เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 14966 สงสัย เรื่อง"พนิดา ภูมิศิริทัต" --สาวน้อยผู้นั้นของยาขอบ
Madpinkie
อสุรผัด
*
ตอบ: 5



เว็บไซต์
 เมื่อ 16 ก.ค. 12, 00:45

สวัสดีค่ะ วันนี้มีคำถามค้างคาใจมาหลายปี...หลังจากพยายามตามหาความเป็นมา
ที่มาที่ไป ของ "พนิดา ภูมิศิริทัต" หนึ่งในหญิงอันเป็นที่รักของ ยาขอบ
ซึงทุกท่านคงรู้จักกันดี จาก"จดหมายรักของยาขอบ"
แต่พอค้นหาใน google มานาน ก็ไม่เจอ (ซึ่งถ้าเป็น ชื่อและนามสกุลจริงก็น่าแปลกมากเพราะหาไม่เจอเลย)
ทราบเพียง เธอเป็นหญิงสาวที่อยู่ในชาติตระกูลดี มีฐานะ และ อยากจะเป็นนักเขียน และเข้าฝึกงาน
ที่ สยามนิกร ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้พบ "ยาขอบ" และอายุเธอไม่ได้ยืนยาวนัก น่าจะเสียชีวิต
 ราวๆ ปี๒๕๐๔-๖ ราวๆนี้ ตามที่คุณ เทียน เหลียวรักษ์วงศ์ ได้กล่าวไว้คราวไว้คำพูดกล่าวไว้ในตอนต้นของหนังสือ
ประมาณว่าพนิดาได้รวบรวมไว้ด้วยกันกับจดหมายของเธอที่ขอคืนจากยาขอบทุกฉบับ 
โดยเธอต้องการให้นำจดหมายทั้งหมดนี้ออกตีพิมพ์แก่สาธารณชน จึงมามอบให้คุณเทียน เหลียวรักษ์วงศ์ 
ซึ่งก็ได้ตีพิมพ์ จริงเมื่อปี๒๕๑๖ ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็น ....
เกริ่นยาว... อยากถามผู้รู้ค่ะ


๑."พนิดา ภูมิศิริทัต" คือ ชื่อจริง นามสกุลจริงของเธอหรือไม่  และถ้าไม่...พอจะทราบบ้างไหมว่าตัวจริงเธอคือใคร


๒.รู้ว่าความรัก ของ ยาขอบ กับ พนิดา นั้นจบไม่สวยอย่างที่ทั้งสองวาดหวังไว้ในจดหมาย...แต่จบยังไง ถึงเรียกได้ว่าจบไม่สวย



ปล.รู้ว่าคำถามค่อนข้างจะดูสอดรู้สอดเห็น และหากเป็นเจตนาของผู้มีสิทธิในเรื่องราวเหล่านี้ ที่จะปกปิดไว้เป็นความลับ
ก็จะไม่รื้อฟื้นอีก เพียงแต่อ่านเรื่องของทั้งสองท่านมานาน ประวัติ คุณ โชติ หรือยาขอบนั้น ชัดเจน
และปลีกย่อยมากมาย แต่ พอเป็นพนิดา กลับหาไม่ได้แม้กระทั่งคนนามสกุลเดียวกันกับเธอในตอนนี้ จึงดูลึกลับมากจนอยากรู้


ปล.๒ ขอบกราบขออภัยแก่ดวงวิญญาณของทั้งสองท่าน ถ้าได้รับรู้ในความสอดรู้ของเด็กเมื่อวานซืนคนนี้
และถ้าท่านรับรู้ได้จริงก็ขอให้ทราบว่า จดหมายของท่านทั้งสอง และหนังสือของคุณโชตินั้นตัวหนังสือ ของคุณทั้งสอง
เป็นอมตะ และเทิดทูนไว้เป็นครูของเด็กเมื่อวานซืนคนนี้แล้ว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 06:44

เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ   ในยุคที่ยังไม่มีอินทรเนตร  จึงไม่สามารถมองหาได้ว่านามสกุล ภูมิศิริทัต  เป็นนามสกุลจริงหรือไม่   หรือว่าคุณเทียน  เหลียวรักวงศ์ผู้ได้รับลิขสิทธิ์จากพนิดาให้มาตีพิมพ์  ได้ดัดแปลงนามสกุลของเธอเพื่อมิให้เสียหายแก่ผู้เกี่ยวข้อง
ตอนอ่านก็รู้แต่ว่าพนิดามีตัวจริง   เคยเชื่อว่าชื่อพนิดาเป็นชื่อจริง     เพราะเห็นยาขอบนำเอาคำว่า "พนิดา"  ไปใช้ในเรื่องสามก๊กฉบับวณิพก ในความหมายว่าหญิงสาวผู้เป็นที่รัก 
ถ้าไม่ใช่ชื่อจริง ก็หมายความว่าเป็นโค้ดระหว่างกัน ที่ยาขอบเรียกเธอ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 06:45

มันเป็นชีวิตรักของจริงที่เหมือนนิยาย     ของชายหญิงที่มีภาษาและคารม หวานคมกริบ สละสลวยยากจะหาตัวจับได้ทั้งสองฝ่าย
จบลงแบบต่างคนต่างแยกกันไปใช้ชีวิตของตน   เข้าใจว่าพนิดาขอเลิก แล้วอาจจะไปสมรสกับชายอื่น   เห็นได้จากเธอขอคืนจดหมายทั้งหมดจากยาขอบ

“ฉันรักคุณเพราะฉันไม่รักตัวเอง” นี่คือเหตุผลความรักของพนิดา ที่มีต่อชายซึ่งแก่กว่าเธอ 12 ปี  และมีเมียอยู่แล้ว 4 คน (ย้ำ 4 คน) ยังไม่ได้เลิกกันด้วย

ป.ล. ใครอ่านแล้วเจอที่ยาขอบเขียนด่ากระแหนะกระแหนดอกไม้สดบ้าง  นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ดิฉันเกลียดยาขอบมาจนทุกวันนี้
บันทึกการเข้า
Madpinkie
อสุรผัด
*
ตอบ: 5



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 08:49

ถ้าจำไม่ผิด... :-Xการขอคืนจดหมายนั้นเเป็นข้อตกลงของกันและกันที่พนิดาขอไว้ "คุณเป็นคนมีความระวังน้อยเท่ากับที่คุณเป็นคนเพื่อนมาก สองอย่างนี้ประกอบกันอาจทำใหเจหมายของดาไปตกอยู่กับคนที่ต้องการจะทำทุกๆอย่างให้คุณกับดาแตกจากกัน จึงอยากจะขอจดหมายคืน....กรุณาคืนจดหมายทั้งหมดของดามาเสียเถิด ดาจะเก็บไว้รวมกับของคุณ ซึ่งดาเชื่อว่าปลอดภัยยิ่งกว่า..."


ปล.ที่คุณเทาชมพูว่า ยาขอบ กระแนะกระแหน ดอกไม้สดนั้น ใช่คนที่พูดว่า"แม่นักประพันธ์หญิงเอก ที่บ้านเขาอยู่ทางคลองหลอด" ถ้าใช่ ก็เหน็บได้เจ็บเหลือหลายที่เดียวค่ะ
ปล.๒ น่าเสียดายที่แนนยังไม่เคยอ่านงานของดอกไม้สด ทั้งๆที่แม่แนะให้อ่านหนังสือ"ผู้ดี"มาแต่เล็กแต่น้อย แต่ไม่เคยอ่าน จำได้แค่ว่า การที่ทุกวันนี้ชงการแฟแล้วช้อนไม่กระทบแก้วให้มีแสียง มาจากคำสอนของแม่ที่ได้มาจากหนังสือเล่มนี้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 09:01

เข้าใจว่าคำตอบของพนิดาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ให้ระคายใจอีกฝ่ายเท่านั้นค่ะ     ถ้าผู้หญิงขอจดหมายรักคืน จะด้วยอะไรก็ตาม  ก็แปลว่าความสัมพันธ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว

ดิฉันไม่มีหนังสือเล่มนี้ในมือ เขียนจากความทรงจำ   แต่จำได้ว่ายาขอบเขียนด่า...ขอใช้คำนี้เลยนะคะ..."ดอกไม้สด" อย่างที่ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน
นอกจากจะมีคำประชดประชันว่า "แม่คนทำตัวสูงส่งเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า " หลายครั้ง   ก็ยังจาระไนให้พนิดาฟังว่า นักประพันธ์สตรีคนนั้นทอดสะพานให้เขา ด้วยการส่งผู้หญิงอีกคน(เข้าใจว่าเป็นเพื่อนเธอ)มาเตือนยาขอบให้เลิกกินเหล้าเมายา   ข้อนี้ฉันก็ดูออกออกว่าแม่คนนั้นทำตัวเป็นแม่พระ ที่แท้ก็หวังอะไร    ถ้อยคำทำนองนี้ละค่ะ
ยาขอบโกรธมาก ว่ามิหนำซ้ำ ดอกไม้สด ยังเอาชื่อจริงของยาขอบไปตั้งเป็นตัวละครสตึๆในเรื่องของเธอ    แปลง่ายๆว่ายาขอบเข้าใจว่าดอกไม้สดหลงรักเขา  พยายามจะเข้าถึงตัวเขา   แต่ยาขอบไม่เอาด้วย   นอกจากไม่เอาด้วยยังเขียนด่าให้ผู้หญิงอีกคนที่เขาจีบอยู่ฟังเสียเป็นคุ้งเป็นแควไปเลย

ตอนแรกดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงที่ยาขอบจิกตี หลายต่อหลายครั้งอย่างเหยียดหยามดูแคลน เป็นนักประพันธ์สตรีที่มีชื่อเสียงคนไหนในสมัยนั้น    เห็นย้ำคำว่า "ทำตัวเหมือนดวงดาว" หลายครั้ง   ก็เข้าใจในตอนแรกว่าอาจจะหมายถึงท่านหญิง"ดวงดาว" แต่สนทนากับเพื่อนนักอ่านในเรือนไทยเมื่อหลายปีมาแล้ว    ถึงรู้ว่าเป็น "ดอกไม้สด"
เพราะชื่อตัวละครที่ยาขอบโกรธนักโกรธหนาว่า "แม่คนสูงส่งเหมือนดวงดาว" เอาไปเขียนเป็นตัวตลก นั้น ชื่อนายโชติ  อยู่ในเรื่องสั้น ๒-๓ เรื่องของ "ดอกไม้สด" 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 09:29

ดิฉันเชื่อว่ายาขอบหลงตัวอย่างสุดกู่ในเรื่องของ"ดอกไม้สด"    อาจเป็นเพราะตัวเองประสบความสำเร็จจีบผู้หญิงได้มามากมาย  ก็เลยไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนไหนที่รู้จักเขาแล้วจะไม่หลงรักเขา     ความจริงแล้วดอกไม้สดเป็นสตรีธรรมะธัมโมสมกับที่ได้รับการอบรมจากญาติผู้ใหญ่ในวัง  ถือศีล ๕ เคร่งครัด     ผู้ชายผิดศีล ๒ ข้อซ้อนอย่างโจ่งแจ้งเป็นที่รู้ทั่วไป  ทั้งข้อสุราและกาเม  ย่อมไม่ใช่ชายในความสนใจของเธอแน่นอน
ข้อที่เธอไม่เห็นด้วยเรื่องยาขอบเสพสุรา ก็น่าจะเป็นการเอ่ยถึงด้วยความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมอาชีพ  บังเอิญมีคนเอามาบอก   แทนที่ยาขอบจะหงุดหงิดอย่างธรรมดาว่ากินเหล้าก็เรื่องของฉัน   กลับตีโพยตีพายไปใหญ่โตว่ารู้นะ ไอ้ที่ทำมาว่า   ก็เพราะหล่อนทอดสะพานอยากจะทำตัวเป็นแม่พระมาโปรดฉัน  ที่แท้ก็อยากเข้าถึงตัวฉันเท่านั้นละว้า

