เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 10635 ผมสนใจที่จะขายหนังสือเก่า หนังสืออนุสรณ์งานศพบุคคลต่างๆๆ
DNCR
อสุรผัด
*
ตอบ: 17


 เมื่อ 08 พ.ค. 12, 12:40

ผมสนใจที่จะขายหนังสืออนุสรณ์งานศพเหล่านี้  แต่ไม่รู้ว่าจะไปขายที่ใด ขายยังไงที่เขาพอจะรับซื้อไว้บ้าง  ผู้รู้กรุณาช่วยตอบผมทีเถิด
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 13:46


        ดีลเล่อร์หนังสือเก่าหายาก  เมื่อไม่ปรารถนาจะกลับไปหาร้านขายหนังสือมือสองที่เคยติดต่อกันอยู่
ก็เห็นไปกองขายที่จตุจักรวันเสาร์อาทิตย์   บางรายมีการปลอมตัวด้วย  จากผมเกรียนเป็นผมฟูกระจาย  
แต่กลุ่มนักอ่านที่ชอบเรื่องสืบสวนสอบสวนก็จำได้ทุกที        
ถ้าสินค้ามีคุณภาพก็ปล่อยได้แน่นอน  สินค้าราคาสูงปานใดก็ปล่อยได้
นักสะสมย่อมมีตัวแทนเดินตลาดอยู่แล้ว


ติดต่อร้านขายหนังสือมือสองทั่วไป   ติดต่อร้านประมูล


นำไปฝากขายตามร้านในงานหนังสือประจำปี  เป็นรายได้ที่ดีตามสมควรทีเดียว
แต่เวลานี้ร้านที่ขายหนังสืออนุสรณ์โดยตรงครอบคลุมตลาดได้เป็นส่วนมาก  เพราะมีสินค้าเก่าและใหม่
มีคุณภาพ  และราคาไม่ขัดใจแฟนานุแฟน

นักอ่านตัวเล็กๆ  ส่วนมากก็ฝากตัวกับท่านผู้อาวุโส  ขอตรวจสอบราคาว่ามีเหตุผลหรือไม่   ช่วยต่อให้อีกสามรอบแปดรอบได้ไหม
ผู้อาวุโสบางคนก็คัดกองหนังสือที่ไม่ต้องการแล้วมาให้        หรือถ่ายเอกสารมาให้

ผู้อาวุโสบางคนก็ทำตัวเป็นริบ  แวนวิงเกิ้ล   สะดุ้งตกใจกับราคาในปัจจุบันมาก  ไม่ยอมเสียเงินเป็นอันขาด  ถ้าราคาเกินเล่มละ ๔๐ บาท หรือ ๖๐ บาท
และไม่ยอมให้สหายผู้น้อย(อายุน้อย)จ่ายเงินเป็นอันขาดถ้าเกินระดับนี้

ท่านผู้อาวุโสที่เคยใจดี  ก็เลยทำตัวเป็นริบ แวนวิงเกิ้ลไปด้วย   คือจ่ายเฉพาะค่าถ่ายเอกสาร  

แล้วพากันไปอ่านหนังสือตามบ้านนักสะสมชั้นอ๋อง

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 14:01



        คนเดินตลาดของร้านหนังสือมือสองนั้น    เดินกันเป็นเขต  และเดินกันทุกวัน

มีรายได้จากการหาหนังสือไปส่งร้านประจำ      เลือกไปเลือกมาเกิดกลายร่างเก็บหนังสือเสียเองก็มี

เขาจะไม่แตกแถวหรือนำหนังสือที่หาได้ไปปล่อยกับคนอื่น  เพราะต้องสื่อสัตย์กับเจ้าสังกัด

เจ้าสังกัดหรือเจ้าของร้านหนังสือมือสองก็จะตอบแทนโดยซื้อหนังสือทั้งหมดที่นำมา  และจ่ายเงินสด

ถ้าหนังสือไม่ตรงกับนโยบายก็จะปล่อยไปที่อื่น    คือรับซื้อทุกอย่าง

ถ้าไม่เช่นนั้น  คนเดินตลาดก็จะไม่ส่งหนังสือดี ๆ มาอีก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 14:21


        คนเดินตลาดนั้น   มิใช่ว่าจะต่ำต้อยน้อยหน้า  หางานทำไม่ได้         เท่าที่ข้าพเจ้ารู้จักก็เป็นผู้อาวุโสไม่พูดมาก

