ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 105 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 16:50
|
|
แห่ะๆ เข้ามาถามแทนหลายๆ คนที่อาจจะอยากถามแบบผม ที่นี่มีเรื่องผีๆ เป็นตำนานเล่าขานบ้างหรือเปล่าครับ  สงสัยช่วงนี้หมกมุ่นเรื่องสุสานมากไปหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 17:26
|
|
แหะๆ เหมือนกัน
ถ้าถามผม ไปอาศัยท่านอยู่อาทิตย์นึงก็หลับสบายทุกคืนครับ ไม่เห็นมีอะไรที่พอจะอนุมานว่าเป็นผีเป็นสางได้เลย ไม่แน่ ต้องลองถามพวกที่อยู่นานๆเช่นคุณตั้ง อาจจะมีตำนานบ้างก็ได้ นี่เข้ามาเลกเซ่อร์เรื่องแผ่นดินไหวในโตเกียวได้ยกเดียว ก็พักไปกรึ๊บซะหลายจอกแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 107 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 17:57
|
|
อดเจอของดีเลยค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 108 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 21:23
|
|
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 109 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 21:52
|
|
เรื่องผีนี้ จำได้ว่า มีคนเล่าว่า เคยมีกรณีคนตายสองสามคนสมัยนานมาแล้ว หากยืนหันหน้ามองอาคาร เหตุการณ์จะเกิดอยู่ทางมุมขวาด้านหลังของตัวตึก เรื่องได้ยินเป็นเสียงนั้น รู้สึกว่าจะมีคนเล่าให้ฟังบ้าง ไม่แน่ใจนัก แต่ที่แน่ๆ ที่ศาลาพระทางด้านขวาของประตูทางเข้าสถานทูตนั้น มีกล่องกระดาษใส่โถบรรจุอังคารวางอยู่ไม่ขาดตลอดทั้งปี เป็นอังคารของคนไทยที่เสียชีวิติในญี่ปุ่น ที่สถานทูตจะส่งกลับไปให้ญาติในเมืองไทย ตัวเลขก็ไม่มากไม่น้อย ปีละประมาณ 50+ คน หากจะเฉลี่ยก็ประมาณสัปดาห์ละคน ในบริเวณสถานทูตนี้มีบ้านเก่าๆอยู่สองหลังตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นลาดเนินด้านหลังของพื้นที่ลงไป มีคนหลายคนเคยเจอ ผมเคยสนทนากับพระที่มาพักขณะมาปฏิบัติกิจทางสงฆ์ ท่านก็เล่าว่า มีเยอะแยะมาชุมนุมกันทุกคืน แต่ก็ไม่ได้มาร้ายประการใด ผมเองก็เคยได้ยินเสียง เป็นลักษณะของการขยับของบ้าง ของหล่นบ้างทำนองนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 22:02
|
|
รถแท็กซี่และตุ๊กๆนี้ เท่าที่พอทราบ ไม่มีการนำไปใช้ในทางสาธารณะใดๆ จุดประสงค์หลัก คือ นำไปตั้งแสดงอยู่หน้าร้านอาหาร โดยเฉพาะหน้าร้านบางร้านในวันงาน Thai Food หรือ Thai Festival ที่สวนโยโยงิ ซึ่งจัดเป็๋นประจำในช่วงสัปดาห์แรกของต้นเิืดือนพฤษภาคมทุกปี ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อ 20 ส.ค. 12, 22:08
|
|
แต่ที่แน่ๆ ที่ศาลาพระทางด้านขวาของประตูทางเข้าสถานทูตนั้น มีกล่องกระดาษใส่โถบรรจุอังคารวางอยู่ไม่ขาดตลอดทั้งปี เป็นอังคารของคนไทยที่เสียชีวิติในญี่ปุ่น ที่สถานทูตจะส่งกลับไปให้ญาติในเมืองไทย ตัวเลขก็ไม่มากไม่น้อย ปีละประมาณ 50+ คน หากจะเฉลี่ยก็ประมาณสัปดาห์ละคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 112 เมื่อ 21 ส.ค. 12, 21:45
|
|
