เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 15:00
|
|
คดีนายลีพยายามสังหารหลวงพิบูล แน่นอนว่าหลวงอดุลเดชจรัส รองอธิบดีกรมตำรวจ เพื่อนรักของหลวงพิบูลฯเข้าคุมคดีเอง และจะลงมือจับกุมกวาดล้างขบวนการที่อยู่เบื้องหลังอีกเป็นการใหญ่ แต่พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นยับยั้งไว้ ไม่อนุมัติให้จับ ระหว่างนั้น ก็มีรายงานของตำรวจสันติบาล ว่ามีการเคลื่อนไหวพยายามลอบสังหารหลวงพิบูลฯอีกหลายครั้ง แต่ล้มเหลวก่อนลงมือทุกครั้ง คือ 1 มีผู้ส่งคนมาดักยิงหลวงพิบูลฯ ที่ศรีย่าน แต่ข่าวรั่ว ตำรวจสันติบาลสืบทราบก่อนจึงไปดักจับ เกิดการยิงต่อสู้กัน ผู้ร้ายตายไป 1 ราย 2 มีมือปืนไปดักยิงหลวงพิบูลฯขณะนั่งรถ ที่เชิงสะพานมัฆวาน แต่รถของหลวงพิบูลฯวิ่งเร็วเกินไป คนร้ายยิงไม่ทัน ก็เลยล้มเหลวไปอีกครั้ง 3 หลวงพิบูลฯกับหลวงอดุลฯ พร้อมทั้งนายปรีดี ไปส่งเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์กับหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ขึ้นรถไฟ เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ฝ่ายลอบสังหารเตรียมไปสังหารพร้อมกันหมด 3 คน แต่เกิดเหตุขัดข้องอะไรไม่ทราบ เลยลงมือไม่ได้
สรุปว่าหลวงพิบูลฯแคล้วคลาด ไม่ระคายแม้แต่เส้นผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 15:17
|
|
พระเอกของกระทู้นี้มาเจอศึกหนักเข้าอีกครั้ง เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๔๘๑ คือ ๑ เดือนจากถูกนายลีลอบยิง วันนั้นท่านอยู่ที่บ้านพัก กำลังรับประทานอาหารมื้อกลางวันกับท่านผู้หญิงละเอียด ผู้ร่วมโต๊ะมีน.ท.หลวงยุทธศาสตร์โกศล น.ต.หลวงรณนภากาศ พ.ท. หลวงเตชะเสนา พ.ต.หลวงประหารริปูปราบ และร.อ.เผ่า ศรียานนท์ ขณะกำลังรับประทานกันพลางคุยกันพลาง จู่ๆหลวงพิบูลก็ร้องว่า " ผมท่าจะกินยาพิษเข้าไปแล้ว" ทุกคนเห็นสีหน้าท่านซีด เหงื่อแตก ตัวสั่น คนอื่นๆที่ร่วมโต๊ะก็เกิดอาการเหมือนกัน จึงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลพญาไทกันเป็นการด่วน หมอล้างท้องไว้ทัน จนปลอดภัยทุกคน ปรากฏว่ายาพิษที่ผสมอยู่ในอาหารคือสารหนู ซึ่งสมัยนั้นเป็นยาพิษร้ายแรง ใครอ่านนิยายสมัยนั้นจะพบฆาตกรรมด้วยสารหนูกันบ่อย
การสอบสวนพุ่งเป้าไปที่แม่ครัวชื่อนางเสงี่ยม ปลุกใจเสือ นางก็ยอมรับว่าเป็นคนใส่ "ผงสีขาว" ลงในอาหารตามคำสั่งของพันจ่าตรีทองดี ชู้ของนาง คนที่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนบงการคือร.ท. ณ เณร ตาละลักษณ์ ส.ส. พระนคร ร้อยโท ณ เณรจึงตกเป็นผู้ต้องหาของตำรวจทันที ส่วนนางเสงี่ยมและพันจ่าตรีทองดีกลับรอดไปได้ ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 15:26
|
|
