เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 21236 เอช หรือ เฮช ออกเสียงคำในภาษาอังกฤษ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 10:48

อยากออกสำเนียงพูดแบบไหน  ลองฟังดูค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 11:43

ภาษาอังกฤษภาษาเดียวนี่แหละค่ะ  แต่เมื่อแพร่หลายไปหลายประเทศ หลายท้องถิ่น  ก็ออกเสียงต่างกันจนกระทั่งไม่รู้จะฟันธงลงไปตรงไหนว่าอย่างไหนถูก อย่างไหนผิด
คนอังกฤษที่ถือว่าภาษาที่พูดเป็นทางการในประเทศคืออังกฤษแท้  ส่วนที่พูดกันในประเทศอื่นอย่างอเมริกาคืออังกฤษเหน่อ หรืออังกฤษแปร่ง     แต่ในทางตรงกันข้าม คนอเมริกันที่อยู่ทางรัฐตะวันออกก็บอกว่าสำเนียงอังกฤษของพวกเขาที่สืบทอดจากปู่ย่ากันมากว่า 200 ปีนี่แหละสำเนียงแท้   ส่วนอังกฤษในลอนดอนเพี้ยนไปนานแล้ว

เคยเรียนมาว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ว่ามีแต่เสียง T  หรือ ท  หากไร้เสียง ต    หรือมีแต่เสียง P หรือ พ  หากแต่ไร้เสียง ป  อย่างที่เข้าใจกัน     แต่จะออกเสียง ต  และ ป ได้ก็ต่อเมื่อพยัญชนะนำคือ S   
เช่น spear  ต้องออกเสียงว่า สเปียร์    จะเป็น สเพียร์ ไม่ได้   ด้วยเหตุนี้ Shakespeare จึงต้องเป็น เชกสเปียร์  ไม่ใช่ เชกสเพียร์

spinning =  สปินนิ่ง  ไม่ใช่ สพินนิ่ง

storm  =  สตอร์ม   ไม่ใช่  สทอร์ม
student =  สติวเด้นท์   ไม่ใช่ สทิวเด้นท์

ต้องถามคุณตั้งและท่านอื่นๆอีกแล้ว  ว่าหลักการออกเสียงนี้ พูดกันโดยทั่วไปหรือเปล่าคะ?

อ้อ  มีอีกตัว คือ S  ตามด้วย K  ออกเสียงเป็น ก  ไม่ใช่  ค
school  = สกูล   (ในที่นี้ ch ออกเสียงเป็น K)
บันทึกการเข้า
กระต่ายหมายจันทร์
พาลี
****
ตอบ: 284


ศศ (สะสะ) แปลว่ากระต่ายและกวาง


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 12:47

ออกเสียง H ว่า เอช มาตลอดชีวิต ... แต่ก็ถูกทำให้สับสนเป็นระยะโดยคนที่ออกเสียงว่า เฮช ... ความสับสนยิ่งหนักขึ้นเมื่อต้องมีการสะกดตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์

ทุกวันนี้เลย H for Hong Kong ตลอด พูดยาวขึ้นอีกนิดแต่ไม่ต้องป่วนจิตกับการสะกดผิดอีกต่อไปค่ะ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 13:24

เข้าห้องเรียนกันหน่อย



ฟังคุณครูออกเสียงแล้ว

อักษร H ไม่มีทางเขียนเป็นภาษาไทยได้ถูกต้อง.......เอช ช ช ช

 ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 18:11

....เคยเรียนมาว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ว่ามีแต่เสียง T  หรือ ท  หากไร้เสียง ต    หรือมีแต่เสียง P หรือ พ  หากแต่ไร้เสียง ป  อย่างที่เข้าใจกัน     แต่จะออกเสียง ต  และ ป ได้ก็ต่อเมื่อพยัญชนะนำคือ S   
เช่น spear  ต้องออกเสียงว่า สเปียร์    จะเป็น สเพียร์ ไม่ได้   ด้วยเหตุนี้ Shakespeare จึงต้องเป็น เชกสเปียร์  ไม่ใช่ เชกสเพียร์
spinning =  สปินนิ่ง  ไม่ใช่ สพินนิ่ง
storm  =  สตอร์ม   ไม่ใช่  สทอร์ม
student =  สติวเด้นท์   ไม่ใช่ สทิวเด้นท์

ต้องถามคุณตั้งและท่านอื่นๆอีกแล้ว  ว่าหลักการออกเสียงนี้ พูดกันโดยทั่วไปหรือเปล่าคะ?