ดูจากรูปด้านหลังของทำเนียบ ที่เป็นสวนนั้น ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เคยทราบว่ามีซินแสที่ดูฮวงจุ้ยมาเิดินดู แล้วบอกว่า จะต้องมีหินกี่ก้อน ทรงใด รูปใด วางเรียงในลักษณะใด เป็นอันว่า การจัดสวนหลังอาคารนั้นเป็นไปตามลักษณะฮวงจุ้ยที่ดีเยี่ยม จากภาพก็เห็นว่าไม่เคยมีการจัดสวนใหม่หรือมีการย้ายก้อนหินไปมา ยังคงเหมือนกับที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ยังมีเรื่องที่นาสนใจอยู่อีกบ้าง ด้านซ้ายมือริมรั้วของทำเนียบ (เดินเข้าหาตัวอาคาร) นั้น มีต้นไม้ไหญ่เรียงกันอยู่หลายต้น ทราบมาว่าเป็นต้นไม้ที่ขุดยกทั้งต้นมาปลูก (ไม่มีรากแก้ว) ดูเหมือนว่าเหล่าต้นไม้ใหญ่ๆหลายต้นในสวนหลังทำเนียบก็จะเป็นเช่นนั้น อีกนัยหนึ่งก็คือ ทั้งพื้นที่สถานทูตนี้ได้ถูกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาให้สอดคล้องกับลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดี ผมคิดว่าบางส่วนในพื้นที่ส่วนหลังได้มีการพยายามปลูกต้นไม้ใ้ห้เป็นป่าเพื่อลวงตามิให้มีการทิ้งระเบิดในช่วงสงคราม ในพื้นที่ส่วนนี้มีหลุมหลบภัย (ทรงโดมครึ่งวงกลม) สร้างด้วยคอนกรีตหนาทีเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 113 เมื่อ 21 ส.ค. 12, 22:14
|
|
สวนหลังทำเนียบ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 114 เมื่อ 21 ส.ค. 12, 22:49
|
|
ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอยู่อีกบ้าง ด้านซ้ายมือริมรั้วของทำเนียบ (เดินเข้าหาตัวอาคาร) นั้น มีต้นไม้ไหญ่เรียงกันอยู่หลายต้น ทราบมาว่าเป็นต้นไม้ที่ขุดยกทั้งต้นมาปลูก (ไม่มีรากแก้ว) ดูเหมือนว่าเหล่าต้นไม้ใหญ่ๆหลายต้นในสวนหลังทำเนียบก็จะเป็นเช่นนั้น อีกนัยหนึ่งก็คือ ทั้งพื้นที่สถานทูตนี้ได้ถูกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาให้สอดคล้องกับลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดี ประจักษ์พยาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 115 เมื่อ 21 ส.ค. 12, 22:57
|
|
^ แต่ก็เอาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน
ปีที่ผมไป ไม่เห็นสนต้นเบ้อเริ่มนั้นแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 116 เมื่อ 21 ส.ค. 12, 23:02
|
|
ยังมีเรื่องที่นาสนใจอยู่อีกบ้าง ด้านซ้ายมือริมรั้วของทำเนียบ (เดินเข้าหาตัวอาคาร) นั้น มีต้นไม้ไหญ่เรียงกันอยู่หลายต้น ทราบมาว่าเป็นต้นไม้ที่ขุดยกทั้งต้นมาปลูก (ไม่มีรากแก้ว) ภาพจากคุณกุ๊ก 
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 117 เมื่อ 22 ส.ค. 12, 19:20
|
|
ยังมีอีกอย่างหนึ่ง คือ บ่อน้ำบาดาล อยู่ริมรั้วของสวนหลังอาคาร ผมไม่ทราบว่าทำการเจาะเพื่อเอาน้ำมาใช้กันในสมัยใด น่าจะเจาะกันนานมาแล้ว จะว่าเจาะในภายหลังที่สร้างอาคารเสร็จแล้ว ก็คงจะต้องเอาเครื่องเครื่องเจาะผ่านเข้าไปในสวน ข้ามบรรดาก้อนหินที่วางไว้อย่างสวยงามและถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย คงมีอยู่สองช่วงเท่านั้นที่จะเจาะบ่อน้ำบาดาล คือ ในระหว่างการสร้างอาคาร กับช่วงหลังสงครามไม่นาน
