอกจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคแล้วยังมีรายได้บริจาคจากพี่น้องประชาชนที่ทำการซื้อละครรำแก้บน และซื้อดอกไม้ธูปเทียน

ความศรัทธาในด้านละครรำนั้นจำได้ว่า เมื่อครั้งตึกเวิล์ดเทรด สหรัฐอเมริกาถล่ม มีชาวจีนอยู่บนตึกได้หนีรอดออกจากตึกได้ เขากลับมายังกรุงเทพฯ มาไหว้องค์ท้าวมหาพรหม และขอแก้บนด้วยละครรำ ๑๐๐ รอบ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 19:57

ที่กล่าวว่า พระพรหมแห่งภาคพื้นเอเซีย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ "ต้อง" มาของทัวร์จีน และ "ทัวร์ไหว้เจ้า" ของประเทศฮ่องกง, ไต้หวัน, จีน (บางพื้นที่), มาเก๊า, เกาะไหหลำ, เวียตนาม, พม่า, มาเลเซีย (ปีนัง - กัวลาลัมเปอร์), สิงคโปร์, อินโดนิเซีย (สุราบายา - บาหลี - จาร์กาตา), ชาวจีนโพ้นทะเลที่สหรัฐอเมริกา, อินเดีย

ที่กล่าวมาล้วนให้ความศรัทธา มาถ่ายภาพ มากราบไหว้ มาทำบุญกันถ้วนหน้า บางรายก็มาแก้บนแบบฉบับของตนเอง เช่น อากงแก่ ๆ ยอมคลานด้วยเข่ากว่า ๓๐ รอบศาล คลานด้วยเข่าไปเรื่อย ๆ, บ้างก็เต้นรำแบบมวยจีน, บ้างก็หาสิงโตมาเต้นถวาย และรวมถึงการทำความเคารพแบบเอาหัวโขกพื้นแรง ๆ จนหน้าผากแดง


ทัวร์ชาวอิสราเอล, ญี่ปุ่น, อเมริกาใต้, บังคลาเทศ, อินเดีย กลุ่มนี้เข้ามาเพราะความอยากเห็นสิ่งแปลก ๆ ที่บ้านเมืองตนไม่มี


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:01

คุณหนุ่มสยามคงจำข่าวใหญ่ที่ช็อคประชาชนผู้เลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพรหมเอราวัณได้   เกิดมา 6 ปีแล้วค่ะ
พอจะมีเกร็ดอะไรนอกเหนือจากในข่าวหนังสือพิมพ์ เล่าสู่กันฟังบ้างไหม  

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.ต.ธนิต รตโอภาส พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ลุมพินี รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่ง บุกเข้าไปทุบ ทำลายองค์ท้าวมหาพรหม ซึ่งตั้งอยู่ภายใน บริเวณโรงแรมเอราวัณ แบงคอก บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนสุขุมวิทตัดราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) หลังก่อเหตุชายคนดังกล่าว ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ถึงแก่ความตาย จึงรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุต้องพบกับภาพสลดใจ เมื่อองค์ท้าวมหาพรหมที่เคารพสักการะ ของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ถูกทุบทำลายแตกยับเหลือเพียงส่วนล่าง ขององค์ที่ติดกับฐาน ส่วนบนตั้งแต่เอวขึ้นมาถูกทุบทำลาย แตกกระจายตกเกลื่อนพื้น ส่วนผู้ที่ทุบทำลายองค์ท้าวมหาพรหม ถูกกลุ่มประชาชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นศพ อยู่บนฟุตปาทหน้าโรงแรมเอราวัณ แบงคอก ด้านถนนสุขุมวิท เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นคอโปโลสีขาว กางเกงขายาวสีกากี รองเท้าผ้าใบ ถูกทำร้ายทุบตีแทงน่วมไปทั้งตัว ใกล้ศพพบค้อนแบบมีที่ถอนตะปูด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ 1 ด้าม ค้นในตัวผู้ตายพบเพียงบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ

สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายข้ามถนนมาจากฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ ลักษณะคล้ายคนคลุ้มคลั่ง จากนั้นก็ปีนเข้าไปในบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แล้วดึงค้อนที่พกติดตัวออกมาจากเอวกระหน่ำทุบองค์ท้าวมหาพรหม ท่ามกลางความตื่นตระหนกไม่คาดคิดของผู้พบเห็น หลังลงมือประมาณ 5 นาที องค์ท้าวมหาพรหมถูกทำลายแตกยับ ชายคนดังกล่าวก็ปีนหนีออกมา ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ประมาณ 20-30 คน ต่างกรูกันเข้าไปจับกุมและรุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น ใช้ของแข็งที่หาได้รุมทุบตีแทงจนชายคนดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:24

คุณหนุ่มสยามคงจำข่าวใหญ่ที่ช็อคประชาชนผู้เลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพรหมเอราวัณได้   เกิดมา 6 ปีแล้วค่ะ
พอจะมีเกร็ดอะไรนอกเหนือจากในข่าวหนังสือพิมพ์ เล่าสู่กันฟังบ้างไหม  


เพียบทั้งข้อมูลภาพ และข้อมูลข่าว  เจ๋ง

เหตุการณ์ดังกล่าวผมจะเน้นไปที่ข่าวการบูรณะองค์พระและบรรยากาศตลอดจนการนำพระพรหมองค์บูรณะเข้าประดิษฐาน ส่วนข่าวเรื่องคดีความนั้นจะไม่ขอกล่าวถึงเนื่องจากผู้เสียชีวิตได้สิ้นไปแล้ว สงสารเขาครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นความสัมพันธ์อันดีของชาวสิงคโปร์ครับ เขาบริจาคทันทีในการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหมทันที ๑๐ ล้านบาท
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:37

ภายหลังเหตุการณ์ ตี ๑ ผ่านพ้นไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเข้าพื้นที่เพื่อทำการสอบสวน ราวตีสามกว่าเจ้าหน้าที่โรงแรมก็ได้นำผ้าขาวมาล้อมบริเวณศาลท้าวมหาพรหมไว้เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดการเสียขวัญครับ
รุ่งเช้าสื่อต่างชาติและภายในประเทศนำเสนอข่าวลงไป ทำให้หลายคนตกใจ สำนักข่าวต่างประเทศเช่น รอยเตอร์, CNN, Xin Hua

นักท่องเที่ยว จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ยังเดินทางมาไทย แม้จะช็อค หลังพระพรหมเอราวัณถูกทำลาย
Source - ศูนย์ข่าวแปซิฟิค (Th)
Tuesday, March 21, 2006  15:45

          หลังองค์ท้าวมหาพรหมบริเวณ สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศจะเดินทางมาสักการะ เมื่อเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ถูกทำลายได้รับความเสียหาย นางจุฑาพร เริงรณอาสา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนช็อก แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา เช่น จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ยังมาตามปกติ เพราะประเทศไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมาก
          สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยเวลานี้ยังดีอยู่ แม้ว่าจะมีสถานการณ์การชุมนุมของหลายกลุ่ม และต้องการจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการเชิญชวนคนไทยท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเครียดที่มีอยู่กันในเวลานี้ /15.41.164R--จบ--

          ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก



บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:42

ในเบื้องต้น มูลนิธิพระพรหมก็จะขยายรูปภาพพระพรหมขนาดใหญ่ตั้งไว้แทน เพื่อให้ประชาชนสักการบูชาไปก่อนจนกว่าจะมีการหล่อองค์ใหม่มาแทน โดยในวันที่ 22 มีนาคม เวลา 10.00 น. มูลนิธิพระพรหมจะประชุมเพื่อหาข้อสรุปที่โรงแรมเอราวัณว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เบื้องต้นจะถอดพิมพ์จากพระพรหมองค์เดิม จากนั้นก็จะนำไปหล่อและนำเศษปูนจากพระพรหมองค์เดิมที่ถูกทำลาย บรรจุลงไปในพระพรหมองค์ใหม่ ซึ่งเท่ากับว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมวลสารในการหล่อพระพรหม
พระครูวามเทพมุณี ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นพระพรหมองค์ใหม่ หรือพระพรหมองค์เดิม ก็จะคงความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และเชื่อมั่นว่าจะมีคนมากราบไหว้เหมือนเดิม
นอกจากนี้ พระครูวามเทพมุณี แนะนำว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ควรจะหาแนวทางป้องกันการถูกทำลายจากคนไม่หวังดี ซึ่งมองได้สองด้าน คือ เป็นการทำลายของฝ่ายตรงข้าม หรือเป็นการถูกทำลายของผู้ไม่มีสติ เหมือนเช่นพระพรหม

