เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 14
  พิมพ์  
อ่าน: 71442 คดีลอบสังหาร จอมพลป. : เงื่อนงำเบื้องหลัง ๑๘ ศพ
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 23 ก.ค. 12, 17:56

แต่เมื่อแรกที่เขาจะเล่นเกมนี้กันให้ได้นั้น กระทั่งพระยาพหลซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะหลบออกจากกรุงเทพไปตั้งหลักอยู่กับลูกน้องเก่าในกรมทหารปืนใหญ่ที่โคกกระทียม พร้อมด้วยพ.อ.พระสุริยสัตย์ เจ้ากรมการเงิน กระทรวงกลาโหมผู้เป็นเพื่อน และพ.อ.พระศัลยเวชวิศิษฐ์ หมอประจำตัว โดยออกเดินทางเมื่อวันที่๒๗มกราคม เพียงวันเดียวก่อนที่หลวงอดุลเดชจรัส รัฐมนตรีมหาดไทยและอธิบดีกรมตำรวจ จะลงมือปฏิบัติการตามคำเห็นชอบของหลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี

หลังจากจับแพะมาใส่กรงขังได้เพียงสองสามวันเท่านั้น รัฐบาลก็ได้เสนอพ.ร.บ.การจัดตั้งศาลพิเศษเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในวันที่๒กุมภาพันธ์ แต่ในวันนั้นเพื่อนรักทั้งสองศรีคือหลวงพิบูลและหลวงอดุล ก็นัดกันเขินอาย มิยอมมาเข้าร่วมประชุมสภาด้วย หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม จึงเป็นผู้เสนอร่างแทนแต่เพียงผู้เดียว ฝ่ายค้านก็ทำการค้านแบบกลัวๆกล้าๆ ก็มันเห็นๆอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ณ เณรผู้ไม่กลัวใครก็ถูกจับไปแล้ว ทั้งฒ ผู้เฒ่าและด เด็กก็หัวหด พอลงมติ บรรดาส.ส.ทั้งหลายก็แสดงการกระทำว่ากูก็เป็นพวกมึงนะ ด้วยการออกเสียงยอมรับพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นเอกฉันท์

เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายผ่านไปแล้ว พระยาพหลจึงเดินทางกลับมาในวันที่๙กุมภาพันธ์ ๒๔๘๒ เท่ากับว่าท่านประกาศกลายๆว่า ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย  และเป็นที่ทราบกันด้วยว่า ท่านได้ขอชีวิตเหยื่อการเมืองไว้ได้๓ท่าน ที่เหลือเขาไม่ยกให้

เมือศาลพิพากษาแล้ว นักโทษที่ถูกศาลพิเศษตัดสินให้ประหารชีวิต ได้ทำฎีกายื่นขอพระราชทานอภัยโทษต่อคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อันมีพระองค์อาทิตย์เป็นประธาน แต่หลังจากหลับพระเนตรของพระองค์เห็นสายตาอันดุดันของหลวงอดุลจ้องมองถมึงทึงมาที่องค์ท่านแล้ว ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็สั่นระรัวพระหัตถ์ลงพระนามยกฎีกาของนักโทษประหารทั้ง๑๘คนนั้นเสีย

เมื่อฆ่ากันไปเสร็จแล้ว สังคมคนกรุงเทพยังฮือฮาเรื่องนี้กันมาก ในที่สุดสื่อมวลชนถูกกดดันให้กล้าถาม และคำตอบของหลวงพิบูลก็เด็ดขาดมากว่า “ประหารชีวิตเพียง๑๘คนเท่านั้น ไม่มากมายอะไรเลย การปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส เขาตัดหัวใส่เกวียนเป็นแถวๆ”

เป็นอันว่าหมดคำถาม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 23 ก.ค. 12, 19:49

บางคนอ่านกระทู้แล้วอาจวาดภาพว่า จอมพลป. คงเป็นคนดุดันน่ากลัว น่าเกรงขาม  ใครๆก็ระย่อไม่กล้าสบตาด้วย    แต่ตัวจริงของท่านจากผู้ที่ประสบพบเห็น เป็นภาพอีกอย่างหนึ่งที่ตรงกันข้าม  