เพราะขี้เกียจตอบคำถาม    ผู้บริหารระดับเกินกลางของธนาคาร    เจ้าของร้านกาแฟและอื่น ๆ แถวย่านกลางคืนของกรุงเทพ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มโรงเรียนอินเตอร์

        เขาเหล่านี้มีไมตรีอันดีงามกับสุภาพชนทั่วไป

        เรื่องราวของวงการหนังสือเก่าและหรือหนังสืองานศพมีอีกมากมายที่สนุกสนาน  เป็นความรู้

        เราสามารถหาหนังสืออ่านได้  โดยไปตามห้องสมุด  แล้วถ่ายเอกสาร

        การถ่ายเอกสารที่มีคุณค่าราคาแผ่นละ ๑๐ บาท  สองแผ่น         หรือแผ่นละ ๕๐ สตางค์ ๘๐๐ หน้าแล้วมอบให้กันนั้น    

คนแถวนี้ทำกันเป็นประจำ        
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 14:31

คุณวันดีเล่าถึงประสบการณ์แล้วเห็นภาพทุกประการ ยังจะรบกวนถามคุณวันดีว่าการเดินตลาด แหล่งเดินอยู่ย่านหนตำบลใดบ้างครับ (นอกจากตลาดนัดสวนจตุจักรและบริเวณท่าช้างยันท่าเตียน)
ทั้งนี้กระผมเคยเห็นการขายของแบกะดิน เป็นตลาดกลางคืนบริเวณห้อยเทียนเหลา เยื้องถนนเสือป่า เป็นแหล่งรวมขายของมือสองทุกประเภท ขวด ไม้จิ้มฟัน พระ ของเล่น เครื่องเสียง สายโทรศัทพ์ หน้ากากพัดลม และหนังสือเก่า ไม่ทราบว่าคุณวันดีเคยถือไฟฉายไปเที่ยวที่แบบนี้บ้างไหมครับ สนุกดีนะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 15:09



สวัสดีค่ะคุณหนุ่มสยาม


        ไม่ทราบว่าแผนรวบรัดจะกรีธาพลเข้ายึดร้านหนังสือเก่าชื่อดังของคุณหนุ่ม  ยังดำเนินอยู่หรือไม่

        โลกของการตามหาหนังสือเก่า  หายาก  หรือหนังสืองานศพ  เป็นเรื่องมหัศจรรย์    บางครั้งอยากได้หนังสือบางเรื่อง
อาจใช้เวลาหลายปี


        ดิฉันมีเพื่อนไม่น้อย(แปลว่าเยอะ)  จึงดักข่าวได้ค่อนข้างเร็ว        ธรรมดาก็ถามไถ่ว่าไปทางไหนล่ะ   มิได้มีเจตนาจะออกไล่ล่าหรือตามแย่งเลย
พวกเขาก็เล่ากันจ้อ  ไม่ปิดบัง

        ประมาณสองเดือนมาแล้ว  ก็ถามสหายรุ่นหลานผู้หนึ่ง  ว่าไปทางไหนล่ะ   ธรรมดาเขากวาดถนนถนนพัฒนาการ  สหายอีกคนกวาดลาดพร้าว
เขาทำท่าอึกอัก  ปิดบัง
         น่าสงสัยเป็นกำลัง       เรื่องแค่นี้เล่าไม่ได้หรือยังไง

         จึงกระจายข่าวไปว่า   ถามแล้วไม่บอกเฮะ        ลูกพี่ของสหายรุ่นหลานก็ตอบมาว่า  อย่าไปถามเขาเลย  ขนาดลูกพี่ยังไม่รู้นี่นา

         ดิฉันเฉลียวใจทันทีว่าใครตามรอยหนังสือสำคัญอยู่หรือ

         อีกสิบกว่าวันชายหนุ่มผู้นั้นก็ติดต่อมาและอธิบายว่าเขาตามรอยหนังสือกฎหมายบรัดเลย์อยู่  และนวนิยายปี ๘๐

        เยส  ออไรท้   ไม่ว่าอะไรกัน

       ต่อมาชายหนุ่มติดต่อมาว่ากำลังจะออกไปรับหนังสือกรุใหญ่ภายในครึ่งชั่วโมง        อิอิ!  นักอ่านหนังสือเก่าดีใจที่ยังมีน้ำใจมาบอก

เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นหลังวันหยุดสงกรานต์นี้เอง
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 15:24


