เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 10:17
|
|
เอาแบบบ้านในฝันมาให้เลือกอีก ชนกลางอากาศกับค.ห.59 เล่นเอาบ้านที่เลือกมาจืดไปเลย 
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
piyasann
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 11:14
|
|
หาของหลอนมาแจม....... http://hilight.kapook.com/view/73519ไม่กล้า แนบภาพ บางท่านอาจขวัญอ่อน ไม่อยากดูชม ........ ตายแล้วไปไหน? ตายแล้ว ยังมีคนพาเดินกลับบ้าน บรึ๊ยยยยย !!!!!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 11:46
|
|
^ หลอนของจริง
คุณประกอบหายไปแล้ว คุณประกอบไปไหน..?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
piyasann
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 11:56
|
|
มีเรื่องเล่า (อีกแล้ว.....)
เจ้านายไทย บางพระองค์ ก็ทรงรับเป็นพระธุระ จัดการเรืองการพระศพเจ้านายฝ่ายใน
เช่น ที่วัง กรมหมื่นปราบปรปักษ์ฯ (คือกรมศิลปากรปัจจุบัน) ด้ามมุมวังติดกับวัดพระมหาธาตุ มีเรือนทาสีชมพูหลังหนึ่ง ชื่อ "ตำหนักสีชมภู" อยู่หน้าวัง เป็นที่เก็บพระโกษฐ์ของเจ้านายฝ่ายใน เพราะเจ้านายฝ่ายในหลายพระองค์ ไม่ทรงมี heir สืบทอดทำบุญถวาย ในกรมฯ ปราบ ก็ทรงเป็นพระธุระ นำพระอัฐิมารวมไว้ที่เดียวกัน ............ ส่วนตัวพระองค์ท่านเอง ก็ทำพระโกษฐ์ฺขึ้นใหม่ องค์หนึ่ง ชั้นโกษฐ์กุดั่นน้อย รูปกระทัดรัดสวยงามมาก พระโกษฐ์นี้ เลยได้ใช้ทรงพระองค์ท่านเอง
ครั้งหนึ่ง ในกรมฯ ปราบฯ ทรงรับศพ เจ้าจอมมารดา ท่านหนึ่งเข้ามาตั้งไว้ที่ในวัง ที่ท้องพระโรงเก่าของ ในกรมพระยาบำราบฯ เหตุเพราะหอธรรมสังเวช ไม่ว่าง หรือเพระเหตุใดไม่ปรากฏ พระโอรส หลานเธอ ข้าหลวง ต่างกลัวผีกันกันยกใหญ่ !!!!!
ดังนั้น เจ้านายฝ่ายใน เดิมก่อนที่จะรวมไว้ในพระบรมมหาราชวัง (หอ .........? .....) ตาย(ขออนุญาตใช้คำสามัญ)แล้วไปอยู่วิมานสีชมภู (ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้ว)
ชักงง งวย ? ว่า ท้องพระโรงของกรมฯ บำราบ จะเป็นองค์เดียวกับท้องพระโรงวังท่าพระหรือไม่?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 15:38
|
|
น่าสนใจนะครับ พาศพเดินกลับบ้าน ฟังดูเหมือนบริการในเมืองจีนที่มีการพาศพกลับบ้าน ที่มีผีดิบโดดดึ๋งๆ ที่ฮิตๆ กันในหนังจีนยุคเมื่อซักสิบกว่าปีที่แล้ว
อีกประสบการณ์ที่ผมอยากลองซักครั้งคือไปร่วมล้างป่าช้า อยากเห็นกับตาว่าไม่ล้างป่าช้า(ที่ไม่ใช่ GT200) มันชี้กันได้แม่นยำจริงไหม แต่ไม่เคยเจอกำหนดการก่อนเค้าจะล้างกันเลย เห็นข่าวทีไรเค้าล้างกันเรียบร้อยแล้วทุกที เลยยังไม่มีโอกาสไปร่วมล้างกับเค้าซะที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
samun007
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 15:51
|
|
สุสานนี้ทางเดินสัตว์มงคลจะสร้างคดเคี้ยวไปตามทางบนเขา บางคนว่าเป็นอย่างนี้เพราะว่าไม่อยากให้พลังชี่ (ไม่รู้จะแปลไทยอย่างไร) มาทางตรง ไม่เหมาะ ควรให้ไหลไปตามทางธรรมชาติ บางคนก็ว่าเพราะว่าไม่มีพระประสงค์ให้คนเห็นสุสานหลวงตรงๆ บางคนก็ว่าเพราะทรงสงสารคนงาน ไม่อยากให้ขุดเขาให้ยุ่งยาก
ผลที่ได้คือทางเดินนี้จะคดไปมาตามไหลเขางดงามยิ่ง
พลังชีวิต ก็ได้ครับ เพราะปกติตามคติของจีน ชี่ จะมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง บ้านเรือนก็มีชี่ เพราะฉะนั้นบ้านเรือนใด ที่เจ้าของไม่บำรุงรักษา เขาก็จะเรียกว่าขาดชี่ ซึ่งพลังชี่ของหลุมศพตรงนี้ คติทางจีนเชื่อกันว่าจะไปเกื้อหนุนให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุขได้ เพราะฉะนั้นบรรดาพระจักรพรรดิ บรรดาเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง เศรษฐี หรือแม้แต่ชาวบ้าน ต่างก็สรรหาสถานที่ตรงตามตำราเฟิ่งสุ่ย เพื่อให้มีผลดีต่อตระกูลตัวเองในรุ่นหลัง ๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 17:00
|
|