ศ.กนต์ธีร์ ศุภมงคล เขียนไว้ในหนังสือครบรอบ 50 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า

ท่านจอมพลเป็นผู้มีเสน่ห์ทางการเมืองเป็นพิเศษ มีเหลี่ยมคูหาเสมอเหมือนมิได้ สามารถใช้ถ้อยคำนุ่มนวล อ่อนหวาน ดูดดึงใจอย่างกว้างขวาง นักการเมืองสมัยท่านต่างพากันเรียงหน้าวิ่งเข้าหา ต่างกับนายกรัฐมนตรีสมัยหลังๆที่ต้องออดอ้อนพะเน้าพะนอนักการเมืองเพื่อคะแนนเสียงสนับสนุนในรัฐสภา แม้แต่ทูตต่างประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทย อยู่ได้ไม่นานเท่าใดพอใกล้ชิดท่านล้วนถูกโน้มน้าว เกิดศรัทธาในตัวท่าน ทุกคนนิยมติดต่อกับท่านโดยตรง”

หลังจากจับแพะกวาดล้างไปได้หมดแล้ว    คดีกบฎครั้งนี้ก็ถูกลบหายไปจากสังคมเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย   จะมีก็แต่ญาติพ่อแม่พี่น้องลูกหลานของครอบครัวนักโทษการเมืองเหล่านั้นที่จดจำได้  แต่ต้องปิดปากเงียบ เผชิญความทุกข์ระทมไปตามยะถากรรม    โดยไม่อาจจะขอความยุติธรรมจากใครได้
ส่วนประชาชนทั่วไปก็จะได้รับข่าวด้านดีจากรัฐบาลอยู่เสมอ  สิ่งใหม่ในยุคนั้นคือการปลุกใจเรื่องชาตินิยม  ว่าประเทศไทยกำลังจะรุ่งเรืองศรีวิไลเทียบเท่ามหาอำนาจตะวันตก  ก่อให้เกิดความฮึกเหิมและหวังในทางดี    2 ปีต่อมาคนไทยก็ถูกปลุกใจให้เดินขบวนเรียกร้องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงกลับคืนมาเป็นของไทย  แล้วก็ได้คืนมาสำเร็จ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 23 ก.ค. 12, 20:09

แต่ว่าโชคชะตาก็ไม่ได้โหดร้ายถึงขีดสุดกับนักโทษการเมืองที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเสียทีเดียว    เมื่อจอมพลป.พ้นอำนาจไปในพ.ศ. 2487  นักโทษการเมืองทั้งหลายก็ได้รับอิสรภาพจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่นายควง อภัยวงศ์เป็นผู้นำเสนอต่อรัฐสภา
นักโทษการเมืองเหล่านั้นบางคนก็กลับคืนสู่ความรุ่งเรืองมีหน้ามีตาอีกครั้ง    บางคนก็กลับถิ่นเดิมไปอยู่กับญาติ   ล้างมือจากการเมืองโดยสิ้นเชิง

กระทู้นี้ก็ขอจบลงเพียงแค่นี้ค่ะ  ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมออกความคิดเห็นและติดตามมาจนถึงค.ห.สุดท้าย
 
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 23 ก.ค. 12, 22:17

ก่อนจะปิดกระทู้นี้ตามคำสั่งของท่านอาจารย์ใหญ่  ท่านที่ได้อ่านเรื่องราวในกระทู้นี้มาคงจะเห็นได้ว่า
ท่านผู้นำได้กระทำไว้กับพลเอก พระยาเทพหัสดิน (ผาด  เทพหัสดิน ณ อยุธยา) อย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว
แต่เมื่อท่านผู้นำกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ กลับแต่งตั้งท่านเจ้าคุณคู่อาฆาต
เป็นรัฐมนตรีคมนาคมร่วมในรัฐบาลของท่าน  นี่คงจะเป็นพยานสำคัญสำหรับประโยคที่ว่า "ม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
ในแวดวงการเมืองไทย" 

ตกมาถึงรุ่นหลาน  ผมก็ให้เผอิญมีเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นเรียนเป็นหลานปู่ของทั้งท่านผู้นำและท่านเจ้าคุณเทพฯ
แล้วที่แปลกก็คือหลานของท่านทั้งสองนั้นกลับเป็นเพื่อนรักกันโดยไม่มีวี่แววความบาดหมางของบรรพบุรุษเลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 23 ก.ค. 12, 22:26

