คาถาอาคมเป็นอุบายเรียกความมั่นใจ เนื่องจากการต่อสู้หรือการสู้รบสมัยก่อน
ไม่ได้ใช้วิทยาการล้ำลึกอย่างชั้นหลัง การสู้รบอาศัยฝีมือและความรู้เกี่ยวกับพิชัยสงครามเป็นหลัก
แม้คนใดจะมีฝีมือใช้อาวุธหลายประเภทเป็นยอด แต่ถ้าไม่สามารถควบคุมจิตใจ กำลังใจ
ให้สม่ำเสมอ มั่นคง ย่อมเพลี่ยงพล้ำแก่ฝ่ายตรงกันข้าม หรืออาจจะหวาดกลัวจนวิปลาสเสียสติ
คาถาอาคมของไทยที่ใช้ในการต่อสู้และการรบค่อยๆ หายไปเมื่อการสู้รบได้เปลี่ยนไปใช้อาวุธใหม่ๆ
จากตะวันตกมากขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ การจัดทัพทหารอย่างตะวันตกก็ทำให้พิชัยสงครามหมดความสำคัญ
คาถาอาคมแม้คงอยู่แต่คงเหลือแต่รูปแบบความเชื่อที่สืบต่อกันมา โดยไม่ได้ทราบจุดมุ่งหมายที่แท้จริง
เคยถามพระที่ท่านศึกษาเกี่ยวกับเลขยันต์ คาถาอาคมเขมรต่างๆ ในเชิงวิชาการ
ท่านบอกว่า เรื่องเลขยันต์คาถาอาคมสมัยก่อนไม่ใช่ว่าใครจึงจะเขียนก็เขียนได้
ทุกส่วนอักษรที่ลงไปเส้นหนึ่งนั้นมีคาถาบริกรรมกำกับตลอดแต่ต้นจนจบ ใช่ว่าเขียนแล้วจะขลัง
มีการเพ่งสมาธิ เพราะคาถาบางอย่างต้องสวดกำกับกันหลายจบ การสวดหลายจบ
ทำให้ผู้สวดมีสมาธิไม่วอกแวก คาถาอาคมจะสวดก็ต่อเมื่ออยู่ในที่อันควรหรือภาวะจำเป็นคับขัน
ไม่ใข่นึกอยากสวดก็สวดขึ้นมา แม้จะเป็นไสยศาสตร์ แต่ก็มีพื้นฐานไปจากพุทธศาสนา
ดังสังเกตว่า ในขุนช้างขุนแผน ผู้ที่เรียนคาถาอาคม ก็เรียนบาลี อักษรขอม กรรมฐานวิปัสสนา
นั่งสมาธิกันทั้งนั้น แม้ไม่ได้มุ่งบรรลุธรรม แต่ก็ช่วยให้ใจสงบแน่วแน่
ท่านยังว่าอีกว่า ที่โบราณท่านให้กลั้นใจเมื่อจะทำการอะไรบางอย่างในเชิงเอาเคล็ดนั้น
เพราะโบราณท่านอยากให้คนที่ทำมีสมาธิแม้แต่ชั่วขณะหนึ่ง ไม่ใช่ว่าสักแต่ทำๆ ไปให้เสร็จ
อย่างในสวัสดิรักษากล่าวว่าให้เปลี่ยนเสื้อผ้านุ่งห่มตามสีวันทั้ง ๗ นั้น เป็นอุบายให้ผุ้ออกรบ
หมั่นเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ให้ใส่ซ้ำ เพราะการรบต่อสู็้ ย่อมมีเหงื่อไคลมีเลือดหรือสิ่งสกปรก
กระเด็นมาแปดเปื้อนร่างกาย ถ้าสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิมไม่เปลี่ยน อาจจะทำให้เจ็บป่วยติดเชื้อโรคได้
ดีไม่ดีถ้าเป็นโรคระบาดด้วยแล้ว อาจจะทำให้คนในทัพเจ็บป่วยอ่อนแอ และเสียขวัญกำลังใจ
ในการรบ ฉะนั้น ความเชื่อโบราณบางเรื่องก็มีคำอธิบายได้ แต่ท่านไม่บอกตรงๆ คนชั้นหลัง
หลงเอาแต่ถ้อยคำตรงๆ เลยเไม่เข้าใจข้อเท็จจริงที่โบราณท่านสอน
วิชาความรู้ของเก่าๆ โบราณจึงถูกวิชาการใหม่ ดูถูกว่าครึ คนรุ่นหลังหัวอ่อนก็เชื่อตาม
พากันละทิ้งภูมิปัญญาที่คนเก่าแก่ยึดถือ ไปหลงใหลของใหม่ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องมาหาของเก่า
เพราะของใหม่ใช้ได้ประเดี๋ยวประด๋าว ผิดที่ผิดทางผิดกาละเทศะ ไม่เหมาะ
เรื่องการลองของลองวิชานั้น สมัยก่อนเขาด้วยความเคารพครู ไม่ใช่เพื่ออวดตัวเอง
คาถาทุกคาถาจะศักดิ์สิทธิ์ได้ผลหรือไม่ สมาธิและความตั้งใจเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง
อันที่จริง เรื่องสวัสดิรักษาก็น่าเอามาชำแหละดูกันสักที ไหนๆ ก็เพิ่งผ่านวันสุนทรภู่ไปไม่กี่วันเอง
ได้ทราบว่า คุณวันดีมีครูดีเหมือนกัน น่าจะประเดิมกระทู้เรื่องนี้ได้อย่างมีสง่าเป็นแน่
