ข่าวล่าสุดทางเจ้าของสิทธิเวิ้งนาครเขษม ได้ขายพื้้นที่ให้กับกลุ่มนายทุนเรียบร้อยแล้วนะครับ ไม่ใช่ใครที่ไหนเจ้าของเบียร์สัตว์ประจำชาติไทยนี่แหละ ต้องรอดูต่อไปว่าจะมีการจัดการอย่างไรกับเวิ้งนาครเขษมครับ
"เจริญ"เดินเครื่องเวิ้งนาครเขษม-ผู้เช่าเดิมกว่า 400 รายเคว้ง! หวั่นถูกไล่ที่
updated: 07 ก.ค. 2555 เวลา 21:00:05 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ผู้เช่า 400 ราย "เวิ้งนาครเขษม" เคว้ง ! หวั่นเจ้าของที่ดินรายใหม่ไล่ที่ไม่ต่อสัญญาเช่า เผยผู้ค้าเริ่มถอดใจ เล็งหาทำเลค้าขายใหม่ ชี้สำนักงานบริพัตรผิดข้อตกลงเดิมที่จะขายให้กลุ่มผู้เช่าเก่า ฟากเจ้าสัวเจริญอุบเงียบ ไม่ปริปากแนวทางพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต ด้านทายาทดอดไหว้เจ้าที่เตรียมลุย
หลังจาก "ราชสกุลบริพัตร" ตัดสินใจขายที่ดินพร้อมสิทธิการเช่าย่านกรุงเก่า "เวิ้งนาครเขษม" เนื้อที่ 14 ไร่ ระหว่างเจริญกรุง ซอย 8-10 ให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง และมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างเงียบ ๆ เมื่อ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
ผู้เช่ากว่า 400 รายเคว้ง
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้ลงพื้นที่สำรวจย่านเวิ้งนาครเขษมพบว่า กลุ่มผู้เช่ากว่า 400 รายที่ค้าขายอยู่ในเวิ้งฯ รู้สึกสับสนกับข่าวที่เกิดขึ้นและยังไม่มีการแจ้งข่าวสาร ๆ ใดจากสำนักงานบริพัตร ในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์ ส่วนใหญ่วิตกว่าเจ้าของที่ดินรายใหม่อาจทำการไล่ที่ ไม่ต่อสัญญาเช่า และรื้อทิ้งเวิ้งนาครเขษมซึ่งเป็นโครงการเก่าที่ให้เช่ามาแล้วหลายปี
ส่วนใหญ่อยากรู้ว่า ผู้ครอบครองที่รายใหม่อย่างกลุ่มทุนนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทไทยเบฟฯ หรือเจ้าสัวเบียร์ช้างที่ทุกคนรู้จัก จะพัฒนาโครงการใหม่ไปในทิศทางใด จะเป็นศูนย์การค้าแนวใหม่หรือแบบย้อนยุคสุดจะคาดเดา แต่ชุมชนผู้เช่าที่เวิ้งฯต่างคาดหวังจะให้กลุ่มเจ้าสัวเบียร์ช้างต่อสัญญาเช่า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้ากลุ่มเดิมสามารถค้าขายต่อไปได้
"ตอนนี้พวกเรารู้สึกเครียดและเคว้ง เพราะไม่มีใครมาแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการ เคสซื้อขายที่ดินแปลงนี้ถือว่าเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อเดือนก่อนตัวแทนเวิ้งฯได้เข้าไปเจรจากับผู้จัดการสำนักงานบริพัตรแล้ว ได้รับสัญญาณที่ดีว่าจะต่อสัญญาเช่าออกไปให้อีก 3 ปี ทำให้ทุกคนมีความหวัง จากผลหารือครั้งนั้นทำให้ นายวิศิษฐ์ เตชะเกษม และกรรมการในเวิ้งฯ รวมทั้งนักวิชาการ ตัดสินใจเดินทางไปดูการพัฒนาและอนุรักษ์ชุมชนเก่าที่ประเทศจีน เพื่อนำมาเป็นต้นแบบการพัฒนาเวิ้งฯในอนาคต" แหล่งข่าวในชุมชนดังกล่าว
แคลงใจ เจริญ เสนอซื้อถูกกว่า
ผู้แทนชุมชนยังมีข้อสงสัยอีกว่า หากเป็นกลุ่มนายเจริญซื้อไปจริงในราคา 4,507 ล้านบาท ก็ถือว่าต่ำกว่าราคาที่ชาวเวิ้งฯเคยเสนอไว้ที่ 4,800 ล้านบาท มีส่วนต่างถึง 300 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่าแล้วทำไมสำนักงานบริพัตรไม่ยอมขายให้กับชาวเวิ้งฯ พร้อมย้ำว่า ซึ่งการเสนอซื้อครั้งนั้นได้เชิญตัวแทนจาก 2 สถาบันการเงินไปเจรจา และการันตีด้วยว่าธนาคารยืนยันที่จะปล่อยกู้ให้ แต่ขอให้แบ่งโฉนดที่ดินให้เรียบร้อย โดยชาวเวิ้งฯยินดีที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมายเป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินการแทนทั้งหมด โดยที่เจ้าของที่ดินไม่ยุ่งยากอะไร
"ตอนนี้คงต้องรอให้คุณวิศิษฐ์กลับมาจากจีนก่อน ส่วนความเคลื่อนไหวของผู้เช่าในเวิ้งฯบางรายได้เริ่มมองหาทำเลค้าขายใหม่ไว้บ้างแล้ว เพราะผู้เช่าไม่มีทางเลือก จากประสบการณ์จากเวิ้งฯ ทำให้พวกเราต้องตัดสินใจสร้างร้านบนที่ดินของตัวเอง"
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยวรายหนึ่ง "ผมรู้สึกเครียดมากกับเรื่องนี้ ยังไม่ได้มองหาที่ใหม่ เมื่อ 3 ปีก่อนเพิ่งตัดสินใจนำเงินเก็บทั้งหมดมาขยายร้านเพิ่มอีก 1 คูหา เสียค่าเซ้งและตกแต่งหมดไป 2 ล้านบาท หากรู้ก่อนว่าจะมีการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ ผมจะไม่ลงทุนเพิ่มโดยเด็ดขาด"
ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้สัญญาเช่าจะหมดในเดือนสิงหาคม 2555 และเป็นครอบครัวที่ค้าขายอยู่ที่นี่มานานกว่า 60 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นอากงถึงรุ่นหลาน รวม 3 เจเนอเรชั่น
ขณะที่เจ้าของร้านขายเฟอร์นิเจอร์สำนักงานกล่าวว่า ถ้าเจ้าของใหม่ไม่ต่อสัญญาเช่าก็จำเป็นต้องย้ายไปอยู่โรงงานผลิตที่ จ.นครปฐม แต่จะขอเช่าหน้าร้านละแวกทำเลเดิมเพื่อรับออร์เดอร์จากลูกค้าเก่า แม้จะแพงก็ต้องยอมเพราะไม่มีทางเลือก และรู้สึกเสียดายเงิน 4 ล้านบาทที่ขยายพื้นที่ร้านเพิ่มเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังนายเจริญโอนที่ดินไปไม่กี่วัน ปรากฏว่าเวลาเช้าตรู่ช่วง 06.00-07.00 น. ลูก ๆ ของนายเจริญได้เดินทางมาไหว้ศาลเจ้าในเวิ้งนาครเขษมเพื่อขอความสิริมงคล ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่คนจีนย่านนี้นับถือมาก
ฝากบันทึกข่าวไว้ครับ