ท่าน V_Mee มาเปิดประเด็นทิ้งท้าย กระทบใจ   ดิฉันเลยปิดไม่ได้ ขอเปิดอีกครั้งค่ะ

พลโท พระยาเทพหัสดิน ได้รับอิสรภาพเมื่อวันที่ 20กันยายน2487 และได้รับนิรโทษกรรมในเวลา3ปีต่อมา ในเดือนกันยายน 2490
หลายปีต่อมา พลโท พระยาเทพหัสดิน ได้รับหนังสือขอโทษจากจอมพล ป.พิบูลสงครามที่ได้เข้าใจผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และขออโหสิกรรมในสิ่งที่ทำลงไป
แปลอย่างอื่นไม่ได้นอกจากว่า นอกจากเอาพ่อเข้าคุกแล้วยังประหารชีวิตลูกชายท่านไปอีก 2 คน   ทั้งๆบุคคลทั้งสามนี้บริสุทธิ์

พร้อมกับมองเห็นได้อีกอย่างว่า คนขออโหสิกรรมไม่ยักใช่คณะผู้พิพากษาที่ตัดสิน    แต่เป็นจอมพลป. ซึ่งเคยกล่าวว่าพยายามขอให้อภัยโทษประหารชีวิตแล้ว แต่หลวงอดุลเดชจรัสไม่ยอม

ต่อมา พระยาเทพหัสดิน ได้รับพระราชทานยศเป็น พลเอก พระยาเทพหัสดิน และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491  แสดงว่าท่านได้ให้อโหสิกรรมแก่จอมพลป. แล้ว

" การรู้จักอโหสิกรรมเป็นยอดแห่งความเป็นผู้ดี"
จากหนังสือ  “จงรักเกียรติยิ่งชีวิต” ของ เนตรเสลา สิงหะ สุตเธียรกุล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 24 ก.ค. 12, 08:15

เมื่อท่านผู้นำกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ กลับแต่งตั้งท่านเจ้าคุณคู่อาฆาต
เป็นรัฐมนตรีคมนาคมร่วมในรัฐบาลของท่าน  นี่คงจะเป็นพยานสำคัญสำหรับประโยคที่ว่า "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
ในแวดวงการเมืองไทย" 

ดิฉันเชื่อมั่นอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเจ้าคุณเทพฯ ท่านให้อโหสิกรรมจอมพลป. ด้วยน้ำใจผู้ดีของท่าน    จึงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคม  และเชื่อต่อมาว่า ตำแหน่งนี้จอมพลป.น่าจะมอบให้เพื่อเป็นการชดเชยการกระทำในอดีต ไม่มากก็น้อย
ส่วนประโยคของคุณ V_Mee ดิฉันก็เห็นด้วย แต่ขอตีความอีกทางหนึ่งว่า ต่อให้ลูกหลานบางท่านในตระกูลยังไม่ลืมอดีต   ก็คงไม่อยากให้เจ้าคุณท่านปฏิเสธตำแหน่งร่วมรัฐบาลอยู่ดี   เพราะจอมพลป. ท่านก็ยังเป็นหัวหน้ารัฐบาล     ดีไม่ดีท่านน้อยใจว่าเจ้าคุณไม่ให้อภัยผมอยู่มั้ง   ผมไม่ถือสา  แต่อธิบดีตำรวจผมน่ะซีเขาไม่ยอม    ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยก็ได้ 
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 02 ส.ค. 12, 10:24

กระทู้นี้จะขาดข้อมูลทั้งสองด้านไปถ้าไม่มีความเห็นของฝ่ายหลวงพิบูล หรือจอมพลแปลก ซึ่งเขียนโดย อ. พิบูลสงครามบุตรชายของท่าน
ผมขออนุญาตมาลงเพิ่มเติมดังนี้

ที่ขีดเส้นแดง หรือท่านจะบอกเป็นนัยว่าทั้งหมดที่พ่อท่านโดนโจมตีนั้น แท้จริงในครอบครัว ทราบกันดีว่าเป็นฝีมือของคนนี้
(ขอโทษที่บางช่วงไม่ชัด แต่คงพออ่านกันได้นะครับ)



