เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:21
|
|
ถ้าเฉลียงหมายถึงเตียงเก๋งแบบจีน ความหมายอาจจะถูกลืมเลือนไปตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ซึ่งเฟอร์นิเจอร์แบบฝรั่งเข้ามาแทนที่แบบจีนตามที่นิยมกันในรัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๓
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:33
|
|
ครับ
ถ้างั้น เราจะผ่านเรื่องนี้ไปว่ากันต่อเรื่องของเฉลียงและระเบียงของอาคารกันเลย
ถ้าในอาคารในยุคตั้งแต่รัชกาลที่๕ คำว่าเฉลียงจะปรากฏมากในบรรดาวังและพระตำหนักที่สร้างขึ้นในรูปแบบตะวันตก ดังเช่น
พระตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ เป็นตึก 2 ชั้น ทรงสี่เหลี่ยม ตกแต่งหน้าต่างชั้นบนเป็นซุ้มโค้งกลมประดับกระจกเป็นรัศมีพระอาทิตย์ครึ่งดวง เฉลียงชั้นสองของมุขหน้าเป็นเฉลียงกว้าง บนเสาของราวลูกกรงตั้งกระถางหล่อปลูกต้นไม้ เสาเหลี่ยมรับเฉียงประกอบด้วยซุ้มโค้งกลม ตัวอาคารมีเฉลียงเล็กทุกด้าน ผนังประกอบด้วยเสาอิงแบบ Doric และ lonic ผนังชั้นล่างสลักเป็นลายอิฐ ผนังส่วนใต้หลังคาเจาะช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า สลักปูนเป็นกรอบและมีหูช้างสลักลายประดับใต้ชายคา ช่องลมเหนือประตูตกแต่งด้วยลายไม้ฉลุลายละเอียด บริเวณสนามวงกลมด้านหน้าตั้งตุ๊กตาปูนปั้นแบบกรีก กระถางปูนประดับลายปูนปั้น
เฉลียงนี้ดูจะเป็นที่นั่งพักผ่อนสบายๆ รับลมอยู่ภายในอาคาร ในขณะที่เป็นทางผ่านไปสู่ห้องต่างๆด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:37
|
|
อาคารพระตำหนักเยาวภา เป็นอาคาร ๒ ชั้น ยกพื้นสูงประมาณ ๑ เมตร ปูพื้นด้วยไม้สักทั้งหลัง หลังคาทรงสูงทำด้วยกระเบื้องว่าว สีเดิมของอาคารเป็นสีเขียว ต่อมามีการบูรณะปรับปรุงเป็นสีน้ำตาล ภายในอาคารแบ่งเป็นส่วนๆ คล้ายอาคารชุดประตูเปิดติดต่อกันมีช่องลมเป็นลายไม้จำหลักเหนือขอบประตูเป็นหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง ตรงกลางเป็นบานเกล็ด
ชั้นบนของอาคารมีเฉลียงด้านหน้ายาวตลอดทั้งอาคาร มีบันไดใหญ่ขึ้นลงแยกกัน ๒ บันไดและมีบันไดเล็ก ริมสุดของอาคารอยู่ทางทิศใต้ เสาของอาคารมีลายปูปั้น บันไดทางขึ้นด้านหน้าอาคารทำด้วยหินอ่อนสีขาว
โปรดสังเกตุ เราไม่มีทางเห็นเฉลียงที่อยู่หลังหน้าต่างชั้นบนเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:42
|
|
เรือนผ่องศรี
อยู่เนินเขา เป็นตึกกลมชั้นเดียว มีสามห้อง และมีเฉลียงรอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:48
|
|
ตึกวัฒนา