ที่แย่ที่สุดคือเขียนมาเล่าให้พนิดาฟัง  ด่าผู้หญิงคนหนึ่งให้อีกคนฟัง โดยเจ้าตัวเขาไม่มีโอกาสรับรู้  ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน
เมื่ออวดกับพนิดา ก็ฟันธงลงไปเสียด้วยว่านักประพันธ์สตรีที่มีชื่อเสียงอีกคนหลงรักฉันนะเธอ   แต่ฉันไม่สนหล่อนคนนั้น  ฉันรักผู้หญิงอย่างเธอต่างหาก 
ตลกมากที่หลักฐานของการหลงรักคือคำเตือนว่าอย่ากินเหล้าเมายา   ถ้าคุณพนิดาไม่ได้อายุแค่ ๒๐  เธอน่าจะเฉลียวใจบ้างว่าในภายหน้า   จากตัวอย่างนี้   ยาขอบจะเอาเธอไปพูดกับเพื่อนฝูงว่ายังไงบ้าง
แต่คุณพนิดาก็คงเฉลียวใจขึ้นมาบ้างละค่ะ  เลยขอจดหมายคืนมาเก็บไว้หมด    คงรู้เหมือนกันว่าถ้ายาขอบเอาไปอวดเพื่อนฝูง  เธอจะเสียยิ่งกว่าดอกไม้สดกี่เท่า
บันทึกการเข้า
Madpinkie
อสุรผัด
*
ตอบ: 5



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 11:29

  ยิงฟันยิ้ม คุณเทาชมพู ก็ตอบปัญหาเกี่ยวกับ"ดอกไม้สด" ได้กระจ่างตากระจ่างใจทีเดียวค่ะ...ก็เหน็บ(ด่า)ได้ประมาณนั้นเลยจริงๆ
ข้อความที่แนนเอามาลงเป็นจดหมายฉบับที่ห้าในจำนวนหกสิบหกฉบับที่โต้ตอบกัน..
 อายจังรักกันจริงหรือไม่ หรือสาวเจ้ารู้ตัวก่อนอย่างคุณเทาชมพูว่า
คำตอบนั้นก็อยู่ที่สองนั้น...ไม่กล้าฟันธงค่ะ แหม...ก็สำนวนระดับยาขอบ อ่านแล้วมันก็มีเคลิ้มกันบ้างแหละ

ยังไงก็ขอบคุณคุณเทาชมพูมากๆค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 12:32

คุณพนิดาอายุ ๒๐ เป็นสาวช่างฝัน ใช้อารมณ์นำหน้าสมอง  เห็นได้จากที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ควรรักยาขอบ  "ฉันรักคุณเพราะฉันไม่รักตัวเอง"
สาวๆแบบนี้จะตกในภาวะ hero worship ได้ง่าย    คือชื่นชมบูชาหลงใหลผู้ที่โดดเด่นในทางใดทางหนึ่ง   ถ้าไปชื่นชอบดาราเธอก็จะกลายเป็นแฟนคลับ    ในเมื่อใจเธอรักการประพันธ์  พระเอกของเธอจะมีใครสู้ "ยาขอบ"ได้ในยุคนั้น    

รักต้องห้ามของหนุ่มศิลปินกับดอกฟ้า มีหลายคู่ไม่ใช่คู่เดียว  เช่นคุณมนัส จรรยงค์กับคุณอ้อม บุนนาค   คู่นี้ในที่สุดก็ตัดสินใจไปใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน     อีกคู่ที่จบแฮปปี้เอนดิ้งคือคุณครูเอื้อ สุนทรสนาน กับคุณอาภรณ์ กรรณสูต  แต่ก็ต้องรอกันยาวนานเป็นสิบปี กว่าญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณอาภรณ์จะถึงแก่กรรมไปก่อน  
แต่รักของยาขอบกับคุณพนิดา เท่าที่อ่านจากจดหมาย จบลงแบบต่างฝ่ายต่างเลิก  ไม่ทันใช้ชีวิตร่วมกัน     ผู้ใหญ่ฝ่ายคุณพนิดาไม่ยอม และยาขอบก็มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่     จากนั้นประวัติของคุณพนิดาก็หายไปเลย    ไม่รู้แม้แต่ว่าเธอสมรสไปหรือไม่  รู้แต่ว่าอายุค่อนข้างสั้น แค่ ๔๐ ปีเศษ เท่านั้นก็ถึงแก่กรรม
กำลังสงสัยว่าคุณเทียนดัดแปลงชื่อและนามสกุลของเธอหรือเปล่า    เป็นไปได้ไหมว่าเธอเป็นนักประพันธ์สตรีสักคนในยุคต่อมา