       ไม่ช้าชายหนุ่มก็ติดต่อมาอีก  แจ้งว่าครอบครัวตัดสินใจไม่ขายหนังสือของคุณปู่เสียแล้ว

ได้ยกหนังสือค้นคว้าครบชุด  ๗๐ กว่าเล่ม  ปกแข็ง  สภาพดี  ให้กับส่วนราชการแห่งหนึ่ง  และให้ตู้สวยไปด้วย

หน่วยราชการนั้นก็นกรู้  ส่งรถมารับไปแล้วเรียบร้อย(ทีอย่างนี้ก็เร็วทันการเชียว)

        หนังสือชุดนี้ไม่เคยมีหน่วยงานไหนมีครบชุด

        หัวใจดิฉันปลาบปลื้ม  นึกถึงบุญคุณของครอบครัวท่านผู้ใหญ่ผู้นี้   ที่จะอนุเคราะห์ให้อนุชนอีกกี่ร้อยกี่พันคนได้ค้นคว้าสืบต่อ


หลานชายดิฉันเล่าอ่อย ๆ ต่อไปว่า   ...ฮือ ๆ   ๆ    อีกครึ่งตู้ยังมีอะไรก็ไม่รุ    ตู้มืดมองไม่เห็น   ฮือ ๆ ๆ ๆ...

ลูกพี่ของชายหนุ่มโทรศัพท์มาเล่าว่า  อันที่จริง  เล่ม ๑  ของหนังสือชุดนี้  เขามี

...ฮ่า ๆ    ดิฉันหัวเราะได้ตอนนี้เอง   "ส่งมาให้ยืมอ่านสักปีนะ..สหาย"

        
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 15:40


       ไม่ช้าชายหนุ่มก็ติดต่อมาอีก  แจ้งว่าครอบครัวตัดสินใจไม่ขายหนังสือของคุณปู่เสียแล้ว

ได้ยกหนังสือค้นคว้าครบชุด  ๗๐ กว่าเล่ม  ปกแข็ง  สภาพดี  ให้กับส่วนราชการแห่งหนึ่ง  และให้ตู้สวยไปด้วย

หน่วยราชการนั้นก็นกรู้  ส่งรถมารับไปแล้วเรียบร้อย(ทีอย่างนี้ก็เร็วทันการเชียว)

        หนังสือชุดนี้ไม่เคยมีหน่วยงานไหนมีครบชุด

 


หนังสือชุดนี้คงจะอยู่ในตู้ที่หน่วยราชการแห่งนั้นอีกนานแสนนาน

ไม่รู้เราท่านทั้งปวงจักมีโอกาสยลโฉมหรือไม่

คิดแล้วก็ละเหี่ยใจ  ร้องไห้
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 15:43

อ่านเนื้อหาการไล่ล่าหนังสือ ชวนให้กระชุ่มกระชวยหัวใจยิ่งนัก ดังกรุสมบัติพระศุลีแตก วงการหนังสือพากันตื่นเต้นรีบไขว่คว้าเป็นเจ้าของ

รบกวนถามคุณวันดีว่าในเมืองไทย เมืองสยามแห่งนี้มีหนังสืองานศพ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ สืบเนื่องมาจนบัดนี้ ผมก็สงสัยต่อไปว่า "ในต่างประเทศนั้นมีหนังสืองานศพที่จัดพิมพ์และไล่ล่าตามหาแบบในเมืองไทยมีหรือไม่"
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 16:14

เรียนคุณอาร์ต

         ถ้าจะต้องไปทำไมโครฟิล์ม  ก็คงอีกสามปีเป็นอย่างน้อย         เราก็ต้องจ่าย แผ่นละ ๑๐ บาท


เรียนคุณณล

        ริบ แวนวิงเกิ้ล  ฝากถามนายโรงว่ากิจที่ฝากความไว้ ไปถึงไหนแล้วคะ

หนังสืองานศพ  เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเราค่ะ


คุณอาร์ต  คุณณล และสหายที่เคารพนับถือ

        ดิฉันติดขัดข้อมูลที่พิมพ์ออกมาในหนังสืองานพระศพพระองค์เจ้าพระองค์หนึ่ง   ได้ตามอ่านเอกสารต่างๆมากมาย  แต่ก็ตอบข้อสงสัยไม่ได้

