chatchawan
มัจฉานุ
 
ตอบ: 96
|
เราถือว่าพระองค์ทรงเป็นมหาราชพระองค์หนึ่งของไทยอีกพระองค์หรือไม่ครับ พอดีได้อ่านในวิกิพีเดียว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 มีนาคมของทุกปีเป็น วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า หรือ วันเจษฎาบดินทร์ เป็นวันสำคัญของชาติ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และเห็นชอบให้ให้ถวายพระราชสมัญญาว่า “ พระมหาเจษฎาราชเจ้า ” แปลว่า “ พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่ ”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 05 ส.ค. 12, 15:59
|
|
อดีตบูรพมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา การตั้งสมัญญามหาราชหากตั้งทุกพระองค์คงเฝือ ทุกพระองค์ล้วนมีจุดเด่นในแต่ละรัชกาล ในรัชกาลพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างบ้านแปลงเมืองให้พระนครกรุงรัตนโกสินทร์งดงามและแข็งแรง ป้อมเมือง กำแพงเมืองแข็งแรงแน่นหนา วัดวาอารามล้วนสร้างเสริมและสร้างใหม่ต่อจากรัชกาลที่1 การค้าขายรุ่งเรืองเป็นอย่างมากจนเก็บสะสมเงินพระคลังข้างที่ไว้จำนวนมากจนนำมาไถ่บ้านไถ่เมืองในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 การสร้างพระพุทธรูปมีจำนวนมากมายทั้งใหญ่และเล็ก และที่สำคัญพระองค์ทรงรักแผ่นดินสยามมากทรงเห็นแก่บ้านเมืองเหนือสิ่งอื่นใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 05 ส.ค. 12, 17:29
|
|
ถ้าสหายทั้งปวงว่าง เราน่าจะคุยกันเรื่อง จดหมายเหตุหลวงอุดมสมบัติ
จะได้เห็นราชกิจอันหนักหน่วง และความรู้ความสามารถของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในการเดินเรือ
สมัยที่ตามหาหนังสือเล่มนี้ ลำบาก หาไม่ค่อยได้ เดี๋ยวนี้มีหลายฉบับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 05 ส.ค. 12, 17:48
|
|
ถ้าสหายทั้งปวงว่าง เราน่าจะคุยกันเรื่อง จดหมายเหตุหลวงอุดมสมบัติ
จะได้เห็นราชกิจอันหนักหน่วง และความรู้ความสามารถของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในการเดินเรือ
สมัยที่ตามหาหนังสือเล่มนี้ ลำบาก หาไม่ค่อยได้ เดี๋ยวนี้มีหลายฉบับ
หลวงอุดมมีความจำที่ดีเลิศมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 05 ส.ค. 12, 21:03
|
|
"ทูลเรื่องอื่นมิได้ชื่นเหมือนเรื่องวัด เวียนแต่ตรัสถามไถ่ให้ใฝ่ฝัน ถึงวัดนั้นวัดนี้เป็นนิรันดร์ ถึงเรื่องปั้นเขียนถากสลักกลึง" กลอนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้แต่ง นายมี (หลวงศุภมาตรา)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 07:37
|
|
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระอุทิศพระราชทรัพย์และพระวรกายในการทำนุบำรุงพระศาสนาเป็นอย่างมาก ทรงสร้างวัดวาอารามประดับพระนครเป็นศรีสง่าแก่บ้านเมืองเป็นจำนวนมาก
เมื่อขุนนางชั้นผู้ใหญ่เห็นว่าท่านโปรดการสร้างวัด ข้าราชการต่าง ๆ ก็ล้วนดำเนินรอยตาม บริจาคที่ดินสร้างวัดตามอย่างและถวายเป็นพระราชกุศลอย่างมากมาย
วัดที่โดดเด่นในกรุงเทพ มีด้วยกันหลายวัดคือ
