เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 16770 ความทรงจำในอดีตของคุณหญิงอมร สีบุญเรือง มีค่าราวเพชร ทองคำและไข่มุกด์
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 07 ก.ค. 12, 11:49



        หนังสืออนุสรณ์   ที่นักอ่านไม่น่าพลาด

งานพระราชทานเพลิงศพ   ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม

วันอังคารที่ ๒ ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๔๐

 
        ดิฉันตามเก็บหนังสืออนุสรณ์โดยบอกกล่าวไปยังดีลเลอร์หนังสือมือสองที่คุ้นเคยกัน   ต่อมาก็ได้ติดต่อ

โดยตรงกับเอเย่นต์ของดีลเลอร์    ว่าถ้ามีหนังสืออนุสรณ์ของข้าราชการ  นักประพันธ์  ก็โปรดช่วยเก็บไว้ให้ด้วย

เล่มที่มีประวัติ และมีสาแหรกสกุลอยากได้ทุกเล่ม      ได้รับความร่วมมืออย่างดีเสมอมา  เพราะเอเย่นต์เดินถนนก็รักหนังสือ

เท่าๆกับนักอ่าน   ไม่อยากให้หนังสือดี ๆ สูญไป         ถ้าเป็นหนังสือเก่าร้อยกว่าปีขึ้นไป  ดิฉันก็ยืมอ่านด้วยความชำนาญ

แต่จะยืมกับเจ้าของเท่านั้น   ไม่เคยยืมต่อเลยเพราะถือว่าอาจเป็นการบังคับใจผู้ที่ถือหนังสือในขณะนั้น  และไม่ยุติธรรมกับเจ้าของตัวจริง


หนังสืออนุสรณ์ของคุณหญิงอมร    สีบุญเรือง  เป็นหนังสือที่มีค่ามาก  เพราะบอกเล่าเรื่องราวที่สำตัญในประวัติศาสตร์ไว้หลายเรื่อง

บางเรื่องดิฉันก็ไม่เคยอ่านพบ       

มีเรื่องจีนโนสยามวารศัพท์ที่ค้นคว้ามาเป็นอย่างดี   ขอขอบพระคุณคณะผู้จัดทำเป็นอย่างยิ่ง  ที่ประวัติการพิมพ์ของไทยเราจะไม่ขาดตอนไป
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 07 ก.ค. 12, 12:07


ขอตัดตอนความสำคัญของหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้   มาเล่าไปก่อนนะคะ   สลับกับความทรงจำของคุณหญิงอมร


หน้า ๘๓ - ๘๔        คัดลอกมาอย่างละเอียดเพราะความสำคัญของเรื่อง  มิบังอาจจะเขียนขึ้นใหม่หรือย่อความได้

บันทึกของนายทรงขิม  สีบุญเรือง  เกี่ยวกับ เซียว ฮุดเส็ง  สีบุญเรือง


....ผมเกิดในครอบครัวธรรมดา  บิดาคือนายเซียว ฮุดเส็ง   มารดาชื่อ กิมเหลียง          มีพี่น้องทั้งหมด ๕ คน

ชาย ๓  หญิง ๒

ผู้หญิงพี่สาวหัวปีชื่อลม่อมเป็นนักประพันธ์สตรีมีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้น  ใช้นามปากกายูปิเตอร์

คนที่สองทรงสิน(ทิดเขียว)

คนที่สามทรงเขียน

ผมเป็นบุตรที่สี่

คนสุดท้องคือนางอมร

        ในครอบครัวผมนี้เราอยู่อย่างครอบครัวคนไทยธรรมดา        นอกจากบิดาผมแล้ว  ไม่มีมีสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งคนใดพูดจีนได้

ภาษาไทยคือภาษาของเรา          บิดาผมไม่เคยส่งภาษาจีนกับพวกเราเลย  เพราะพูดไปก็ไม่มีใครรู้เรื่อง

(เรื่องราวของเซียวฮุดเส็ง และโรงพิมพ์ของท่านที่อยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษม  ตอนใต้ติดธนาคารฮ่องกง  ไว้เล่ากันในตอนอื่น ๆ นะคะ)
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 07 ก.ค. 12, 12:31

(หน้า ๓๗ - ๓๘)

        คุณพี่ลม่อมนอกจากจะเป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนเซนต์โยเซฟจบจากที่นั่น   ยังทำชื่อเสียงให้โรงเรียนไว้มากมาย

นอกจากจะเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศที่โรงเรียนราชินีแล้ว           เธอยังเป็นข้าหลวงสมเด็จพระพันปีหลวง

เป็นข้าหลวงเรือนนอกซึ่งเรียกกันสมัยนั้น   กล่าวคือไม่ได้อยู่ในวังประจำ   นอกจากจะมีราชอาคันตุกะหรือแขกต่างประเทศมาเยือน  

เธอจะต้องเข้าเฝ้ารับใช้สนองเบื้องพระยุคลบาททุกโอกาส          โดยท่านอาจารย์ใหญ่โรงเรียนราชินี  ม.จ. หญิงพิจิตจิระภา

และบางทีก็มี  ม.จ.หญิงจันทรนิภา ซึ่งเรียกกันว่าท่านอาจารย์น้อย        สมัยนั้นครรู้ภาษาฝรั่งเศสดี   ภาษาอังกฤษดี  ไม่มีมาก

คุณพี่วาดภาพพระราชวังพญาไทด้วยสีน้ำมันขนาดโตเท่าบานหน้าต่างขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย  พร้อมกับถักไหมพรมฉลองพระองค์คลุมขึ้น

ทูลเกล้าสมเด็จพระบรมราชินีนาถ          ทรงโปรดปรานมาก    ทางโรงเรียนเซ็นโยเซฟได้รับพระราชทานเงินบำรุงปีละ ๓,๐๐๐ บาท

มายกเลิกเงินพระราชทานส่วนพระองค์ไปในสมัยรัชกาลที่ ๗
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 07 ก.ค. 12, 15:48



        ความทรงจำในอดีต


คุณหญิงอมร  สีบุญเรือง  เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗

เป็นบุตรีสุดท้องของ นายเซียว  ฮุดเส็ง  และนางเหรียญ  สีบุญเรือง

พี่น้องร่วมบิดามารดาคือ

น.ส. ลม่อม  สีบุญเรือง

นายทรงเขียน   สีบุญเรือง

นายทรงขิม   สีบุญเรือง

เจ้าของประวัติ

พี่ชายต่างมารดาคือ  นายสิน  สีบุญเรือง หรือ ทิดเขียว  นักพากย์ภาพยนตร์




บ้านเกิด           เราเกิดที่บ้านปากคลองผดุงกรุงเกษมติดกับฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงค์     นายเตี่ยท่านก่อกำแพงกั้น

ระหว่างธนาคารกับบ้านเสียสูงลิ่วและแข็งแรงแน่นหนามาก  พูดกันว่าท่านมีลูกสาวถึง ๒ คน     พวกเราทุกคนจะต้องเรียน

หนังสืออยู่กับบ้านให้อ่านออกพอเขียนได้  แล้วจะส่งเข้าโรงเรียนคุณพี่ละม่อมได้อยู่ในความอบรมดูแลของคุณย่าและคุณอาเพชร

เมื่อเล็ก ๆ  พูดถึงคุณย่า  ว่าท่านดุเฉียบขาดยิ่งนัก    ท่านสามารถคุมงานและคุมเงินตลอดจนคุมคนงานได้ตลอดมา  เมื่อสิ้นบุญคุณก๋ง

ลูก ๆ อยู่ในวัยเล่าเรียนไม่สามารถดำเนินงานได้     คุณย่าเป็นสตรีที่เข้มแข็งสามารถสามารถทำโรงสีไฟต่อไปได้    คุณอาเพชรเล่าว่า

พี่ลม่อมอ่านหนังสือออกได้อย่างคล่องแคล่วตั้งแต่อายุเพียง ๔ ขวบเท่านั้น   เป็นที่สุดสวาทของคุณย่า   แม้จะเป็นหลานผู้หญิงคนแรกแทนที่จะเป็นผู้ชาย

ซึ่งนิยมกันว่าหลานหัวปีควรจะเป็นผู้ชาย


        เมื่อครั้งสงครามโลกญี่ปุ่นบุกไทยทรัพย์สินวอดวายไปอย่างเหลือคณานับ   โดยเฉพาะห้องสมุดของนายเตี่ย    หนังสือจีนเก่าแก่และหนังสือ

ภาษาไทยและหนังสือภาษาอังกฤษของคุณพี่ลม่อม   ซึ่งย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในวงจินตกวีว่าเธอเป็นผู้ทีชื่อเสียงเฟื่องในยุคนั้น      เธอได้สะสมไว้เหลือหลาย

