ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ศิลปะวัฒนธรรม
>
ดวงเมือง
หน้า:
1
2
[
3
]
พิมพ์
อ่าน: 21643
ดวงเมือง
naitang
หนุมาน
ตอบ: 5794
ความคิดเห็นที่ 30
เมื่อ 16 ต.ค. 13, 23:18
ครับผม
เพิ่งเปิดดูเมื่อสักสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะอยากจะทราบว่าดาวอะไรที่อยู่เหนือกรุงเทพฯบ้างในช่วงเวลาที่ได้มีการทำนายทายทักกัน (วันที่ 8+/-) ก็เห็นว่ามีดาวอังคาร และดาวพฤหัสเคลื่อนที่ผ่านเหนือหัว กทม. แต่คนละเวลากัน
พรุ่งนี้จะดูดูในละเอียดอีกหน่อยครับ โปรแกรมอยู่ในอีกเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ
อังคาร-มีความหมายไปในทางกำลัง พลัง มวลหรือกลุ่มก้อนที่มีพลังอยู่ในตัวมากๆ เช่น เครื่องจักรกล กลุ่มคนที่อยู่ในเครื่องแบบต่างๆ
พฤหัส-มีความหมายไปในทางความยินดีปรีดา การประสบความสำเร็จต่างๆ (งาน เงิน) เกี่ยวข้องกับเรื่องของจิต ใจ และปัญญา เป็นเรื่องของความสุขที่เกิดขึ้นในบุคคลหรือคณะบุคคล
ในตำราโหราศาสตร์แบบ Midpoint Astrology ซึ่งพิจารณาจากอิทธิพลของดาวสองดวง โดยใช้เส้นแบ่งครึ่งมุมที่ดาวสองดวงที่ทำมุมกันสร้างเป็นภาพของเหตุการณ์และอิทธิพลที่จะส่องไปตามแนวเส้นแบ่งครึ่งมุมนั้น ภาพหรืออิทธิพลของอังคารกับพฤหัสของโหราศาสตร์แบบนี้ คือ ความสุกงอมของเรื่องราวต่างๆ การเกิดเรื่องราวใหม่ๆหรือการยุติเรื่องราวเดิมๆ การผนวกเข้าด้วยกันหรือการแยกออกจากกัน รวมทั้งหมายถึงกิจกรรมที่ประสบผลสำเร็จ และการตัดสินใจในภาวะจำกัดหรือบังคับแต่กลับได้ผลดีในภายหลัง
สำหรับกรณี ดาวเสาร์กับราหูเดินสวนกันในราศีตุลย์ แล้วเล็งไปที่ราศีเมษซี่งเป็นตำแหน่งลัคนาหรือตัวตนของประเทศไทยนั้น นอกจากจะพิจารณาภาพของอิทธิพลได้ในลักษณะของดาวเดินสวนกันแล้ว ก็อาจพิจารณาในรูปเสมือนดาวทั้งสองดวงนี้วางตัวเป็นฐานของรูปทรงสามเหลี่ยมที่มียอดแหลมเป็นลัคนา ภาพก็คือเสมือนหนึ่งลักคนาถูกทิ่มแทง
เสาร์- เป็นเรื่องของความจำกัด ความแรง การซ่อนเร้น การสูญเสีย
ราหู- ของไทยว่าเป็นเรื่องของความหลงระเริง เห็นผิดเป็นถูก อะไรทำนองนี้ แต่ของฝรั่งว่าเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือสภาพแวดล้อมและเหตุการณ์ต่างๆที่ห้อมล้อม
พื้นฐานของความหมายในลักษณะเช่นนี้ คงจะทำให้เกิดการแปลเป็นภาพได้หลากหลายมากๆครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
ตอบ: 11307
ความคิดเห็นที่ 31
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 04:57
อ้างถึง
พื้นฐานของความหมายในลักษณะเช่นนี้ คงจะทำให้เกิดการแปลเป็นภาพได้หลากหลายมากๆครับ
หมอดูกับหมอเดาก็สลับร่างกันไปมาตรงจุดนี้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 32
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 17:13
^
การตีความมันมีได้สารพัดอย่าง บวกกับตัวแปรจากดาวดวงโน้นเข้ามา ดาวดวงนี้เดินหน้า ดวงนู้นถอยหลัง ทำให้คำตอบออกมาได้หลากหลาย ต้องโยนหัวโยนก้อยกันว่า
น่าจะ
เป็นอย่างไหนกันแน่
เผลอๆก็ไม่รู้ว่าตัวเองดูหรือเดาค่ะ
แหะ แหะ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
ตอบ: 5794
ความคิดเห็นที่ 33
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 21:43
ความเป็นหมอดูอยู่คู่กับความเป็นหมอเดาอยู่แล้วครับ หากจะดูและให้เพียงภาพพื้นฐานและอิทธิพลพื้นฐานของดวงดาวที่มาทำมุมสัมพันธ์กัน แล้วให้ไปจินตนาการเอาเองว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็จะอยู่ในภาคของความเป็นหมอดูแม่นๆมากกว่าที่จะเป็นหมอเดา แต่หากดูแบบบอกเรื่องได้เป็นฉากๆ และยิ่งลงลึกในรายละเอียดมากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งเข้าไปสู่แดนของการเป็นหมอเดาเอามากๆเลย ผมเลือกที่จะอยู่ในสถานะของผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์