นึกออกอีกอย่างหนึ่ง จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ก้อนหินใหญ่ในสวนหลังบ้านก้อนหนึ่งนั้น เป็นตัวแทนของราชสีห์เพื่อเฝ้าหลังบ้าน
ดูๆไปการวางตัวและการออกแบบอาคาร (อันนี้เดาเลยครับ) ตามลักษณะฮวงจุ้ยที่ดีนั้น ด้านหลังจะต้องเป็นเนิน ด้านหน้าจะต้องเป็นที่ราบต่ำ มีน้ำไหลผ่านด้านข้าง เพื่อให้ซี่ไหลได้ดี อาคารทำเนียบนี้มีครบทุกองค์ประกอบ แต่ดูเผินๆเหมือนจะกลับทางกัน คือ ด้านหน้ากลายเป็นด้านหันเข้าหาเนิน ด้านหลังกลายเป็นที่ต่ำ มีคลองเมกุโระอยู่ด้านข้าง ซึ่งน้ำไหลจากด้านหน้าไปสู่ด้านหลัง ผมคิดว่าสถาปนิกเขาเก่งนะครับ เขาแก้ได้อย่างชาญฉลาด คือ ส่วนด้านหน้าที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ดูไปดูมามันเป็นส่วนด้านหลังอาคาร ที่ไม่มีอะไรแสดงความเป็นด้านหน้าบ้านเอาเสียเลย แต่ด้านที่เราเรียกว่าด้านหลังบ้านนั้นกลับกลายเป็นลักษณะของหน้าบ้านของอาคารต่างๆตามปรติ ทิศทางการไหลของน้ำในคลองเมกุโระที่อยู่ด้านข้างก็จะกลายเป็นไหลจากทิศหลังบ้านออกไปทิศหน้าบ้าน แถมที่ว่ามีก้อนหินตัวแทนราชสีห์อยู่ในสวนนั้น ก็จะกลับกลายเป็นว่ามีราชสีห์เฝ้าอยู่หน้าบ้าน ส่วนต้นไม้ใหญ่ก็มีการปลูกในส่วนที่จะทำให้เป็นลักษณะของป่าหลังบ้าน ทำให้เป็นสวนในส่วนที่จะทำให้ดูเป็นหน้าบ้าน
ซินแสปลอมเห็นอย่างนี้ ครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 118 เมื่อ 22 ส.ค. 12, 20:10
|
|
แถมที่ว่ามีก้อนหินตัวแทนราชสีห์อยู่ในสวนนั้น ก็จะกลับกลายเป็นว่ามีราชสีห์เฝ้าอยู่หน้าบ้าน ใช่ก้อนหินพวกนี้หรือเปล่าหนอ เดือนกุมภาพันธ์ ต้นไม้อื่นทิ้งใบเหลือเพียงสนญี่ปุ่นที่ยังคงเขียวขจี 
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 119 เมื่อ 23 ส.ค. 12, 21:53
|
|
^
ก้อนหินเหล่านี้แหละครับ แต่ไม่ทราบก้อนใหนแทนอะไรบ้างครับ
ย้อนกลับไปดูภาพในกระทู่นี้ที่ต้อนรับคณะเด็กๆ เห็นผู้หญิงอยู่สองคน คนหนึ่งสวมชุดไทยสีฟ้า อีกคนขุดสีแดง คนสวมชุดสีฟ้านั้นเป็นคนญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสถานทูต อีกคนก็เข้าใจว่าใช่เหมือนกัน เห็นในอีกภาพว่าทั้งสองคนนี้กำลังสาธิตเพลงไทยเดิม คนสีฟ้าสีซออี้และสีแดงสีซออู้ กับผู้ชายกำลังตีขิม คิดว่าคนผู้ชายก็เป็นคนญี่ปุ่นครับ คนพวกนี้พูดไทยได้ อ่านภาษาไทยออก พิมพ์ภาษาไทยได้ครับ รักเมืองไทยพอที่จะรวมกลุ่มกันเป็นชมรมชื่ออะไรสักอย่างที่สอนรำไทย ร้องเพลงไทย ฯลฯ
แล้วก็ย้อนกลับไปภาพสีน้ำมันที่คุณนวรัตน์บอกว่า ทีเด็ดจริงๆ ในความเห็นที่ 19 นั้น ภาพนี้มีค่ามาก เป็นภาพขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในไม่กี่ภาพที่ศิลปินผู้นี้เขียนขึ้น รู้สึกว่าได้มีความพยายามจะรวบรวมภาพของศิลปินผู้นี้ไว้ในพิพิธภัณฑ์ และเคยขอจากสถานทูตด้วย ในที่สุดก็ยอมรับว่าชิ้นงานสำคัญของศิลปินผู้นี้ได้รับการดูและรักษาอย่างดีและแสดงอยู่ทีสถานทูตไทย
ผมคิดว่าผมได้เคยเห็นสถานที่จริงที่ศิลปินผู้นี้นำมาเขียนเป็นภาพ อยู่ในสถานที่เล็กๆ ที่ตั้งของประภาคาร อยู่บนเส้นทางเลาะชายฝั่งทะเลเลยเมือง Atami ลงไปทางแหลม Isu จำชื่อสถานที่ไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|