เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14
  พิมพ์  
อ่าน: 71184 คดีลอบสังหาร จอมพลป. : เงื่อนงำเบื้องหลัง ๑๘ ศพ
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 180  เมื่อ 24 ก.พ. 14, 16:04

ผมเคยเห็นบทภาพยนต์นี้ ซึ่งอ่านแล้วก็งงๆว่านี่เขาตั้งใจจะเอาข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ไปยำใหญ่กับนวนิยายงั้นรึ ยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาอะไรก็ทราบว่าทายาทจอมพลป.ขู่จะฟ้องผู้สร้าง ทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้จอดเสียตั้งแต่ยังไม่ได้แจว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 181  เมื่อ 24 ก.พ. 14, 16:16

มันคงมีพื้นฐานหลักๆอยู่บนข้อเท็จจริง  เช่นเรื่องบุคคลและการเมืองที่เข้มข้นอยู่ในยุคนั้น  แต่คงมีการใส่สีใส่ผงชูรส เช่นมีนางเอกเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นภาพยนตร์สารคดีค่ะ
เห็นดาราแต่ละคนก็อยากดูฝีมือ      น่าเสียดายที่เวลาล่วงเลยมาจนดาราที่เป็นหนุ่มเป็นสาวในยุคนั้น สังขารร่วงโรยไปหมดแล้ว
บันทึกการเข้า
visitna
นิลพัท
*******
ตอบ: 1724


ความคิดเห็นที่ 182  เมื่อ 24 ก.พ. 14, 16:17

เดือนพฤศจิกายนที่แล้วไปสวนจตุจักร

ได้หนังสือประวัติ จอมพล ป. มาเล่มหนึ่ง

ชุดนี้มีสองเล่มเหลือแค่เล่มหนึ่งผมซื้อมาแค่ 80 บาท(ค่อยไปหาเล่มสองเอา)

เล่มหนามากประมาณ 600 หน้า อ่านได้แค่ช่วงประวัติตอนเรียนหนังสือ  เวอร์ชั่นนี้เป็นแนวโปร

ทิ้งไว้อ่านที่  กทม   ก็เลยอ่านยังไม่จบ
บันทึกการเข้า
เชยประดับ
อสุรผัด
*
ตอบ: 23


ความคิดเห็นที่ 183  เมื่อ 15 ส.ค. 14, 18:00

มีผู้แนะนำให้หม่อมอลิซาเบธเขียนหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความกรุณาผ่อนผันให้เข้าเยี่ยมสามีได้
แต่ตามที่หม่อมคาดคะเนไว้ คำร้องก็ถูกปฏิเสธกลับมา
ผู้ที่ช่วยหม่อมร่างจดหมายถึงพันเอกหลวงพิบูลสงคราม ได้เขียนป.ล. (ซึ่งไม่ได้ส่งไป) ไว้ว่า :

"อิฉันเอาไว้ผมยาว นุ่งถุง ใส่หมวก ไม่รับประทานหมากและได้เปลี่ยนชื่อเป็นอีมรกตแล้วเจ้าค่ะ"

ร่างจดหมายฉบับนี้ยังคงรักษาอยู่ที่ห้องสมุดวังวิทยุ

เก็บความจาก"ไปเมืองนอกครั้งแรก ร.ศ. ๑๑๘"
พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร
เรียบเรียงโดย หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต
บันทึกการเข้า
เชยประดับ
อสุรผัด
*
ตอบ: 23


ความคิดเห็นที่ 184  เมื่อ 15 ส.ค. 14, 18:11


แต่หม่อมเอลิซาเบธมิได้รับความเวทนาจากผู้ใดระหว่างที่เสด็จในกรมทรงถูกจองจำในคุก
คนที่เคยรู้จักกันดีๆ ก็เมินหน้าหนีเมื่อเจอกันกลางถนน ญาติมิตรส่วนใหญ่ก็ไม่กล้ามาเยี่ยม
เพราะกลัวจะติดร่างแหของท่านผู้นำจอมเผด็จการไปด้วย
คงเหลือแต่ผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ เช่น คุณหญิง คุณนาย และนักธุรกิจบางคนที่กล้ามาหาหม่อมถึงวังวิทยุ
เพื่อมาพูดจาหว่านล้อมว่าจะไป “วิ่งเต้น” กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล เพื่อให้ปลดปล่อยเสด็จในกรม
ถ้าหากหม่อมยอมจำนำโฉนดที่ดินกับเขาผู้นั้น เพื่อหาทุนไป “วิ่งเต้น” ดังกล่าว
(จากหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ในเรื่อง “หม่อมเอลิซาเบธ”)
แต่ด้วยสัญชาติญาณเยอรมันซึ่งเหนียวหนักแน่น และความไม่หูเบาของหม่อม
หม่อมจึงไม่ได้หลงเชื่อหรือทำตามข้อเสนอของผู้ใดเลย 
มิฉะนั้น เสด็จในกรมเมื่อทรงพ้นทุกข์แล้ว อาจไม่มีวังที่ประทับเหลืออยู่ก็ได้
บันทึกการเข้า
เชยประดับ
อสุรผัด
*
ตอบ: 23


