ในฐานะสมาชิกใหม่ได้อ่านกระทู้ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ได้ความรู้หลายเรื่องด้วยกัน ต้องขอขอบคุณประสบการณ์ที่ท่านทั้งหลายได้มาแบ่งปันให้ทราบด้วยครับ
และในฐานะที่เคยทำงานสายการบินดูแลหลายแผนกรวมทั้งแผนก Claim อยากจะแนะนำเรื่องกระเป๋าเดินทางครับว่า
1.ควรเลือกใช้กระเป๋าที่แข็งแรง กันน้ำได้ดีพอสมควร ไม่ควรใช้วัสดุที่เป็นผ้า เพราะว่าพวกนี้จะซึมซับน้ำซ๊อสหรือน้ำอื่นที่แตกมาจากกระเป๋าอื่น หรือโดนฝนจากการเปลี่ยนถ่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุที่ไม่กันของมีคม ดอนเมืองเคยเป็นแหล่งที่โจร ( porter )แอบไปตั้งแค้มป์ในสายพานลำเลียง กรีดกระเป๋ามานักต่อนัก
สมัยก่อนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมักมีกระเป๋าผ้าเล็กๆกันคนละใบ มักโดนกรีดกันเป็นประจำ พอหายหนักเข้าก็มีการสอบสวน จนไปเจอ เศษข้าวปลาอาหารใน สายพานลำเลียง ที่แก๊งค์โจรเข้าไปหลับนอน ทำการโจรกรรมเป็นเรื่องเป็นราว
2. กระเป๋าควรเลือกกระเป๋าที่มีลูกล้อครับ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่อง หรือที่จะโหลดเข้าใต้ท้อง เพราะว่าสมัยนี้ Gate แต่ละGate ยาวมาก การต่อเครื่องแต่ละFlight บางทีเดินกันเป็นกิโล . และอย่าหวังไปพึ่งใคร
3. ถ้ากระเป๋าของเราสูญหายหรือชำรุดมักจะได้เงินชดใช้น้อยมากไม่เกิน ประมาณ $20 ต่อกิโล ( ถ้าจำไม่ผิด ) สาเหตุเนื่องจากสายการบินใช้ Geneva convention ที่ใช้มาตราฐานของ ทองคำ สมัยนู๊นอยู่
แต่เนื่องจากราคาทองคำ ในสมัยนี้สูงมาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ การเดินทางต่างประเทศครั้งต่อไปพยายามออกเป็นตั๋วเครื่องบิน ( เพราะว่าตามปก ของตั๋วเครื่องบิน
มักจะมี Liability พิมพ์ตัวเล็กๆอยู่ ) ถ้ายามปะเหมาะ..เคราะห์ดี กระเป๋าท่านทั้งหลายเกิดหายขึ้นมา จะได้ Claim กันแบบถูกหวยกันเลย

หรือเครื่องบินเกิดหกคะล้ม ก็สั่งได้ กะลูกหลานไว้ว่า ขอค่าชดใช้เป็น ทองคำ ตาม Geneva Convention (หรือ IATA convention หว่า )
4. เวลาไปซื้อของควรเก็บใบเสร็จทุกใบ และเก็บแยกไว้ติดตัว ( ไม่ใช่ใส่ในกระเป๋าที่จะหาย

)
ปล. อย่าไปบอกใคร นะครับ กะเดี๋ยวสายการบินรู้เข้า
ปล. 2 ผมไม่รับรองว่า จะclaimได้นะครับ เพราะว่าของยังไม่หาย และผมยังมีชีวิตอยู่ แต่เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ทราบเรื่องนี้
( แต่เห็นใจผู้ที่กระเป๋าหายมากเพราะของในกระเป๋ามีค่ามากกว่า กก.ละ 4-500 บาท ) และทองคำก็เพิ่งมาขึ้นราคากว่า 1,500 ต่อ ออนซ์เมื่อเร็วๆนี้เอง