เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 11 12 [13]
  พิมพ์  
อ่าน: 65035 ตายแล้วไปไหน
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 180  เมื่อ 05 ก.พ. 13, 15:15

ผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันโครงกระดูกที่พบใต้ลานจอดรถในตอนกลางของอังกฤษ คือพระศพพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓ ที่พระศพสูญหายมากว่า ๕ ศตวรรษ

นักวิทยาศาสตร์อังกฤษยืนยันเมื่อวานนี้ว่า โครงกระดูกที่ถูกขุดพบใต้ลานจอดรถในเมืองเลสเตอร์ คือพระศพของพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓ กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของอังกฤษที่เสด็จสวรรคตในสนามรบ หลังจากนักโบราณคดีได้ขุดพบโครงกระดูกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และพบว่าลักษณะโค้งงอผิดรูป ใกล้เคียงกับคำบรรยายเกี่ยวกับพระวรกายของพระเจ้าริชาร์ด และพบร่องรอยการบาดเจ็บตรงกับการสู้รบในสนามรบ โดยพบหัวธนูฝังอยู่ที่กระดูกสันหลัง รอยถูกฟันด้วยใบมีดที่ด้านหลังกระโหลก
 
สำหรับดีเอ็นเอที่ใช้ในการพิสูจน์เปรียบเทียบ มาจากไมเคิล อิบเซ่น ช่างไม้วัย ๕๕ ปี ในกรุงลอนดอน ญาติห่าง ๆ ที่เชื่อว่าสืบเชื้อสายจากเจ้าหญิงแอนน์แห่งยอร์ก พระพี่นางเธอของพระองค์ และหลังจากนี้จะมีการอัญเชิญพระศพไปบรรจุไว้ในมหาวิหารเลสเตอร์ต่อไป
 
การค้นพบครั้งนี้อาจช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓ กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดพระองค์หนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการที่เชคสเปียร์ใช้เป็นตัวละครในบทประพันธ์

พระเจ้าริชาร์ดที่ ๓ ทรงปกครองอังกฤษตั้งแต่ ค.ศ.  ๑๔๘๓ ขณะที่ทรงมีพระชนมายุ ๓๒ ชันษา โดยทรงยึดบัลลังก์จากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๕ พระนัดดา แต่หลังจากพระองค์ครองราชย์ได้เพียง ๒ ปีเศษก็เสด็จสวรรคตในสนามรบบอสเวิร์ท เมื่อ ค.ศ. ๑๔๘๕ โดยแพ้ให้แก่กองทัพของเฮนรี ทิวดอร์ ซึ่งต่อมาสถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษ มีพระนามว่า พระเจ้าเฮนรีที่ ๗

จาก ครอบครัวข่าวช่อง ๓

!

ผ่านมา ๕๐๐ ปียังสืบสาวย้อนหลังได้ว่านายอิบเซนเป็นญาติห่าง ๆ ของพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓

ยอดเยี่ยมจริง ๆ

บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 181  เมื่อ 05 ก.พ. 13, 17:36


ผ่านมา ๕๐๐ ปียังสืบสาวย้อนหลังได้ว่านายอิบเซนเป็นญาติห่าง ๆ ของพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓

ยอดเยี่ยมจริง ๆ


ก็ขนาดบันทึกค่าปรับที่ทางการสั่งปรับพ่อของเช็คสเปียร์ด้วยความผิดฐานทิ้งขยะออกมาหน้าบ้านเค้ายังมีเก็บไว้เลย   ทะเบียนเกิดของเช็คสเปียร์ก็มีไว้ ไม่แปลกเท่าไหร่ที่ฝรั่งสามารถสืบสาวสาแหรกกันไปได้ 17 รุ่นแบบนี้ครับ


นี่ถ้าสืบดีๆ ผมอาจจะมีเชื้อสายของริชาร์ดที่ 3 หรือเฮนรี่ที่ 7 ผ่านทางบรรพบุรุษรุ่นที่ 8 ที่ล่องเรือกำปั่นมาค้าขายที่เมืองจีน พบรักสาวชาวจีนแต้จิ๋วจนมีทายาทน้อยด้วยกันเป็นบรรพบุรุษของก๋งผม จนเตี่ยของก๋งพาก๋งล่องเรือมาเมืองไทยเมื่อ 90 ปีก่อนก็ได้  เสียดายที่ไม่มีใครบันทึกไว้  เพราะแม้จะตัวดำปิ๊ดปี๋ แต่หน้าตาก็มีเค้าฝรั่งอยู่  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 182  เมื่อ 05 ก.พ. 13, 18:46