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 02 ส.ค. 12, 10:37

ขีดเส้นใต้ตอนบนไว้ให้เป็นที่สังเกตว่า อะไรที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ พวกก็มักจะอ้างว่าเป็นพระราชกระแส แบบห้วนๆ คนที่อ่านอย่างฉาบฉวยก็จะนึกว่าเป็นพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งไม่ใช่ ที่จริงแล้วผู้ที่ใช้พระราชกระแสในขณะนั้นคือรัฐบาลเผด็จการทหาร  ที่บีบบังคับองคมนตรีให้ลงพระนามเป็นตรายางในเอกสารทุกชิ้นที่กฎหมายระบุให้นำเสนอเพื่อลงพระปรมาภิไธย

ขีดเส้นใต้ตอนล่างเพื่อขอโอกาสวิภาคบ้างว่า คุณบิดาปราบเพื่อนร่วมขบวนการ๒๔๗๕ไปหมดแล้วด้วยตนเอง แต่ลูกชายยังเพ้อถึงคณะราษฏรและระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชอยู่

ผู้ที่ขับไล่จอมพลป.ไปคือจอมพลสฤษฏ์น่ะครับ ตอนนั้นประชาชนเขาเฮกันทั้งเมือง


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 02 ส.ค. 12, 19:31

อ่านแล้วสรุปบางประเด็นว่า
๑ พลต.อ.อดุล คือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังคดีนักโทษประหาร
๒ พลต.อ.อดุลมีอำนาจมากกว่าจอมพลป. เสียอีก  เพราะทั้งๆจอมพลป.รู้ว่าตัวเองเป็นแพะรับบาปก็ทำอะไรพลต.อ.อดุลไม่ได้
๓ ผู้เขียนคงไม่ทราบว่าจอมพลป.เองก็มีหนังสือขอโทษบิดาของนักโทษประหารว่าตัวเองเข้าใจผิด
๔ จอมพลป.ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดีกบฏครั้งนี้
ทุกท่านสามารถรับฟังได้ด้วยวิจารณญาณ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 03 ส.ค. 12, 10:14

จากหนังสือที่เขียนจากฝ่ายผู้ถูกกระทำ ตรงบรรทัดที่ขีดเส้นใต้น่าสนใจนะครับ ใคร และเหตุใดคนผู้นั้น จึงมีอำนาจเหนือจอมพล ป.

สารคดีนี้เขียนและตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ๒๔๗๙ และพิมพ์รวมเล่มต่อมาอีกหลายครั้ง ไม่มีคำปฏิเสธจากผู้ถูกพาดพิงหรือลูกชายของท่าน ก็ต้องแปลว่าใช่ แต่ที่ไม่มีคำอธิบายต่อคำถามข้างต้นอาจเป็นเพราะรู้เห็นเป็นใจกัน แบบผู้กำกับการแสดงกับดารา ละครจะดีหรือจะเลวก็เป็นผลงานของทั้งคู่นั่นแหละ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3419.0  

ใครยังไม่ได้อ่าน ไปอ่านเสียนะครับ
หลวงอดุล-หลวงพิบูล คู่รัก, พล.ต.อ อดุล-จอมพล ป. คู่แค้น