อ้อ  มีอีกตัว คือ S  ตามด้วย K  ออกเสียงเป็น ก  ไม่ใช่  ค
school  = สกูล   (ในที่นี้ ch ออกเสียงเป็น K)

ในแต่ละภาษามีข้อยกเว้นที่ไม่คอยจะมีเหตุผลตายตัว
กรณี ตัว t ที่หากมีตัว s นำอยู่ข้างหน้าแล้วออกเสียงเป็น ต แทนที่จะเป็น ท นั้น ผมยังนึกไม่ออกว่าจะมีคำใดที่ยกเว้นบ้าง  คำที่ลงท้ายด้วย te ก็ออกเสียงตัวสะกดเป็น ต เหมือนกัน แต่หากมีตัว i นำหน้า (ite) กลับออกเสียงตัวสะกดไปทางตัว ท

แต่สำหรับกรณีตัว s นำหน้า ch แล้วออกเสียงเป็นตัว k นั้น มีบางคำที่มีข้อยกเว้น เช่น schrub (ซึงปรกติจะเขียน shrub)  และ schengen (ต้นตำหรับเป็นภาษาอะไรก็ไม่ทราบ) ทั้งสองคำนี้ ตัว sch ออกเสียงเป็น ฌ (ชอ..เชอ) ที่ปลายเสียงออกมาโดยมิต้องอ้าปาก ต่างกับ ช..ช้าง

 

บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 19:47

ตัว h ที่ปัจจุบันออกเสียงทั้ง เอช และ เฮช นั้น

เท่าที่ประสบมา ผมเห็นว่า ออกเสียงว่า เอช นั้น ถูกต้อง
ด้วยเหตุผลว่า เท่าที่เคยร่วมประชุม ประสานงาน และติดต่อกับคนที่ทำงานในระบบ UN ที่เวียนนาต่อเนื่องประมาณ 4 ปี ผมไม่เคยได้ยินการออกเสียง เฮช เลย จากบุคคลต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ทางการทูตของประเทศต่างๆและเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆของ UN เอง 
ที่สามารถกล่าวเช่นนี้ได้ ก็เพราะว่าออสเตรียนั้น ใช้ภาษาเยอรมัน คำต่างๆสะกดด้วย sch เป็นจำนวนมาก เมื่อถามไถ่กันถึงสถานที่ต่างๆก็มักจะต้องมีการสะกดและเขียนกัน จึงได้ยินการออกเสียงตัว h ค่อนข้างจะบ่อยมาก     

การออกเสียง เฮช นั้น  สำหรับผมแล้วได้ยินในออสเตรเลียเป็นหลัก ซึ้่งก็ทราบกันอยู่แล้วว่าต้นตอของภาษาออสเตรเลียนั้นมากจากพื้นใดของอังกฤษ

ประเด็นที่ว่า ทำไมจึงได้ยินการออกเสียง เฮช กันอย่างมากมายนั้น ผมคิดว่ามาจากสาเหตสองประการ คือ ประการแรก ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษอยู่ประเทศเดียวที่อยู่ใกล้ที่สุดกับภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียเปิดกว้างพอสมควรสำหรับการรับนักศึกษาจากภูมิภาคนี้ และยังให้ทุน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือฝึกอบรมในสาขาวิชาการต่างๆแก่ประเทศในภูมิภาคนี้ รวมทั้งการอบรมภาษาอังกฤษด้วย ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลียจึงแพร่หลายมาก มีอยู่อย่างเดียวที่ยังไม่ค่อยเห็น คือ สำเนียงที่ไม่เอาติดกลับมา นอกจากนั้นเอามาเกือบหมด ทั้งกระบวนวิธีเขียนและการบรรยายเรื่องราว ซึ่งผมเห็นว่ามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ และภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน     ประการที่สอง เมื่อภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้ได้ทั่วโลก คนก็อยากเรียนกันกับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ก็คงจะเป็นเหตุบังเอิญที่คนอังกฤษที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศที่ชอบเที่ยวแบบต้นทุนต่ำ ก็จะหารายได้จากการสอนภาษา ไม่ว่าจะเป็นแบบอยู่ตามระยะเวลาของการอนุญาตให้เข้าเมือง การต่อวีซ่า หรือการแต่งงาน คนเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นคน (อนุมานว่า) อยู่ใน out skirt ของลอนดอน  (เราไม่ค่อยจะพบชาวสก็อต หรือเวลซ์ หรือไอริช)  เฮช ก็จึงกระจาย
 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 20:18

