รอชม หนังสือพิมพ์ราชกุมาร จนผ่านไป ๔ หน้าแล้ว คุณหลวง ก็ยังรำหน้าม่าน ไม่จบขบวน ขออาราธนา ขึ้นตัวหนังสือให้ชมเทอญ
คุณหนุ่มสยาม
โปรดสั่งวงซ้อมฉุยฉายไว้คอยท่า
ฉุยฉายก็แล้ว เชิญแขกก็แล้ว .... กลัวแต่เกรงว่า จะปิดวิกหนี

ขึ้นเรือนมาเพลาเช้า ตะวันฉายแสงแจ่มจ้า บรรยากาศกำลังแจ่มใสอยู่แท้ๆ
ก็ต้องหยิบดาบมามารำกรายที่หน้าม่านแต่เช้า ซึ่งดูจะไม่เข้ากับบรรยากาศยามเช้า
แต่ด้วยความจำเป็นบางประการ ก็ต้องทำ
ท่านทั้งหลาย ผู้มีความกระหายใคร่รู้ในสรรพวิชาการต่างๆ ย่อมแสวงหาความรู้อยู่เสมอ
แลการแสวงหาความรู้นี้ แต่ละคนก็มีวิธีการเรียนรู้แตกต่างกันไปตามพื้นฐานและอัธยาศัยของตน
ความรู้บางอย่างเป็นของใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปเข้าใจรู้จักกันอย่างซึมทราบ
เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งจะเริ่มศึกษาค้นคว้าหรือนำไปถ่ายทอดแก่ผู้อื่น จำต้องพิจารณาพื้นฐานความรู้ของตน
หรือผู้ที่รับฟังด้วย จริงอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน นักเรียนบางคนอาจจะมีพื้นความรู้ยิ่งกว่า
นักเรียนคนอื่นๆ ด้วยอาศัยเหตุว่าได้พบได้เห้นได้อ่านมามาก อันทำให้ได้เปรียบนักเรียนในห้อง
แต่นั่นจะเป็นเหตุให้ผู้สอนจะทำการรวบรัดตัดความเข้าสู่เนื้อหาหลักที่ต้องการสื่อต้องการถ่ายทอด
โดยไม่ได้คำนึงถึงนักเรียนคนอื่นๆ ที่มีพื้นฐานประสบการณ์น้อยหาได้ไม่ หากทำเช่นนั้น
ผู้ที่รู้มากก็จะกระโดดก้าวพ้นกำแพงไป ส่วนคนที่เหลือซึ่งยังมีความรู้ไม่กว้างพอ ก็จะต้องมานั่งหาความรู้
เพิ่มเติม เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวความรู้ที่อยู่ในระหว่าง เพื่อจะเข้าใจสิ่งใหม่นั้น แน่นอนว่าย่อมจะมีคำถามตามมาอีกมาก
คำถามเหล่านี้ หลายคำถามเป็นคำถามที่พึงไขความเสียก่อน เพื่อให้ผู้รับฟังได้มีพื้นความรู้พอๆ กัน
หากจะยกตัวอย่างในกระทู้นี้ ก็พึงยกเรื่องตำแหน่งที่ตั้งโรงเ้รียนราชกุมาร บางท่านก็ยังชี้ตำแหน่งคลาดเคลื่อน
ครูอาจารย์ในโรงเรียนแห่งนั้นมีใครบ้าง แต่ละคนมีประวัติอย่างไร หลายคนก็ไม่ทราบ หรือทราบแต่เพียงผิวเผิน
ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรจะทำความเข้าใจ ค้นหาข้่อมูลมาสอบสวนจนแน่ใจว่า
สิ่งที่ได้เล่ามานี้ถูกต้องเชื่อถือได้
ฉะนั้น ที่ผ่านมา ๔ หน้ากระทู้ บางท่านอาจจะไม่พอใจ เห็นว่าผมใจเย็นมัวแต่รำฉุยฉายหน้าม่าน
หรือมัวแต่ขี่ม้ารำทวนเลียบค่ายข้าศึก ไม่ยอมบุกประจันบานประมือกับปรปักษ์ให้เห็นฝีมือ
แท้จริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ การที่ผมหน่วงให้เนิ่นช้ามาถึง ๔ หน้ากระทู้นี้ จะว่าเป็นการเรียกแขกเข้าเรียนก็ได้
แต่ก็พึงเข้าใจด้วยว่า ใน ๔ หน้ากระทู้นี้ หาใช่ผมมารำอยู่คนเดียวไม่ มีหลายท่านมาช่วยกันรำเป็นสนุกสนาน
รื่นเริงด้วยความรู้อันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น บางคนมีใจเอื้อเฟื้อหาข้อมูลตรงโน้นตรงนี้มาใส่มาเสริมเพิ่มให้
บางคนหาภาพมาประกอบเรื่องให้คนอ่านเข้าใจ ในเมื่อยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่แน่ใจ ก็ต้องค้นคว้าตรวจสอบ
ให้แน่ใจและเข้าใจไปในแนวทางเดียวกันก่อน จากนั้นจะเคลื่อนกระบวนต่อไปอย่างไร ก็ย่อมจะสะดวกดาย
แน่นอนว่า ท่านที่ใจร้อน อาจจะทนรอมิไหว ด้วยเวลานาทีของท่านมีค่า หากมาเสียเวลากับละครเบิกโรงเช่นนี้
อาจจะทำให้พลาดโอกาสอันอื่นไปด้วย เหมือนเจรจาซื้อหนังสือเก่า บางทีคนขายมีเวลาน้อย อยากจะปล่อยของ
แต่คนซื้อเจรจาต่อรองราคาอยู่จนออกจะหน่าย คนขายอาจจะตัดสินไม่ขายแล้วเอาไปเสนอขายคนอื่นรายถัดไปทันที
แต่การเรียนรู้จะเอาความเร่งรีบเป็นที่ตั้งไม่ได้ ผมอยากให้ผุ้สนใจทุกคนมีส่วนร่วมกับกระทู้นี้
จึงไม่รีบเล่าเรื่องหนังสือพิมพ์ราชกุมารทันที เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ผมสแกนหน้าเอกสาร ๑๐-๒๐ หน้า
มาลงทีเดียว แล้วปิดกระทู้เป็นอันจบ ใครไม่เข้าใจก็ปล่อยให้เป็นไปยถากรรม ถ้าทำเช่นนั้นจะเกิดประโยชน์แก่คนส่วนน้อย
ดุลปลายนิ้วอันแห้งที่คนผู้หนึ่งได้วางลงบนจานเมล็ดงา ย่อมได้เมล็ดงาติดไม่มาก
ผมขออนุญาตรำดาบในยามเช้าแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากมีภารกิจต้องไปตรวจเอกสารราชการในต่างท้องที่
ส่วนพิณพาทย์ตะโพนของออกขุนที่รับเชิญมาตามคำของคุณวันดี ถ้าช่วงนี้ยังว่างงาน ไม่มีใครจ้างไปไปที่ไหน
ก็ฝากบรรเลงหน้าม่านไปพลางๆ ก่อน ส่วนใครจะทนรอไม่ได้ กรุณาไปเยี่ยมเยือนกระทู้อื่นก่อนก็ได้
อ้อ ส่วนเรื่องปิดวิกหนีนั้น ไม่คิดจะทำ ด้วยเห็นแก่ประโยชน์ความรู้ที่เป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ชื่อเสียงของตัวผมเอง
ฉะนั้น อย่าได้คิดเกรงกลัวไปเองให้ฟุ้งซ่านจนธาตุทั้งสี่ในร่างกายแปรปรวนไปเลยครับ