ร้อยโท ณ เณร ตาละลักษณ์ เป็นอดีตนายทหารที่ลาออกจากราชการ เพราะไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของรัฐบาลพระยาพหลฯ เมื่อออกมาแล้วก็ประกอบอาชีพ ทำหนังสือพิมพ์ "ชุมชน" ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการคัดค้านนโยบายของรัฐบาล ในเวลานั้น มีประชาชนจำนวนมากเชื่อถือว่าเป็นหนังสือพิมพ์อุดมคติ ทำงานมุ่งมั่นจะให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแท้จริง ด้วยความนิยมของประชาชนกรุงเทพ ร้อยโท ณ เณร จึงได้รับเลือกตั้งในปี 2481 เข้าสภาฯ เป็น ส.ส. พระนครเขต 2 (เวลานั้นกรุงเทพฯกับธนบุรียังแยกเป็น 2 จังหวัด พระนครมี 3 เขต ส่วนธนบุรี มี ส.ส.ได้เพียง 1 คน) เขาเป็นหนึ่งใน ส.ส. ฝีปากกล้า ในการอภิปราย จนนายกรัฐมนตรีพระยาพหลฯ ยุบสภาดังกล่าว ในเวลาต่อมา เมื่อมีการซาวเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ร้อยโทณ เณรก็ประกาศตัวสนับสนุนพระยาทรงสุรเดชเป็นนายกฯอย่างแข็งขัน ทั้งในสภาและผ่านทางหนังสือพิมพ์ของเขา ด้วยคำซัดทอดของแม่ครัวและชู้ของแม่ครัว โดยไม่ปรากฏหลักฐานอื่นใด ร้อยโท ณ เณรก็ตกเป็นผู้ต้องหาของตำรวจ และจำเลยของศาลพิเศษในเวลาไม่กี่วันจากนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 15:33
|
|
คดีนายลีพยายามสังหารหลวงพิบูล แน่นอนว่าหลวงอดุลเดชจรัส รองอธิบดีกรมตำรวจ เพื่อนรักของหลวงพิบูลฯเข้าคุมคดีเอง และจะลงมือจับกุมกวาดล้างขบวนการที่อยู่เบื้องหลังอีกเป็นการใหญ่ แต่พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นยับยั้งไว้ ไม่อนุมัติให้จับ ระหว่างนั้น ก็มีรายงานของตำรวจสันติบาล ว่ามีการเคลื่อนไหวพยายามลอบสังหารหลวงพิบูลฯอีกหลายครั้ง แต่ล้มเหลวก่อนลงมือทุกครั้ง คือ 1 มีผู้ส่งคนมาดักยิงหลวงพิบูลฯ ที่ศรีย่าน แต่ข่าวรั่ว ตำรวจสันติบาลสืบทราบก่อนจึงไปดักจับ เกิดการยิงต่อสู้กัน ผู้ร้ายตายไป 1 ราย 2 มีมือปืนไปดักยิงหลวงพิบูลฯขณะนั่งรถ ที่เชิงสะพานมัฆวาน แต่รถของหลวงพิบูลฯวิ่งเร็วเกินไป คนร้ายยิงไม่ทัน ก็เลยล้มเหลวไปอีกครั้ง 3 หลวงพิบูลฯกับหลวงอดุลฯ พร้อมทั้งนายปรีดี ไปส่งเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์กับหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ขึ้นรถไฟ เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ฝ่ายลอบสังหารเตรียมไปสังหารพร้อมกันหมด 3 คน แต่เกิดเหตุขัดข้องอะไรไม่ทราบ เลยลงมือไม่ได้
สรุปว่าหลวงพิบูลฯแคล้วคลาด ไม่ระคายแม้แต่เส้นผม ตกลงเรื่องที่ตำรวจปั้นแต่งขึ้นเอง เพื่อจับแพะมาฆ่านี่ นับว่าท่าน แคล้วคลาดด้วยหรือครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 15:41
|
|
อ้าว ท่าน NAVARAT.C จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยมีใครออกมายืนยันเลยนี่คะว่าจับแพะ ก็ต้องถือหลักฐานทางการของสันติบาลเป็นหลักน่ะซี ส่วนเรื่องจริงเป็นยังไง เราก็กำลังวิเคราะห์ให้เห็นกันในกระทู้นี้ โดยทางการ นับว่าท่านจอมพล แคล้วคลาด แต่ใครไม่แคล้วไม่คลาด อ่านได้จากกระทู้พระยาทรงสุรเดชฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 16:20