หนังสืออีกเล่ม คือ  หนังสือเรื่อง ฮวยฮ่วยลัว หรือ ฮวยฮ่วยกัว  ก็ยังอยู่ในความฝัน  ไม่มีใครเคยอ่าน  ท่านที่ได้อ่านไปก็ไปสู่สวรรค์ชั้นกวีเสียแล้ว  

และหนังสือที่ห้องสมุดชื่อท่าน  ก็ไม่มีหนังสือเล่มนี้           และราคาล่าสุดเมื่อห้า - หกปีที่บอกมาเป็นหนังสือปกสวยลายปลา  แพงมหาศาล

เมื่อเทียบกับจำนวนหน้า   บอกใคร ๆ ก็เบือนหน้าหนี

        เวลานี้  ด้วยการนำทางของท่านผู้อาวุโส  ดิฉันได้ครอบครองเอกสารสำคัญชุดแรกแล้ว  และสั่งถ่ายเอกสารชุดที่สองอีกด้วย

        เอกสารชุดแรกนั้นอยู่ในสภาพไม่มีการแตะต้อง  กระดาษแผ่นยาวพับอยู่ในรอยเดิม  หมึกสีเข้มเขียนด้วยปากกาคอแร้ง  ลายมือ

ผู้บันทึกยังไม่จางหายไปเลย          นึกถึงคุณอาร์ตและคุณหนุ่ม  ว่าอยากให้ได้ไปสัมผัสเอกสารอายุเป็นร้อยปี  

และคำให้การของผู้เกี่ยวข้องที่ถูกมองข้ามไป    เพราะหัวข้อเรื่องไม่ตรงกับความ

บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 16:27


เรียนคุณณล

        ริบ แวนวิงเกิ้ล  ฝากถามนายโรงว่ากิจที่ฝากความไว้ ไปถึงไหนแล้วคะ

หนังสืองานศพ  เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเราค่ะ




ริบ แวนวิงเกิ้ลคงรอลุ้นจนผมนั้นยืดแล้ว (หมายถึงผมงอกยาว)...ทำธุระให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอเท่านั้นขอรับ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 16:35

เรียนคุณวันดี

ในเมื่อหนังสืองานศพมีเฉพาะในประเทศไทย แบบนี้ในต่างประเทศไม่มีการลอกเลียนแบบไปเป็นธรรมเนียมบ้างหรือ  ฮืม

คุณภาพของหนังสืองานศพนั้นดูกันอย่างไร ผมขอเรียกว่า "ดีหน้าและดีใน"

ดีหน้า (ไม่ใช่นมถั่วเหลืองนะ  ยิงฟันยิ้ม) หมายถึง ประวัติผู้วายชนม์ เป็นบุุคลผู้มีชื่อเสียง ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติอย่างไรบ้าง

ดีใน หมายถึง เนื้อหาที่นำมาจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ประกอบด้วย พงศาวดาร ตำราอาหาร ชีวิตวัยเยาว์ และเรื่องราวอันเป็นคุณค่าแห่งแผ่นดิน

หากการพิมพ์มีจำนวนน้อย ดีครบองค์ประกอบ ย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ราคาสูงตาม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 17:10



        นักอ่านที่ดีนั้นต้องเป็นคนที่อ่านแล้ว   ยังไม่อิ่ม  หรือหนำใจ  หรือรำคาญข้อมูลที่ลอกกันมา  จึงตามหาคำตอบเอง  โดยการซักไซ้ไต่ถาม

ท่านผู้อาวุโสที่รู้จักว่าพอจะหาคำตอบได้ในทิศทางใด       

รายละเอียดเพียงเล็กน้อยที่มีกล่าวไว้ในหนังสือประวัติท่านผู้จากไป       อาจตอบคำถามอื่น ๆ แก่เราได้

ในระหว่างหอสมุดแห่งชาติปิดเพื่อก่อสร้าง            ดิฉันคอยหนังสืองานศพเล่มหนึ่งอยู่เกือบสองปี      ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะได้มา

หนังสือเล่มนี้ยืนยันว่า  ท่านผู้วายชนม์ เมื่อยังเยาว์ มีชื่ออีกชื่อหนึ่ง    ถ้าจะเปิดเผยแล้ว   จะไม่เชื่อกัน     ก็หนังสืองานศพของท่าน

บอกไว้

        เอกสารแต่ละเรื่อง   มีความสำคัญอยู่ในตัวเอง     คนที่กำลังค้น  จะทราบเองเมื่อวิ่งมาถึงจุดชัยแล้ว