ปัจจุบัน ภาษาอังกฤษแบบ Singlish ก็เริ่มมีเอกลักษณ์มากพอที่จะกล่าวถึงกันในหมู่คนในยุโรปแล้ว

ในอนาคตอันไกล้ เมื่อเิกิด AEC   ดีไมดีก็อาจจะมี Thailish ก็ได้เหมือนกัน
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 20:42

ศาสตราจารย์ John C. Wells ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่อง การออกเสียงอักษร H ของคนอังกฤษ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ไว้ดังนี้

Ho, ho, ho
 
How do we pronounce the name of the letter H?

All dictionaries agree that it is eɪtʃ. Only LPD gives an alternative possibility, heɪtʃ, which it marks with the symbol § to show that it is not the RP form. I added the note The form heɪtʃ is standard in Irish English, but not BrE or AmE. This claim is possibly too sweeping, but on visits to Irish universities I had noticed Irish academics at all levels using this form. I was particularly struck by the expression piː heɪtʃ diː PhD.
 
At that time, twenty or thirty years ago, calling the letter heɪtʃ was perceived in England as simply wrong, a pronunciation likely to be used only by the illiterate and uneducated — the people who were prone to h-dropping and to hypercorrect h insertion.
 
But things seem to have changed. Nowadays many younger Londoners, at any rate, call the letter H heɪtʃ. I have taught undergraduates who would defend this as the correct pronunciation, perhaps on the grounds that the name of a consonant letter should contain an instance of the corresponding consonant sound.
 
So I included the question of aitch or haitch in the on-line survey of pronunciation preferences that I conducted earlier this year. Here are the findings.



The overall voting figures were 84% for the traditional form, 16% for the newcomer. As you can see from the graph, heɪtʃ is indeed an innovation that appears to be spreading rather fast. As many as 24% of those born since 1982 voted for it.

จะเลือกออกเสียงตามเสียงส่วนมากหรือเสียงส่วนน้อย

ก็เลือกเอา

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 21:58

ยอมรับครับ เขาเป็นเจ้าของภาษา แถมเป็น ศ. สอนหนังสืออีกด้วย ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ 

ผมก็ว่าไปตามที่เคยได้ยิน ได้มีประสบการณ์ เท่านั้น  ยิ้มกว้างๆ

เคยไปไอร์แลนด์ ดูงาน พูดคุย ฟังบรรยาย อยู่อาทิตย์นึง ไม่รู้สึกสะดุดหูกับเสียง เฮช เลย ทั้งในเขตเมือง Dublin และตามเมืองริมทะเลทางใต้ คงจะสัมผัสน้อยไป

ที่จำได้แม่น คือ Tourist day ที่เพื่อนอเมริกันและพรรคพวกอีก 4-5 คนได้ยินเหมือนกันว่า Thursday  ซึ่งต่างก็เข้าใจเหมือนกันว่าอยู่โรงแรมนี้ได้ถึงเช้าวันพฤหัสบดี จริงๆแล้วต้องออกตั้งแต่วันอังคาร เพราะเขาจะใช้สถานที่จัดงาน  ก็เลยต้องระเห็ดออกไปพักเมืองชายทะเลห่างออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงทางรถไฟ กลับสนุกมากกว่าครับ ไอริชพับแบบชาวบ้าน ทั้งเบียร์ ทั้งอาหาร ทั้งดนตรี ทั้งผู้คน เยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะ Irish stew และ Lamb cutlet
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 17 มิ.ย. 12, 23:00