เป็นอาคารตึก ๒ ชั้น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๑ เมตรโดยประมาณ หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องเกล็ดเต่า ผนังก่ออิฐถือปูน กำแพงหนาประมาณ๐.๓๐ เมตร ด้านหน้าหันสูทะเล มีเฉลียงยาวตลอดทั้งชั้นบน และ ชั้นล่าง กว้างประมาณ๒.๐๐ เมตร มีลูกกรงไม้กันตก บันไดทางขึ้นอยู่กลางอาคารด้านหน้า เป็นบันไดก่ออิฐถือปูน ขั้นบันไดทำด้วยหินทราย ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่ ขนาด กว้าง ๖.๐๐ เมตร ยาว ๗.๐๐ เมตร๑ ห้อง ห้องบันได ๑ ห้องและห้องเล็กข้างบันไดขนาดกว้าง ๓.๐๐ เมตร ยาว ๓.๕๐ เมตรโดยประมาณ
ชั้นบนเป็นเหมือนชั้นล่าง ส่วนบันไดประตู หน้าต่าง เพดาน และโครงหลังคาทำด้วยไม้สัก
รูปแบบของอาคารเป็นแบบตะวันตก ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น คือ มีเฉลียงแล่นตลอดความยาวของอาคาร รูปแบบเรียบง่าย ดูมั่นคงแข็งแรง ไม่มีสิ่งตกแต่งเกินความจำเป็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:50
|
|
อาคารเล็กลงมาสองหลังสุดท้ายนี้ เริ่มเห็นเฉลียง เป็นทางสัญจรนอกห้อง แต่ยังอยู่ภายใต้ชายคา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 11:54
|
|
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแท้ มีรูปแบบเป็นปราสาทขนาดเล็กคล้ายปราสาทในสมัยกลาง จัดเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก ที่ผสมผสานระหว่างปราสาทแบบเรอเนสซองของฝรั่งเศส กับอาคารแบบฮาล์ฟ ทิมเบอร์ ของอังกฤษ
เป็นอาคารสองชั้น ภายนอกอาคารมีเฉลียงโดยรอบโดยเฉพาะเฉลียงด้านตะวันออก เป็นเฉียงกว้างรูปครึ่งวงกลม เน้นสร้างจุดเด่นของตัวอาคารด้วยหอคอยทรงสูงรูปวงกลมไว้ทั้ง 4 มุม บริเวณทางเข้าตำหนักมีมุขเล็กๆ ที่มีหลังคาคลุมยื่นออกมาจากผนัง และมีไม้ประดับผนังแบบเดียวกันกับบ้านแบบทิวดอร์ของอังกฤษ.
ตัวอาคารเป็นตึกผสมไม้ หลังคามุงกระเบื้องเกล็ด ช่องหน้าต่างเป็นบานไม้แบบลูกฟักกระดานดุน ชายคา และด้านหน้า เฉลียงประดับด้วยไม้ฉลุลายฝีมือละเอียดงดงาม เท้าแขนรองรับพื้นเฉลียง ทำเป็นไม้ทรงมุมฉากฉลุลายเป็นวงขด ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่นิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 5
เป็นที่น่าเสียดายว่าอาคารหลังนี้ไม่ได้รับการซ่อมแซม จึงไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม หากแต่ความงดงามยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
อาคารที่สร้างสมัยที่คนไทยนิยมนั่งเก้าอี้แทนการนั่งบนพื้น เฉลียงจึงทำไว้แค่เป็นทางสัญจรเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 12:14
|
|
บรรยากาศแบบเฉลียง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 12:21
|
|
ถ้าอย่างนั้น หลังประตูโค้งทั้งชั้นบนชั้นล่างของอาคารนี้ก็เรียกว่าเฉลียงเหมือนกันน่ะซีคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 12:23
|
|
ตำหนักสายสุทธานภดล ส่วนของอาคารที่มีลูกกรงกั้นทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ชั้นบนและล่าง คือเฉลียง? ไม่ใช่ระเบียง?