        เรื่องตามล่าขุมทรัพย์หนังสือเก่านั้น   ยังเล่าได้อีกหลายเรื่องค่ะ

บันทึกการเข้า
piyasann
พาลี
****
ตอบ: 379


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 23:20

การได้คุ้ย ค้นกองหนังสือจนมือดำ เป็นเรื่องปกติของชาวนักอ่าน นักค้นคว้า ยิ่งถ้าใครเป็นโรคแพ้ฝุ่นด้วยแล้ว คนต้องเรียนกว่า เข้าขั้นเทพ เพราะผจญมามากกว่าใคร .......


ส่วนเรื่องขายหนังสือ เมื่อครั้ง กลัวว่า สมบัติพระศุลีที่เก็บไว้ จะสูญ หรือเสียไป เพราะไม่มีปัญญารักษา ก็ติดต่อร้านค้ามารับไป ซึ่งมาทราบภายหลังว่า ได้ไปอยู่ในครอบครองของผู้ที่เห็นคุณค่าของหนังสือนั้นๆ และคนกลาง ก็ได้กำไรดี ก็ยินดีด้วย  ไม่เคยนึกเสียดายว่า ได้เงินมากน้อย ขอเพียง ให้หนังสือหายาก ซึ่งต้องเรียกว่า เป็นสมบัติของชาติ เพราะบรรจุข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาก แต่มีจำนวนน้อย ไว้อยู่ในมือที่รักษาไว้ได้ดีกว่าเรา.......... ต่อมาก็มีวาสนา ได้ครอบครองหนังสือหายากไว้บ้าง ก็พยายามเก็บรักษาอย่างดี นึกว่า เจ้าของเขาหวงเก็บไว้ให้เราเป็นหลายสิบปี เป็นหน้าที่ที่จะต้องรักษากันต่อไป.........


คุณ Wandee ครับ ได้กิตติศัพท์ หนังสือปกปลา มาหลายรอบแล้ว น่าสนใจครับ  สยามพิมพการ ค้นคว้าแต่เรื่องการพิมพ์มาจบที่เรื่องสำนักพิมพ์ผู้ออกทุน แต่ไม่ยักกะข้องแวะเรื่อง ปกหนังสือ ก็น่าติดตามอยู่มากครับ............


หนังสืองานศพ ฝรั่งไม่ยักกะมี เวลาจะค้นประวัติใคร ก็ต้องไปตามอ่านใน Obituary ในหนังสือพิมพ์ หรือ วรสารที่บุคคลนั้นทำชื่อเสียงไว้  คุ้นๆ ว่าเคยเห็นหนังสือคล้ายหนังสืองานศพคือ มีประวัติ และเป็นคำภีร์ศาสนา แต่เป็นภาษาพม่า หรือชนในชาติพม่า คงได้รับอิทธิพลจากบ้านเรา .......

ต้องเรียกว่า ทายาท ผู้ทำหนังสืองานศพ เป็นผู้น่ายกย่องเช่นกัน เพราะเวลาจัดทำงานศพ มักมีจำกัด บางท่าน สั่งเสียไว้ 15 วันเผา ทายาทก็เนรมิตรหนังสือได้ทัน (เหนื่อยรากเลือดเลยน่ะนั้น) การพิมพ์แจกเองก็ใช่ว่าจะใช้ทุนน้อย ได้ข่าวว่า บางงานศพ ค่าพิมพ์หนังสือ เป็นล้านบาท เพราะพิมพ์สวย และเป็นสี่สีหน้าเป็นนิ้ว ๆ  ทายาท เหล่านั้น เป็นผู้เติมเต็มประวัติศาสตร์ ประเภทหนึ่ง ถ้าไม่มี เรื่องต่างๆ ก็คงสูญหายไปเยอะทีเดียวครับ
บันทึกการเข้า
ศิณาวรรณ
อสุรผัด
*
ตอบ: 22


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 08 พ.ค. 12, 23:47

ทำไมไม่มีใครเปิดเว็บซื้อขายกันไปเลยล่ะครับ ใครอยากซื้อหนังสืออะไรก็โพสท์ไว้ ใครอยากขายหนังสืออะไรก็โพสท์ไว้ ตรงกันก็โอเค ลงโทรไว้ติดต่อกันหรืออีเมลล์อะไรก็ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 20 คำสั่ง