ในเมื่อ 84%  ยังเอชอยู่  แค่ 16 % คือพวกคนรุ่นใหม่เปลี่ยนเป็นเฮช   ดิฉันก็ขอยึดความเคยชินเดิมว่า  เอช  ค่ะ  ไม่ขอปรับเป็นเฮชนะคะ
แต่ถ้า เฮ็ดหยัง  ละก็ คงเดิม  ไม่เป็น เอ๊ดหยัง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 18 มิ.ย. 12, 03:25

การออกเสียงที่สับสนอีกอย่างหนึ่งของชื่อคนไทย   คุณตั้งเคยเกริ่นเอาไว้ในกระทู้เก็บตกมาจากการเดินทาง  คือการสะกดแบบโรมันในชื่อและนามสกุลคนไทย   แต่ต้องออกเสียงแบบภาษาอังกฤษหรืออเมริกัน หรือออสเตรเลีย

เช่น ชื่อดิฉัน สะกดด้วย V   แต่ออกเสียงเป็น W   เพราะภาษาไทยไม่มีเสียงตัว V   มีแต่เสียง W    ทีนี้ชื่อไทยที่เอามาจากบาลีสันสกฤตนั้น  เมื่อถอดด้วยอักษรโรมัน ไม่มีอักษร W  มีแต่ V  ก็ต้องสะกดว่า V
ตัว V  นั้นฝรั่งออกเสียงคล้ายๆ ฟ  มากกว่า ว   W ต่างหากออกเสียงเป็น ว    ยิ่งเยอรมันด้วยแล้ว V = F  รถ Volks  จึงอ่านว่ารถโฟล์ค  ไม่ใช่รถ โวล์ค
เวลาสะกดชื่อให้ฝรั่งฟังทีไร ต้องแถมท้ายว่า ออกเสียง W นะคะ   เพราะเวลาเราแนะนำตัวเอง กับเวลาเขาอ่านชื่อเรา  ออกเสียงไม่เหมือนกัน  ทำให้อาจารย์ฝรั่งที่รู้จักนักเรียนไทยเป็นครั้งแรก ทำหน้ายู่ยี่ไปตามๆกัน
ยิ่งต้องเรียกเราว่า Miss แล้วตามด้วยนามสกุลซึ่งสะกดเรียงเป็นตับประมาณ 12 ตัวแล้ว   อาจารย์สอนวรรณคดีจะยกธงขาวเอาง่ายๆ
เพื่อนคนไทยที่ไปเรียนด้วยกัน มีนามสกุลพระราชทานที่ยาวเฟื้อย รวมพยัญชนะถึง 19 ตัว นับว่าน่าสงสารอาจารย์มากทีเดียวกว่าจะหาทางออกได้   

กลับมาที่ตัวอักษรไทยสะกดภาษาฝรั่ง
ตัว พ  ควรสะกดด้วย P  แต่โรมันให้สะกดด้วย B   ปัญหาคือแล้ว บ ใบไม้  จะสะกดด้วยอะไรดีล่ะ
คำว่า บูรพา   ควรสะกด Buraba  อย่างนั้นหรือ?  ก็จะออกมาเป็น บูราบา น่ะซี  แต่ต้องอ่านว่า Burapa

ตัว ภ เราใช้ bh   
ชื่อวิภา จึงเป็น Vibha   ฝรั่งออกเสียงว่า ฟิบ-ฮา

บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 18 มิ.ย. 12, 18:33

ภาษาแขกไม่มีอักษร บ ครับ

บ เป็นประดิษฐกรรมของภาษาไทยที่เอาไว้เขียนคำเสียง บอ ซึ่งแขกเขียนด้วยตัวอักษร พ ซึ่งผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่สงสัยว่าน่าจะเกี่ยวพันกับสำเนียงปากใต้บ้านเราอย่างใกล้ชิดครับ

โดย บ ในอักษรไทยนั้นดัดแปลงมาจากอักษร ป และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไทยจะใช้ บ แทนที่ ป ในคำแขกครับ

บุรพา มาจาก ปุรพา ดังนั้นจึงเขียนว่า puraba ครับ เขียนอย่างแขกปัจจุบันนิยมว่า purab ครับ

