ผมเองบอกตามตรงก็ไม่เคยคิดว่าศาลไทยและกฏหมายไทยมีความยุติธรรมจริงหรอกครับ เรียกว่าอคติด้วยซ้ำ เพราะเจอกับตัวมามาก สมัยนี้กฏหมายก็บังคับได้แต่ตาสีตาสา ชาวไร่ชาวนาและคนจนๆหาเช้ากินค่ำเท่านั้นแหละครับ ไปใช้บังคับคนร่ำรวยมีเงินมีทองล้นฟ้าหรือตระกูลสูงศักดิ์ไม่ได้หรอกครับ เพราะอำนาจเงินซื้อได้ทุกอย่างแม้แต่เปลี่ยนจากผิดเป็นถูก อย่าให้ต้องยกตัวอย่างเลยครับ คนรวยกับคนจนคดีเหมือนกันแท้ๆ ศาลตัดสินคนละแบบเลย (สงสัยน่าจะรับใต้โต๊ะไปไม่น้อย)ทั้งๆที่ผู้พิพากษาเองเงินเดือนก็สูงอยู่แล้ว แถมรัฐก็ประเคนทุกอย่างให้ครบครัน แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร สงสัยเขาคงจะไม่พอใช้กระมังครับ เงินทองถึงซื้อได้แม้จรรยาบรรณ ผมนี้เอือมระอาจริงๆครับ
พี่สาวและพี่เขยผมเป็นผู้พิพากษาครับ พี่เขยอีกคน(เป็นสามีของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง) ก็เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดของสถาบันตุลาการ ผมคุยกับพี่สาวบ่อยมาก โดยเฉพาะเรื่องปัญหาต่างๆ ที่ต้องประสบ ทำให้พอรู้เรื่องราวแวดวงของผู้พิพากษาอยู่มาก รวมทั้งวิธีปฏิบัติของคนที่ดำรงตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่ และปัญหาต่างๆ ของกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าสิ่งที่คุณพูดมา เป็นอคติมากกว่าข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการเหมารวมว่าปัญหาของกระบวนการยุติธรรมมาจากผู้พิพากษา ถ้าคนรวยตัดสินแบบนึง คนจนแบบนึง ทั้งที่เงินเดือนสูงอยู่แล้ว นี่เป็นวิธีคิดแบบที่ต้องบอกตรงๆ ว่าใช้แต่อคติ ไม่ได้ใช้สติปัญญามากพอครับ
ผู้พิพากษา เป็นด่านสุดท้ายของกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งกว่าคดีจะมาถึงผู้พิพากษา ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนมาก่อน เช่นถ้าเป็นคดีอาญา ก็ต้องผ่านตำรวจ อัยการ กว่าจะมีการส่งฟ้อง และยังมีเรื่องของทนายอีก การผ่านขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ สามารถเปลี่ยนแปลงผลของกระบวนการยุติธรรมได้ไม่ยาก การเปลี่ยนแปลงทิศทางของคดีต่างๆ ไม่ต้องรอถึงชั้นศาลครับ เค้าทำกันในชั้นก่อนหน้าแล้ว ผมคงไม่ต้องแจกแจงว่าทำอย่างไร ส่วนผู้พิพากษา มีหน้าที่ตัดสินตามพยานหลักฐานเท่าที่เห็นในขั้นตอนพิจารณาคดีเท่านั้น ดังนั้นจะพลิกผลการตัดสินไม่ใช่ง่ายครับ ตัดสินห่วยๆ ผิดๆ ใช่ว่าคนอื่นดูไม่ออก และผู้พิพากษาดีๆ เที่ยงธรรม ไม่ยอมต่ออิทธิพลยังมีอยู่เยอะครับ ผู้พิพากษาเลวๆ ถูกไล่ออกทุกปีมีให้เห็น นอกจากนี้ค่านิยมธรรมเนียมปฏิบัติหลายๆ อย่างในแวดวงตุลาการด้วยกันเอง ทำให้การเข้าถึงผู้พิพากษายากกว่าเจ้าหน้าที่ยุติธรรมในขั้นตอนอื่นมากครับ และคนเป็นตุลาการมักจะเก็บเนื้อเก็บตัวมากกว่ามาก เมื่อเทียบกับข้าราชการอื่นๆ โดยเฉพาะในฝ่ายปกครอง ถ้าใครรับราชการต่างจังหวัดน่าจะเห็นชัด
ในวงการตุลาการมีปัญหาจริง หลายเรื่องทำให้กระบวนการในการพิจารณาคดีอาจมีปัญหาได้ แต่ไม่ใช่ในแบบที่คุณกล่าวมาคือทำให้ตัดสินด้วยอคติหรือความลำเอียงครับ นอกจากนั้น ระบบยุติธรรมในแต่ละขั้นตอน การเคารพและรักษากฏหมายของคนไทย รวมถึงการปล่อยให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในบ้านเรามีจริง มีมากด้วย แต่ปัญหานี้เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคนทั้งประเทศ ที่เราปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาไป แต่การด่าเหมารวมไปที่ใครหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยอคติ ไม่ได้ใช้ความเข้าใจจริงๆ จะไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ นอกจากยิ่งเสริมอคติและความคิดผิดๆ ให้มันยิ่งเพิ่มพูนเป็นไฟเผาใจมากขึ้นเท่านั้นครับ