เท่าที่ดูจากคารมของคุณพนิดาก็คิดว่าเธอฉลาดพอจะหักใจจากยาขอบ   ความสัมพันธ์ที่ไร้จุดหมายปลายทางติดต่อกัน ๔ ปี   นับว่านานพอแล้ว   ขืนแหวกศีลธรรมและประเพณีไปเป็นคุณนายคนที่ ๕ ของยาขอบ  ก็ไม่มีอะไรประกันว่าพนิดาจะไม่เจอคุณนายคนที่ ๖ รออยู่ในอนาคต
คู่สามีภรรยาที่ไม่เสมอกันด้วยศีล ศรัทธา ปัญญาและจาคะ  อยู่กันไม่รอดหรอกค่ะ  นอกจากอยู่ใช้เวรใช้กรรม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 12:33


ปล.๒ น่าเสียดายที่แนนยังไม่เคยอ่านงานของดอกไม้สด ทั้งๆที่แม่แนะให้อ่านหนังสือ"ผู้ดี"มาแต่เล็กแต่น้อย แต่ไม่เคยอ่าน จำได้แค่ว่า การที่ทุกวันนี้ชงการแฟแล้วช้อนไม่กระทบแก้วให้มีแสียง มาจากคำสอนของแม่ที่ได้มาจากหนังสือเล่มนี้

ขอแนะนำให้อ่าน หนึ่งในร้อย เป็นเรื่องแรก ค่ะ   ถ้าชอบค่อยไปอ่าน ผู้ดี
บันทึกการเข้า
Madpinkie
อสุรผัด
*
ตอบ: 5



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 13:23


กำลังสงสัยว่าคุณเทียนดัดแปลงชื่อและนามสกุลของเธอหรือเปล่า    เป็นไปได้ไหมว่าเธอเป็นนักประพันธ์สตรีสักคนในยุคต่อมา

อันนี้ขอน่วมสงสัยด้วยค่ะ ส่วน ความรักของสองคู่ที่กล่าวมาข้างต้น สงสัยต้องรีบไปหามารู้ ช่วงนี้ ...ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 16:01

มาดูพื้นเพและชีวิตส่วนตัวของ "ยาขอบ" ส่วนที่จะเอามาเปรียบเทียบกับพนิดากันดีกว่าค่ะ

กำเนิดของ "ยาขอบ" มีสีสันยิ่งกว่าเรื่องราวในละครทีวี
จะว่าไปแล้ว "ยาขอบ" มีศักดิ์เป็นเจ้าเชื้อสายเมืองแพร่   เพราะปูแท้ๆของเขาเป็นเจ้าหลวงเมืองแพร่  ชื่อเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์  เมื่อเกิดกบฏเงี้ยวในรัชกาลที่ 5  พ.ศ. 2445 เจ้าหลวงเมืองแพร่ถูกกล่าวหาว่าเป็นใจกับพวกกบฏ  จึงต้องลี้ราชภัยหนีไปอยู่หลวงพระบาง    ส่วนเจ้าอินแปง ราชบุตรของเจ้าหลวงถูกนำตัวมาอยู่ในกรุงเทพฯ กึ่งๆตัวประกัน 
ต่อมาเจ้าอินแปงได้แม่จ้อย หญิงรับใช้ในวังของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เป็นเมีย เกิดบุตรชายชื่อโชติ  ต่อมาเจ้าอินแปงเดินทางกลับเมืองแพร่แล้วไปแต่งงานกับลูกเจ้าหลวงเมืองน่าน  ทิ้งเมียและลูกไว้ทางนี้   แม่จ้อยตรอมใจตาย ก่อนตาย ห้ามลูกชายไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับบิดาและญาติๆทางแพร่   
แทนที่จะได้เป็นบุตรเจ้าอินแปง  ซึ่งทำให้มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าเชื้อสายแพร่อีกคน    เด็กชายโชติก็กลายเป็นเด็กกำพร้าทั้งพ่อแม่  กลายเป็นเด็กรับใช้ตามบ้านขุนนาง จนโตเป็นหนุ่ม  จึงได้รับนามสกุลว่า แพร่พันธุ์  ซึ่งยืนยันในชาติกำเนิดของเขา