สามสิบปีที่แล้ว ผมเคยอ่านหนังสือแปลโดยหนูเอียด (คุณอุดร จารุรัตน์) ฝรั่งก็ล้อเลียนเมืองไทยเรื่องนี้เหมือนกันครับ ตอนนั้นผมก็อ่านไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยจะเขียน บ ด้วย p และ พ ด้วย b ได้ แต่ผู้แปลก็ทำเชิงอรรถไว้ว่าไม่รับมุกนี้เหมือนกันครับ

: )
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 18 มิ.ย. 12, 19:15

มีเรื่อง ภาษาอังกฤษภารตะ เขียนโดย คุณธวัช  จันทร์สาส์น มาให้อ่าน

เมื่อผมได้อ่านหนังสือ Guiness Record เล่มหนึ่งซึ่งบันทึกสุดยอดสถิติโลกสารพัดด้าน  ผมสุดดีใจเมื่ออ่านพบว่าสถิติพระมหากษัตริย์ในโลกที่ครองราชบัลลังก์นานที่สุด คือ พระเจ้าแผ่นดินของไทย  หนังสือเล่มนี้พิมพ์พระปรมาภิไธยของพระองค์เป็นภาษาอังกฤษว่า King Bhumibol Adulyadej

ผมนำเรื่องนี้มากล่าวถึงก็เพราะเมื่อได้นำเรื่องนี้ไปให้ลูกศิษย์อ่านในชั้นแล้วเขาถามว่า ทำไม พระนาม “ภูมิพล”  จึงไม่ใช้อักษรตัว P แต่ใช้ Bh  และตัวอื่น ๆ ด้วยทำไมดูแปลก ๆ ไป

เรื่องการสะกดแบบนี้เป็นเรื่องของภาษาอังกฤษที่เราเรียกว่า Pali-English  คือ บาลีอังกฤษ  หรือ จะว่าภาษาอังกฤษแบบบาลี ก็สุดแล้วแต่

อันว่าภาษาบาลีหรือสันสกฤตเป็นภาษาที่ใช้ในคำสอนของพระพุทธศาสนาซึ่งเราเคารพเทิดทูน    ภาษาบาลีจึงถือว่าเป็นภาษาสูงศักดิ์   เราจึงนำภาษาบาลี(รวมทั้งสันสกฤต)มาตั้งชื่อเฉพาะต่างๆ เช่น ชื่อวิทยาการ ชื่อสถานที่และชื่อกับนามสกุล ดังที่เห็นกันทั่วไป

แต่ในอังกฤษบาลีดูจะมีเสียงตัวอักษรหลายตัวที่ไขว้สลับกันกับเสียงอักษรภาษาอังกฤษแท้  อ้าว…..อย่าเพิ่งปวดหัวสิครับ  ใจเย็น ๆ น่า  มาดูอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า

สองบรรทัดต่อไปนี้บอกไว้เสียก่อนนะครับว่า  เป็นการเทียบเมื่อนำมาเขียนนะครับ

      ในอังกฤษแท้    P  =   พ      B   =    บ   D  =   ด   G  =  ก   K  =  ค   SH  =  ช 

      ในบาลีอังกฤษ  P  =  บ, ป   B   =    พ  D  =   ท   G  =  ค   K  =  ก  SH  =  ศ, ษ  BH  =  ภ

นี่ยังไงที่ผมว่ามันไขว้กันอยู่

ตัว P กับ B ในภาษาอังกฤษบาลีนั้นตอนอ่านออกเสียงก็ออกเสียงปกติ แต่พอนำมาเขียน มันจะกลับกันไปเลยคนละอย่างเลยครับ  เช่น

Buddha   แม้เราหรือฝรั่งจะอ่านออกเสียงว่า  “บุดด้า”   แต่เมื่อนำมาเขียนสิครับ  เรามิได้เขียนว่า “บุดด้า” เพราะตัว B ในอังกฤษบาลี เทียบกับอักษร  “พ”   ครับ  เราจึงเขียนว่า “พุทธ” ไงล่ะครับ    หรือคำว่า Bihar State  ท่านคิดว่าเป็นรัฐอะไรครับ  คงไม่มีใครเขียนเป็นไทยว่า “บิฮาร์” เพราะที่ถูกต้องเป็น “รัฐพิหาร”