ความคิดเห็นที่ 185  เมื่อ 15 ส.ค. 14, 18:23

เมื่อทรงพ้นทุกข์แล้ว เจ้านายพระองค์แรกที่เสด็จในกรมเสด็จไปเฝ้าฯ คือ
สมเด็จฯ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซีงขณะนั้นประทับอยู่ที่ศรีราชาเพื่อทรงหลบภัยจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตร
หลังจากที่เสด็จในกรมทรงถูกจับแล้ว สมเด็จฯ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าโทมนัสมากจนต้องทรงพยายามลืม
จนกระทั่งทรงลืมสำเร็จและเข้าพระทัยว่าเสด็จในกรมเสด็จต่างประเทศ ครั้นเสด็จในกรมไปเฝ้าที่ศรีราชาครั้งนั้น
จึงมิได้เข้าไปเฝ้าที่พระพักตร์เพราะเกรงว่าสมเด็จฯ จะทรงระลึกขึ้นมาได้อีกและจะกระทบกระเทือนพระวรกาย
จึงทรงแอบเฝ้าทอดพระเนตรห่างๆ นอกห้อง ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์น้ำตาไหลกันไปหมด
เสด็จในกรมเฝ้าสมเด็จฯ จริงๆ เมื่อเสด็จกลับไปประทับที่วังสระปทุม หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ในโอกาสนี้สมเด็จฯ ดีพระทัยมาก เพราะทรงคิดว่าเสด็จในกรมเพิ่งเสด็จกลับจากเมืองนอก
(ในตอนนั้นสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงมีพระชนมายุ ๘๒ ชันษาแล้ว)


เก็บความจาก"ไปเมืองนอกครั้งแรก ร.ศ. ๑๑๘"
พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร
เรียบเรียงโดย หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต
บันทึกการเข้า
เชยประดับ
อสุรผัด
*
ตอบ: 23


ความคิดเห็นที่ 186  เมื่อ 15 ส.ค. 14, 18:24

เก็บเล็กประสมน้อย ไว้ในกระทู้นี้แล้วกัน จะได้รวมไว้ที่เดียวกันครับ
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 187  เมื่อ 17 ส.ค. 14, 10:31

อ่านกระทู้นี้แล้วสะเทือนใจที่สุดกับชะตากรรมของกรมพระยาชัยนาท สงสารท่าน  นั่งอ่านไปโดยที่น้ำตาไหลอย่างไม่รู้ตัว  พออ่านมาถึงค.ห.ของคุณเชยประดับ ก็ขำจนหัวเราะโดยไม่รู้ตัวอีก สะใจกับข้อความในจดหมายของหม่อมเอลีซาเบท ชอบความกล้าของท่าน จนต้อง search หาประวัติของท่านอ่านเพิ่มเติม

เจอข้อมูลในวิกิพีเดีย  ดังนี้

"หม่อมเอลีซาเบท รังสิต ณ อยุธยา (นามเดิม: เอลีซาเบท ชาร์นแบร์เกอร์; เยอรมัน: Elisabeth Scharnberger[1], 15 กันยายน พ.ศ. 2435 — 29 กันยายน พ.ศ. 2516) สตรีชาวเยอรมัน ที่ต่อมาเป็นหม่อมในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทั้งสองเสกสมรส ณ ที่ทำการอำเภอเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2445 และมีพระโอรสธิดาสามพระองค์ คือ
    หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต (25 ธันวาคม พ.ศ. 2456 — 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533...."

งงกับข้อมูลค่ะ
เอลีซาเบท ชาร์นแบร์เกอร์  เกิด พ.ศ. 2435  สมรส พ.ศ. 2445  ตอนแต่งงาน ท่านอายุแค่ 10 ขวบ!??   มีลูกคนแรก  ตอนท่านอายุ 11 ขวบ !??