"ยาขอบ" มีพรสวรรค์ทางการประพันธ์   เมื่อแต่ง"ผู้ชนะสิบทิศ" ให้คนติดงอมแงมกันทั้งเมือง เขาอายุเพียง 25 ปี    มีสำนวนภาษาหวานล้ำไม่ซ้ำแบบใคร    คารมของ "ยาขอบ" ไม่ได้มีแต่ในหนังสือ แต่นำมาใช้กับสาวๆด้วย   ผลก็คือยาขอบมีผู้หญิงอยู่ในชีวิตเขาแทบจะนับไม่ถ้วน   
ไม่รวมผู้หญิงที่เจอกันแบบเบี้ยบ้ายรายทางนับสิบคน   ยาขอบมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน 4 คน ก่อนพบพนิดา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 16:11

ภรรยาที่อยู่กินกันอย่างเปิดเผย และต่อเนื่องยาวนานเป็นปีๆ ทั้ง 4 คนมีชื่อว่า
1.จรัส     เป็นแม่ของมานะ แพร่พันธุ์ บุตรชายคนเดียวของยาขอบ
2.สงวนศรี  เป็นเจ้าของจดหมายรักสีชมพู(สีกระดาษประจำตัวของยาขอบ) ซึ่งยาขอบเขียนถึงมากมาย และไปขอคืนมาอ่านเพื่อจะเอาเป็นแรงบันดาลใจเมื่อเริ่มเขียนถึงโวหารรักใน ผู้ชนะสิบทิศ
3.ชลูด    เป็นนักเรียนสาวจากปีนังผู้หลงใหลนิยายผู้ชนะสิบทิศ   ขณะยังเรียนอยู่ปีนัง เด็กสาวถึงกับขับรถยนต์ข้ามแดนมาที่หาดใหญ่ ทุกวันอาทิตย์  เพื่อจะซื้อหนังสือประชาชาติ ซึ่งลงพิมพ์ผู้ชนะสิบทิศ    ในที่สุดก็ได้มาเป็นภรรยาของยาขอบ  ใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ 5 ปี
4.ประกายศรี   เป็นภรรยาที่อยู่กินกับยาขอบตลอดเวลาที่เขาติดต่อเขียนจดหมายรักถึงพนิดา      เธออยู่เคียงข้าง ดูแลรักษาพยาบาลเขาตั้งแต่เริ่มป่วยเมื่อพ.ศ. 2492  จนถึงวาระสุดท้ายในอีก 7 ปีต่อมา
ยาขอบถึงแก่กรรมในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2499  ด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง โรคกระเพาะอาหาร โรคเบาหวาน และวัณโรค  อายุ 48 ปีเศษ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 16:30

เมื่อพ.ศ. 2482  ยาขอบกำลังโด่งดังถึงที่สุดจากนิยาย "ผู้ชนะสิบทิศ"  นอกจากงานเขียน เขาทำหน้าที่ผู้จัดการโรงพิมพ์ของคุณเทียน เหลียวรักวงศ์  ซึ่งยาขอบเคารพนับถือมาก  
วันหนึ่งคุณเทียนก็พาหญิงสาวอายุ 20 ปี  ลูกสาวของเพื่อน มาฝากฝังให้ฝึกงานด้วย   เพราะเธออยากจะเป็นนักประพันธ์    หญิงสาวคนนั้นชื่อพนิดา ภูมิศิริทัต  เป็นลูกสาวคนมีฐานะดี    ขับรถยนต์ได้  ซึ่งหาได้ยากยิ่งในพ.ศ. 2482  และทางบ้านก็เปิดกว้างให้ออกงานสังคม ไปเที่ยวเตร่ที่นั่นที่นี่ได้  ไม่ได้เก็บเอาไว้ในบ้าน 
 แม้ว่าไม่เคยมีการเปิดเผยว่าพ่อแม่ของพนิดาทำงานอะไร เป็นใครอยู่ที่ไหน  แต่พอแกะรอยได้จากจดหมายของยาขอบว่าเธอมีฐานะในสังคมสูงกว่าเขามาก   เมื่อเทียบกันแล้ว ยาขอบ ทั้งๆก็เป็นคนมีชื่อเสียงและทำงานรายได้มากเป็นอันดับหนึ่งของนักประพันธ์ในสยาม  ก็ยังออกตัวว่าเขามีชีวิตที่ไม่ควรคู่กับเธอ  