มาดูตัว P บ้าง    ตัว P ในอังกฤษแบบบาลี  เมื่อเขียนเป็นไทยมักใช้ตัว “บ”  หรือ “ป” แทนที่จะเป็น “พ” เหมือนอังกฤษปกติ  เช่น  Pali  เขียนเป็นไทยก็ “บาลี” (หรือ “ปาลี”  แต่ไม่ค่อยได้ยินมากนัก)    ชื่อเมือง Jaipur  ก็คือ  “ไชยปุระ”

ตัว  k  ล่ะ   ในอังกฤษปกติ  k =  ค  แต่ อังกฤษแบบบาลี  k = ก  เช่น  Sanskrit  ไม่มีใครเขียนว่า “สันสคริต”   มีแต่ “สันสกฤต”  หรือชื่อมหาวิทยาลัย Chulalongkorn  แน่นอน  เขียน “จุฬาลงกรณ์” อีกคำคือพระราชวงศ์จักรีของไทย  สะกดเป็นบาลีอังกฤษก็ว่า  Chakri   ไม่มีใครสะกดเป็นอย่างอื่น

เสียง  “ค”  แทนที่จะเป็นตัว k แบบอังกฤษปกติ  กลับเป็นตัว g  แทน  ตัวอย่างเช่น  การทำกายบริหารดัดตนท่าโน้นท่านี้ที่เรียกว่า “โยคะ”  ก็สะกดเป็นบาลีอังกฤษว่า “yoga”  มิใช่ “YOKA”  เพราะคำว่า “โยคะ”  ไม่ใช่ของฝรั่งแต่เป็นของดินแดนภารตะ  ถ้าอย่างนั้น คำว่า Buddha Gaya  ใครๆก็ทราบดีว่าคือ  “พุทธคยา”  นั่นแหละ    อีกคำคือ  GURU  ใครจะเขียนเป็นคำไทยว่าอย่างไรระหว่าง  “กุรุ”  กับ “คุรุ”  ??

ตัว   B  เมื่อกี้เราคุยกันว่าเขียนเป็นไทยได้ตัว “พ” สำหรับ “ภ”  ก็ใช้  bh  เช่นนามสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขียนเป็นอังกฤษว่า Chulabhorn Research Institute

เวียนหัวหรือเปล่าครับ……..  เอางี้ดีกว่า  มาดูตัวอย่างคำต่อไปนี้ที่มีในภาษาอังกฤษ  ท่านลองเอากระดาษปิดสดมภ์ด้านคำไทยไว้สิครับเผื่อจะลองคิดเขียนออกมาเป็นคำไทยเล่นๆแก้ง่วงดู  ว่าน่าจะเขียนว่าอย่างไร   อาจจะหายง่วงหายเวียนหัวก็ได้นา

          SHIVA                        พระศิวะ                      KARMA                                  กรรมะ

          KRISHNA                   พระกฤษณะ                 DHARMA                                 ธรรมะ

          BRAHMA                   พระพรหม                   RAJA, RAJAH                           ราชา

           MAHARANEE           มหารานี                       PUNDIT                                   บัณฑิต

           BHRATAR                 ภารตะ                         VISHNU                                  พระวิษณุ

           VEDA                         เวท                           MADHYA PRADESH               มัธยประเทศ

           GANDHI                     คานธี                         HIMALAYA                             หิมาลัย

           BRAHMAN                พราหมณ์                     SADHU                                   สาธุ

           NIRVANA                  นิวรณ์                         GAUTAMA SIDDHARTA           โคตมะ สิทธัตถะ

           NANDA DEVI            นันทาเทวี                   

           HINAYANA                หินยาน                        MAHABHARATA                      มหาภารตะ

           MAHANADI               มหานที                        AHIMSA                                 อหิงสา

           MAHAYANA             มหายาน                         SRINAGAR                            ศรีนคร

           VARANASI                พาราณสี                      JAVA                                      ชวา

           NAGPUR                    นาคปุระ                      SAMSARA                             วัฏสงสาร