เคยอ่านหนังสือของฝรั่ง เรื่องเกี่ยวกับแนวคิดใหม่ในการตีความภาพของดาวพลูโต เลยทำให้พอจะเข้าใจว่าโหรเขามีวิธีคิดและวิธีการถอดความหมายของดาวเคราะห์ต่างๆให้ออกมาเป็นภาพความหมายของดวงดาวและอิทธิพลของมันได้อย่างไร
ความถูกต้องและไม่ถูกต้องของคำพยากรณ์นั้น ผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องของความสามารถทางศิลปของตัวหมอดู ยิ่ง (หมอดู) รู้จักเขา (ลูกค้า) มากเพียงใดก็ดูเหมือนจะยิ่งทายแม่นมากขึ้นเท่านั้น หมอดูจึงต้องพยายามชวนคุยเพื่อให้ได้ข้อมูลของบุคคลนั้นๆมากที่สุดเพื่อใช้ในประกอบในการทำนายทายทัก เมื่อไปดูหมอ หมอดูมักจะเริ่มล้วงตับด้วยการทำนายทายทักเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งส่วนมากจะถูกต้อง โดยดูจากดาวใหญ่เดินช้าทั้งหลายโดยเฉพาะดาวเสาร์และพฤหัส ซึ่งผู้ดูมักจะพยาามรำลึกหาเหตุกาณ์ที่สอดคล้อง เป็นกระบวนการทางจิตวิทยาในการปรับแต่ง/สร้างความเชื่อมั่น เมื่อความเชื่อได้เกิดขึ้นแล้ว จากนั้นไปก็ไม่ยากที่การพยากรณ์ทั้งหลายก็ดูเหมือนจะถูกไปหมด
เราแทบจะเดาคำถามที่ผู้มาดูหมออยากจะถามได้เลยเมื่อพบกัน เช่น หากอยู่ในวัยเรียน ม.ปลาย คำถามหลักก็คือจะเข้ามหาวิทยาลัย/จะเรียนต่อได้ใหม ? หากอยู่ในวัยเบญจเพศ ชายก็จะไม่หนีเรื่องการทำงาน? หญิงก็มักจะไม่หนีเรื่องของความรักหรือการแต่งงาน? หากอยู่ในวัยกลางคน ก็มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงานหรือเรื่องของลูก? แล้วหมอดูจะไม่แม่นและได้รับความเชื่อถือได้อย่างไร เพียงเริ่มสนทนาด้วยประเด็นดังที่ยกตัวอย่างมาก็เรีบยร้อยแล้ว จากนั้นผู้มาดูหมอก็จะเล่าเรื่องปัญหาทั้งหมดทีต้องการรู้คำตอบให้หมอดูฟัง ซักกันไปซักกันมาก็อาจจะได้คำตอบที่แม่นโดยไม่ต้องดูดวงดาวเลย ดูดาวประกอบเพียงเพื่อยืนยันความมั่นใจของหมอดูอีกหน่อยเดียวก็พอ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
ตอบ: 5794
ความคิดเห็นที่ 34
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 22:02
กลับมาเรื่องที่ติดค้างไว้ครับ
อังคาร - ผ่านเหนือหัวพอดี
พฤหัส และ มฤตยู - ผ่านเกือบเหนือหัว ที่มุมเงยประมาณ 80 องศา
ก็เลยย้อนไปดูของวันที่ 14 ตค. 2516 เป็นดังนี้ครับ
พลูโต และ อังคาร - ผ่านเหนือหัวพอดี
เสาร์ - ผ่านเกือบเหนือหัว ที่มุมเงยประมาณ 80 องศา
แล้วก็มีกลุ่มดาวมฤตยู เนปจูน ศุกร์ และพุธ ส่งแสงอยู่ทางทิศใต้ที่มุมเงยประมาณ 60-70 องศา
พลูโต ให้ความหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
มฤตยู ให้ความหมายเกี่ยวกับความพลิกผัน ความรุนแรง และความฉับพลัน
เนปจูน ให้ความหมายเกี่ยวกับความอึมครึม หมอกควัน และของเหลว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 35
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 22:05
สรุปว่าปีหน้ายังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ปีนี้ คงจะประคองตัวแบบง่อนๆแง่นๆ ไปได้จนสิ้นปีใหม่ไทย หมดสงกรานต์เมื่อไหร่มาดูกันอีกที
บันทึกการเข้า
saimai
อสุรผัด
ตอบ: 44
ความคิดเห็นที่ 36
เมื่อ 17 ต.ค. 13, 22:17
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า:
1
2
[
3
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.034 วินาที กับ 19 คำสั่ง
Loading...