ทำให้ดิฉันชักไม่ไว้ใจข้อมูลในวิกกี้ซะแล้ว เลยต้องขอพึ่งท่านผู้รู้ในเรือนไทยช่วยกรุณาไขข้อข้องใจหน่อยเถอะค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 188  เมื่อ 17 ส.ค. 14, 10:44

วิกิไทยลงพ.ศ. ผิดไป 10 ปีค่ะ 
วิกิพีเดียเป็นสารานุกรมไทยที่ไม่มีการตรวจสอบ ใครจะใส่ข้อมูลอะไรลงไปก็ได้   บางเรื่องก็ผิดพลาดชนิดเชื่อไม่ได้เลย   
ขอให้อ่านเป็นแนวทาง  ถ้าสงสัยอะไร ต้องไปหาที่อื่นอ่านประกอบเพื่อตรวจสอบด้วยค่ะ

เรื่องหม่อมเอลิซาเบธ    ดิฉันไปหาอ่านวิกิภาษาอังกฤษ    ได้ข้อมูลที่น่าจะเชื่อถือได้ว่า

He additionally studied philosophy in 1908. It was during his study that he met his wife, Elisabeth Scharnberger (15 September 1892 - 29 September 1973), a German woman whom he married in London on 28 August 1912.

หม่อมเอลิซาเบธสมรสเมื่ออายุ 20 ค่ะ   เกิดพ.ศ. 2435  แต่งงาน พ.ศ. 2355
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 189  เมื่อ 17 ส.ค. 14, 11:41

เก็บเล็กประสมน้อย ไว้ในกระทู้นี้แล้วกัน จะได้รวมไว้ที่เดียวกันครับ
ขอบคุณค่ะ   ถ้าหากว่ามีข้อมูลเรื่องอะไรอีกไม่ว่ากระทู้ไหน เชิญร่วมวงด้วยนะคะ


บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 190  เมื่อ 17 ส.ค. 14, 12:49

ขอโทษค่ะ ในค.ห.187 ดิฉันคำนวณผิดไป หม่อมมีลูกคนแรกตอนอายุ 21 ซึ่งนั่นก็โอเค 
ที่ไม่โอเคคือข้อมูลของวิกิเรื่องปีเกิดของท่านเท่านั้น

ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูค่ะ  เดี๋ยวจะไปอ่านในเว็บที่อาจารย์แนะนำค่ะ
บันทึกการเข้า
Almansos
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


Alexandre Almansos


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 191  เมื่อ 16 เม.ย. 15, 23:28

ผมเองบอกตามตรงก็ไม่เคยคิดว่าศาลไทยและกฏหมายไทยมีความยุติธรรมจริงหรอกครับ เรียกว่าอคติด้วยซ้ำ เพราะเจอกับตัวมามาก สมัยนี้กฏหมายก็บังคับได้แต่ตาสีตาสา ชาวไร่ชาวนาและคนจนๆหาเช้ากินค่ำเท่านั้นแหละครับ ไปใช้บังคับคนร่ำรวยมีเงินมีทองล้นฟ้าหรือตระกูลสูงศักดิ์ไม่ได้หรอกครับ เพราะอำนาจเงินซื้อได้ทุกอย่างแม้แต่เปลี่ยนจากผิดเป็นถูก อย่าให้ต้องยกตัวอย่างเลยครับ คนรวยกับคนจนคดีเหมือนกันแท้ๆ ศาลตัดสินคนละแบบเลย (สงสัยน่าจะรับใต้โต๊ะไปไม่น้อย)ทั้งๆที่ผู้พิพากษาเองเงินเดือนก็สูงอยู่แล้ว แถมรัฐก็ประเคนทุกอย่างให้ครบครัน  แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร สงสัยเขาคงจะไม่พอใช้กระมังครับ เงินทองถึงซื้อได้แม้จรรยาบรรณ ผมนี้เอือมระอาจริงๆครับ
บันทึกการเข้า

Almansos
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 192  เมื่อ 17 เม.ย. 15, 09:13

กลายเป็นอย่างนั้นไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 193  เมื่อ 19 เม.ย. 15, 20:28

อย่าเหมารวมเลยค่ะ  สงสารผู้พิพากษาดีๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยความสุจริต
ถ้าเห็นนิ้วไหนร้ายก็ตัดแค่นิ้วนั้นดีกว่า
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 194  เมื่อ 20 เม.ย. 15, 00:11