เอ….พอเขียนมาถึงตรงนี้ก็อดที่จะวกกลับไปพูดย้อนอีกสักนิดไม่ได้ครับ  อย่างคำว่า SAMSARA   นี่น่ะ  ถ้าฝรั่งออกเสียงคำนี้ก็จะได้ว่า “แซมซ้าร่า” อะไรทำนองนี้ หรือคำว่า “MAHANADI”  ฝรั่งก็จะพูด  “เมอะฮ้าน่าดี้” ทำนองนี้เหมือนกัน  และคำอื่น ๆ ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดฝรั่งจะออกเสียงตามแบบฝรั่งไป ผมเพียงแต่จะบอกท่านว่าคำเหล่านี้ที่มีต้นตอมาจากภาษาบาลีสันสกฤต  เวลานำมาเขียนเป็นไทย  ก็จะปรับให้เป็นแบบคำไทยบาลี “เมอะฮ้าน่าดี้”  ก็เป็น  “มหานที”   ด้วยประการฉะนี้  แต่เดี๋ยวนะครับ  ช้าก่อน…ยังไม่เอวัง…………

ท่านลองกลับไปดูคำว่า  Himalaya,  Hinayana, Mahayana  สิครับ  ถ้าเป็นฝรั่งอ่านก็จะออกเสียงว่า  หิม้าล่ะย่ะ  หิน้าย่ะน่ะ   มะฮ้าย่ะน่ะ….   เออ..พอมาเขียนเป็นไทย  กลับกลายเป็น  “หิมาลัย  หินยาน  และ มหายาน”  เป็นงั้นไป  หรือแม้แต่  “มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย”  ก็สะกด Mahachulalongkorn Rajavidayalaya  ทำนองเดียวกัน   ถึงจะเขียนต่างไปจากเดิมแต่ความหมายก็ยังคงไว้มิได้เปลี่ยนแปลง 

พูดง่าย ๆ ก็เหมือน “แก้ว”  ในคำไทย  พอเป็นบาลีว่า “รัตน” (อ่านว่า รัด-ตะ-นะ)  คนไทยคงไม่ชอบเสียง “รัด-ตะ-นะ”  เพราะยืดยาว… เลยเอาทัณฑฆาตหรือไม้การันต์มาใส่ไว้บังคับมิให้ออกเสียงเสียเลย  กลายเป็น  “รัตน์” แบบนี้  แล้วก็อ่านว่า “รัด”  เข้าท่าดีไหมล่ะ แต่ถึงจะเขียน  “รัตน์”  สั้น ๆ อ่านว่า “รัด”  สั้น ๆ  ก็ยังคงมีความหมายเหมือน  “รัตนะ”  “รัตนา”  หรือ “รัตนัง” ทุกประการ  คือ “แก้ว” ทั้งหมด

ท่านครับ….นึกได้อีกนิด  ตอนอ่านหนังสือ Guinness Record เล่มที่ว่า ได้เจอเรื่องหญิงเก่งชาวอินเดียคิดเลขได้เร็วที่สุดในโลก  ชื่อว่า Shakuntala Devi  นี่ก็ “ศกุนตลา  เทวี”  เพราะดีนะครับ

ก่อนปิดท้าย ผมฝากให้ทายเล่นสนุก ๆ ว่า แม่น้ำสายหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดียและปากีสถานทางตะวันออกเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู  ยาวประมาณ  ๑,๕๖๐  ไมล์  ไหลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาหิมาลัยลงไปจนถึงอ่าวเบงกอล   แม่น้ำสายนี้  ภาษาอังกฤษเขียนว่า Ganga  และฝรั่งออกเสียง “กังก้า”

คำถามถามว่า     ได้เจ้าแม่น้ำ “กังก้า”  นี่น่ะ   ถ้าจะเขียนเป็นคำในภาษาไทย จะเขียนว่าอย่างไร

ผมว่าท่านตอบได้ครับ…มั่นใจ…. ถ้าตอบไม่ได้เหลือบมองคำตอบข้างล่างครับแล้วจะร้อง  “เฮ้ย..”