ข้ามน้ำข้ามทะเลกลับไปที่ประเทศฝรั่งอังกฤษกันอีกหน เมื่อวานพูดถึงที่ฝังศพราชินีคนแรกของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 ไปแล้ว ก็ต้องถึงคิวราชินีคนที่ 2 แอนน์ โบลีน(1501/1507–1536) ซึ่งถ้าใครศึกษาประวัติศาสตร์อังกฤษ หรือดูหนัง The Other Boleyn Girl น่าจะรู้จักกันดีในฐานะหญิงสาวที่ใช้เสน่ห์และมารยาหญิงมัดใจกษัตริย์มากตัณหาอย่างเฮนรี่จนหาเรื่องหย่ากับราชินีเก่าและประกาศไม่ขึ้นต่อคริสต์ศาสนจักรที่วาติกันอีกต่อไป ทั้งหมดเพียงเพื่อสนองตัณหาส่วนตัวล้วนๆ
แอนน์ โบลีนเป็นพระมารดาของราชินีอลิซาเบธที่ 1 หลังจากเหม็นเบื่อเธอแล้วแถมแอนน์ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายกับเฮนรี่ได้ ราชินีแอนน์ถูกกล่าวหาว่าคบชู้ แถมชู้รักก็คือพี่ชายตัวเองซะด้วย สุดท้ายถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการตัดคอที่ Tower of London ศพถูกฝังไว้อย่างลวกๆ ที่ Chapel of St. Peter ad Vincula ซึ่งเป็นโบสถ์เล็กๆ ขนาดเล็กมากๆ ใน Tower of London ในภาพคือตึกรูปสี่เหลี่ยมชั้นเดียวนั่นแหละ หอคอยสูงๆ ข้างขวาของรูปนั่นไม่ใช่
เมื่อปี 1870 มีการซ่อมปรับปรุงโบสถ์นี้ครั้งใหญ่ คนงานได้ขุดพบโครงกระดูกที่เชื่อกันว่าเป็นของแอนน์ โบลีน เนื่องจากโครงกระดูกนี้มีนิ้วมือที่ยาวและมีลำคอยาวคล้ายกับคำเล่าลือเรื่องสรีระของพระนาง ปัจจุบันร่างของแอนก็ยังถูกฝังแบบรวมๆ ไว้กับศพอีกจำนวนมากใทั้งที่อยู่ใต้พื้นและในผนังโบสถ์แห่งนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 17:58
|
|
คั่นรายการด้วยเพลง Wishing You Were Somehow Here Again จากภาพยนตร์ The Phantom of the Opera
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 23:24
|
|
ถ้าเบื่อกับการนอนอุดอู้ในโลงแคบ ๆ หรืออยากชมแสงตะวันเหนือพื้นดินบ้าง จะลองขึ้นไปกินลมชมวิวจากมุมใต้เพดานบ้างไหมครับ หรือว่าจะเป็นเครื่องประดับ(บ้าน)แบบสวย ๆ ภาพจาก Kutna Hora ครับ ถ่ายมาอาจไม่สวยเท่าไร แต่บรรยากาศด้านในน่าชมครับ ภาพที่ 1 ภาพด้านนอกของโบสถ์ ภาพที่ 2 กระถางพร้อมสายประดับด้านข้าง ภาพที่ 3 แชนเดอเลียร์ประดับกลางโบสถ์ ภาพที่ 4 ถ่ายจากโปสเตอร์ของเขาเข้าท่ากว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลนนท์
มัจฉานุ
 
ตอบ: 58
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 08 ส.ค. 12, 23:41
|
|
มีตราอาร์มของตระกูล Schwarzenberg ที่ได้เป็นเจ้าของที่ด้วยครับ ใครอยากขึ้นไปอวดท่าสวย ๆ กันบนนี้ก็เชิญได้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 09 ส.ค. 12, 08:27
|
|
ถ้าใครมีเงินเหลือกินเหลือใช้ อยากจะไปปลงอสุภกรรมฐานที่สาธารณรัฐเช้ก ก็ลองไปที่โบสถ์ Ossuary Sedlec ที่คุณนิลนนท์นำเที่ยวนะคะ ดีไซเนอร์ของโบสถ์นำกระดูกคนตายถึง 40,000 คน มาตกแต่งได้ลงตัว กลายเป็นโบสถ์โด่งดังถูกใจคุณประกอบ อินทรเนตรให้ข้อมูลว่ากระดูกส่วนหนึ่งเป็นของคนมีฐานะในหลายประเทศของยุโรปกลางที่นิยมนำศพมาฝังด้วยความเชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนหนึ่งเป็นของผู้เสียชีวิตจากการระบาดของกาฬโรคจำนวนมากถึง 30,000 คน และอีกส่วนหนึ่งคือผู้เสียชีวิตในช่วงสงคราม Hussite
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 09 ส.ค. 12, 10:14
|
|
คลิปภาพชัดประกอบเสียงหวีดหลอน ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 09 ส.ค. 12, 10:26
|
|
ถ้าคุณ SILA ไปดูมาแล้ว หรือจะไปดูเมื่อไหร่ ช่วยกลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ส่วนดิฉันถ้าไปก็คงจดๆจ้องๆอยู่นอกโบสถ์สักพัก ถ้าหลังห้าโมงเย็นแล้วไม่เข้าค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 09 ส.ค. 12, 11:24
|
|
ถ้าถามชาวฮินดูว่าตายแล้วไปไหน เขาก็ไปที่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ -แม่น้ำคงคา ที่เมืองพาราณสี เผาอยู่ข้างแม่น้ำ แล้วลอยกระดูกและอัฐิที่เหลือไปตามแม่น้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|