๑. วัดกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ด้วยการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ด้วยปูนปั้น สูงราวพระพุทธรูปวัดพนัญเชิง (พระพุทธไตรรัตนนายก)
๒. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งทรงได้ปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนโฉมหน้าวัดไปให้ใหญ่โต งดงามปานประหนึ่งเทวดาสร้าง
๓. พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เป็นพระปรางค์ที่สร้างครั้งยังทรงเป็นเจ้าฟ้า และสำเร็จด้วยงานศิลป์กระเบื้องถ้วยในสมัยพระองค์
๔. พระสมุทรเจดีย์ เริ่มสร้างยังทรงเป็นเจ้าฟ้า และก่อสร้างมาแล้วเสร็จในสมัยพระองค์
๕. วัดยานนาวา ทรงประมาณเหตุการณ์ล่วงหน้าไว้ว่าเรือสำเภาต่อด้วยไม้จะลดบทบาทลงไป จึงทรงให้จำลองไว้
๖. พระปรางค์วัดสระเกศ เป็นพระปรางค์สูงใหญ่ริมคลองมหานาค หากสร้างสำเร็จจะมีความใหญ่โตกว่าพระปรางค์วัดอรุณ
๗. พระพุทธรูปที่โปรดเกล้าให้หล่อด้วยทองแดงก็มี พระพุทธรูปที่หล่อด้วยกลักฝิ่นก็มี พระพุทธรูปทรงเครื่องถวายพระนามแผ่นดินต้น แผ่นดินกลางก็มี พระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์งดงามที่วัดนางนองก็มี พระพุทธรูป ๓๔ ปางถวายเฉลิมพระเกียรติอดีตบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าสมัยกรุงศรีอยุธยาก็มี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 08:43
|
|
ยอดพระเจดีย์เอียง
ณ เดือน ๘ ขึ้น ๑๓ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๘๒
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเสด็จออกขุนนาง พระองค์เข้าชุมสาย กราบทูลว่ายอดพระเจดีย์ใหญ่นั้นเอียงทั้ง ๓ องค์ โดยองค์เหนือเอียงไปด้านเหนือ องค์กลางเอียงไปทางตะวันตก องค์ใต้เอียงไปทางใต้ด้านละศอกเศษ
ทรงตรัสถามถึงว่า "ทำไมจึงเอียงไปทั้งสามองค์"
หลังจากนั้นทรงไม่เสด็จออกขุนนางกว่า ๗ วัน ทรงประชวรด้วยมึนพระยอด เสวยได้ ๓ องค์บ้าง ๕ องค์บ้าง ครันบแล้วทรงออกเสด็จขุนนางโดยไม่ทรงประทับบังลังก์ ทรงหลับพระเนตรด้วยยังมีอาการเวียนพระยอด แต่ก็ยังทรงดำรัสถามถึงเรื่องยอดพระเจดีย์เอียง เหล่าขุนนางจึงกราบทูลว่าจะขอรับอาสาทำยอดพระเจดีย์ ซึ่งเอียงไปเนื่องด้วยหนักบัวกลุ่มโดย
พระมหาเทพ จัดการดูแลยอดพระเจดีย์ด้านเหนือ
พระอินทรเดชา จัดการดูแลยอดพระเจดีย์องค์กลาง
พระยาราชรองเมือง จัดการดูแลยอดพระเจดีย์ด้านใต้
ครั้นแล้วเดือน ๘ แรม ๕ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๘๒ ทรงออกว่าราชการและทรงถามถึงเรื่องยอดพระเจดีย์ที่เอียงว่า "ช่างกระเลย เอียงไปเสียทั้งหมดสามองค์ จะเหลือให้สักหนึ่งองค์ก็ไม่ได้ พระยาศรีพิพัฒน์ออกมาเสียแล้ว จะอาศัยพระยาเพ็ชรพิไชยช่วยดูแลให้ดีก็ไม่ได้ อายเขาหนักหนา"
คิดแล้วเสียพระทัย พระอาการพระวาโยกำเริบขึ้นมาเนื่องจากพระโรคเก่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 09:09
|
|
ทรงแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่สวนขวา