Ganga คือ แม่น้ำคงคา  ครับ

 ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
กระต่ายหมายจันทร์
พาลี
****
ตอบ: 284


ศศ (สะสะ) แปลว่ากระต่ายและกวาง


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 18 มิ.ย. 12, 20:02

ในฐานะที่มีชื่อจริงจากเหง้าภาษาสันสกฤต พบว่าเวลาไปอินเดียจะสานสัมพันธ์ได้เร็วมาก เพราะคนรอดูหน้าว่าใครกันมีชื่อเหมือนคนอืนเดียแต่ไม่ใช่คนอินเดีย ยิ่งเห็นหน้ายิ่งงง แขกคงคิดว่าหมวยนี่มาจากไหน ทำไมชื่อแบบนี้ได้ ก็เลยได้โอกาสอธิบายความสัมพันธ์อันแนบแน่นของสองประเทศที่เชื่อมกันในหลายมิติ เป็นจุดเริ่มของบทสนทนาละลายน้ำแข็งได้ดีเลยค่ะ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 18 มิ.ย. 12, 20:53

ในแต่ละภาษามีข้อยกเว้นที่ไม่คอยจะมีเหตุผลตายตัว
กรณี ตัว t ที่หากมีตัว s นำอยู่ข้างหน้าแล้วออกเสียงเป็น ต แทนที่จะเป็น ท นั้น ผมยังนึกไม่ออกว่าจะมีคำใดที่ยกเว้นบ้าง  คำที่ลงท้ายด้วย te ก็ออกเสียงตัวสะกดเป็น ต เหมือนกัน แต่หากมีตัว i นำหน้า (ite) กลับออกเสียงตัวสะกดไปทางตัว ท

แต่สำหรับกรณีตัว s นำหน้า ch แล้วออกเสียงเป็นตัว k นั้น มีบางคำที่มีข้อยกเว้น เช่น schrub (ซึงปรกติจะเขียน shrub)  และ schengen (ต้นตำหรับเป็นภาษาอะไรก็ไม่ทราบ) ทั้งสองคำนี้ ตัว sch ออกเสียงเป็น ฌ (ชอ..เชอ) ที่ปลายเสียงออกมาโดยมิต้องอ้าปาก ต่างกับ ช..ช้าง

ความจริงภาษาส่วนมากจะใช้อักษรแทนเสียงอย่างเป็นระบบครับ แต่ภาษาต่างประเทศที่คนไทยคุ้นเคยที่สุดอย่างภาษาอังกฤษนั้น จะด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ปลายติ่งของทวีปยุโรปหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ทำให้เป็นภาษารวมมิตรที่เที่ยวไปเก็บคำจากเพื่อนบ้านมารวมกันไว้จนเรียกได้ว่าภาษาอังกฤษต้องใช้ความจำเพื่อการออกเสียงเป็นอย่างมาก คำอย่าง schrub หรือ schengen เป็นการเขียนอย่างภาษาเยอรมัน ถ้า ch จะออกเสียง ค ถ้าต้องการเสียง ช ต้อง ch

คำอย่าง fisher ในภาษาอังกฤษจึงกลายเป็นภาษาเยอรมัน fischer ในขณะที่ schengen ผมมั่นใจว่าคนไทยเกินหนึ่งล้านคนออกเสียงว่าเชงเก้น ในขณะที่ต้นตำหรับเขาอ่าน เชงเง่น ครับ

ด้วยความที่ภาษาที่ใช้ตัวอักษรโรมันในการเขียนที่คนไทยคุ้นเคยคือภาษาอังกฤษ บ่อยครั้งที่เราลืมไปว่าภาษาอังกฤษเป็นเพียงหนึ่งในภาษาที่เอาอักษรโรมันมาใช้ ทั้งๆที่ยังมีภาษาอีกมากมายนักที่อ่านเขียนกันด้วยอักษรโรมัน ไม่เพียงแต่ภาษาชาติตะวันตก หลายๆชาติในเอเชียก็ใช้ด้วย จีนมีพินอิน ญี่ปุ่นมีโรมันหยิ เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ พวกนี้ทิ้งอักขรวิธีเดิมของตนเองหันไปใช้อักษรโรมันมานานแล้ว หรือแม้แต่อินเดียที่ยังใช้อักขระของตนเองอยู่ก็มีระบบ romanization ที่ใช้การได้ดีเยี่ยม (ไม่เหมือนของประเทศสารขัณฑ์ที่ใช้ได้แบบครึ่งบกครึ่งน้ำ) ดังนั้นเวลาเห็นคำที่เขียนด้วยอักษรโรมัน อย่างแรกที่ต้องคิดคือ "นี่คือภาษาอะไร" ครับ

บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 20 คำสั่ง