เอาภาพหน้าตาของริชาร์ดที่ 3 ทีสร้างขึ้นมากจาก 3D หัวกระโหลกครับ  คางยื่นเหมือนในภาพวาด น่าจะไม่ผิดตัว


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 183  เมื่อ 06 ก.พ. 13, 09:56


ก็ขนาดบันทึกค่าปรับที่ทางการสั่งปรับพ่อของเช็คสเปียร์ด้วยความผิดฐานทิ้งขยะออกมาหน้าบ้านเค้ายังมีเก็บไว้เลย   ทะเบียนเกิดของเช็คสเปียร์ก็มีไว้ ไม่แปลกเท่าไหร่ที่ฝรั่งสามารถสืบสาวสาแหรกกันไปได้ 17 รุ่นแบบนี้ครับ

นี่ถ้าสืบดีๆ ผมอาจจะมีเชื้อสายของริชาร์ดที่ 3 หรือเฮนรี่ที่ 7 ผ่านทางบรรพบุรุษรุ่นที่ 8 ที่ล่องเรือกำปั่นมาค้าขายที่เมืองจีน พบรักสาวชาวจีนแต้จิ๋วจนมีทายาทน้อยด้วยกันเป็นบรรพบุรุษของก๋งผม จนเตี่ยของก๋งพาก๋งล่องเรือมาเมืองไทยเมื่อ 90 ปีก่อนก็ได้  เสียดายที่ไม่มีใครบันทึกไว้  เพราะแม้จะตัวดำปิ๊ดปี๋ แต่หน้าตาก็มีเค้าฝรั่งอยู่  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม

เห็นด้วยว่าระบบเก็บข้อมูลของอังกฤษรวบรวมเอาไว้ดีมากค่ะ    จดหมายลูกหนี้ของเชคสเปียร์เขียนมาขอบคุณที่ให้ยืมสตางค์ ก็ยังเหลือรอดมาให้อ่านกันได้จนทุกวันนี้  ทำให้รู้ว่าเมื่อเกษียณจากงานกลับไปบ้านเดิมแล้ว  ท่านกวีเอกของเรารวยเชียวละ  ไม่ไส้แห้งเหมือนนักประพันธ์สารขัณฑ์

สุดท้ายนี้  ขอถวายคำนับ องค์ชายประกอบ เพคะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 184  เมื่อ 11 ก.พ. 13, 17:48

คุณประกอบไปที่หอคอยแห่งลอนดอน   ไปดูห้องที่กษัตริย์น้อยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และน้องชาย ดยุคแห่งยอร์ค ถูกคุมขังและถูกสังหารโดยมือสังหารของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 หรือเปล่าคะ
เป็นเรื่องเล่าต่อๆมาที่สะเทือนใจที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติการลอบสังหารของกษัตริย์อังกฤษ  เพราะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 อายุเพิ่ง 13 ปี  น้องชายก็แค่ 11 เมื่อพระบิดาสวรรคต     ถูกพระเจ้าอาคือริชาร์ดที่3 หลอกเอาตัวมาคุมขังไว้ที่นี่  โดยบอกว่าให้พักไปก่อนชั่วคราวก่อนราชาภิเษก    แล้วก็หายสาบสูญไปทั้งสองพระองค์  ริชาร์ดก็ขึ้นครองราชย์แทน
นานหลายรัชสมัยต่อมา   มีผู้พบโครงกระดูกเด็กใต้บันไดหอคอย เชื่อกันว่าเป็นเจ้าชายน้อยทั้งสองที่ถูกฆ่าทิ้งไปนั่นเอง

มีรูปวาดเหตุการณ์ที่เจ้าชายถูกฆ่า หลายรูปด้วยกัน  รูปซ้ายเจ้าชายดูเด็กไปหน่อย  รูปขวาน่าจะใกล้เคียงความจริงมากกว่า


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 185  เมื่อ 11 ก.พ. 13, 18:25

ในปี 1674 ช่างที่มาซ่อมบันไดในหอคอยลอนดอนได้พบโครงกระดูกของเด็ก 2 โครงที่เชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระอนุชา  ตอนผมไปเที่ยวหอคอยก็ไปมองๆ ตรงจุดที่เค้าว่าเป็นจุดที่เจอโครงกระดูกเหมือนกัน  ปัจจุบันโครงกระดูกทั้งสองถูกฝังไว้ที่วิหารเวสมินเตอร์


ในปี 1789 คนงานที่เข้าไปซ่อมวิหารเซนต์จอร์จในปราสาทวินเซอร์ได้บังเอิญพบห้องเก็บพระศพของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 4 พระบิดาของเจ้าชายทั้งสอง รวมทั้งโลงศพของพระมารดาของเจ้าชายทั้งสองด้วย และเนื่องจากการค้นพบโครงกระดูกของริชาร์ดที่ 3  อาจจะเป็นไปได้ว่าต่อไปอาจจะมีการพิสูจน์ DNA ของโครงกระดูกเด็กที่พบที่หอคอยลอนดอนว่าใช่ของเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระอนุชาหรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ


ภาพบริเวณที่พบโครงกระดูกเด็กในหอคอยลอนดอนเมื่อปี 1674 และที่ฝังโครงกระดูกปัจจุบันที่วิหารเวสมินสเตอร์



บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 186  เมื่อ 24 เม.ย. 21, 00:11

ปี 2021 แล้วยังกลับมาอ่านกระทู้ในปี 2012

พอดีเจอคลิปนึง ก็เลยนึกถึงกระทู้นี้ขึ้นมา (ดันหาเจออีกนะ 555)

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 187  เมื่อ 24 เม.ย. 21, 09:07

เข้ามาทักทายคุณ paganini ค่ะ หายไปนานทีเดียว
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 188  เมื่อ 25 เม.ย. 21, 21:41

กราบสวัสดีครับท่านอาจารย์เทาชมพู  กระผมก็ไปๆมาๆ ผลุบโผล่ๆ เรือนไทยยังเป็นแหล่งความรู้และบันเทิงเสมอครับ หลายกระทู้นี่อ่านได้หลายรอบเลย 5555
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 189  เมื่อ 15 ต.ค. 22, 10:35

ในปี 1674 ช่างที่มาซ่อมบันไดในหอคอยลอนดอนได้พบโครงกระดูกของเด็ก 2 โครงที่เชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระอนุชา  ตอนผมไปเที่ยวหอคอยก็ไปมองๆ ตรงจุดที่เค้าว่าเป็นจุดที่เจอโครงกระดูกเหมือนกัน  ปัจจุบันโครงกระดูกทั้งสองถูกฝังไว้ที่วิหารเวสมินเตอร์

อาจจะเป็นไปได้ว่าต่อไปอาจจะมีการพิสูจน์ DNA ของโครงกระดูกเด็กที่พบที่หอคอยลอนดอนว่าใช่ของเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระอนุชาหรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ


โครงกระดูกเด็ก ๒ คนที่หอคอยลอนดอน ไม่เคยมีการตรวจสอบ DNA มาก่อน เนื่องด้วยควีนเอลิซาเบธที่ ๒ ทรงไม่อนุญาต แต่หลังจากผลัดแผ่นดิน ปริศนาอาจจะถูกคลี่คลาย ด้วยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓ ทรงสนับสนุนการตรวจสอบ DNA

ข่าวจาก เดลิเมล

ภาพ 'The Princes in the Tower' วาดโดย Sir John Everett Millais ค.ศ. ๑๘๗๘


บันทึกการเข้า
ทิพยุทธ
อสุรผัด
*
ตอบ: 28


ความคิดเห็นที่ 190  เมื่อ 09 ก.ค. 23, 20:57

ตายแล้วก็ต้องไปชดใช้กรรมครับ​ ถ้าหมดกรรมก็ขึ้นไปรอเวลากลับมาเกิดอีกทีในพุทธกาล​ พุทธศักราช5000  เพื่อรับฟังธรรมจากพระศรีอารยเมตรัย​ เพิ่มได้ไปสู่การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
 ถ้ายังมีกรรมก็จะได้กลับมาเกิดเพื่อสะสมบุญต่อและชดใช้กรรม​ เป็นความเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด​ ที่น่าจะดูเหมือนมาจากเบสออนสตอรี่เดียวกันคือ​ การกลับลงมาเกิด​ ของอียิปต์กษัตริย์ก็จะทำมัมมี่เพื่อรักษาร่างเดิมเอาไว้​  ส่วนเยรูซาเร็มที่ยังรบกันก็เพราะศาสนาอิสลามกับคริสต์​ ต่างเชื่อว่าพระศาสดาของตนจะกลับมาไถ่บาปพวกเขาที่ตรงนี้​  ส่วนศาสนาพุทธก็ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ส่วนคำถามที่ว่าตายแล้วไปไหน​ จิตสุดท้ายน่าจะเป็นตัวที่กำหนดภพภูมิที่เราจะไปหลังเราตาย​ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก​ เพราะเป็นสิ่งที่เที่ยง​ เคยฟังเรื่องเล่าอ.ยอด​ เรื่องมิตรชัย​ บัญชา​ พอตายก็กลับชาติมาเกิดต่อเลย​ ไม่ต้องไปนรกหรือสวรรค์​ ร่างใหม่เป็นเด็กผู้หญิงที่ระลึกชาติได้​
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 191  เมื่อ 10 ก.ค. 23, 11:30