ครั้งสวนขวาในพระบรมมหาราชวังเกิดตมเน่าเสียเนื่องจากน้ำที่ขังไม่มีการระบายออกไป พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเป็นทรงกรมเจษฏาบดินทร์ทรงช่วยเป็นพระราชภาระในการจัดการออกแบบวางท่อไขน้ำเข้าสวนขวาเสียใหม่ ทรงจ้างช่างชาวจีนมาทำการซ่อมแซมและทรงวางแผนการวางท่อไขน้ำเข้าออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงถือไม้วาเข้าออกประตูอนงคลีลาด้วยไม่ถือพระองค์ ทรงงานสนองพระเดชพระคุณพระพุทธเลิศหล้านภาลัยด้วยความกระฉับกระเฉง
การสำเร็จด้วยการไขน้ำเข้าสวนขวาได้อย่างงดงาม ด้วยการวางท่อนำน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่พระบรมมหาราชวังโดยตรง น้ำจึงหมุนเวียนไม่เน่าเสีย และไม่เกิดโคลนตมก้นบ่อเป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 09:39
|
|
หลังจากนั้นทรงไม่เสด็จออกขุนนางกว่า ๗ วัน ทรงประชวรด้วยมึนพระยอด เคยอ่านราชาศัพท์ พบว่าพระยอดหมายถึง หัวฝี แต่ในที่นี้เห็นจะหมายถึงพระเศียรละมังคะ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 09:43
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 09:44
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 09:45
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 10:19
|
|
หลังจากนั้นทรงไม่เสด็จออกขุนนางกว่า ๗ วัน ทรงประชวรด้วยมึนพระยอด เคยอ่านราชาศัพท์ พบว่าพระยอดหมายถึง หัวฝี แต่ในที่นี้เห็นจะหมายถึงพระเศียรละมังคะ ? "ทรงวิงเวียนพระเจ้า" ครับผม 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 11:01
|
|
ทรงวิงเวียนพระเจ้า ----> เวียนศีรษะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 06 ส.ค. 12, 11:16
|
|
จุลศักราช ๑๒๑๒ พุทธศักราช ๒๓๙๓ นี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรไม่สบายพระองค์มาตั้งแต่เดือน ๑๐ บรรทมไม่หลับ ให้ทรงคลื่นเหียน เสวยพระกระยาหารไม่ถึงประมาณตามปกติได้ ไม่สบายพระองค์เสด็จออกได้บ้าง มิได้บ้าง มาหลายเดือน ครั้นรุ่งขึ้นวันพฤหัสบดี เดือน ๒ ขึ้น ๗ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๙ มกราคม พระโรคมากขึ้น พระบังคนเบาก็ขุ่นข้นเป็นตะกอน พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายหน้าฝ่ายในมีความร้อนใจ พร้อมกันกันปรึกษาให้แพทย์ประกอบพระโอสถ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย แล้วก็พากันนอนประจำซองอยู่ทั้งกลางวันกลางคืนทุกแห่ง พระโรคไม่คลาย พระอาการประทังอยู่ กำลังพระกายทรุดไปทีละน้อย ๆ
ในข้อความของคุณ siamese ข้างบนนี้ บอกว่า "หลังจากนั้นทรงไม่เสด็จออกขุนนางกว่า ๗ วัน ทรงประชวรด้วยมึนพระยอด เสวยได้ ๓ องค์บ้าง ๕ องค์บ้าง ครันบแล้วทรงออกเสด็จขุนนางโดยไม่ทรงประทับบังลังก์ ทรงหลับพระเนตรด้วยยังมีอาการเวียนพระยอด แต่ก็ยังทรงดำรัสถามถึงเรื่องยอดพระเจดีย์เอียง " แสดงว่าทรงวิงเวียนพระเศียรมากจนลืมพระเนตรไม่ขึ้น เสวยอะไรก็ไม่ลงถึงขั้นไม่เสด็จออกขุนนางถึง ๗ วัน พระบังคนเบาขุ่นเป็นตะกอน อ่านจากที่พงศาวดารบันทึกพระอาการประชวรไว้ตามนี้ ผู้รู้เรื่องการแพทย์ ที่อยู่ในเรือนไทยพอจะสันนิษฐานได้ไหมคะว่า พระโรคน่าจะเกี่ยวกับอะไร ความดันโลหิตสูง? ไต?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|