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 03 ส.ค. 12, 10:28

ถ้าใครสักคนมีอิทธิพลเหนือใคร   ก็แปลว่าคนแรกต้องมีอะไรเหนือกว่าคนหลัง   ไม่ใช่ว่าใครอยากมีอิทธิพลเหนือใครก็ขอกันได้ง่ายๆ
เพราะผู้ที่ตกเป็นเบี้ยล่างจะต้องอยู่ในภาวะจำยอม     ยังไม่เคยเห็นใครยิ้มแย้มส่งอิทธิพลให้อีกฝ่ายอยู่เหนือตนเองด้วยความสมัครใจ   มันต้องมีเงื่อนไขบางอย่างมาทำให้หือไม่ขึ้น  อีกฝ่ายจะกำหนดทิศทางยังไงก็ต้องยอมหันตามไป   ร้อยทั้งร้อยถึงไม่เต็มใจก็จำต้องหันอยู่ดี
คำถามคือ  สมมุติว่าพลต.อ.อดุลท่านมีอิทธิพลเหนือจอมพลป.จริงๆ   ท่านเอาอะไรมาเหนือ?  หรือพูดอีกทีคือท่านใช้สิทธิ์หรืออำนาจอะไรมาเหนือกว่าได้
จากประวัติที่ลงในกระทู้  "หลวงอดุล-หลวงพิบูล คู่รัก, พล.ต.อ อดุล-จอมพล ป. คู่แค้น "   พลต.อ.อดุลไม่อยากโอนจากทหารเป็นตำรวจ  แต่เพื่อนรักจะให้เป็นเพื่อให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ก็จำใจต้องไป      เรื่องแค่นี้พลต.อ.อดุลยังขัดใจเพื่อนไม่ได้ทั้งๆหมายถึงอนาคตตัวเอง ที่ต้องเปลี่ยนงานเปลี่ยนความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง ยังต้องทำเพราะเป็นความประสงค์ของเพื่อน    
แล้วท่านจะขัดใจเพื่อนได้หรือ  ถ้าเพื่อนขอให้ลดโทษยิงเป้าคนตั้ง 18 คนให้เหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต    
เพื่อนคนนั้นก็ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาที่ขอกันได้มั่งไม่ได้มั่ง ก็หยวนๆกันไป  แต่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีที่จะปลดอธิบดีตำรวจออกจากตำแหน่งเมื่อใดก็ได้
ปลดเมื่อไร เลื่อนรองอธิบดีตำรวจขึ้นมา ก็จบ  เพราะตำรวจไม่มีกำลังจะรัฐประหารอยู่แล้ว

สมมุติต่อไปให้สุดๆว่า  ถ้าหากว่าจอมพลป.ไม่กล้าขัดใจเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ถูกลอบสังหารอีก      ก็ในเมื่อมือปืนแต่ละคนที่ถูกจ้างมา  ฝีมือระดับเด็กเล่นขนาดไหนก็เห็นกันอยู่แล้ว     ท่านยังจะกลัวอีกหรือว่าคราวหน้าจะมีมือปืนชั้นดีเข้ามาแทน
ตัวท่านไม่มีความสามารถจะเรียกบอดี้การ์ดชั้นเยี่ยมมาใช้งานบ้างหรือ?

คิดได้แค่นี้ค่ะ  ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆเห็นอย่างไร

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 03 ส.ค. 12, 10:52

คนบางคนมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น เพราะกำความลับที่สำคัญบางอย่างของเขาไว้

บางที ความลับนั้นก็เกิดจากการกระทำผิดกฏหมายหรือศีลธรรมร่วมกันนั่นแล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 132  เมื่อ 03 ส.ค. 12, 11:21

พวกกำความลับ มักจะอายุสั้นค่ะ น้อยคนจะอายุยืนกว่าคนที่ตัวเองกุมความลับอยู่ 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 133  เมื่อ 04 ส.ค. 12, 17:54

ต้องถามต่อว่า ถ้ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้จริง   เขาได้รับผลดีอะไรจากการปราบกบฏครั้งนี้บ้าง   
ในการปราบปรามพระยาทรงสุรเดช ลูกศิษย์ลูกหา  บวกกับทหารและพลเรือนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่มีทั้งกำลังคนและกำลังอาวุธ  ใครได้รับผลดีมากที่สุด  ก็คนนั้นแหละ   
บันทึกการเข้า
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 04 ส.ค. 12, 18:17

เพิ่งอ่านเล่มนี้เกือบจบแล้ว
น่าสนใจอย่างยิ่งกับคณะราษฏร
ที่พยายามหวนกลับมากุมอำนาจอีกครั้ง
แต่สังขารเขาถึงจุดสุดท้าย
น่าสงสารเมืองไทย แม้เขาจะเป็นกลุ่มสุดท้ายของคณะราษฏร
แต่ก็มีลูกหลานของคนเหล่านี้ดำเนินกิจกรรมแบบเดียวกันต่อ

เพื่อ อำนาจ(นำมาซึ่งผลประโยชน์)เป็นแค่สิ่งเดียวที่คนเหล่านี้คิด


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 14
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 20 คำสั่ง