หนังสืออันล้ำค่าเหล่านี้ทหารญี่ปุ่นทุบตู้กระจกเอาทำเชื้อเพลิงหุงข้าวหมด    เขาว่ามันไม่ได้แตะต้องเครื่องลายครามหรือของมีค่าอื่น ๆ  เช่น งาช้าง ฯลฯ

เพื่งหายเมื่อหัวเลี้ยวหัวต่อญี่ปุ่นแพ้จะถอย  หรือกำลังถอย      สงสัยเป็นฝีมือคนไทยด้วยกันเอง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 07 ก.ค. 12, 16:10


   
        คุณหญิงอมร   สีบุญเรือน   จบการศึกษาจากโรงเรียนเซ็นโยเซฟคอนแวนต์  แผนกฝรั่งเศส   และจากหลักสูตรที่เข้มงวดของโรงเรียน

ทำให้คุณหญิงอมรสามารถใช้ภาษาต่างประเทศทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษได้คล่องแคล่ว   ท่านจึงเป็นคนที่ทันสมัย   ติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ

ในบ้านเมืองของเราและต่างประเทศโดยใกล้ชิด    ในสมัยที่ประชาชนคนไทยอยู่ในยุคสวมหมวก    ท่านก็เป็นสตรีไทยที่สวมหมวกได้อย่างสวยงาม   

และยังได้เปิด "ร้านอมร" บนถนนราชดำเนินจำหน่ายหมวกอีกด้วย

        นายเซียวฮุดเส็ง   สีบุญเรือง  เป็นเจ้าของกิจการโรงพิมพ์และออกหนังสือพิมพ์รายวันทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาจีน   เป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง ๒๓ ปี

ได้แสดงทัศนะต่าง ๆ ในหนังสือพิมพ์  สนับสนุนการปฏิวัติล้มระบบการปกครองของกษัตริย์ราชวงศ์แมนจู   จึงทำให้ดร.​ซุนยัดเซ็น  หัวหน้าคณะก๊กหมิ่งตั๋ง

สนใจในตัวท่านได้เดินทางมาประเทศไทยและพำนักอยู่บ่านท่าน  เพื่อรณรงค์ขอความสนัยสนุนของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย

   
        ต่อมาเมื่อคณะจีนกู้ชาติได้ล้มราชวงศ์แมนจู   ได้ช่วยกันต่อต้านไล่กองทัพญี่ปุ่นออกจากแผ่นดินจีน    นายเซียว ฮุดเส็งได้รับการ

แต่งตั้งจากรัฐบาลจีนประมาณปี ๒๔๗๔  ให้เป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงโพ้นทะเล       บุตรชายคือนายทรงขิม  สีบุญเรืองได้รับแต่งตั้ง

ให้เป็นนายพลประจำกองทัพจีนด้วย
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 07 ก.ค. 12, 16:28


       คุณหญิงอมรสมรสกับพันตรีวิลาศ  โอสถานนท์(บุตรพระยาประชากิจกรจักร กับ คุณหญิงนิล)

เมื่อมกราคม  ๒๔๗๕      มีบุตรสองคนคือ

นายวิระ   สมรสกับ  น.ส. อรนุช บุณยประสพ  ธิดาของนายอุดมและคุณหญิงแร่ม  บุณยประสพ

นายอภิลาศ   โอสถานนท์  สมรสกับน.ส. เปรมพันธุ์    เสตสุวรรณ   ธิดาของนายสมศักดิ์และนางสงวน  เสตสุวรรณ


       เมื่อญี่ปุ่นบุกเข้าไทยในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง   ญี่ปุ่นต้องการจับตัวครอบครัวทางฝ่ายบิดาของคุณหญิงอมร    

เคราะห์ดีที่ท่านเซียว  ฮุดเส็งได้เสียชีวิตไปแล้ว    แต่พี่ชายสองคนคือคุณทรงเขียน กับคุณทรงขิมต้องหลบหนีไปตามที่ต่าง ๆ    คุณทรงขิม

ได้หลบเข้าป้่ไปในประเทศพม่า   ส่วนพันตรีวิลาศ   โอสถานนท์  ซึ่งเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์   แม้จะเป็นเพียงเขยของครอบครัว