"ในภาวะการเช่นนี้ สิ่งที่คนไทยควรจะยึดมั่นคือ พรหมวิหาร 4 แม้ว่า พระพรหมที่เป็นเทวรูปจะถูกทำลาย แต่ถ้าคนยังมีพรหมวิหาร 4 อยู่ ประเทศชาติก็จะสงบสุขได้"

ภาพนี้ถ่ายไว้ในวันรุ่งขึ้นคือ วันที่ 22 มีนาคม 2549 ศาลท้าวมหาพรหมได้ปิดประตูไม่ให้คนเข้าสักการะ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:47

แม้ว่าจะไม่ให้เข้าในรั้วศาลท้าวมหาพรหม แต่บริเวณประตูหน้ามีการสักการะ จุดธูปบูชาด้วยประชาชนที่ศรัทธา  มีอยู่รายหนึ่งถึงกับร้องไห้ ช่วยผลักดันให้บรรยากาศบริเวณนั้นวังเวง สงบเงียบกันไปตาม ๆ กัน


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:54

หลังจากนั้นก็มีข่าวเกี่ยวกับท้าวมหาพรหมถี่หูขึ้น บ้างว่าจะสร้างใหม่ บ้างว่าจะบูรณะ บ้างว่าต้องปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งกรมศิลปากรรับผิดชอบในการบูรณะ เนื่องจากเป็นเทวสถานที่มีอายุเกิน ๕๐ ปี เข้าข่ายโบราณสถานได้แล้ว

หลังจากคำแนะนำจากพระครูวามเทพมุนีให้ตั้งภาพถ่ายไว้ทั้ง ๔ ทิศ ซึ่งไม่นานภาพดังกล่าวก็ได้นำมาติดไว้ ผู้คนและนักท่องเที่ยวต่างก็เข้ามาสักการะกันหนาแน่ในช่วงแรก ๆ


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 17 ส.ค. 12, 20:59

วธ.เตรียมหาข้อยุติการสร้างท้าวมหาพรหมองค์ใหม่
Source - ผู้จัดการออนไลน์ (Th)
Friday, March 24, 2006  16:35

          กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--ผู้จัดการออนไลน์

          กระทรวงวัฒนธรรมประชุมหารือการบูรณปฏิสังขรณ์ท้าวมหาพรมโรงแรมเอราวัณ เพื่อหาขอยุติถึงแนวทางการบูรณปฏิสังขรณ์ท้าวมหาพรหม โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมยังยืนยันที่จะสร้างด้วยการหล่อองค์ใหม่ด้วยนวโลหะ ส่วนจะบรรจุชิ้นส่วนเดิมที่ชำรุดเข้าไปในองค์ใหม่ด้วยหรือไม่นั้นต้องหารืออีกครั้ง
          ในวันนี้ (24 มีนาคม) ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการประสานการบูรณปฏิสังขรณ์ท้าวมหาพรมโรงแรมเอราวัณ เพื่อหาขอยุติถึงแนวทางการบูรณปฏิสังขรณ์ท้าวมหาพรหม โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม , นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา , นายอารัก สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร , ผู้แทนจากมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ และผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในการสร้างองค์ท้าวมหาพรหม เข้าร่วมประชุม
          นายสุรเกียรติกล่าวว่าที่ประชุมยังคงความคิดเดิมที่จะสร้างองค์ท้าวมหาพรหม โดยการหล่อชิ้นมาใหม่ด้วยนวโลหะ แต่จะมีการบรรจุชิ้นส่วนเดิมที่ชำรุดอย่างไรนั้นจะมีการประชุมหารืออีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2549 ณ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม เวลา 15.00 น. เพื่อหาขอยุติว่าจะนำพระเศียรบรรจุไว้ที่พระอุระและจะนำชิ้นส่วนอื่นๆ ย่อยให้เป็นมวลสาร แล้วใส่ภาชนะบรรจุไว้ภายในฐานตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู หรือจะบรรจุพระเศียรไว้ที่พระนาภีและนำชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่ไปบรรจุไว้ที่ฐานโดยไม่ต้องย่อยเป็นมวลสาร จึงได้มอบหมายให้ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ไปออกแบบการสร้างมานำเสนอในหลายรูปแบบ เพื่อไม่ทำให้เทวลักษณะของท้าวมหาพรหมผิดเพี้ยนไปจากเดิมและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนผู้ศรัทธา
          สำหรับงบประมาณในการสร้างนั้น ล่าสุดได้มีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั้งในและต่างประเทศแสดงความจำนงที่จะร่วมบริจาคสมทบทุนการบูรณปฏิสังขรณ์จำนวนมาก คณะกรรมการจึงเปิดรับบริจาคที่ มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด สถานทูตไทยและสถานกงศุลใหญ่ในประเทศต่างๆ ทั้งนี้ จะไม่เปิดรับบริจาคนวโลหะที่ใช้ในการหล่อก็เนื่องจากเกรงว่าหากมีการบริจาคเกินกว่าปริมาณที่ใช้แล้วไม่สามารถนำไปใช้การอย่างอื่นได้ แต่หากมีการบริจาคเงินเกินจำนวนที่ใช้บูรณปฏิสังขรณ์ ทางมูลนิธิก็จะนำเงินไปบริจาคให้กับผู้ยากไร้ตามจุดประสงค์ของผู้บริจาค
          ส่วนในเรื่องของพิธีการปฏิบัติต่อองค์ท้าวมหาพรหม กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมการศาสนา และกรมศิลปากร จะประสานงานกับ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง เพื่อจะได้ปฏิบัติต่อองค์ท้าวมหาพรหมให้ถูกต้องตามแบบโบราณประเพณี ตั้งแต่การบวงสรวง และขอขมาซึ่งดำเนินการไปแล้วเมื่อวานนี้(23 มี.ค. 49) ณ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พุทธมณฑลสาย 5 การประกอบองค์ท้าวมหาพรหมเพื่อใช้เป็นหุ่นในการหล่อแบบ การเปิดฐานที่ประทับเพื่อบรรจุมวลสารของท่านท้าวมหาพรหม พิธีการหล่อ พิธีเทวาภิเษก พิธีอัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหมองค์ใหม่ไปประดิษฐาน ณ ศาลองค์ท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และพิธีการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่
          นอกจากนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่องค์ท้าวมหาพรหมองค์เดิมที่ได้อัญเชิญไปไว้ ณ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พุทธมณฑลสาย 5 โดยจะขอกำลังตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าไปอารักขา และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักช่างสิบหมู่มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย--จบ--


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 18 ส.ค. 12, 11:52

ดิฉันเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยของประเทศที่ไม่เคยมีจังหวะหรือโอกาสที่จะเข้าไปไหว้พระพรหมเอราวัณ  เคยแต่ผ่าน แล้วก็มองเห็นคนเนืองแน่นจนแทบไม่เห็นศาล อย่าว่าแต่จะเห็นองค์พระพรหมเลย 
จึงไม่รู้ว่าพระพรหมองค์ที่สร้างใหม่ เหมือนองค์เก่าเป็นพิมพ์เดียวกันหรือต่างกันบ้างคะ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 19 ส.ค. 12, 10:48

กระแสการบูรณะองค์พระนั้นมีหลากหลายกระแสมาก ประกอบกับใชช่วงเวลาดังกล่าวจวนจะถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๔๙ อันเป็นปีมหามงคลฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ดังนั้นขั้นตอนการบูรณะจึงได้เป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง

สรุปไม่ป่นชิ้นส่วน ท้าวมหาพรมใส่กรุไว้บนยอด-ใต้ศาล ยันสมโภช 9 มิ.ย.แน่นอน
สรุปไม่ป่นชิ้นส่วน ท้าวมหาพรมใส่กรุไว้บนยอด-ใต้ศาล ยันสมโภช 9 มิ.ย.แน่นอน
ปัญหาจัดสร้างท้าวมหาพรหมเอราวัณองค์ใหม่ได้ข้อสรุปแล้ว ที่ประชุมเตรียมนำพระเศียรประดิษฐานบนยอดโดมของศาล ส่วนอื่น ๆ ขององค์ท้าวมหาพรหมนำใส่กรุไว้ใต้ฐานศาลไม่ย่อยไม่ป่นชิ้นส่วนขององค์ท้าวมหาพรหม กำหนดสมโภช 9 มิ.ย.นี้ ให้ทันช่วงเวลาเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของในหลวง กรมศิลปากร เตรียมนำเข้าเป็นโบราณสถาน คาดใช้งบในการบูรณะไม่เกิน 1 ล้านบาท ด้านการรักษาความปลอดภัย ประสานตำรวจทหารเข้าเวรยาม เพิ่มงบประมาณ ตั้งคณะกรรมการดูแลพิเศษแล้ว

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหม ข้างโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ที่ถูกคนสติไม่ดีทุบทำลายไปนั้น เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่สำนักช่างสิบหมู่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีและรมว. วัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณะองค์ท่านท้าวมหาพรหมว่า การอัญเชิญชิ้นส่วนขององค์ท้าวมหาพรหมไปหล่อขึ้นใหม่นั้นทำไม่ได้ เพราะติดขัดปัญหาทางเทคนิค และสิ่งสำคัญคือไม่สามารถอัญเชิญพระเศียรไปไว้ในพระอุระ (อก) ของท่านท้าวมหาพรหมได้ เนื่องจากพระเศียรมีสี่พระพักตร์มีขนาดกว้างกว่าองค์พระอุระ หากนำเข้าไปผิดเทวลักษณะ

ที่ประชุมพิจารณาแล้วจะอัญเชิญชิ้นส่วนต่าง ๆ ขององค์ท้าวมหาพรหมไปประดิษ ฐานอยู่ที่ศาลหน้าโรงแรมฯ พร้อมทั้งอัญเชิญพระเศียรไปประดิษฐานไว้บนยอดโดมของศาลบรรจุกรุปิดเอาไว้ ซึ่งในแนวประเพณีโบราณเคยมีการปฏิบัติเช่นนี้กับองค์พระพุทธรูปมาแล้ว สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ เช่น พระกร ศาสตราวุธ ลูกประคำ อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในกรุ บรรจุไว้ใต้ฐานศาลโดยจะไม่มีการย่อยชิ้นส่วนให้ละเอียด เนื่องจากเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศเคารพสักการะมาเป็นเวลานานเกือบ 50 ปี ซึ่งถือว่าพลังและศรัทธาทั้งหลายก็จะคงอยู่

หลังจากนั้นจะให้ช่างสิบหมู่ จัดสร้างองค์ท้าวมหาพรหมด้วยนวโลหะขึ้นใหม่ทั้งหมดและต้องการให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยกลางเดือนพ.ค. แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานภายในศาลใหม่ พร้อมประกอบพิธีสมโภชก่อนวันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันครบ 60 ปี การครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนการออกแบบศาลองค์ท้าวมหาพรหมขึ้นมาใหม่ให้ไปศึกษาอยู่ว่าจะทำแบบอินเดียหรือไทยประยุกต์ หากได้ข้อสรุปจะแจ้งให้ประชาชนและชาวต่างชาติทราบด้วย ส่วนการรักษาความปลอดภัยได้มีการเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้แล้ว พร้อมทั้งประสานตำรวจและทหารให้มาเข้าเวรยามด้วย ทั้งนี้ได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะแล้ว อย่างไรก็ตามทางมูลนิธิฯจะดูแลในส่วนของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การดำเนินการจัดการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหม ขณะนี้ได้ประกอบชิ้นส่วนองค์ท้าวมหาพรหมที่เสียหาย พร้อมได้เขียนแบบที่จะทำการบูรณะใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้คณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์ท้าวมหา พรหม เป็นผู้เลือกแบบว่าจะทำการบูรณะในรูปแบบใด เพื่อไม่ให้ท้าวมหาพรหมองค์ใหม่มีเทว ลักษณะผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทั้งนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณในการบูรณะไม่เกิน 1 ล้านบาท และในเดือนพ.ย.นี้องค์ท้าวมหาพรหมจะมีอายุครบ 50 ปี กรมฯก็อาจจะทำการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานต่อไปได้.


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 20 คำสั่ง