ผมเองบอกตามตรงก็ไม่เคยคิดว่าศาลไทยและกฏหมายไทยมีความยุติธรรมจริงหรอกครับ เรียกว่าอคติด้วยซ้ำ เพราะเจอกับตัวมามาก สมัยนี้กฏหมายก็บังคับได้แต่ตาสีตาสา ชาวไร่ชาวนาและคนจนๆหาเช้ากินค่ำเท่านั้นแหละครับ ไปใช้บังคับคนร่ำรวยมีเงินมีทองล้นฟ้าหรือตระกูลสูงศักดิ์ไม่ได้หรอกครับ เพราะอำนาจเงินซื้อได้ทุกอย่างแม้แต่เปลี่ยนจากผิดเป็นถูก อย่าให้ต้องยกตัวอย่างเลยครับ คนรวยกับคนจนคดีเหมือนกันแท้ๆ ศาลตัดสินคนละแบบเลย (สงสัยน่าจะรับใต้โต๊ะไปไม่น้อย)ทั้งๆที่ผู้พิพากษาเองเงินเดือนก็สูงอยู่แล้ว แถมรัฐก็ประเคนทุกอย่างให้ครบครัน  แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร สงสัยเขาคงจะไม่พอใช้กระมังครับ เงินทองถึงซื้อได้แม้จรรยาบรรณ ผมนี้เอือมระอาจริงๆครับ


พี่สาวและพี่เขยผมเป็นผู้พิพากษาครับ พี่เขยอีกคน(เป็นสามีของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง) ก็เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดของสถาบันตุลาการ ผมคุยกับพี่สาวบ่อยมาก โดยเฉพาะเรื่องปัญหาต่างๆ ที่ต้องประสบ ทำให้พอรู้เรื่องราวแวดวงของผู้พิพากษาอยู่มาก รวมทั้งวิธีปฏิบัติของคนที่ดำรงตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่ และปัญหาต่างๆ ของกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าสิ่งที่คุณพูดมา เป็นอคติมากกว่าข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการเหมารวมว่าปัญหาของกระบวนการยุติธรรมมาจากผู้พิพากษา ถ้าคนรวยตัดสินแบบนึง คนจนแบบนึง ทั้งที่เงินเดือนสูงอยู่แล้ว นี่เป็นวิธีคิดแบบที่ต้องบอกตรงๆ  ว่าใช้แต่อคติ ไม่ได้ใช้สติปัญญามากพอครับ


ผู้พิพากษา เป็นด่านสุดท้ายของกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งกว่าคดีจะมาถึงผู้พิพากษา ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนมาก่อน เช่นถ้าเป็นคดีอาญา ก็ต้องผ่านตำรวจ  อัยการ กว่าจะมีการส่งฟ้อง และยังมีเรื่องของทนายอีก การผ่านขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ สามารถเปลี่ยนแปลงผลของกระบวนการยุติธรรมได้ไม่ยาก การเปลี่ยนแปลงทิศทางของคดีต่างๆ ไม่ต้องรอถึงชั้นศาลครับ เค้าทำกันในชั้นก่อนหน้าแล้ว ผมคงไม่ต้องแจกแจงว่าทำอย่างไร ส่วนผู้พิพากษา มีหน้าที่ตัดสินตามพยานหลักฐานเท่าที่เห็นในขั้นตอนพิจารณาคดีเท่านั้น  ดังนั้นจะพลิกผลการตัดสินไม่ใช่ง่ายครับ  ตัดสินห่วยๆ ผิดๆ ใช่ว่าคนอื่นดูไม่ออก และผู้พิพากษาดีๆ เที่ยงธรรม ไม่ยอมต่ออิทธิพลยังมีอยู่เยอะครับ ผู้พิพากษาเลวๆ ถูกไล่ออกทุกปีมีให้เห็น นอกจากนี้ค่านิยมธรรมเนียมปฏิบัติหลายๆ อย่างในแวดวงตุลาการด้วยกันเอง ทำให้การเข้าถึงผู้พิพากษายากกว่าเจ้าหน้าที่ยุติธรรมในขั้นตอนอื่นมากครับ และคนเป็นตุลาการมักจะเก็บเนื้อเก็บตัวมากกว่ามาก เมื่อเทียบกับข้าราชการอื่นๆ โดยเฉพาะในฝ่ายปกครอง  ถ้าใครรับราชการต่างจังหวัดน่าจะเห็นชัด

ในวงการตุลาการมีปัญหาจริง หลายเรื่องทำให้กระบวนการในการพิจารณาคดีอาจมีปัญหาได้ แต่ไม่ใช่ในแบบที่คุณกล่าวมาคือทำให้ตัดสินด้วยอคติหรือความลำเอียงครับ  นอกจากนั้น ระบบยุติธรรมในแต่ละขั้นตอน การเคารพและรักษากฏหมายของคนไทย รวมถึงการปล่อยให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในบ้านเรามีจริง มีมากด้วย แต่ปัญหานี้เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคนทั้งประเทศ ที่เราปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาไป แต่การด่าเหมารวมไปที่ใครหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยอคติ ไม่ได้ใช้ความเข้าใจจริงๆ  จะไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ นอกจากยิ่งเสริมอคติและความคิดผิดๆ ให้มันยิ่งเพิ่มพูนเป็นไฟเผาใจมากขึ้นเท่านั้นครับ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง