เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 37
  พิมพ์  
อ่าน: 172085 เก็บตกมาจากการเดินทาง
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 09 มิ.ย. 12, 23:19

ส่วนนี่ ที่ไทเป ไต้หวัน
ประเทศที่พัฒนาแล้ว

ผมเห็นครั้งแรกยังงงว่า นี่เธอเล่นขายอะไรกันโจ้งๆข้างถนนอย่างนี้
เพื่อนคนจีนที่นั่นบอกว่า ขายหมาก

ผมยิ่งงงใหญ่


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 10 มิ.ย. 12, 06:35

วัฒนธรรมการกินหมากของไทยเป็นเรื่องของคนแก่ กำลังจะเลือนหายไป

แต่ไปรุ่งเรืองและเป็นเรื่องของวัยรุ่นในดินแดนใหม่ที่ชื่อคล้ายกัน
Taiwan



http://www.youtube.com/watch?v=pINhS6W2qL0&feature=player_embedded#at=539

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 10 มิ.ย. 12, 18:32

เห็นที่พม่าก็ยังกินกันอยู่เป็นล่ำเป็นสัน

เรื่องการกินหมากของพม่านี้ ผมมีข้อสังเกตอยู่บางประการ คือ
  -คนที่มีหมากเคี้ยวอยู่ในปากตลอดเวลา เกือบทั้งหมดจะเป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ ซึ่งส่วนมากหรือแทบจะทั้งหมดจะเป็นคนเชื้อสายอื่นที่มีสายสัมพันธ์ทางกรรมพันธุ์กับชาติพันธุ์ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศ    คนเชื้อสายพม่า (ม่าน) จริงๆ รวมทั้งคนมอญ กะเหรี่ยง ดูจะกินหมากอย่างค่อนข้างจะเป็นกิจลักษณะ คือ เมื่อขึ้นบ้านเขา รับรองแขก และในเวลาพักผ่อน พักกาย ซึ่งสำหรับพวกไทยใหญ่นั้นเืกือบจะไม่เห็นเลย       
  -ภาพของน้ำหมากเต็มไปหมดบริเวณรอยต่อของผนังกับพื้นและโดยเฉพาะบริเวณโคนเสาอาคารนี้ จะพบมากในเมืองย่างกุ้ง และจะพบน้อยลงไปเรื่อยๆในเมืองตามเส้นทางขึ้นเหนือ ตองอู พิมมะนา (เมืองหลวงในปัจจุบัน) พุกาม จนพบน้อยในมัณฑะเลย์ และเกือบจะไม่เห็นคนกินหมากเลยเหนือมัณฑะเลย์ขึ้นไป   ภาพนี้มิไช่จะเห็นเฉพาะในเขตประเทศพม่า ยังเห็นได้ตามแนวชายแดนไทย-พม่าอีกด้วย 

 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 10 มิ.ย. 12, 21:27

กลายเป็นเรื่องหมาก เป็นล่ำเป็นสันเสียแล้ว    เรื่องนี้ยอมแพ้  ไม่มีความรู้ค่ะ

กลับมาเรื่องจีน 
จากประสบการณ์  น้ำเปล่าในเมืองจีนและน้ำแข็งที่ใส่เหยือกมาให้เวลากินอาหารในภัตตาคาร  ใช่ว่าจะไว้ใจได้     เพราะเคยเลือกกินน้ำเปล่าแทนจะกินโค้กมาแล้ว    ปรากฏว่าท้องเสีย   แต่ข้อนี้ขอกล่าวโทษน้ำเพียง ๕๐%   อีก ๕๐%  โทษที่ผักสดงามๆที่เขาเอามาผัดให้กิน เพราะมีข่าวเล่าลือตามมาทีหลัง   ว่ายังใช้ปุ๋ยธรรมชาติอยู่   ไม่รู้ว่าล้างสะอาดหรือเปล่า
ผลจากอาหารและน้ำดื่มก็เลยทำให้ต้องไปใช้ห้องน้ำสาธารณะอย่างไม่มีทางเลี่ยง     จึงพบว่า เทศบาลจีนสร้างสวนสาธารณะได้สวยงามเป็นระเบียบ  สนามหญ้าเรียบ แปลงดอกไม้ทะนุบำรุงจนงามตา      ไม่มีตรงไหนเกะกะรุงรังในสวนกว้างใหญ่    ยกเว้นอย่างเดียวคือทุกขาของเขายังคงสภาพทุกขาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง   
ห้องส้วมของจีน เป็นยกพื้นเทปูนเก่ากระดำกระด่าง  ที่มีรางด้านล่างแล่นผ่านในแต่ละห้องต่อเนื่องกัน     ในรางมีสิ่งปฏิกูลตกค้างอยู่มากมาย  นานๆจึงจะเปิดน้ำล้างรางนี้เสียที     ระหว่างยังไม่เปิด  สภาพสยองขวัญก็จะคงอยู่อย่างนั้น   ก็ไม่เห็นคนจีนเขาสะดุ้งสะเทือนอะไร
รางแบบนี้มีแม้แต่ในภัตตาคาร   อุตส่าห์ปูกระเบื้องก็จริง แต่สภาพก็พอๆกัน

ถ่ายรูปเอาไว้เหมือนกันค่ะ  แต่ดูแล้วไม่เอาลงในกระทู้ดีกว่า   ใครอยากเห็นไปหาดูในกูเกิ้ลเอง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 10 มิ.ย. 12, 21:33

ขอจบเรื่องจีนเพียงแค่นี้ เพื่อจะไม่ทำลายการเจริญอาหารของชาวเรือนไทย
มาต่อเรื่องการเดินทางดีกว่า

ที่นี่ (ซึ่งแก๊งค์ลูกน้ำและไม่ใช่ลูกน้ำคงรู้แล้วว่าที่ไหน) มีที่พักคนเดินทางเรียกว่า Rest Area  ให้แวะจอดรถพักกินอาหารกัน เป็นระยะตามนอกเมืองของเมืองต่างๆ   
จุดแวะพักไม่มีร้านอาหาร   มีแต่ตัวอาคาร ข้างในเป็นห้องน้ำสาธารณะกว้างใหญ่ ที่สะอาด   ไม่รู้ว่าคนงานอยู่ตรงไหนเพราะไม่เคยเห็น แต่เขาก็ดูแลดี    ยกเว้นบางรัฐที่ออกจะไกลปืนเที่ยง  มี rest area บ้านนอกจริงๆคือเป็นชักโครกที่ข้างล่างเป็นส้วมหลุมลึกลงไป   แต่ตัวห้องน้ำและสุขภัณฑ์ขาวสะอาดไม่แพ้เมืองใหญ่

ส่วนในรูปที่ถ่ายมาให้ดู   เป็นเรสต์แอเรียที่เทศบาลเนรมิตหญ้าเขียวและต้นไม้ร่มรื่นขึ้นมาจากบริเวณที่เป็นดินปนทรายแห้งแล้งของแถบภูเขา    กลายเป็นโอเอซิสอยู่จุดเดียว  ให้รถต่างๆแวะมาพักผ่อน กินอาหารที่หอบใส่รถกันมาเอง และเข้าห้องน้ำ ก่อนเดินทางต่อไป
ลงจากรถไปนั่งใต้ร่มไม้  เกือบจะนึกว่าอยู่ในบ้านเรา 


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 10 มิ.ย. 12, 21:36

ส่วนภูมิประเทศรอบๆ    หน้าตามันเป็นแบบนี้


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 05:40

ขอคั่นโปรแกรมด้วยข่าวล่าสุด  ค่ะ

ความจริงก็มาที่นี่ทุกปี(เพียงแต่บอกบ้างไม่บอกบ้าง กับชาวเรือนไทย) แต่ไม่เคยเจอปีไหนดุเท่าปีนี้เลย
เจอประกาศเตือนพายุหมุนทอร์นาโดมาหยกๆ  ต้องนั่งถ่างตาเฝ้าหน้าจอช่องพยากรณ์อากาศ   จนกระทั่งเขาประกาศว่าปลอดภัย    ข่าวบอกว่าปีนี้มี ๕ ลูกนัดกันมาติดๆ    จากนั้นพายุลูกเห็บมาถึง   น้ำแข็งร่วงกราวทำเอารถที่จอดในลานหลังบ้าน กระจกหน้าร้าวไปคันหนึ่ง

วันนี้ ทีวีออกข่าวว่าเกิดไฟป่าบนภูเขา  ในเมืองใกล้ๆห่างจากเมืองนีัไป ๓๐ ไมล์    ทางการกำลังระดมกำลังดับกันจ้าละหวั่น  กะกันว่าเนื้อที่ครอบคลุมประมาณ ๑๔,๐๐๐ เอเคอร์บนภูเขา  ตอนนี้ไฟเขมือบไปเรียบร้อยแล้วประมาณ ๘๐๐๐ เอเคอร์   อาคารหมดไปแล้ว ๑๕ หลัง
น่ากลัวมาก  สามารถมองเห็นได้จากเมืองใกล้ๆ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 05:48

ตอนนี้ผู้คนกำลังอพยพกันอยู่ค่ะ   ไฟยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 11:55

กลิ่นควันไฟจางๆลอยมาถึงเมืองที่อยู่แล้ว   แต่อีกเมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้กว่า ชาวบ้านต้องเข้าบ้านปิดประตูหน้าต่างให้สนิท แล้วเปิดแอร์เอา   ไม่งั้นจะแสบตาแสบจมูก


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 20:12

คุณเทาชมพูจะขอหลบไปจากเรื่องสุขาในจีน แต่ผมจะขออนุญาตเล่าต่อในอีกมุมหนึ่ง

ดังที่คุณเทาชมพูได้เกริ่นไว้ว่า สุขาในจีนนั้น มีสารพัดแบบทั้งแบบแยกห้อง (แต่ประตูใช้การไม่ได้) ซึ่งจะพบเห็นในอาคาร ห้างสรรพสินค้า และแบบนั่งรวมในโรงสุขา (นั่งเห็นหน้ากัน) ซึ่งจะพบเห็นในแหล่งท่องเที่ยวหรือ rest area (ถึงแม้ผมจะไม่กล้าที่จะใช้ในจีน แต่ก็เคยใช้เมื่อสมัยเป็นนักเรียนทั้งสองแบบ)
   
ผมคิดว่าเรื่องนี้ในจีนนั้น มันมีทั้งที่เป็นวัฒนธรรมแต่เดิมและที่ถูกบังคับโดยระบบในยุคหลังๆ
สำหรับเรื่องที่เป็นในเชิงของวัฒนธรรมนั้น ผมไม่รู้ถ่องแท้ในจีน แต่ได้รู้จากสิ่งที่ถ่ายทอดมาอยู่ในเกาหลีและญี่ปุ่น (ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากจีน)
ที่เกาหลีนั้น นักท่องเที่ยวมักจะต้องถูกพาไปที่เมืองหนึ่ง ซึ่งมีสถานที่จำลองสภาพของหมู่บ้านและบ้านเรือนของคนเกาหลีในอดีต ผมจำไม่ได้ว่าชื่อเมืองอะไร (อยู่ห่างจากเมืองหลวงไกลโขอยู่) เป็นสถานที่ๆใช้ถ่ายภาพยนต์สมัยเก่า หากสังเกตดีๆจะเห็นภาชนะไม้รูปทรงคล้ายๆกลองแขก ยาวประมาณ 50 ซม. มีกรวยปากแตรอยู่ที่ด้านข้างของท่อนไม้ ภาชนะนี้คือที่ใส่มูลและปัสสาวะครับ เพื่อเอาไปทำปุ๋ยสำหรับแปลงผักแปลงนา เป็นสิ่งที่ขายได้และก็เป็นธุรกิจที่ดี   ในญี่ปุ่น ก็เช่นกัน เป็นธุรกิจหลักรายได้ดีอย่างหนึ่งในสมัยเอโดะ
สำหรับในเชิงของระบบในยุคหลังๆที่ถ่ายทอดต่อๆมานั้น เนื่องจากแต่ละคอมมูนจะต้องเป็นแหล่งผลิตที่ค่อนข้างจะพึ่งพาตนเองได้ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะต้องเอามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด (ประมวลเอามาจากภาพของคอมมูนหลังม่านเหล็ก) ดังนั้น จึงไม่ค่อยจะแปลกใจที่จะเห็นสุขารวม

ผมเคยเห็นภาพในจีนที่คนหนึ่งนั่งถ่ายหนัก อีกคนหนึ่งยืนคุยด้วย จะไม่มีเวลาอื่นใดอีกหรือไงก็ไม่ทราบ   ทำให้ผมพาลนึกไปถึงว่า บางทีโรงสุขาอาจจะเป็นสถานที่ๆใช้สำหรับแอบคุยหรือแอบทำอะไรลับๆกันก็ได้ เหมือนอย่างที่เคยทำกันเมื่อสมัยเป็นเด็กนักเรียน  ซึ่งก็อาจจะด้วยเหตุนี้อีกด้วย จึงนิยมใช้สุขารวมในจีน

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 20:45

อ้างถึง
บางทีโรงสุขาอาจจะเป็นสถานที่ๆใช้สำหรับแอบคุยหรือแอบทำอะไรลับๆกันก็ได้ เหมือนอย่างที่เคยทำกันเมื่อสมัยเป็นเด็กนักเรียน

ฮ้า ! ทำอะไรหรือครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 21:09

ความสุขในห้องสุขาที่ปนไปด้วยความทุกข์ใจอย่างมากของผมครั้งหนึ่ง เกิดในเขมรครับ

วันหนึ่งต้องเดินทางจากพนมเปญไปเมืองชื่ออะไรจำไม่ได้ อยู่ริมทะเลสาปใหญ่ เพื่อไปดูแข่งเรือ  วันนั้นท้องไม่ค่อยดี ต้องทนนั่งในรถตู้โขยกเขยกไปตามทางลาดยางที่ผิวจราจรเหลือสัก 50% กระมัง ตอนรถรอข้ามน้ำด้วยเท้ง (แพขนานยนต์) ได้จังหวะก็ถามหาที่ปลดทุกข์ เพราะไม่ใหวจริงๆแล้ว  เจ๋งเลยครับ ต้องเดินบนสะพานไม้สองแผ่นประมาณ 15 เมตร ข้ามแอ่งน้ำ ไปยังกล่องไม้ที่สร้างอยู่บนเสาสี่เสาอยู่สูงเหนือน้ำสักประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ผมใช้คำว่ากล่อง เพราะไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรดี เป็นทรงสี่เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 1.5 เมตร พื้นไม้เป็นร่องให้ถ่าย ฝาด้านข้างรอบด้านใช้ไม้กระดานประมาณ 4 แผ่นตีบังเอาไว้ ก็สูงประมาณ 1 เมตรเห็นจะได้ เอาละต้องสู้ สุดทนแล้วนี่ เรื่องยุ่งยากก็เริ่มจากปลดกางเกงลงมา ที่ก็แคบ ยืนปลดคนก็เห็นหมด แถมร่องยังบังคับอีกด้วยให้หันหน้าได้สองทิศเท่านั้น ก็พยายามปลดกางเกงลงมาจนนั่งได้ แต่ฝาที่บังนี้ซี มันบังได้เพียงประมาณใหล่เท่านั้น นั่งมองเขาได้ทั่ว เขาก็มองเห็นเราได้ทั่ว นึกสภาพแล้วก็เหมือนเป็ดลอยน้ำหัวโผล่อยู่ เด่นเป็นเป้าสายตา

มีความสุขที่ปนไปด้วยความทุกข์อย่างแท้จริงเลยทีเดียว

ส้วมในลักษณะนี้ พบเห็นได้ทั่วไปตลอดเส้นทางนอกเมืองฮานอย (เวียดนาม) เช่นกัน ซึ่งจะตั้งอยู่กลางคูน้ำข้างทาง คูน้ำนี้ใช้เลี้ยงปลา และน้ำก็ใช้รดสวนผัก  เจ้าหน้าที่ของเวียดนามเองยังบอกเมื่อตอนต้องแวะกินอาหารเที่ยงที่ต้องแนมด้วยผักสดว่า ผักสดนี้ล้างสะอาดมาก แต่หากไม่มั่นใจและจะไม่กินก็ไม่เป็นไร  ผมเชื่อนะครับว่าคนเวียดนามเป็นคนสะอาดมาก เห็นเขาล้างผักกันและการเตรียมอาหารกันแล้ว ต้องยอมรับว่าดูจะสะอาดมากกว่าร้านอาหารในบ้านเราเสียอีก แต่ อืม์ ก็ยังอดตะขิดตะขวงใจอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละ    

บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 21:17

อ้างถึง
บางทีโรงสุขาอาจจะเป็นสถานที่ๆใช้สำหรับแอบคุยหรือแอบทำอะไรลับๆกันก็ได้ เหมือนอย่างที่เคยทำกันเมื่อสมัยเป็นเด็กนักเรียน

ฮ้า ! ทำอะไรหรือครับ

 ยิ้มกว้างๆ  โดนเบรคซะแล้ว  สมัยเด็กก็แอบสูบบุหรี่เป็นหลัก อย่างอื่นๆนั้นก็สุดแท้แต่ผู้ใดจะคิดใช้สถานที่นี้แอบทำอะไร
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 21:29

ถามเฉยๆ ไม่ได้เจตนาเบรคท่าน  เจ๋ง

ก็เพียงอยากทราบว่าบรรยากาศเช่นนั้น ท่านไปแอบทำอะไรที่ว่าลับๆ นึกว่าไปหาหนูอ้วนๆมาทำอาหารป่าซะอีก

ว่าแต่ว่า เวลาสูดควันเข้าปอด กลิ่นอื่นมันตามเข้าไปด้วยหรือเปล่าละครับนั่น
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 11 มิ.ย. 12, 22:23

เพื่อสร้างความหลากหลายขอบ่นเรื่องห้องน้ำในอังกฤษหน่อยครับ

ที่ประเทศอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ ผมเองก็มีประสบการณ์แค่ในไทยกับอังกฤษ ห้องน้ำในอังกฤษนั้น ก๊อกน้ำมักจะแยกก๊อกน้ำร้อน เย็นเอาไว้
เข้าใจว่าในวัฒนธรรมแบบโบราณ เค้าคงต้องการจะผสมน้ำร้อนน้ำเย็นจากคนละก๊อกไว้ให้เป็นน้ำอุ่นในอ่างล้างหน้า แล้วใช้วักล้างเอา
ทีนี้ยุคสมัยปัจจุบัน ก๊อกแบบที่ผสมน้ำร้อนเย็นออกมาจากก๊อกเดียวก็มีขายมานานแล้ว ห้องน้ำจำนวนมากในอังกฤษรวมทั้งห้องน้ำสาธารณะยังเลือกที่จะแยกก๊อกน้ำร้อนและน้ำเย็นอยู่อีก
ทั้งที่ห้องน้ำสาธารณะเหล่านี้ คงไม่มีใครกล้าผสมน้ำในอ่าง เพราะมั่นใจความสะอาดของอ่างไม่ได้
ปัญหาคือไอ้เจ้าน้ำร้อนก็ร้อนจี๋แทบเดือด น้ำเย็นก็เย็นเจี๊ยบจนมือชา  จะล้างหน้าล้างมือแต่ละทีนี่ลำบากมาก  หาจุดสมดุลไม่ได้
ก๊อกที่รวมน้ำร้อนเย็นไว้ก๊อกเดียวกัน มักจะเป็นก๊อกน้ำในครัว  แต่ในห้องน้ำก็ยังแยกก๊อกไว้ แม้แต่ในบ้านที่เพิ่งสร้างใหม่ๆ ก็ตาม
ถามคนอังกฤษว่าทำไมแยกแบบนี้ เค้าบอกไม่รู้  มันสุดจะไม่สะดวกเสียนี่กระไร  จนวันนี้ผมยังหาเหตุผลดีๆ ที่ฝรั่งยังต้องแยกก๊อกไม่ได้เลย


บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.095 วินาที กับ 20 คำสั่ง