ตามหลักพุทธศาสนา   กรรมมี ๔ ชนิด แต่กรรมที่ส่งผลให้ไปเกิด เรียกว่า อาสันกรรม  คือกรรมดีหรือชั่วที่กระทำหรือรำลึกถึงก่อนใกล้ตาย   จะไปเกิดเป็นอะไร ดีชั่วขนาดไหน ก็มาจากจิตที่ใกล้ตายนั้นสะอาดผ่องใส หรือมัวหมอง
พระท่านจึงสอนว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ให้ทำความดีสม่ำเสมอ  เมื่อใกล้ตาย จิตจะได้เห็นแต่ภาพความดีที่เคยกระทำ ทำให้จิตผ่องใสไปสู่สุคติ  แต่ถ้าทำชั่วผิดศีลธรรมมาตลอด  เมื่อใกล้ตาย ระลึกถึงชีวิตที่ผ่านมาก็จะมีแต่ภาพความชั่ว ทำให้ไปสู่ทุคิ
ด้วยเหตุนี้ คนโบราณท่านจึงนิยมว่า เมื่อคนใกล้ตาย ญาติพี่น้องจะกล่าวคำว่า ให้นึกถึงพระอรหัง (หมายถึงพ้นจากกิเลสทั้งปวง เข้าสู่นิพพาน)
เมื่ออาสันกรรมส่งไปเกิดที่ใดแล้ว   จากนั้นกรรมอื่นๆที่เคยทำก็จะค่อยๆตามมาทีหลังค่ะ

ถ้าถามว่าบางคนทำดีเป็นส่วนใหญ่ ทำอะไรไ่ม่ดีเพียงส่วนน้อย   ก่อนตาย จิตเกิดแวบไปถึงความไม่ดีที่กระทำ  อาสันกรรมจะส่งไปไหน   พุทธศาสนาตอบว่า ส่งไปตามกรรมไม่ดีที่กระทำ  จนหมดกรรมนั้น จึงจะได้รับผลดีจากกรรมดีที่กระทำมา
ในทำนองเดียวกัน   บางคนทำชั่วไว้มาก  ทำดีนิดเดียว   แต่ก่อนตายจิตเกิดนึกได้ถึงความดีที่กระทำ   อาสันกรรมก็ส่งไปเกิดในที่ดี  แต่ในเมื่อไม่ได้ทำกรรมดีไว้    ก็เกิดได้อย่างดีเพียงไม่นาน ก็ต้องไปรับความชั่วที่เคยทำมาอีกยาวนาน
ข้อนี้ก็อาจเป็นคำอธิบายได้ว่า ทำไมคนดีคนเก่งหลายคนจึงเกิดมาลำบาก  แต่ก็ถีบตัวขึ้นไปจนประสบความสำเร็จได้
ส่วนคนบางคนเกิดมาสบาย ก็ตกต่ำได้เช่นกัน
บันทึกการเข้า
ทิพยุทธ
อสุรผัด
*
ตอบ: 28


ความคิดเห็นที่ 192  เมื่อ 11 ก.ค. 23, 16:34

ถูกต้องครับท่านเทาชมพู​ ผมเคยอ่านเจอ​ ท่านบอกไว้ว่าคนเราเกิดมา​ มีต่ำมีสูงเกิดต่ำก็ไปสูงได้​ เกิดสูงก็ไปต่ำได้​ ไปในที่นี่ผมเดาว่าคือที่จะไปหลังจากเราตาย​ ทำบุญไว้เยอะก็ได้เกิดมาสะสมบุญเพิ่ม​ ทำกรรมไว้เยอะก็อาจจะต้องเกิดมาชดใช้กรรม​ หรืออาจไม่มีสิทธิลงมาเกิดอีกเลย​เรื่องศาสนาความเชื่อ​ เขาว่าเป็นเรื่องอจินไตย​ ผมก็ไม่เคยศึกษา​ ธรรมะ​ แต่เชื่อว่าเรื่องพระธรรมถูกต้องจริง​ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะรับรู้ได้เหมือนกันทุกคน​ ชาวคริสต์ก็เชื่อว่าพระเยซูจะกลับมาไถ่บาป​ หลังจากที่เสียชีวิต​ ชาวอียิปต์ก็มีมัมมี่เพื่อให้กษัตริย์คืนร่าง​ เราชาวพุทธก็มีพระศรีอารย์​ ทุกศาสนามีความเชื่อเรื่องหลังความตายคล้ายๆกัน​ ว่าตายแล้วไม่ใช่จบสิ้น​ แต่คือการเริ่มต้นอีกสิ่งที่เราไม่เคยรู้จัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 [13]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 20 คำสั่ง