ก็ถูกฝ่ายญี่ปุ่นยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม  ๒๔๘๔ (ญี่ปุ่นบุกเข้าประเทศไทยเมื่อ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔)
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 08 ก.ค. 12, 07:56



        คุณวิลาศเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษติดต่อกันหลายสมัย   คุณหญิงอมรเป็นกรรมการหลายสมาคม  ถูกเชิญแสดงลครการกุศล

บ้าง         เคยเล่นโขนกับม.ร.ว. คึกฤทธิ์  ปราโมช  หม่อมสร้อยระย้า  ยุคล   ท่านพระองค์ชายใหญ่ คือพระองค์ภาณุ​ฯ  และพระองค์ชายกลาง

คือพระองค์เฉลิมพล ฯ ในวันประสูติพระองค์หญิงเฉลิมเขต ฯ พระมารดา  ตอนนางอัคคี มเหสีทศกัณฐ์หึงนางมณโฑ   ท่านผู้หญิงแผ้วเป็นผู้ฝึกซ้อม

ในบทหึงกระชดกระช้อย  รำให้ได้จังหวะ

 
        คุณคึกฤทธิ์เป็นตัวทศกัณฐ์บอกว่าบอกว่า  คุณอมรร้องกรี๊ด เปรี๊ยะเข้าหูทุกที
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 08 ก.ค. 12, 08:08



        "เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๘  ทางการดำริหาทุนบำรุงโรงพยาบาลโรคปอด   เจ้าพระยารามราฆพนำคุณวิลาศกับ

เราเข้าเฝ้าถวายตัว  เพื่อจะทำการเลหลังรูปที่ทรงถ่ายเอง   ประทับอยู่ ณ ที่นั้นทั้งสามองค์  คือ

ล้นเกล้ารัชกาลปัจจุบัน  และสมเด็จพระบรมราชชนนี     คืนนั้นเราประมูลภาพเล็ก ๆ ทั้ง ๔ ภาพได้เงินมากโขทีเดียวต่อหน้าพระที่นั่ง

เป็นเหตุการณ์มงคลในชีวิตที่มีโอกาสฉลองพระเดชพระคุณ    ทั้งได้โดยเสด็จพระราชกุศล        มาทราบภายหลังว่าทรงพอ

พระราชฤทัยมาก   รับสั่งว่าสนุกจริง ๆ"
บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 08 ก.ค. 12, 13:52



        ความทรงจำในอดีต


คุณหญิงอมร  สีบุญเรือง  เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗

เป็นบุตรีสุดท้องของ นายเซียว  ฮุดเส็ง  และนางเหรียญ  สีบุญเรือง

พี่น้องร่วมบิดามารดาคือ

น.ส. ลม่อม  สีบุญเรือง

นายทรงเขียน   สีบุญเรือง

นายทรงขิม   สีบุญเรือง

เจ้าของประวัติ

พี่ชายต่างมารดาคือ  นายสิน  สีบุญเรือง หรือ ทิดเขียว  นักพากย์ภาพยนตร์




บ้านเกิด           เราเกิดที่บ้านปากคลองผดุงกรุงเกษมติดกับฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงค์     นายเตี่ยท่านก่อกำแพงกั้น

ระหว่างธนาคารกับบ้านเสียสูงลิ่วและแข็งแรงแน่นหนามาก  พูดกันว่าท่านมีลูกสาวถึง ๒ คน     พวกเราทุกคนจะต้องเรียน

หนังสืออยู่กับบ้านให้อ่านออกพอเขียนได้  แล้วจะส่งเข้าโรงเรียนคุณพี่ละม่อมได้อยู่ในความอบรมดูแลของคุณย่าและคุณอาเพชร

เมื่อเล็ก ๆ  พูดถึงคุณย่า  ว่าท่านดุเฉียบขาดยิ่งนัก    ท่านสามารถคุมงานและคุมเงินตลอดจนคุมคนงานได้ตลอดมา  เมื่อสิ้นบุญคุณก๋ง

ลูก ๆ อยู่ในวัยเล่าเรียนไม่สามารถดำเนินงานได้     คุณย่าเป็นสตรีที่เข้มแข็งสามารถสามารถทำโรงสีไฟต่อไปได้    คุณอาเพชรเล่าว่า