|
|
^ ข้อกล่าวหาน่ะสั้น แต่คนแก้ข้อกล่าวหาน่ะยาว
จำเลยเหล่านั้นไม่มีทนายในศาล ผมจะทำหน้าที่ทนายในหน้าเวปให้แพะ แต่ต้องให้เวลาผมหน่อย ๓คดีรวดผมปั่นไม่ทัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 17:35
|
|
เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะครับ คือว่าถ้าผมจะแสกนคำพิพากษาของศาลแต่ละคดีๆละร่วม๑๐หน้า กระทู้นี้คงกลายโฉมไปและอาจทำให้คนอ่านส่วนหนึ่งทิ้งกระทู้ เพราะเหนื่อยหน่ายที่จะอ่าน เพราะผมเองยังรู้สึกเช่นนั้น ดังนั้นผมจะลงเฉพาะความเห็นของผมหลังจากวิเคราะห์คำพิพากษาแล้ว แต่หากว่า ยังมีผู้สนใจจะอ่านคำพิพากษาเต็มๆ เมื่อกระทู้นิ่งแล้ว ผมจะเอามาลงให้เป็นภาคผนวก ทั้งนี้และทั้งนั้น ต้องมีแสดงความผู้สนใจด้วย เพราะเปลืองแรงงานผมมาก 1มีผู้ส่งคนมาดักยิงหลวงพิบูลฯ ที่ศรีย่าน แต่ข่าวรั่ว ตำรวจสันติบาลสืบทราบก่อนจึงไปดักจับ เกิดการยิงต่อสู้กัน ผู้ร้ายตายไป1ราย คดีนี้ศาลเกริ่นนำดังนี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 17:38
|
|
นายดาบพวง เลิศนาวีจำเลยในคดีนี้นั้น เป็นพี่ชายคุณหญิงทรงสุรเดช ที่พระยาทรงสุรเดชอุปถัมภ์ให้ที่อยู่อาศัยเพราะเป็นแค่พนักงานตรวจตั๋วรถราง ส่วนนายยัง ศาลระบุเองว่ามีชื่อเสียงในด้านโจรกรรมและรับจ้างทำร้าย พักอยู่ในเรือแถวคลองเปรมประชากร ต่อมานายยังถูกตำรวจทำวิสามัญฆาตกรรมตาย กลับกลายเป็นว่าที่ยิงต่อสู้กับตำรวจเพราะกำลังจะไปดักยิงหลวงพิบูลตามใบสั่งของ พันตรีหลวงราญรณกาจ ซึ่งเป็นลูกน้องพระยาทรงและนายดาบพวง มีพยานของตำรวจมาเบิกความหลายคนว่าเห็นอย่างโน้น ได้ยินสั่งกันอย่างนี้ จำเลยปฏิเสธตลอดว่าไม่จริง ไม่รู้จัก แต่ศาลไม่เชื่อ ตัดสินพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:15
|
|
นายยัง เป็นนักเลงกิ๊กก๊อกถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยฝีมือตำรวจ ลำพังแต่คดีปลีกย่อยที่เรียกกันสมัยนั้นว่า รับจ้าง"ตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก"ที่ติดตัวอยู่ก็มากพอแล้วที่ตำรวจจะเก็บเสียให้หมดเรื่องไป 1 ราย แต่ก็ถูกปลุกผีมาตั้งข้อหามือปืนลอบสังหารอีก 1 ข้อหา นายพวงเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่บังเอิญน้องสาวได้แต่งงานไปกับนายทหารสำคัญ ไม่ปรากฏว่าเคยรู้เห็นอะไรกับการเมือง แต่ในเมื่อเป็นญาติเกี่ยวดองกับพระยาทรงฯ ก็เลยโดนลากเข้าไปพัวพันกับเรื่องลอบสังหารด้วย ส่วนนายพันตรีหลวงราญรณกาจเป็นนายทหารระดับกลางๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจการปกครองตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2475 พยายามไปเตือนผู้บังคับบัญชาให้รู้ตัวว่าอย่าถูกหลอกมาตั้งแถวทหารที่บริเวณลานพระรูป นอกจากนี้ยังเป็นนายทหารขึ้นกับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ จึงถูกหมายหัวมาแต่แรก ข้อหาว่าหลวงราญรณกาจยิงต่อสู้กับตำรวจสันติบาลจึงถูกจับตายนั้น ตอนถูกยิงตายคุณหลวงยังนุ่งโสร่งอยู่เลย เพราะอยู่ในบ้านพักตอนเช้า ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าสันติบาลจะไปหา ท่านถูกยิงอยู่ในห้องนอนขณะกำลังแต่งตัวจะออกไปโรงพักตามที่ตำรวจแจ้งข้อหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:23