"ฉันต้องการให้คนทั้งหลายได้รับรู้ ถึงความที่คุณจะเป็นผู้พาฉันขึ้นมาจากปลักแห่งอบายมุขและความเหลวไหลไม่มีสาระ เป็นคนดีพอที่จะเคียงคู่กับคุณได้ โดยไม่ต้องหลบซ่อนสายตาหรือปิดบังการรู้เห็นของคนทั้งหลาย "
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 16:47

พนิดาเป็นคนมีฝีมือในการเขียนหนังสืออย่างน่าทึ่ง เมื่อเทียบกับหญิงสาวสมัยนั้น   จดหมายที่เขียนตอบยาขอบมีสำนวนโวหารหวานและคมคาย ราวกับมืออาชีพ   ข้อสำคัญเธอประชันคารมรักกับนักประพันธ์เอกได้ชนิดไม่เพลี่ยงพล้ำ     
ขอยกตัวอย่าง

"เมียมีอยู่ด้วยกันเดี๋ยวนี้ถึง 4 คน ยังมาเกี้ยวเขาได้นะใจคอ...ฉันรักคุณเพราะฉันไม่รักตัวเองไงคะ"
"คุณเป็นทศนิยมไม่รู้จบ สำหรับความรักและคนรัก"
"โปรดทราบไว้ด้วยหัวใจว่า หัวใจของพนิดามิใช่สายน้ำ ที่เมื่อทิ้งของอื่นลงไปกีดขวางทางเดิม แล้วจะไหลเบนไปในทางอื่นได้"
"ขอบอกว่า ถ้าคุณคิดจะกัดแขนคุณเอง เพื่อให้ดาพันผ้าให้อีกล่ะก้อ อย่าได้ทำเลย บาดแผลที่เนื้อแขนคุณ เท่ากับแผลที่หัวใจของดาโดยแท้ การเจ็บเนื้อย่อมไม่เป็นพิษร้ายเท่าเจ็บที่หัวใจใช่ไหมคะ"


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 16 ก.ค. 12, 16:47

มาอ่านสำนวนของยาขอบบ้าง
"ไม่เคยเลยในความเป็นมาของฉัน ซึ่งจะเข้ามาหาผู้หญิงด้วยความรู้สึกอ่อนแอ และอยากขอร้องว่า อย่าให้เขาไปจากฉันเหมือนครั้งนี้ ฉันไม่ได้รักคุณด้วยอารมณ์อันเคยเป็นของฉันเอง หากได้รักด้วยอารมณ์ทาส"

"เงยหน้าขึ้นพบดาเมื่อวานนี้ หัวใจแทบหยุดเต้น เหมือนที่คนเขาเผาอิฐ เผานาบอยู่บนเตา แล้วก็เอาลงมาราดน้ำ ซึ่งดังฉ่าและควันโขมงขึ้นทันที"

”คนเรานี่มีความโลภเหลือเกิน ที่จริงฉันควรเกลียดพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ไม่มีดา แต่มันกลับเกลียดวันนี้ ด้วยไปรู้สึกว่าอาทิตย์พรุ่งนี้ เราจะไม่ได้พบกันทั้งวัน เที่ยวให้เบิกบานนะคะคนดี"

"เมื่อคืนหลับสบายเต็มตา และเมื่อตาตื่นอยู่ก็ไม่มีขณะใดเลยที่จะไม่คิดถึงดา"
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 20 คำสั่ง