พี่ลม่อมอ่านหนังสือออกได้อย่างคล่องแคล่วตั้งแต่อายุเพียง ๔ ขวบเท่านั้น   เป็นที่สุดสวาทของคุณย่า   แม้จะเป็นหลานผู้หญิงคนแรกแทนที่จะเป็นผู้ชาย

ซึ่งนิยมกันว่าหลานหัวปีควรจะเป็นผู้ชาย


       

ขออนุญาตแทรกภาพประกอบ ไปคว้าภาพมาจากกระทู้ "รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก" สอดคล้องกับเนื้อความพอดี



บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 ก.ค. 12, 16:34



ขอบคุณคุณลุงไก่ค่ะ

จำได้เสมอว่าค่ะว่าคุณลุงไก่ชอบอ่านขุนช้างขุนแผนตอนไหน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 09 ก.ค. 12, 11:03


 
เซียว ฮุดเส็ง  สีบุญเรือง    กับ    จีนโนสยามวารศัพท์  และ ผดุงวิทยา



ท่านเป็นเจ้าของและเอดิเตอร์   ใช้นามปากกาว่า ผดุง  และ อโยมัยเสตว์   

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ได้ทรงมีพระมหากรุณาเมตตาเรียกท่านว่า  "ซินแส"


เป็นความตั้งใจของดิฉันที่จะหาข้อมูลของจีนโนสยามวารศัพท์  ที่ได้พิมพ์เป็นภาษาไทยนาน  ๑๖ ปี

ที่เวลานี้เหลืออยู่ตามแหล่งค้นคว้าประมาณ ๗ ปี           ผดุงวิทยานั้น  คณะผู้ค้นคว้าของหนังสืออนุสรณ์แจ้งว่ามีเหลืออยู่เพียง

๖ เล่ม


จีนโนสยามวารศัพท์  มีความสำคัญมากกว่าจะย่นย่อมาลงในกระทู้นี้

ขอขอบพระคุณคณะผู้จัดทำหนังสืออนุสรณ์ของคุณหญิงอมร   สีบุญเรือง   ที่ได้ชี้ทางไว้อย่างสว่างไสว

การอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน(เว้นเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ) เป็นเวลา ๗ ปีนั้น     จะฝ่าฟันไปเท่าที่มีแรง
บันทึกการเข้า
piyasann
พาลี
****
ตอบ: 379


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 09 ก.ค. 12, 19:58


การอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน(เว้นเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ) เป็นเวลา ๗ ปีนั้น     จะฝ่าฟันไปเท่าที่มีแรง

สู้ๆ ครับ เวลาอ่านหนังสือนั้น เวลามัก "ไวเหมือนโกหก" เพราะเพลิดเพลินดีแท้........
บันทึกการเข้า
changnoi
อสุรผัด
*
ตอบ: 16


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 16 ส.ค. 12, 01:48

ไม่ค่อยรู้ว่าใครเป็นใครแต่อ่านตามแล้วเพลิดเพลิน มีจิตนการร่วมมันออกมาเองน่ะ สวยงามเชียวครับ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 16 ส.ค. 12, 10:27



        คุณช้างน้อยมีคุณสมบัติของนักอ่านที่ดีค่ะ  คือมีจินตนาการ  ที่ทำให้เพลิดเพลินเจริญใจ

เซียวฮุดเส็งเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในวงการหนังสือวงการพิมพ์ของประเทศเราค่ะ    การที่ท่านไม่พูดภาษาจีนที่บ้าน

ก็เป็นเรื่องแปลก     เรื่องราวของม.ร.ว. คึกฤทธิ์  ปราโมชก็เป็นเรื่องน่าอ่านน่าจดจำ   ไปเห็นที่ไหนก็เก็บมาเล่าต่อ

ให้ครึกครื้น      หนังสือเป็นยิ่งกว่าแหล่งความรู้ที่ให้มากกว่าความสุขใจค่ะ    เคยวางหนังสือกำลังภายในเป็นตั้ง ๆ ไว้รอบเตียง

ห้ามเคลื่อนย้าย       วันก่อนคุยกับสหายที่นับถือเรื่องสามเกลอตอนแข่งขันกินจุ   สหายระเบิดหัวเราะดังลั่น
บันทึกการเข้า
puyum
พาลี
****
ตอบ: 245


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 09 พ.ย. 12, 23:11

สองท่านนี้ ผมไม่ทราบ ช่วยบอกด้วย



บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 20 คำสั่ง