|
|
2 มีมือปืนไปดักยิงหลวงพิบูลฯขณะนั่งรถ ที่เชิงสะพานมัฆวาน แต่รถของหลวงพิบูลฯวิ่งเร็วเกินไป คนร้ายยิงไม่ทัน ก็เลยล้มเหลวไปอีกครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:29
|
|
จำเลยในคดีนี้คืออดีตแม่ทัพสยามที่สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าทรงเลือกด้วยพระองค์เองให้นำทหารอาสาสมัครไปรบในสมรภูมิยุโรปในสมัยสงครามโลกครั้งที่๑ ในสภานั้น ท่านพูดจาไม่เกรงใจคณะราษฎร์ จึงถูกหมายหัวว่าเป็นพวกเจ้า ร้อยโทเผ่าพงษ์และนายดาบผุดพันธุ์เป็นลูกชายของท่าน ร้อยเอกบุญมากเป็นลูกศิษย์พระยาทรง ถูกลากเข้ามาในคดีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ร้อยเอกดาว เป็นอดีตพระ ทำงานเป็นอนุศาสนาจารย์ในกรมทหาร มาคุยเรื่องธรรมะธรรโมกับท่านเจ้าคุณเสมอๆ สายลับจึงเขียนรายงานให้นายลากมารวมเข่งด้วย พระสุรรณชิตนั้นตลกกว่าเพื่อน เพราะเป็นสายลับของรัฐบาลปลอมเป็นพ่อค้าเข้าไปติดต่อซื้อขายไม้ซุงกับท่านเจ้าคุณเทพถึงสองครั้งแท้ๆ กลับมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกันวางแผนฆ่าหลวงพิบูลกับผู้ที่ตนอุตส่าห์ปลอมตนมาสืบว่ามีแผนล้มล้างรัฐบาลหรือหาไม่ ศาลเชื่อว่าเจ้าคุณพ่อใช้ให้ลูกชายนายทหารทั้งสองไปตามนายชลอ ฉายกระวีนักเลงหัวไม้ในซอยมาจ้างวานด้วยเงินจำนวน๕๐๐๐บาท และมอบปืนสั้นออโตเมติก(แบบที่ท่านอาจารย์เทาชมพูเอาภาพมาลงไว้ตอนต้นๆ) ไปดักยิงหลวงพิบูลที่เชิงสะพานมัฆวานฝั่งวัดมงกุฎ ซึ่งนายชะลอให้การว่าไม่กล้ายิงเพราะรถวิ่งเร็วมาก หลังจากนั้นศาลไม่ได้ระบุว่านายชลอได้กลายมาเป็นพยานให้ตำรวจได้อย่างไร
ผมพิเคราะห์เรื่องนี้โดยใช้ตรรกะเดียวกัน คนอย่างท่านเจ้าคุณเทพ แม่ทัพสยามน่ะหรือจะมอบหมายให้ลูกชายไปพากุ๊ยมารับงานจ้างฆ่าคน แล้วให้เอาปืนพกไปดักยิงหลวงพิบูลในรถที่วิ่งลงสะพานมาด้วยความเร็วสูง ขนาดใช้ปืนกล เผลอๆยังยิงไม่ถูกที่สำคัญ ทำไมเรื่องโง่ๆอย่างนี้จึงเชื่อกันถึงขนาดตัดสินประหารชีวิต๓พ่อลูก และตัวแถมอีก๒ นี่ยังดีที่ยังคิดถึงคุณความดีของท่านแม่ทัพสยามบ้าง จึงลดโทษให้เป็นจำคุกตลอดชีวิต ส่วนร้อยเอกดาวหลุดไปคนเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:42
|
|
3 หลวงพิบูลฯกับหลวงอดุลฯ พร้อมทั้งนายปรีดี ไปส่งเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์กับหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ขึ้นรถไฟ เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ฝ่ายลอบสังหารเตรียมไปสังหารพร้อมกันหมด 3 คน แต่เกิดเหตุขัดข้องอะไรไม่ทราบ เลยลงมือไม่ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:44
|
|
ท่านเจ้าคุณเทพหัสดินนั้นได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์วิธียุทธศาสตร์ยุทธวิธีคนสำคัญของโรงเรียนเสนาธิการทหารบกในสมัยรัชกาลที่ ๖ ก่อนไปสงครามได้เป็นเป็นผู้บัญชาการมณฑลทบทหารบกที่ ๔ ที่เป็นหน่วยทหารที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุด และมีขีดความสามารถ การรบสูงสุดในยุคพัฒนากองทัพ จนเป็นหงพลเดียวที่ขึ้นการบังคับบัญชาตรงต่อเสนาธิการทหารบก แล้วคนที่ได้ชื่อว่า เชี่ยวชาญในตำหรับพิชัยสงครามมาตกม้าตายตามข้อกล่าวหาประหลาดๆ แบบนี้ ดูแล้วผู้ที่ตั้งข้อหาให้ท่านเจ้าคุณฯ ช่างเป็น ผู้มีความสามารถสูงยิ่งในการนนั่งเทียนเสียจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:45
|
|
คดีที่๓นี้เห็นชัดๆว่าเป็นการเหวี่ยงแห เอาบรรดาปลาเล็กปลาน้อยขึ้นมาปิ้งย่างเสียให้หมดบ่อ จำเลยล้วนเป็นนายทหารภายใต้บังคับบัญชาของพระยาทรงสุรเดช ครั้นนายหมดอำนาจก็ถูกย้ายกันไปคนละทิศละทาง สันติบาลยังอุตส่าห์ไปรวบมา แล้วหาพยานกล่าวโทษอย่างนั้นอย่างนี้ รวมแล้วหลายคนหลายหน้ากระดาษ เป๋ไปซัดพระยาฤทธิ์อัคเนย์เข้าให้ด้วย
ผมอ่านคำพิพากษาไปไม่กี่หน้าก็ทนอ่านไม่ไหวจริงๆต้องขออภัย ก็จะหาเรื่องฆ่าเขานั่นแหละ ช่างไม่กลัวบาปกรรมเสียบ้างเลย สรุปแล้วศาลตัดสินประหารชีวิตหมด ใครอยากอ่านสำนวนจริงๆของศาลขอให้บอกมา ผมจะเอามาลงให้ในภาคผนวก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อ 20 ก.ค. 12, 18:50
|
|
นายชลอนี่ก็แปลก ลงมือยิงก็ไม่ได้ลงมือ คืนนั้น หลวงพิบูลฯก็นั่งรถผ่านไปอย่างสะดวกสบาย ตำรวจก็ไม่รู้ว่านายคนนี้ซุ่มอยู่ ถ้าแกไม่เปิดปากขึ้นมาตำรวจก็ไม่รู้จนแล้วจนรอด ยังอุตส่าห์เปิดปากให้ตำรวจกันเป็นพยาน พาบุคคลสำคัญระดับแม่ทัพในอดีตเข้าปิ้งรวมทั้งลูกของท่านก็ถูกประหารชีวิตไปด้วย ยังกะจัดฉากงั้นละ
ป.ล.กว่าจะโพสได้ ท่านข้างบนนี้ทั้งสองท่านรุดหน้าไปไกลหลายกิโลเมตรแล้ว ดิฉันมัวงุ่มง่ามอยู่ที่นายชลอจากค.ห. 70 จะลบทิ้งก็เสียดาย เป็นอันขอสรุปตามท่านทั้งสองว่า งานนี้มีแพะฝูงใหญ่ถูกจับขึ้นแท่นสังเวยอำนาจมืด ซึ่งในยุคนั้นมองไม่เห็นแสงสว่างของประชาธิปไตยที่ตรงไหน มันเป็นยุคทมิฬโดยแท้ นึกถึง "พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานีใคร" ในกาพย์พระไชยสุริยาของสุนทรภู่
ข้อหาอะไรก็ยกเอามาได้ทั้งนั้น ฟังขึ้นไม่ขึ้นไม่สำคัญ ศาลฟังเสียอย่าง ขอให้เข้าทางที่ผู้เป็นใหญ่ประสงค์ ข้อหาก็เหวี่ยงแหได้ครอบจักรวาล แม้แต่นักเลงข้างถนนหรือคนทำสวนหรือแม่ครัวก็คิดการใหญ่ขนาดนั้นลอบฆ่านายกรัฐมนตรีได้ คนฆ่าถูกกันเป็นพยานก็ได้ คนไม่ได้ลงมือแค่ถูกซัดทอด หรือไม่ยอมรับสารภาพ ก็ถูกประหารชีวิตได้
ขออย่าให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในยุคในสมัยใดอีกเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|