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 12:48
|
|
เรามาดูไปเรื่อยๆก่อนนะครับ ไม่อยากด่วนสรุป
ผมได้นำเฉลียงของพระตำหนักใหญ่ วังสระปทุมมาให้ชมไปแล้ว ขอมาต่อที่ระเบียงครับ
สำหรับ “พระตำหนักใหญ่” ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้านั้น เป็นตำหนัก ๒ ชั้น ก่ออิฐถือปูน มีห้องใต้ดินอีก ๑ ชั้น รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระเบียงพื้นคอนกรีตยื่นออกมาโดยรอบพระตำหนัก มีขนาดกว้างประมาณ ๒๒ ม. ยาว ๔๐ ม. มีความสูงจากพื้นระเบียงรอบพระตำหนักถึงยอดหลังคาประมาณ ๑๓.๕๐ ม. องค์พระตำหนักยกพื้นสูงกว่าระเบียงโดยรอบ หันหน้าออกไปทางทิศเหนือ (คลองแสนแสบ) มีมุขเฉลียงยื่นออกนอกองค์พระตำหนัก ๔ ทิศ โดยมีบันไดหลักขึ้นสู่ตัวอาคาร ขึ้นจากทางทิศเหนือและมีบันไดขึ้นได้อีก ๒ ทิศ บริเวณมุขด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทาสีเหลืองทั้งองค์พระตำหนัก
ระเบียงในภาพอยุ่ติดกับพื้นดิน มองเห็นราวระเบียงอยู่วอบๆแวมๆอยู่หลังพุ่มไม้ ภาพล่างคือมุขเฉลียง อะไรที่ยื่นออกมาจากอาคารเป็นแท่งๆก้อนๆ จะเรียกว่ามุขทั้งหมด โดยมีคำขยายความอีกทีหนึ่ง เช่นมุขเฉลียง คือมุขที่มีเฉลียงอยู่ข้างบน
ศัพท์เหล่านี้ใช้ในราชสำนักสมัยรัชกาลที่๕นะครับ ก่อนจะเพี้ยนไปหมดในสมัยหลังๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 131 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 13:20
|
|
อีกหนึ่งตัวอย่าง เพื่อแสดงว่า ระเบียง ใช้เรียกทางสัญจร ไม่ว่าจะอยู่บนอาคาร หรืออยู่นอกอาคาร
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรเป็นพระที่นั่งเรือนไม้ 2 ชั้น มีสถาปัตยกรรมแบบชาเล่ย์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยทาสีเขียวอ่อนและสีขียวแก่สลับกันทั้งองค์ ประดับประดาไปด้วยลวดลายฉลุไม้แบบยุโรปที่แสนงดงาม มีระเบียงแล่นโดยรอบพระที่นั่ง ภายในมีการตกแต่งแบบยุโรปด้วยเครื่องเรือนฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ที่เข้าชุดกันทั้งหมด พระที่นั่งองค์นี้ถือได้ว่าเป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานมากที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 132 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 14:23
|
|
อีกหนึ่งตัวอย่าง เพื่อแสดงว่า ระเบียง ใช้เรียกทางสัญจร ไม่ว่าจะอยู่บนอาคาร หรืออยู่นอกอาคาร
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรเป็นพระที่นั่งเรือนไม้ 2 ชั้น มีสถาปัตยกรรมแบบชาเล่ย์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยทาสีเขียวอ่อนและสีขียวแก่สลับกันทั้งองค์ ประดับประดาไปด้วยลวดลายฉลุไม้แบบยุโรปที่แสนงดงาม มีระเบียงแล่นโดยรอบพระที่นั่ง ภายในมีการตกแต่งแบบยุโรปด้วยเครื่องเรือนฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ที่เข้าชุดกันทั้งหมด พระที่นั่งองค์นี้ถือได้ว่าเป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานมากที่สุด
อ. NAVARAT.C ต้องใช้ภาพนี้บรรยายประกอบครับ ภาพเรือนสีเขียวสร้างใหม่หลังจากไฟไหม้และสร้างอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่หมดทั้งหลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 133 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 16:18
|
|
ขอบคุณนะครับ
ผมหลับไปงีบนึง ตกใจมีโทรศัพท์เข้า เออๆคะๆเสร็จมาเปิดกระทู้ดู เห็นฟ้ามันเหลืองๆเต็มจอ สงสัยตัวเองคงจะยังไม่ตื่น กำลังฝันอยู่
แหม คุณหนุ่มจะแก้เสียก่อนก็ไม่ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อ 26 เม.ย. 12, 16:34
|
|
ยังเหลืออะไรให้ติดใจเรื่อง"เฉลียงเก๋ง" อยู่อีกเล็กน้อย
ถ้าเป็นละคร ฉากเกิดขึ้นที่ระเบียง ตัวละครมี 3 คนคือสาวชาววังเลสเบี้ยนสองคนนั่งเล่นอยู่ที่ "เฉลียง" เป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียวที่กล่าวถึงบนระเบียงนั้น กำลังงอนกันอยู่ พอดีลุงคนหนึ่งเดินมาที่ระเบียงพอดี ถามว่าทะเลาะอะไรกัน สองคนตกใจและอาย ก็ลุกขึ้นวิ่งหนี เท้าหนักไปหน่อยไปเหยียบบนพื้นเฉลียงเก๋ง เล่นเอารอดหัก จากรูปประกอบที่นำมาลงข้างล่างนี้ รอดของเฉลียงเก๋งเป็นไม้แผ่น ไม่ใช่ไม้ท่อน ฝีเท้านางในสองคนทิ้งน้ำหนักลงไปโดยแรง ก็ไม่แปลกที่รอดหักลงไปทันตาเห็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|